Chapter 30 girls (Part 2)
Chapter 30 girls (Part 2)
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อผมลืมตาขึ้นมา ร่างกายของก็ดีดตัวลุกขึ้นมาเหมือนได้อย่างกับยางและผมก็รู้สึกประหลาดใจ.
‘โอ้ใช่ ตอนนี้ผมเป็นชายที่มีหน้าท้องหนาแน่น(ซิกแพค) 55+.’
ผมคิดว่าถ้ามีสัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆกำลังไต่บนซิกแพคของผมมันก็น่าขำไม่น้อย ผมอาจจะกลายเป็นพวกหลงตัวเองได้หากทำอย่างนี้ ผมรับโทรศัทพ์เพื่อตรวจสอบเวลาและมีข้อความอยู่
[ยูมินจอย^^*: โอปป้า ตื่นแล้ว?]
โอ้ นี่เพือนฮยอนจี มินจอย.
ผมส่งตอบไป
[ฉัน: ผมพึ่งตื่น.]
ผมล้างหน้าแปรงฟันและออกไปที่ห้องโถง โทรศัพท์ของผมสั่นอีกครั้งดังนั้นผมจึงตรวจสอบ.
[ยูมินจอย^^*: ขอบคุณโอปป้า ที่พาฉันกัลบบ้านอย่างปลอดภัย.]
ผมชอบการตอบกลับที่รวดเร็วของเธอ ปัจจุบันสาวๆมักจะตอบกลับมาไม่ช้าเท่าไรนัก.
ผมส่งคำตอบไปให้เธอทันที.
[ผม: อย่าพูดถึงมันเลย ไม่ใช่ว่าผมบอกว่าจะจ่ายค่าแท๊กซี่ให้คุณ]
[ยูมินจอย^^*: 555 คุณต้องอายมากแน่ๆ]
[ผม:กระเป๋าที่ว่างเปล่าและเด็กหญิง3คนที่หัวเราะคิกคัก จะยังคงเป็นแผลของผมตลอดชีวิต]
[ยูมินจอย^^*: 555 ฉันขอโทษ อย่างไรก็ตามขอบคุณที่ช่วยเราเมื่อคืน ฉันจะเลี้ยงอาหารคุณเอง]
[ผม: คุณจะจ่าย?]
[ยูมินจอย^^*: ใช่ ใช่]
[ผม: คุณคิดว่าเพราะผมไม่มีเงิน…]
[ยูมินจอย^^*: ไม่ 555 งั้นโอปป้าต้องการจะจ่าย.]
[ผม:ผมไม่มีเงิน]
[ยูมินจอย^^*: 555+]
เราใช้เวลาที่ดีและคุยกันพร้อมกับหัวเราะคิดคักเมื่อมันเกิดขึ้น.
‘ฆาตกร?!’
ผมรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของอากาศรอบๆตัวและเมื่อหันไปก็เห็นฮยอนจีจ้องมองมาที่ผม
“เธอ อ่า เธอไม่ไปโรงเรียน?”
“วันนี้เป็นวันหยุด.”
“ใช่? ไม่ว่าอย่างไรเธอกำลังมองอะไร?”
“ส่งมา.”
“…อะไร?”
“ส่งโทรศัทพ์มา.”
“ให้เกรียรติความเป็นส่วนตัวของคนในครอบครัวหน่อย.”
“คุณได้ให้เกรียติความเป็นส่วนตัวของฉันเมื่อคุณไปที่คลับและลากฉันออกมา?”
“นั่นเป็นเพราะนูน่าและฉันก็ไม่มีทางเลือก.”
“โอ้ ถ้างั้นก็เร็วๆ และ ส่งมันมา!”
ฮยอนจีคว้าโทรศัพท์ของฉันและเธอก็เร็วกว่าลิงแดงอีก!
ฮยอนจีเห็นการส่งข้อความของผมในโทรศัพท์แล้วเธอก็สั่นเป็นเจ้าเข้า จากนั้น…
“แม่! โอปป้าถูกล่อลวงโดยโสเภณีที่ชั่วร้าย!”
เธอไปและเข้าไปหาแม่ของผมขณะที่เธอกำลังเดินทางไปที่ร้าน
หยุด!
