Chapter 29 Girls (Part 1)
Chapter 29 Girls (Part 1)
“ฉันจะไปก่อน”
ฮยอนจีคว้ากระเป๋าแล้วลุกออกจากที่นั่ง.
“เฮ้ นี่เธอจะไปไหน?อยู่นี่และเล่นกันก่อน”
ชายผมสีบลอนด์ที่นั่งอยู่ข้างเธอได้คว้าข้อมือเธอและดึงลง.
ฮยอนจีกลับไปนั่งที่ของเธอ เธอหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะลุกขึ้นอีกครั้ง.
“ไม่ ฉันต้องไปเดี๋ยวนี้.”
“ไม่ ห้ามไป.”
ชายประหลาดนั่นทำท่าทางนักรักและตลกเล็กน้อย แต่ก็ยังคว้าข้อมือฮยอนจีแน่นและไม่ปล่อยออกไป.
ฮยอนจีหัวเราะให้เขาและคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่ใบหน้าของเธอยังงงงวยอยู่.
‘ตอนนี้มันคืออะไร?’
ผมพูดสุภาพกับชายประหลาดคนนั้น.
“ฉันขอโทษด้วยนะกับการพังบรรยากาศ แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นเนื่องจากเรื่องนี้มันเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัว”
“เอ่~บรรยากาศอะไร? เรากำลังสนุกสนานและมีความสุข น้องสาวของคุณก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วคุณก็ด้วย.”
“เรามีสถานการณ์บางอย่าง ฉันจะพาฮยอนจีไปแล้ว กรุณาปล่อยมือจากเธอด้วย”
“ผมอยาก ผมจะทำ…”
ชายหหนุ่มผมบลอนด์ยกมือที่จับฮยอนจีขึ้น.
“มือมันไม่ยอมปล่อย มันแปลกๆ.”
“55+.”
“อ่า แกมันไอ้โง่.”
เพื่อนของเขาคิดว่ามันตลกและหัวเราะ
ตลก? นี่ไม่ใช่เรื่องตลก
“ได้โปรด ปล่อยฉันไป.”
ฮยอนจีกำลังแกะมือของชายคนนั้นออกไป แต่ชายหนุ่มไม่ยอม.
บรรยากาศเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ.
‘อ่า จริงดิ…’
โกซางก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นและผมก็อยากรู้จริงๆ ผมมีลักษณะที่เหมือนกับคนประเภทรังแกกันได้ง่ายๆอย่างนั้นเลยหรอ?
ทำไมทุกคนถึงต้องมาหาเรื่องกับผมโดยไม่ดูความเป็นไปของโลก สมมุติว่าผมหงุดหงิดและไม่รู้ว่าผมทำอะไรบ้าง?
“ทำไมฮยองไม่ดื่นและมาเล่นกับเราหล่ะ? หืม?”
จากนั้นไอ้สารเลวผมบลอนด์ก็ยกเบียร์
ขณะเดียวกัน
หมับ!
“อัค!”
โดยทันได้คิดผมคว้าคอไอ้หนุ่มคนนั้น.
“แกจะปล่อยมือเดี๋ยวนี้หรือไม่?”
“อัค! อัค!”
“แกอยากจะให้ฉันนั่งลงข้างน้องสาวและเล่นสนุก? แกอยากตายงั้นหรอ?”
ถูกต้อง สารเลวพวกนี้จะต้องเห็นตัวจริงของผม ผมไม่ใช่พวกที่ไม่กล้าใช้ความรุนแรง นานมาแล้วผมก็เคยเป็นแบบนั้นจริงๆ
แต่ผมก็ฆ่าลิงแดงมาหลายร้อยแล้วและทิ้งศพของโกซางไว้และอดีตของผมก็หายไปแล้ว.
‘ตอนนี้คุณรู้แล้วใช่มั๊ยว่าคุณไม่ใช่คนธรรมดา? ว่าคุณเป็นคนพิเศษจริงๆ?’
ผมไม่รู้ ควย (I don’t know, fuck./ไม่รู้จะพิมพ์ไงเอาโต้งๆแล้วกัน-ไรต์คนนึงที่พิมพ์ผ่านๆ)
มันไม่ใช่คำชม ผมบอกว่าผมสามารถหักคอใครก็ได้ที่ผมยากจะทำหรือแค่ผมไม่ชอบมัน.
“โอปป้า!”
“ฮยอนจีเธอออกไปก่อน.”
“O…ok.”
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะถูกปล่อยมือแล้วและฮยอนจีก็รีบออกไปข้างนอก
“ฉันจะไปด้วย.”
