AST บทที่ 182 - คลื่นสะท้านที่สามของฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 182 - คลื่นสะท้านที่สามของฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน
มันเป็นสัญชาตญาณ!
"อืม, ท่านพ่อ, ข้าจะตามท่านไปด้วย"
ชิงสุ่ยคิดอย่างจริงจัง เขาสงสัยว่าอาจารย์เทพธิดาจะคิดอย่างไรถ้าเขาจะนำเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ไปหาเธอ
"แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกับพยัคฆ์ตัวนี้?" ชิงสุ่ยมองไปทางลูกสาวและถาม
"ปล่อยมันไป, เดี๋ยวมันก็จะไปเอง เมื่อจำเป็นมันจะปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อข้าเรียกมัน เหมือนกับเราไม่สามารถมองเห็นเจ้าเทาน้อยและเจ้าขาวน้อยได้ในขณะนี้" เด็กหญิงตัวน้อยบอกอย่างมีความสุข
"เจ้าเทาน้อย? เจ้าขาวน้อย?" ชิงสุ่ยถามอย่างงงๆ
"พ่อโง่ พวกมันเป็นเพื่อนอีกสองคนของข้า"
หลังจากพูดแล้วเธอก็เรียกมันด้วยเสียงเล็กๆว่า "เจ้าเทาน้อย, เจ้าขาวน้อย!"
เสียงกรีดร้องของแร้งและเสียงคำรามของหมีดังขึ้น!
ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ ชิงสุ่ยจ้องไปที่แร้งซึ่งมีขนสีขาวและหมีกริซลี่ภูเขาสีเทาที่สูงกว่าห้าเมตร
ทั้งสามเป็นสัตว์อสูรร้าย...
"หลวนหลวน, เจ้าสามารถทำให้พวกมันฟังเจ้าได้หรือ?"
"มีเพียงพวกมัน ส่วนที่เหลือไม่เชื่อฟัง ข้าเองก็เคยถามพวกมันถึงวิธีการเพื่อเอาชนะผู้ที่ไม่เชื่อฟัง"
ชิงสุ่ย : "... "
"ครั้งหนึ่งข้าเคยเจอเข้ากับสิงห์เพลิงขนาดใหญ่ มันสวยงามมาก แต่มันก็ไม่เชื่อฟังข้า ข้าสั่งให้พวกมันทั้งสามจู่โจมแต่เจ้าขาวน้อยกลับพาข้าหนีออกมา และเจ้าเทาน้อยกับเจ้าพยัคฆ์น้อยก็วิ่งหนีเอาชีวิตรอดเช่นกัน" หลวนหลวนเหล่ริมฝีปากและพูดด้วยโกรธ
ชิงสุ่ยพูดไม่ออก สิงห์เพลิงตัวใหญ่นั้นน่าจะแข็งแกร่งกว่าเหล่าสัตว์อสูรทั้งสามตัว ดูเหมือนว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะสามารถควบคุมสัตว์อสูรได้เพียงสามตัว ที่สำคัญที่สุดก็คือการเดินทางที่ราบรื่นสำหรับเด็กผู้หญิงคนนี้ที่จะบรรลุระดับอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียนในอนาคตหรืออาจจะเป็นอาณาจักรพลังปราณเทวะกษัตริย์และอาณาจักรพลังปราณนักบุญพิโรธ
ชิงสุ่ยอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นไปบนรถม้าและพวกเขาก็เดินทางผ่านหุบเขาอย่างปลอดภัย หลังจากเดินทางผ่านเส้นทางที่กว้างและราบเรียบ ซึ่งเป็นระยะทางกว่าครึ่งหนึ่งของอาณาจักรชางหลาง
ยามเย็นพระอาทิตย์ตกดิน ชิงสุ่ยกำลังอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยและยืนอยู่ที่ด้านหน้าของถ้ำพระพุทธรูปทองคำพันปาง!
