Chapter 27 The Korean Arena Research Center (1) ฟรี 01-09-2017
Chapter 27 The Korean Arena Research Center (1)
11 A.M.
ผมรับโทรศัพท์ทันที.
-นั่นใช่มิสเตอร์ ฮยอนโฮคิม ไหม?
“คุณเป็นใคร?”
-ผมเป็นพนักงานวิจัย.
จากคำพูดของเขา เขาเอาใจใส่อย่างมาก มันเป็นศูนย์วิจัย อารีน่า เกาหลี .
-ผมมาชอยนันแล้วเพื่อพาคุณฮยอนโฮและคุณคังจุนชอย.
“ผมยังไม่ได้รับการติดต่อจากจุนชอยเพราะงั้นรอสักครู่.”
-ผมจะรออยู่ใกล้ๆที่พักคุณเพราะงั้นโปรดโทรหาผมเมื่อได้รับข้อความจากเขา.
“ครับ.”
เธอบอกว่าเธอจะส่งรถไปรับสมาชิกที่เหลือและเธอก็ทำตามจริงๆ ไม่เพียงแค่นั้น มันยังเร็วและยังรอได้ พวกเขาทุ่มเทจริงๆ.
พนักงานของประเทศที่กำลังค้นคว้าข้อมูลของอารีน่าต้องทุ่มเทหัวใจและจิตวิญญาณอย่างมากในการค้นหาผู้เข้าสอบ
‘ถ้าฉันเล่นตัวและไปศูนย์วิจัยอื่นฉันอาจจะได้รับข้อเสนอดีกว่านี้ ดีไม่ดี ฉันอาจจะได้รับความหรูหราเป็นอย่างมากในเวลาที่เหลือ และฉันชอบที่จะอยู่เกาหลีมากกว่าประเทศอื่นๆ.’
มันน่าสนใจ
ผมไม่รู้ว่ามันมีสถาบันแห่งชาติ แต่ต้องตระหนักว่าพวกเขาค้นหาผู้แข่งขันเขาศูนย์เหมือนกับคัดเลือกทีมชาติฟุตบอล.
3rd, 4th, 5th…
ถ้าผมยังมีชีวิตต่อไปและคงเข้มแข็งขึ้นสถาบันอื่นๆของรัฐอาจจะเสนอเงินมากขึ้นและพยายามที่จะเอาตัวผมไปให้ได้
จินตนาการว่ามีหลายประเทศพยายามเอาเงินเข้ากระเป๋าผมและคนอื่นๆก็พยายามที่จะเอาชนะผมด้วยข้อเสนอที่มากกว่า แค่คิดเกี่ยวกับมันผมก็รู้สึกดีอย่างเหลือเชื่อ.
แน่นอน สิ่งที่ดีที่สุดคือการรอดชีวิต.
กริ๊งงงง.
โทรศัทพ์ของผมดังขึ้นและขึ้นเบอร์ไม่รู้จัก
“ฮันโหล?”
-ผมอยู่ที่ชอยนัน.
“มาที่บ้านผม ผมอยู่ที่…”
ผมให้ที่อยู่บ้านกับจุนชอย
หลังจากนั้นผมก็โทรหาพนักงานวิจัย
“เขาบอกว่าเขาจะได้สิทธิ์มากกว่า.”
“เข้าใจแล้วฉันจะรออยู่ที่รถด้านหน้า”
“ใช่ผมกำลังออกไปเดียวนี้.”
ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปข้างนอกอพาร์ทเมนท์ที่ลานจอดรถมีรถEquusจอดอยู่*. แหม่นี่มันน่าแปลกใจที่เป็นรถที่ดูดีมาก แต่มันมาจากรัฐ พวกเขายังใช้รถของรัฐ.
(TN: ผมไม่เคยได้ยินว่ามีรถฮุนไดEquus.)
คนที่ผมกำลังไปหาคือคนที่อายุ30ปลายๆเขาออกมาจากรถและแนะนำตัว
“คุณคือ คุณคิมฮยอนโฮ?”