“ฉันจะไปกับเธอ.”
เพือนสาว2คนของฮยอนจีก็ค่อยๆคว้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืน.
“ปล่อยมืออกซะ!”
เพือนของไอ้ตัวประหลาดผมบลอนด์ลุกขึ้นและตะโกน.
หลังจากที่ฮยอนจีและเพือนของเธอออกไปหมดแล้วผมก็ปล่อยคอของชายคนนั้น เขาจับไปที่คอและพยายามสูดหายใจ ไอ้สารเลวผมบลอนด์นี่.
เพือนอีกสองคนมองผมด้วยสายตาข่มขู่.
ผมพูด
“ฉันขอโทษเดี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เพือนของคุณตลกมากเกินไป ฉันขอโทษอีกครั้ง ขอให้สนุกในคืนนี้.”
ผมโค้งตัวเล็กน้อยก่อนที่จะบอกลาก่อนและรับออกจากห้องไป.
เยี่ยม ฉันเข้าใจแล้ว พวกเขาใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อหาห้องพักและกำลังเล่นอยู่และผมก็เพียงแค่บุกเข้าไปและทำลายบรรยากาศดีๆ ใครๆก็คิดแบบนั้น? ไม่ต้องพูดถึงคลับ วันนี้มันเหมือนกับเทศกาลไส้กรอก.
เมื่อผมเห็นสาวน้อยที่อยู่ที่นั่น ฮยอนจีและเพือนๆของเธอก็ในระดับสูง.
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่สามารถยิ้มแย้มออกมาได้เมื่อเธอพี่สาวแท้ๆของเธอ.
ฮยอนจีและเพือนของเธอกำลังรออยู่ข้างนอก.
“ไปเถอะ.”
“Ok…”
ผมฉุดฮยอนจีที่กำลังนั่งคอตกและเริ่มที่จะออกจากคลับ.
และจากนั้น.
“มึงคิดว่ามึงจะไปไหน ไอ้เหี๊ย?”
‘หืม?’
ผมมองไปข้างหลักและเห็นไอ้สารเลวผมบลอนด์กระโดดออกมาทำท่าทางชกลมก่อนที่จะมองมาที่ผม.
ผมแค่อยากจะบอกว่าเขามันบ้า แต่ในมือของเขามีขวดเหล้าเปล่าอยู่ด้วย.
“กูพูดว่ามึงจะไปไหน!”
ชายคนนั้นเดินหย่องแหยงมาทางผม.
“โออ- โอปป้า!”
“โอ้พระเจ้า!”
ฮยอนจีและเพือนๆของเธอก็เริ่มที่จะกลัว การจ้องมองของผู้คนก็เริ่มที่จะให้ความสนใจกับพวกเรามากขึ้น
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไปสถานนีตำรวจ?
ไอ้ผมบลอนด์เดินเข้ามาใกล้ผม มือขวาของเขาเริ่มเคลื่อนไหวและผมก็มีปฎิกิริยาโต้กลับ ด้วยมือของผม ผมปัดขวดเปล่าของชายคนนั้น.
เพล้ง!
น่าแปลกที่ส่วนอื่นๆของขวดแตกกระจายยกเว้นที่คอขวดที่เขาถือ.
“…?!!”
สารเลวผมบลอนด์ตัวแข็งเป็นน้ำแข็ง
‘ฉัน ฉันก็ประหลาดใจเหมือนกัน!’
ในขณะเดียวกันด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายของผมมันมากขนาดไหน แม้แต่ผมก็ยังไม่รู้ ผมคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นไปได้และผมก็ทำมัน!
‘ผมอยากจะบอกว่าร่างกายของนาวีซิลเป็นของจริง!’
สิ่งที่มันเป็นแบบนี้ ผมชื่นชมอย่างมากกับความแข็งแกร่งทางกายเลเวล4
“ทำไม? มีอย่างอื่นอีกไหม?”
นั่นคือคำถามของผม ไอ้ลูกแหง่ผมบลอนด์และเพือนโง่ๆของมันอีกสองคนส่ายหน้าไปมา ในที่สุดพวกมันก็รู้ว่าผมไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามที่ควรจะสู้.
ในที่สุดการต่อสู้กับเสร็จสิ้นและเราก็ออกจากคลับ.
“โอปป้า ฉันขอโทษ…”
ฮยอนจีกำลังร้องไห้ แม้ว่าเธอจะจับแขนไว้แน่นและผมก็ได้เห้นการกระทำแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่ที่เธอเกิด ไอกู่~
หากไม่มีพลังมันอาจจะทำให้เธอเป็นบ้า ผมถอนหายใจ.