ด้วยคำพูดของฮยอนจี แม่หันหัวมา.
“โสเภณี? เธอหมายถึงอะไร?”
“เธอเป็นเพือนของฉันและตอนนี้โอปป้าก็ถูกชักจูงโดยสมบูรณ์.”
เธอเรียกเพือนตัวเองว่าโสเพณี นี่มันเป็นมิตรภาพแบบไหนกันนะ?’
“โอ้ ฉัน.”
ใบหน้าของแม่แสดงการเหนือความคาดหมายและตบมือของเธอ
“โสเภณีชั่วหรืออะไรก็ตามที่ลูกสาวหรือลูชายของฉันกำลังพูด? ฉันสามารถคาดหวังว่าจะมีหลานได้ไหม?”
“อะไรเรื่องไร้สาระเหล่านี้คืออะไร! ถ้าชายที่พึ่งจะเป็นมือใหม่(ไก่อ่อน)ด้านความรักต้องการความรักเหมือนกับคู่อื่นๆก็ดีแต่เธอ เธอเป็นหญิงสาวอันตรายตราบเท่าที่เธอนอนหงายและอ้าขาขึ้นเขาจะถูกดูดพลังชีวิตทั้งหมดออกไปทันที!”(แปลตรงนี้ผมฮาก๊ากเลย/ไรต์)
อย่ามาเรียกว่าฉันเป็นพวกมือใหม่!ฉันไม่ใช่มือใหม่!ถึงแม้ว่าฉันจะใกล้มันมากก็เถอะ!
“ไม่ว่าเขาจะเป็นอันตรายมากแค่ไหนฉันก็มีความสุขตราบเท่าที่ฉันมีหลาน.”
แม่ของผม ผิดปกติแน่นอน
“วาว แม่จริงจังดิ!”
ฮยอนจีเตะเท้าของเธอในปการประท้วง.
ผมใช้เวลานั้นในการเอาโทรศัพท์ของผมคืน.
จากนั้นผมก็หัวเราะคิดคักอีกครั้งและเริ่มการสนทนาใหม่
[ผม: ฮยอนจีแย่มาก เธอบอกว่าถ้าผมไปและพลาดอะไรขึ้นมาวิญญาณของผมจะหายไป.]
[ยูมินจอย^^*: 555 ตลกมาก แต่โอปป้ารู้ไหม?]
[ผ: อะไร?]
[ยูมินจอย^^*: มันก็ไม่ผิดทั้งหมด]
[ยูมินจอย^^*: จะบ้าหรอ cuz ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาว่าฉันเป็นบ้าแล้ว มีความสุขเล็กๆ นั่นแหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดถ้าคุณเดทกับฉัน.]
[ผม: ;;;]
[ยูมินจอย^^*: ฉันต้องชอบมากแค่ไหนมันถึงจะเกิดขึ้น?]
แค่ไหน…
ด้วยคำพูดเหล่านั้นทำให้หัวใจของผมกระตุกเหมือนกับดาบ
[ยูมินจอย^^*: โอปป้าก็เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า?]
‘ตือ เฮือก!’
ถูกจู่โจมตรงๆ มันไม่สามารถที่จะตามทันลูกเร็วของเธอได้ นอกจากการตั้งรับอย่างดีแล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร.
จากนั้น.
[แจ้งให้ทราบ: ฮยอนจีได้เชิญคุณเข้าห้องสนทนา.]
[แจ้งให้ทราบ: ฮยอนจีได้เชิญ. ‘ยูมินจอย^^*’ เข้าร่วมห้องสนทนา.]
ฮยอนจีเชิญเข้าห้องสนทนากลุ่ม
[ฮยอนจี: ยูมินจอย.]
[ยูมินจอย^^*: อะไร ^^?]
[ฮยอนจี: ฉันมีวีดีโอของเธอก่อนที่เธอจะออกมาจากคลับเมื่อคืน เรากำลังจะได้ดูกัน OK?]
[ยูมินจอย^^*: อึก;;]
[ฮยอนจี: เธอไม่ได้ยุ่งกับคนรอบๆเธอ?]