“ใช่ ยินดีที่ได้พบ”
“เชิญเข้ามาข้างใน.”
เขาเปิดประตูหลังให้ผม ผมรู้สึกเหมือนกับเป็นVip สักพักจุนชอยก็เข้ามานั่งอยู่ข้างๆผม.
“เราออกเดินทางได้.”
**
ชายที่ขับรถได้ขับเข้ามาจอดที่ฐานทัพใกล้ๆและพาเราไปยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเฮลิคอปเตอร์มาถึงซึ่งเกิดเสียงดังเป็นอย่างมาก.
ชายคนนั้นชี้ไปที่เฮลิคอปเตอร์
“โปรดเข้าไปข้างใน.”
เรากำลังจะไปนรกขุมไหนเนี่ย?
ผมรู้สึกว่ามันน่าสงสัย แต่ก็เข้าไปที่เฮลิคอปเตอร์พร้อมกับจุนชอยที่กำลังส่งเสียงแปลกๆ.
เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ผมรู้สึกกระตือรือล้นเป็นอย่างมากและมองไปที่ห้องคนขับว่ามีอะไรบ้างก่อนจะมองไปที่วิวด้านล่าง.
พลังจากที่เรามาถึงเกาะโดดเดี่ยวและห่างออกไปจากชายฝั่งตะวันตก มันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเห็นอาคารสูง10ชั้นจำนวนสองหลัง.
‘เกาะ? สงสัยมันเป็นเพราะว่าไม่สามารถเปิดเผยได้?’
หลังจากที่ลงจากเฮลิคอปเตอร์แล้วเราก็ได้รับคำแนะนำจากพนักงานให้ไปยังอาคาร.
“โอปป้า!”
“ฮยองฮยอนโฮ!”
เรามาถึงห้องพักรับรองก็ได้พบกับแฮซูและยูนโฮที่รอต้อนรับพวกเรา.
“พวกคุณมาถึงเฮลิคอปเตอร์ด้วยใช่ไหม?”
“ใช่.”
“พวกเขาไม่ตอบอะไร และเพียงแค่บอกว่าขึ้นไป ดังนั้นผมคิดว่าพวกเขาต้องพาผมไปที่ลึกลับมากแน่ๆ”
ผมสามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจน มันดูเหมือนกับการลักพาตัว
ผมไม่ค่อยกลัวเท่าไรเพราะว่าผมมากับจุนชอย ถ้าพวกเขาทำอะไรตลกๆพวกเขาจะต้องโดนKOแน่นอน ฮ่าฮ่า
มันเกิดขึ้นเมื่อพวกเราสี่คนรวมตัวอยู่ในห้องและระหว่างรอเราก็พูดถึงเรื่องพวกนี้
“คุณมาถึงแล้ว.”
จีเฮปรากฎขึ้น.
วันนี้เธอสวมชุดสูทสีเทาและมีเสื้อสูทสีขาวกับรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาล การเดินของเธอค่อยๆเดินเข้ามาทีละก้าวๆโดยไม่เกรงกลัว.
“ยินดีที่ได้พบ ฉันคือชาจีเฮ จากวันนี้ไปฉันจะเป็นหัวหน้าทีมของคุณ.”
“คุณหมายถึงถ้าเราเซ็นสัญญาใช่ไหม?”
“ใช่.”
ด้วยคำพูดของผมจีเฮมีรอยยิ้มน้อยๆสื่อความหมายพิเศษ.
“ฉันรู้ว่าคุณได้ผ่านการสอบครั้งที่สองแล้วเหลือเวลากี่วัน?”
“14วัน การสอบของเราพึ่งจบลงเมื่อวานนี้”
“คุณโพสต์ออนไลน์ทันทีที่สอบเสร็จ?”
“ใช่.”
“คุณเป็นคนที่รอบคอบมาก มันจะเป็นการไม่เพิ่มความเหนื่อล้าและเวลาเหลืออยู่มากกว่าที่ฉันคิด.”