“ไม่เป็นไร เหมือนกับชายคนนั้นบอก เธอไม่ได้เป็นเด็กแล้ว ใครๆก็เที่ยวเล่นเหมือนกันและฉันก็ไม่คิดว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ๆฉันจะเข้าไปยุ่ง.”
“ไม่ โอปป้า คุณอย่าเข้าใจผิด ขณะที่ฉันไปเที่ยวเล่น ฉันก็ไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้”
เมื่อฮยอนจีแก้ต่างเพือนๆของเธอก็พูดเสริม.
“มันเป็นเรื่องจริง คนที่เราไปเที่ยวด้วยมักมีมารยาทที่ดี.”
“พวกเขาเข้ามาทักทายพวกเรา และเราก็กำลังคุยอยู่กับพวกเขา…”
ผมทำท่าทางด้วยมือ
“ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามทำไมเธอถึงปิดโทรศัทพ์ของเธอ? เราไม่สามารถติดต่อได้และรู้สึกเป็นห่วง เธอควรจะโทรบอกถ้ารู้ว่าเธอจะเข้าบ้านดึก.”
“ฮ้าา ถ้าฉันบอกว่าจะออกมาเที่ยวอันนิจะไม่ให้ฉันออกมา.”
“ทำไมต้องได้รับอนุญาติจากนูน่า? เธอไม่เหมือนกับคนที่ฉันเคยฟังมา”
“เร็วๆนี้ฉันได้ขอเงินจากนูน่า…”
“หืม?”
“แม่บอกฉันว่าตอนนี้เธอต้องเตรียมพร้อมกับการเกียษณ ดังนั้นตั้งแต่ตอนนี้ อันนิจะต้องรับผิดชอบฉัน บัตรเครดิตที่ฉันพกก็เป็นของอันนิ”
“โหหห…”
ผมจับใจความสำคัญได้แล้ว คนเพียงคนเดี่ยวที่จะสามารถควบคุมไก่อ่อนของเราที่ชื่อฮยอนจีได้คือนูน่า นั่นเป็นเตุผลที่แม่ส่งต่อบังเหียนไปให้นูน่าและเริ่มดูแลตัวเอง.
“ต๊ายย คุณ 400 คะแนน.”
“อะไรคือ400คะแนน?”
“มันคือคะแนนโทอิคของเธอ.”
ใบหหน้าของฮยอนจีกลายเป็นบิดเบี้ยว เพือนของเธอเริ่มขำและหัวเราะ
“อ๋า อะไร? นั่นมันน่าอายมาก!”
“เธอรู้จักคำว่าน่าอายด้วยหรอ?”
“โอ้ใช่ เหมือโทอิคของคุณมันเท่าไร?”
“…650.”
“โอ้ไม่ สูงมาก! ฉันเครารพคุณ! คุณมีความลับอะไรไม๊? คุณต้องโกงข้อสอบแน่ๆ!”
“มันก็ดีกว่า400คะแนน! ด้วยคะแนนแค่ 400 นั่นเธอกล้าไปบอกกลับผู้จัดการฝ่ายบุลคลหรือเปล่า? มันคงเป็นคำพูดของคนที่ไม่มีความมายละมั้ง?”
เมื่อการทะเลาะวิวาทผ่านไปฮยอนจีและผมพร้อมกับเพือนของเธอก็หัวเราะเหมือนกับคนบ้า ดังนั้นบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจเมื่อครู่ก็หายไป
เมื่อบรรยากาศเปลี่ยนไปเพื่อนของเธอคนนึงที่มีผมยาวตรงและอีกคนก็ตาสองชั้น ทั้งสองเป็นผู้หญิงน่ารักและคนที่มีตาสองชั้นก็ถามขึ้น
“อย่างไรก็ตาม โอปป้า คุณเรียนศิลปะการต่อสู้มาใช่มั๊ย?”
“โอ้ใช่!ฉันรู้สึกประหลาดใจมากเหมือนกัน โอปป้าทำลายขวดเหล้านั่นได้อย่างไร?”
ฮยอนจีตบมือแล้วถามผม
ผมเกาหัวและพูด
“ไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้ ฉันออกกำลังกายอย่างเดียวเธอก็รู้? วันนี้ฉันออกกำลังกายหนักมาก.”
“ฉันเป็นว่าคุณเดินขึ้นเขาทุกวัน แต่วันนี้ดูเหมือนร่างกายของคุณจะดีขึ้นอย่างน่าประหลาด?”