[ยูมินจอย^^*: ขอโทษ T_T]
[ฮยอนจี: ด้วยการเต้นอยู่รูดเสาที่อยู่บนฟลอล์ของเธอ]
[ยูมินจอย^^*: ฉันขอโทษ! ;;;]
[ฮยอนจี: หยุดพฤติกรรมที่ไม่เกรงใจ]
[ยูมินจอย^^*: T_T]
ผมสงสัยว่ามันเป็นวิดีโอแบบไหน มันคงเป็นปาร์ตี้ที่บ้าคลั่งมากแน่ๆ?
ในหัวของผมเต็มไปด้วยทุกท่วงท่าต่างๆวิ่งเข้ามาในความคิด ผมสงสัยว่าผมกับมินจอยคงจบลงด้วยเวลาสั้นๆ.
ชิ้ง.
เสียงสั้นๆ.
ผมดูโทรศัพท์.
[ยูมินจอย^^*: โอปป้า คุณรู้ไหมว่าคุณยังไม่ตอบ? ฉันจะรอ เก็บมันเป็นความลับกับฮยอนจี!]
ว้าว ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมฮยอนจีถึงได้อึดอัด
ผมคิดว่าเธอจะหยุดลง แต่เธอดันขยิบตาและส่งข้อความมาหาผม ผมได้รับรู้ถึงความคิดของสาวกินเนื้อ.
หลังจากนั้นไม่นานผมก็ส่งคำตอบออกไป
[ผม: ผมอยากเห็น]
[ยูมินจอย^^*: ฉัน?]
[ผม: เต้นรูดเสา]
[ยูมินจอย^^*: 555]
[ผม: 555]
อ่า นี่มันสนุก สิ่งต่างๆเหล่านี้ ต้องขอบคุณที่ทำให้ผมสนุกแบบนี้.
ผมมีร่างกายที่ดีในเช้าวันนึง แต่ผมก็ไม่ได้ขี้เกียจและไปเดินเขา ผมคิดว่าถ้าร่างกายของผมขี้เกียจ จิตใจของผมก็ขี้เกียจเหมือนกัน เพราะงั้นผมเลยต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ.
‘เหมือนกับคนอื่นๆอย่าง จุนชอย เป็นต้น.’
ศิลปะการต่อสู้และเสริมร่างกายเลเวล5ด้วยความสามารถของตัวเอง.
ร่างกายของผมตอนนี้น่าประทับใจมาก แต่คังจุนต้องพยายามแค่ไหนกว่าจะได้ถึงขนาดนี้?
คนที่ยอมรับว่าผมเป็นผู้นำและเพื่อแสดงความเป็นผู้นำแล้วผมต้องทำตัวไม่ให้น่าสงสาร.
‘มันไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่ฉันได้มาด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันต้องทำงานหนักกว่านี้.’
หลังจากที่เดินขึ้นเขาแล้วอารมณ์ของผมเพิ่มขึ้นไม่น้อย ไม่มีความเมื่อยล้าใดๆ ผมไปบนยอดและเดินลงมาราวกับเป็นการเดินเล่น.
‘แต่ผมก็ต้องทำงานหนักกว่านี้.’
ผมได้ผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากผมต้องทำงานหนักและยืนหยัดความอดทน
ผมไม่รู้ท่าออกกำลังกายอื่นๆดังนั้นผมเลยทำแค่วิดพื้น.
ผมหยิบโทรศัพท์ออกเนื่องจากจีเฮโทรเข้ามา.
-ฮัลโหลนี่ชาจีเฮพูด.
“ใช่ หวัดดี.”
-คุณชินกับร่างกายที่เปลี่ยนไปแล้วหรือยัง?
“ผมกำลังหาขีดจำกัดของมันอยู่ ตอนนี้ผมเดินขึ้นเขาและออกกำลังกาย.”
-นั่นเป็นความคิดที่ดี การพักผ่อนก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ได้โปรดออกกำลังกายทุกวัน
“ผมจะทำ ทำไมคุณโทรมา?”
-เราได้ข้อสรุปกับการใช้คาม่าที่เหลืออีก 200 ของคุณ.
“โอ้ใช่ คุณบอกว่าคุณต้องทดลองครั้งสุดท้ายก่อน?”