"ท่านพ่อที่นี่ที่ไหน? ทำไมถึงมีคนจำนวนมากล่ะ?" หลวนหลวนถามด้วยเสียงแบบเด็กๆ
เมื่อชิงสุ่ยนำเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งซึ่งมีความงดงามไปด้วย มันอาจจะนำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรและเมืองต่างๆลงได้ พวกเขาดึงดูดความสนใจมากมายจากผู้คนรอบข้าง ทั้งหมดจ้องมองไปที่หลวนหลวน ชิงสุ่ยได้แต่กล่าวโทษถึงความงามอันน่ากลัวของสาวน้อยคนนี้
"ไปเถอะข้าจะพาเจ้าไปดูพระพุทธรูปทองคำพันปาง!"
"ท่านพ่อ, อุ้ม อุ้ม!" หลวนหลวนยื่นมือออกไปและพูดด้วยเสียงอันไพเราะ!
คราวนี้สายตาที่อิจฉาจับจ้องไปที่ชิงสุ่ย
"ถ้าเพียง แต่ข้าสามารถมีลูกสาวคนหนึ่งเช่นนางได้" ชายชรารำพึงรำพัน
"ท่านฝันว่าจะมีลูกสาวที่น่ารักด้วยสายตาอันลามกเช่นนั้นหรือ?"
ชายชราเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวว่า
"เฉพาะคนที่งดงามเท่านั้นที่จะสามารถมีทูตสวรรค์ตัวน้อยน่ารักเช่นนี้ได้"
"แม่ของนางฟ้าตัวน้อยนั้นแน่นอนว่าจะต้องมีความงดงามอันไม่มีที่สิ้นสุด”
ชิงสุ่ยถึงกับพูดไม่ออก!
เมื่อเข้ามาในถ้ำพระพุทธรูปทองคำพันปาง ชิงสุ่ยตระหนักว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าที่คาดไว้ ชิงสุ่ยมีความรู้สึกว่ามันกลวงราวกับห้องโถงกว้างที่มีความสูงกว่าร้อยเมตร ชิงสุ่ยไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางคดเคี้ยวและการจราจรของผู้คน มันดูเหมือนกับว่าเป็นตลาดที่มีผู้คนหนาแน่น
"ท่านพ่อข้าต้องการสิ่งนี้... ข้าจะเอามัน!"
ชิงสุ่ยได้ตระหนักว่าไม่มีรูปปั้นพระพุทธรูปทองคำพันปางอยู่รอบๆ ในตอนที่เขาก้าวเข้าสู่ถ้ำพระพุทธรูปทองคำพันปาง อย่างไรก็ตามมีร้านเล็กๆมากมายอยู่รอบๆ ร้านค้าและโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณกำแพงที่ดูเหมือนจะเป็นถ้ำ
ทุกครั้งที่หลวนหลวนเจอสินค้าขนาดเล็กเธอก็จะยื่นมือออกไปคว้าเพราะเธอเป็นเด็กเท่านั้น
"หลวนหลวน, ถ้าข้าต้องซื้อทุกสิ่งที่เจ้าชอบ โปรดจำไว้ว่าเราต้องจ่ายเงินสำหรับสิ่งเหล่านี้" ชิงสุ่ยตระหนักว่าเขาจะต้องสอนเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้บางถึงสามัญสำนึกในบางเรื่อง
เขานำหลวนหลวนเดินผ่านหัวมุมหนึ่งไป เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปก็เห็นรูปปั้นพระพุทธรูปทองคำพันองค์ขนาดใหญ่หลายรูปแบบ ทำให้ชิงสุ่ยค้นพบถึงความงดงามและตกตะลึงเป็นอย่างมาก รูปปั้นพระพุทธรูปทองคำพันปางขนาดใหญ่จำนวนมากนี้มีความสูงกว่าห้าสิบเมตร มันถูกวางไว้ในจุดที่เฉพาะเจาะจง
แต่ละองค์มีปางท่างทางแปลกๆ ชิงสุ่ยนำหลวนหลวนเดินไปรอบๆ ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในกลุ่มรูปปั้น เขามีความรู้สึกราวกับว่าเขาเกือบจะได้รับบางสิ่งบางอย่าง แต่ยังไม่สามารถที่จะเข้าใจมัน
โดยไม่ทันได้รู้ตัวมือของชิงสุ่ยเริ่มเลียนแบบรูปลักษณ์ของรูปปั้นเหล่านั้น มันค่อยๆเริ่มเร็วขึ้นและเร็วขึ้น ดวงตาที่เฉียบแหลมของเขาได้ตรวจสอบผ่านรูปปั้นพระพุทธรูปทองคำพันปางขนาดยักษ์แต่ละองค์ ขณะเดินมุ่งหน้าเข้าไป
เทคนิคลมปราณจากสะท้านที่สามของฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้านที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้เริ่มเคลื่อนไหวโดยไม่รู้ตัว มันก้าวหน้าไปได้อย่างราบรื่นโดยปราศจากความต้านทานใดๆในการแสดงออกของเขา!