ฮยอนจีเคาะไหล่และหน้าอกด้วยท่าทางสนใจ
“เมื่อไม่นานมานี้คุณไม่ได้เป็นอย่างนี้ การออกกำลังกายมันแสดงผลลัพท์เร็วขนาดนี้เลย?”
“ใช่ ไม่อย่างนั้นฉันจะทำมันได้อย่างไร ฉันออกกำลังกายทุกวัน ฉันก็รู้สึกประหลาดใจที่ฉันทำลายขวดนั่นได้อีกด้วย มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ.”
“คุณออกกำลังกายเป็นอย่างมาก โอปป้าโชว์หน้าท้องให้ฉันดูหน่อย หน้าท้อง!”
อึก หญิงสาวผมตรงนั่นถามผมพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ.
“โอ้ อืม...ฉันไม่สามารถ ฉันไม่ได้มีหน้าท้องอย่าที่เธอต้องการหรอกนะ.”
“หืม? อืมม คุณมีหน้าท้องแบบนี้ได้ไง ไปทำหน้าท้องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหน?”
ฮยอนจีมองหน้าท้องของผม.
ผมรู้สึกเป็นเหมือนกับแกะที่ถูกล้อมด้วยเสือ!
“ฮี่ฮี่ อย่างไรก็ตาม คุณในตอนนี้แตกต่างอย่างมากโอปป้า ฉันไม่เคยเห็นคุณในด้านนี้มาก่อน เปลี่ยนไปเป็นกล้าหาญมากขึ้น.”
ฮยอนจีทำท่าทางด้วยแขนของเธอ ไอกู่~ ผมยีหัวของเธอ.
“เด็กน้อย แม้ว่าเธอจะทำตัวน่ารักแบบนี้ แต่วันนี้จะเป็นจุดจบของเธอ นูน่ากำลังรอเธออยู่.”
คุณคิดว่าฉันไม่เข้าใจความตั้งใจของคุณ?
“งือออ โอปป้านี่เป็นความลับได้ไหม คุณพอจะบอกได้ไหมว่าฉันอยู่ที่ร้านกาแฟกับเพือนๆ?หืม?”
“โอ่ใช่ มันคงจะเยี่ยมมากเลย ในเมื่อยังได้กลิ่นเหล้าหึ่งๆอยู่เลย.”
“มินจอย!น้ำหอม!”
ฮยอนจีชี้นิ้วไปที่สาวตาสองชั้นที่ชื่อมินจอยที่รีบหยิบน้ำหอมของเธอมาจากกระเป๋าและพ่น.
กลิ่นหอมของดอกจัสมินเข้ามาในจมูกผมน้อยๆ
ฮยอนจีที่กำลังกางเกนและหมุนตัวในขณะที่เพือนของเธอกำลังฉีดน้ำหอม
“เป็งไงบ้าง?มันไม่มีกลิ่นแม้แต่น้อยแล้วใช่มั๊ย?”
“กลิ่นน้ำหอมยิ่งทำให้น่าสงสัยมากขึ้น.”
“โอ้ ทำไม?”
“เธอควรจะยอมแพ้ ไม่มีอะไรดีเมื่อเจอกับนูน่า เหตุใดเธอต้องปิดโทรศัทพ์ของเธอ?”
“ฉันยุ่งเลยไม่ได้รับสาย ฉันคิดว่ามันเป็นเสียงเตือนเมื่อแบตกำลังจะหมดฉันเลยปิดเครื่อง แงง ฉันกำลังจะตาย”
ทันใดนั้นสาวตาสองชั้นก็แทรกใบหน้าของเธอเข้ามาและถาม,
“โอปป้า คุณสามารถแลกเบอร์กับฉันได้ไหม.”
“อะไร?”
สิ่งไร้สาระที่สดใสนี่คืออะไร?(ไม่ตายคำว่าบลูแล้ว ตั้งแต่ตอนวิจัยและ ที่มันบอกว่าเรียกออกมาจากสีฟ้า ความความจริงแล้วจีเฮจะบอกว่า ขอโทษที่รบกวนวันที่สดใสของคุณ/ไรต์)
“ครั้งต่อไปที่ฮยอนจีปิดโทรศัทพ์และกำลังไปดำน้ำ คุณสามารถโทรหาฉันได้ เรามักจะออกไปเที่ยวด้วยกัน.”
“โอ้ ฉันควรจะ? งั้นต้องขอบคุณแล้ว.”
ผมส่งโทรศัทพ์ไปให้กับสาวตาสองชั้น เธอก็รับโทรศัพท์และป้อนหมายเลขของเธออย่างรวดเร็ว แต่แล้วฮยอนจีที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มที่จะขุ่นเคือง
“เฮ้! ยัยนี่ หยุดซะ”
“ทำไม?”