อ่า จริงจังหน่อยดิ ทำไมหัวใจของผมรู้สึกลอยออกไปเมื่อได้รับการชมจากผู้หญิงคนนี้?
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าผมใช้ชีวิตวัยรุ่นโดยไม่มีความสัมพันธ์กับความโรแมนติก หรือว่าเป็นเพราะผมมักจะอ่อนแอต่อสาวสวย?
“ฉันจะอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับข้อกำหนดสัญญา ศูนย์วิจัยเกาหลีจะช่วยคุณทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอดของคุณโดยไม่คำนึงถึงผลลัพท์และสกิลของคุณ.”
“คุณหมายความว่าเราจะได้รับการรักษาเหมือนกับทหารผ่านศึกโดยไม่เลือกปฎิบัติ?”
ผมถาม.
จีเฮ พงกหัว.
“ใช่ มันมีข้อจำกัดกับความช่วยเหลือที่เราให้กับคุณอย่างไรก็ตามผลที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณ.”
“นั่นก็จริง.”
“คุณผ่านการสอบสองครั้งแล้วและหวังว่าทุกคนจะเติบโตและผ่านการสอบครั้งต่อไปได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการมีชีวิตอยู่.”
“ถ้าเรากลับมาแล้วเราจะได้เท่าไร?”
“การจ่ายให้กับเมไจจะขึ้นอยู่กับพลังของเมไจ การจ่ายนี้จะทำเหมือนกันหมดกับผู้เข้าสอบทุกคน ผลต่างคือเงินที่ได้เมื่อต่อปีเท่านั้น.”
“เราจะได้รับเท่าไร?”
“เงินที่ได้ไม่ได้ขึ้นกับผลลัพท์และจ่ายแบบทั่วๆไปที่คิดว่าจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ แต่เพื่อกำหนดเงินเราจะต้องรู้ว่าคุณมีความแข็งแกร่งมากน้อยเพียงไหน”
“หมายความว่าคุณต้องการยืนยันเลเวลสกิลและอุปกรณ์ของเรา?”
“ใช่.”
“งั้นก่อนที่มันจะจบเมื่อเราต้องลงนามในสัญญาเราจะต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของเรา นี่ไม่ใช่สัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรอ?เราไม่สามารถติดต่อศูนย์วิจัยของประเทศอื่นๆได้ดังนั้นเราจึงไม่รู้ว่าเงินที่เราจะได้สำหรับสัญญาแบบนี้คือเท่าไหร่.”
“ด้วยความนับถือเราไม่มีอะไรจะพูดนอกจากให้ไว้ใจเรา ถ้าเรามีความสัมพันธิ์ที่ดีกับผู้เข้าสอบของเรา เราต้องปฎิบัติต่อคุณอย่างถูกต้อง ถ้าเราทำไม่ได้เราจะสูญเสียคนที่มีพรสวรรค์ไปยังประเทศอื่นๆ.”
“หืมม…”
ผมรู้สึกว่าไว้ใจผู้หญิงคนนี้ได้ อา อาจจะเป็นเพราะว่าผมแพ้ทางผู้หญิงสวยๆ?
หลังจากที่ผมคิดผมพูด
“สำหรับตอนนี้สัญญาจะเป็น 1 ปี”
“คุณพูดว่า 1 ปี?”
“ใช่ หลังจาก 1 ปีแล้วถ้าคุณทำให้เราเชื่อถือได้ผมจะต่ออายุสัญญา”
“อืมม เงินเดือนสามารถคำนวนได้ใหม่ตามสกิลที่คุณมีอยู่ เราได้รับความช่วนเหลือกับฐัลบาลด้วยเช่นกันดังนั้นคุณจะต้องไม่ผิดหวัง.”
ผมมองรอบๆไปยังคนอื่น แฮซู,ยูนโฮและจุนชอยผงกหัว.