คลื่นพลังสามสายถูกยิงออกมาทันทีก่อนที่มันจะระเบิด ชิงสุ่ยพยายามควบคุมลมปราณของเขา แต่มันก็สายเกินไป ซึ่งยังดีที่มีคนอยู่ไม่มากบริเวณนั้น เมื่อเขาเดินเร็วมากขึ้นคนที่อยู่บริเวณนั้นก็หันมามองเขาด้วยความตกตะลึง
เมื่อเสร็จสิ้นการฝึกสะท้านที่สามแล้ว ชิงสุ่ยรู้สึกชื่นชมยินดีมาก มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าเขาได้ค้นพบว่าความงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ที่เกิดขึ้นกับเขา
ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าเด็กหญิงตัวน้อยนั้นหายไป ชิงสุ่ยตกใจ เขารีบหันกลับไปอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาสามารถจดจำเส้นทางที่เขาจากมาได้
ระหว่างทางเขาพบหลวนหลวน เธอมองเขาอย่างปวดร้าย ชิงสุ่ยรู้สึกผิดและเขาก็เข้าไปกอดด้วยความรัก ชิงสุ่ยใช้เวลาไปไม่น้อยกว่าครึ่งวันในการอยู่กับเธอ เขาตระหนักว่าเธอเป็นคนที่สำคัญภายในหัวใจของเขาแล้ว
เป็นเพราะเธอดูคล้ายกับอาจารย์เทพธิดาของเขาหรือ?
"ท่านพ่อจะทิ้งหลวนหลวนไว้ข้างหลังหรือไม่?" หลวนหลวนเหล่ริมฝีปากและพูดด้วยโศกเศร้า ความเศร้าโศกนั้นเต็มอยู่ภายในดวงตาอันเงางามของเธอ
ชิงสุ่ยกอดเธอแน่นๆ เขารู้สึกเสียใจมากที่เห็นเด็กหญิงตัวน้อยจ้องมองมา
"หลวนหลวนอย่าร้องไห้ ข้าสัญญากับเจ้าว่าข้าจะไม่ทิ้งเจ้าไป?"
"ท่านพ่อสัญญาจริงๆนะ?" หลวนหลวนเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างจริงจัง
"ข้าสัญญากับทุกคำพูดที่ข้าพูดไปจากใจจริง!"