-ใช่ เราประสบความสำเร็จในการทดลอง ด้วยคาม่าที่เหลืออีก200เปลี่ยนมันเป็นปืรไรเฟิล.”
“ไรเฟิล?ไอเทม?”
-อ่า ปืนของโลกเรามีประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีกว่าที่มาจากคาม่า.
“ผมคิดว่าปืนไรเฟิลเวทย์มนต์ที่ผมมี มีระยะยิงเพียง 60 เมตร…”
-คุณอยากจะมาที่ศูนย์วิจัยและทดสอบปืนไรเฟิลเพื่อตัดสินใจ?
“ได้ ไม่เป็นไร ผมจะหยิบมันขึ้นมาในเวลานั้นด้วย?”
-ใช่ เราจะพาคุณผ่านรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์ ศูนย์วิจัยเป็นสถานที่ปลอดภัยดังนั้นคุณจังไม่สามารถมาด้วยตัวคุณเอง.
“ตกลง เจอกันพรุ่งนี้.”
-ได้.
ผมโทรศัพท์เสร็จ.
ไรเฟิล…
ไรเฟิลเวทย์มนต์ที่ผมต้องใส่ลูกเองและระยะการยิงของมันก็แค่60เมตร ทุกครั้งที่ผมยิงผมต้องบรรจุกระสุนเอง
แต่ ถ้าเป็นไรเฟิลจากโลกเรา?
ผมยิงถูก100%ผ่านซิล และมันจะเป็นอย่างไรถ้าได้รับปืนไรเฟิลที่มีระยะยิง 500 เมตร?
‘ฉันจะผ่านมันไปได้จริงๆ.’
ผมสามารถรับรู้ห่างออกไปจาตัวผมได้ 1 กก. ผ่านซิล และอะไรก็ตามที่เข้ามาผมก็สามารถฆ่ามันได้ในระยะที่ผมเอื้อมไปถึง!
แค่คิดมันก็ทำให้รู้สึกแข็งแกร่งและปลอดภัยมากขึ้น.
***
วันรุ่งขึ้นผมมีที่ศูนย์วิจัยผ่านฮอฯและรถยนต์ในเกาะแห่งหนึ่งทางตะวันตก.
“โปรดมาทางนี้.”
ทันทีที่ผมมาถึงจีเฮนำทางผมไป ผมบอกได้ว่าเธอดูตื่นเต้นมาก ดูเหมือนว่าเธออยากจะเอาผลลัทพ์ให้ดู.
เราเข้าไปในลิฟท์และเข้าในชั้น5ลึกลงไปใต้ดิน
สถานที่เรามาคือชั้น5ใต้ดินและเป็นที่ซ้อมยิง.
‘กว้างมาก!’
มันเป็นชั้นใต้ดินที่ใหญ่พอๆกับโรงเรียนๆนึง! มีเป้าเรียงรายไปตั้งแต่ 20 เมตร 100 เมตร 250 เมตร
“มันใหญ่มาก.”
“มันเป็นการฝึกยิงปืนตามระยะต่างๆ เพราะงั้นมันจึงเป็นอย่างนี้แน่นอน”
เธอพูดเรื่องจริง แม้ว่าเธอจะพูดสั้นๆ ปกติแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหลบสายตาของทหารได้.
“ก่อนอื่นดูนี่.”
จีเฮเปิดตู้ที่มีเครื่องหมายว่า ‘อาวุธ’ และในนั้นก็มีไรเฟิลสองกระบอก จากทั้งสองมือของเธอ.
มันเป็นไรเฟิลคลาสสิกที่ท้ายปืนทำด้วยไม้
“มันเป็นไรเฟิลที่ผมเห็นในหนัง.”
“จริง มันสร้างเมื่อปี 1891 เรียนกว่า Mosin-Nagant เป็นปืนปลานศตวรรษที่19.”
“Mosin-Nagant?”
ผมมองดู Mosin-Nagant ที่เธอมอบให้ผม.
มันมีความยาวไม่เกิน1.2เมตรและผมไม่เห็นแม๊กซีน สไตล์คลาสสิกในการออกแบบมันทำให้ผมรู้สึกอย่างกับอยู่ในหนัง.