“ใครจะคิดว่าเธอน่าอัดขนาดนี้? ไม่ดี! ออกไปจากพี่ชายของฉันเลยนะ.”
“ฮืมม ฉันทำอะไร?”
สาวตาสองชั้นก็ได้บันทึกเลขหมายของผมไว้ในโทรศัพท์ แม้แต่ภัยคุกคามของฮยอนจีก็ไม่สามารถทำอะไรกับเธอได้.
ผมรับโทรศัพท์ของผมมาและดูรายชื่อที่เธอเขียน ‘ยู มิน จอย ^^*’ นี่คือสิ่งที่เธอใส่ไว้ ในท่ามกลางความวุ่นวายเธอยังสามารถพิมพ์ได้แม้กระทั่งไอคอนอารมณ์ ด้วยนิ้วที่รวดเร็วของเธอ.
มันเป็นความเพียรที่น่าประทับใจ.
เดี๋ยว ผมโดนด้วยไหม?
มันมีบรรยากาศแปลกๆ.
“อย่างไรก็ตามเราจะกลับบ้านอย่างไง? แท๊กซี่เลิกวิ่งไปหมดแล้ว.”
เพือนอีกคนถาม
“โอ้ใช่ เราสามารถเดินกลับไปที่บ้านได้?”
ฮยอนจีดูกงวลเหมือนกัน
มินจอยถอนหายใจ.
“ตอนแรกเราตั้งใจที่จะใช้เวลาทั้งคืนเที่ยวเล่นที่นี่และใช้แท๊กซี่กะแรกในการกลับ.”
“ฉันจะไปตามทางของฉัน พวกคุณควรจะกลับไปเที่ยวเล่นต่อได้.”
ในตอนนั้นเพือนของเธอก็ดูเหมือนจะไม่ชอบ
“อ่า ฉันไม่อยากไปที่คลับอีกแล้ว.”
“เกิดอะไรขึ้นถ้าเราเจอพวกเขาอีกครั้ง? เราจะได้โบกแท๊กซี่และไป”
ผมเริ่มรู้สึกผิด ถ้าไม่ใช่เพราะผมพวกเขาคงกำลังสนุกสนาน แต่แน่นอนว่าผมไม่สามารถยืนดูน้องสาวเฉยๆและถูกฉุดลุกฉุดนั่งโดยไอ้เหี้ยผมบลอนด์นั่น!
“มันเป็นความผิดของผมเอง ดังนั้นผมจะจ่ายแท๊กซี่ให้”
“หืม?โอ้ไม่.”
“มันok…”
แต่แล้วผมก็เอากระเป๋าสตางค์ออกมาและเปิดขึ้นและเริ่มมีเหงื่อเย็น มันอยู่ที่ไหน?
ตั๋วเงิน10ดอล.
‘ฮืม! ใช่! คุงจุนชอย!’
ผมจำได้ว่าผมให้เงินจุนชอยไป ผมยืนนิ่งและแข็งเหมือนกับรูปปั้น และฮยอนจีก็เข้ามาช้า ก่อนที่เธอจะกระทุ้งศอกและถามว่า
“เฮ้ นี่.”
“…”
“คุณไม่ได้เปิดประเป๋าสตางค์ของคุณโดยบังเอิญและพบว่าคุณไม่มีเงินเนื่องจากคนตกงาน?”
“…”
“ว้าว ที่มันน่าอายมาก!”
ฮยอนจีหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
เพือนของเธอปิดปากและหัวเราะพร้อมๆกัน
ท่างกลางเหล่าเด็กสาวที่กินเนื้อ เสียงหัวเราะนั่นทำให้ผมหงุดหงิดมากจนไม่สามารถที่จะเงยหน้าขึ้นได้ นี่ไม่ถูกต้อง นี่ไม่ใช่ฉัน! หลังจากนั้นผมก็มีสายตาที่หนาวเย็นออกมา!
…สุดท้ายเพือนของเธอก็ต้องจ่ายค่าแท๊กซี่และกลับบ้าน.
ผมกลับบ้านขณะที่หัวเราะพร้อมกับฮยอนจี
แต่ฮยอนจีต้องถูกลงโทษและนั่งคุกเข่าข้างหน้านูน่า
“เดือนถัดไปฉันจะลดเงินในบัตรเหลือ 300 เหรียญ.”
“ฮือออ.”
“จนกว่าคุณจะได้โทอิคอย่างน้อย800คะแนน.”
นั่นไม่ใช่สิ่งที่หัวอย่างฮยอนจีจะทำได้