"เกี่ยวก้อยสาบาน!" หลวนหลวนเอื้อมมือออกไปด้วยนิ้วก้อยของเธอ
ชิงสุ่ยยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่เขาเอื้อมมือออกไปด้วยนิ้วก้อยของเขาและเกี่ยวก้อยกัน หลวนหลวนรู้สึกอบอุ่นมากๆ ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าความรู้สึกของคนเป็นพ่อนั้นเป็นเช่นไร แต่เขาเชื่อว่ามันน่าจะคล้ายกับสิ่งที่เขารู้สึกอยู่เพียงแค่นั้น
ชิงสุ่ยพาหลวนหลวนเดินไปดูพระพุทธรูปทองคำพันปางขนาดใหญ่อีกครั้ง เป็นไปได้ไหมว่าฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้านที่เขาบรรลุได้ด้วยโชคจะมาจากใครบางคนที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธรูปทองคำพันปางเหล่านี้หรือไม่
ชิงสุ่ยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในขณะที่เขายังคงมองไปที่รูปปั้นทีละองค์ทีละองค์ อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยพบกับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ในแต่ละปางที่ต่างกัน ชิงสุ่ยก็ยังไม่รู้สึกอะไร อย่างไรก็ตามเขาได้ซึมซับปางต่างๆของรูปปั้นพระพุทธรูปทองคำพันปางไปทั้งสิ้นพันองค์เข้าไปไว้ในจิตใจของเขา ซึ่งเป็นไปได้ด้วยความทรงจำที่พิเศษอย่างเหลือเชื่อของเขา
เขามารู้ตัวอีกทีก็เมื่อเขาเป็นคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ในถ้ำพระพุทธรูปทองคำพันปางและเด็กหญิงตัวน้อยก็กำลังหลับอยู่ ชิงสุ่ยอุ้มหลวนหลวนที่นอนอยู่ขึ้นมาเพื่อที่เธอจะได้นอนหลับสบายขึ้น
ชิงสุ่ยไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหญิงตัวน้อยถึงมีเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีขาวหิมะอยู่กับเธอ เธอเนื้อตัวสะอาดมากเพราะไม่มีกลิ่นเหม็นติดอยู่เลย แต่เธอก็มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเด็กตัวเล็กๆ นอกจากนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ทั้งที่ตลอดเวลาไม่มีใครดูแลเธอ
ชิงสุ่ยได้ห้องพักที่ปากทางเข้าพระพุทธรูปทองคำพันปาง เขาวางเด็กหญิงตัวน้อยให้นอนหลับสบายอยู่บนเตียงและผ้าห่มให้เธอก่อนที่เขาจะเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ
สะท้านที่สาม!
ชิงสุ่ยได้ฝึกซ้อมซ้ำแล้วซ้ำอีกและพยายามที่จะฝึกร่วมกับท่าพยัคฆ์คำรามและหมัดอสูรสันโดษ แต่แม้หลังจากทดลองอยู่หลายครั้งเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จ
เขารู้สึกได้ถึงจังหวะของคลื่นพลัง ชิงสุ่ยค่อยๆรวบรวมมันเข้ากับปางของรูปปั้นพระพุทธรูปทองคำพันปางที่เขาได้จดจำมาทั้งหมด ด้วยเคล็ดวิชานี้เขาสามารถที่จะโจมตีซ้ำๆทำให้เกิดคลื่นพลังสังหารที่แข็งแกร่งซึ่งทำให้เขารู้สึกยินดีอย่างมาก
"ฮ่าฮ่า นี่เป็นพลังที่แท้จริงของฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน!"
ชิงสุ่ยฝึกซ้ำๆและทำการโจมตีอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ พลังที่รุนแรงกระโจนเข้าไปปะทะกับอากาศทำให้เกิดเสียงดังขึ้นเหมือนกับเสียงของพระพุทธเจ้า ส่งผลให้สามารถทำลายประสาทของศัตรูได้
ในช่วงเวลาต่อมาชิงสุ่ยใช้ท่าทางของปางพระพุทธรูปทองคำพันปางเกือบทั้งหมดเพื่อสำแดงพลังสะท้านที่สามของฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้านออกมาจนกว่าลมปราณของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลในจุดตันเถียนของเขาจะหมดไป
ชิงสุ่ยเอนกายลงบนดินแดนหยกยุพราชอมตะอย่างมีความสุข เขาคิดว่าเขานั้นได้รับประโยชน์มากมายจากการเดินทางมายังถ้ำพระพุทธรูปทองคำพันปาง ไม่เพียงแต่เขาเข้าใจพลังสะท้านที่สามของฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้านแล้ว แต่เขาก็ยังสามารถจัดการกับเด็กหญิงตัวน้อยตัวเล็กๆที่งดงามได้อีกเช่นกัน