แต่น้ำหนักมันค่อนข้างมาก มันสามารถเอาไปฟาดคนให้สลบได้เลยทีเดียว
“และแม๊กซีน?”
“มันมี5นัดต่อแม๊กซีน และยิงได้เร็วอย่างกับสายฟ้า.”
ผมเคยเห็นอาวุธนี้มาก่อนและสามารถบอกได้จากการมอง.
เหมือนกับสายฟ้า ทุกครั้งที่คุณยิง มันจะคล้ายกับสายฟ้าที่จริงออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าและลบสิ่งที่ถูกกระทบออก.
“มันจะดีกว่าที่เราไม่ต้องมาโหลดลูกกระสุนเอง คุณมีกึ่งออโต้ไหม? ผมคิดว่ามันคงจะใช้ยากมาก”
“เราไม่มีทางเลือก ในบรรดาไรเฟิลตัวนี้ใช้คาม่าน้อยที่สุด.”
“งั้นก็ไม่มีทางเลือก คุณบอกว่าเจ้านี้ใช้คาม่า200?”
“ไม่มันใช้300”
“อะไรนะ? ทำไมคุณไม่บอกผม?”
“เราได้ทดลองแล้วว่ามันจำเป็นต้องใช้300เพื่อที่จะได้ Mosin-Nagant และยังสามารถเปลี่ยนให้มันเป็นคาม่าได้200หรือต่ำกว่า.”
“มันคงเป็นไปไม่ได้ใช่มั๊ย?”
“แน่นอนว่าเราสำเร็จในการทำลองของเรา และนี่คือการใช้คาม่า 200 เพื่อ Mosin-Nagant.”
ชาจีเฮเอาไรเฟิลอีกตัวหนี่งที่เธอถือไว้ออกมา
มันคล้าย Mosin-Nagant.
‘มันคงไม่มีอะไรที่แตกต่างกันหรอกนะ.’
ผมวางท้ายปืนไรเฟิลกับไหล่ของผมและยิงในท่านั้น จากนั้นผมก็เล็งไปที่เส้น 250 เมตร…
‘หืม?’
ผมรู้สึกว่ามันมีบางอย่างแตกต่าง.
“มันไม่สามารถเล็ง.”
“ถูกต้อง เนื่องจากว่าเราจะปรับประสิทธิภาพด้านหน้าและหลังของมัน.”
จริง.
ไม่จำเป็นต้องมาจากด้านหน้าหรือด้านหลัง มันไม่ไม่มีทางที่จะยิงได้โดยปราศจากสิ่งเหล่านี้ ในสถานการณ์ปกติ.
“ปืนไรเฟิลที่ไม่สามารถยิงได้อย่างถูกต้องมันจะปิดพลาดเป็นอย่างมาก แต่มันไม่ใช่กับคุณ ยฮอนโฮคุณไม่ต้องเล็ง”
“โอ้! นั่นคงเป็นไปได้!”
ผมได้ตระหนักถึงตอนนี้
ไม่งั้นพวกเขาคงเรียกตัวเองว่าศูนย์วิจัย.
ในความคิดเหล่านี้พวกเขากำลังทำงานเพื่อความอยู่รอดของผู้เข้าสอบ.
“กับ Mosin-Nagant คุณสามารถได้รับมันด้วย 200 คาม่า คุณต้องการทดสอบฟืนหรือไม่?”
“แน่นอน.”
เธอส่งกระสุนมาให้ผม5นัด
ผมรับมันและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรนอกจากยักไหล่.
“สอนผม ผมไม่รู้เงื่อนไข.”
“เป็นเรื่องที่เข้าใจเนื่องจากมันสร้างขึ้นเมื่อ100ปีก่อน.”
ผมใส่กระสุนและปรับท่าทางตามที่เธอสอน.
“ซิล.”
-เมี๊ยว!
ซิลปารกฎตัวและหมุนเบาๆก่อนที่จะนั่งบนไหล่ผม.
จีเฮที่เพิ่งเคยเห็นสปิริตครั้งแรกก็ได้มีการแสดงออกที่น่าสนใจมากเนื่องจากเธอพูดไม่ออก.