ผมคุยกับจีเฮ
“ตกลง”
จีเฮเอาปากกาและเอกสารออกมาจากกระเป๋าของเธอและแจกจ่ายให้กับเรา
“กรุณาเขียนสกิลและไอเทม พร้อมกับคาม่าของคุณ ด้วนเหตุผลเหล่านี้มันจะเป็นการกำหนดเงินเดือน.”
เราเริ่มเขียนมันลงไปในเอกสารของเรา
เรียกสปิริตเลเวล1,ปืนเวทย์มนต์,ลูกกระสุน,900คาม่า
จีเฮมองไปในสิ่งที่ผมเขียนและรู้สึกประหลาดใจก่อนจะถามผม
“เรียกสปิริต?”
“มีอะไรผิดปกติ?”
“ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่เคยได้ยินกับผู้เข้าสอบว่ามีการเรียกสปิริต.”
“แล้วมันพิเศษหรือเปล่า?”
“ใช่ ผู้เข้าสอบมีสกิลที่ดีขึ้นหลังจากที่รู้จักที่นี่ แต่ยังไม่เคยมีผู้เข้าสอบที่มีสกิลหลักเป็นเรียกสปิริตมาก่อน ยิ่งคุณมีสกิลที่หายากแบบนี้ยิ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการ.”
“งั่นก็น่าโล่งใจ”
“แต่ คุณรู้ไหมว่า คุณเขียช่องคาม่าผิดว่ามันเป็น 900?”
“ไม่ 900คาม่าถูกต้องแล้ว.”
ใบหน้าของจีเฮกลับกลายเป็นประหลาดใจมากกว่า
“คุณหมายความว่าคุณได้รับ900คาม่าในการสอบครั้งที่สอง?”
“ใช่ ไอ้เทวดาสารเลวนั่นมันก็บอกว่านี่เป็นการบันทึกที่ดีที่สุดที่เคยมีมา แต่มันเป็นความจริง?”
“ใช่ ใช่ มันจะแตกต่างออกไปหากมันเป็นการสอบครั้งที่5 คุณน่าเหลือเชื่อมาก.”
การได้เห็นใบหน้าตกใจของเธอมันทำให้ผมรู้สึกดี มันเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยเจอมาตลอด29ปี.
มันไม่ได้เขียนอะไรมากมายนัก แฮซูและยูนโฮก็กลับไปเขียนมันต่อ แจฮีอ่านและไม่ได้ตอบสนอง แต่รู้สึกประหลาดใจกับจุนชอย.
“คุณจุนชอย คุณได้ให้ข้อมูลผิดๆหรือเปล่า?”
“ผมไม่ทำอย่างนั้น.”
“สำหรับคนที่ผ่านการสอบมาเพียง2ครั้ง คุณมีการควบคุมออร่าเลเวล4และความแข็งแรงทางกาบภาพปานกลางเลเวล1 มันเป็นไปไม่ได้…”
“แล้ว?”
การแสดงออกของจุนชอยเริ่มน่ากลัวขึ้น.
ผมรีบเข้ามาแทรกแซง
“เขาเคยเป็นนักสู้ที่มีฝีมือมาก่อนจริงๆ.”
“… เข้าใจแล้ว อย่างไรก็ตามฉันจะกลับมาหลังจากประเมิณเรียบร้อยแล้ว มันใช้เวลาไม่นานรอสักครู่”
จีเฮเอาเอกสารทั้งหมดที่เรากรอกไว้ในกระเป๋าและทิ้งเราไป.
“ฮยองคิดว่าจะได้เท่าไร?”
“ผมไม่สนเรื่องเงิน ผมพอใจกับการที่เขาช่วยให้เรารอดเท่านั้น.”
มันเป็นความหวังอย่างมากที่จะช่วยแฮซูที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย
“จริง ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องโลภ พวกเขาบอกว่าความสำคัญของเราคือการอยู่รอดเมื่อเห็นว่าพวกเราติดตั้งอย่างถูกวิธี มันจะช่วยเราได้อย่างมาก.”
จีเฮรู้เรื่องอารีน่ามากกว่าพวกเรา เธอมีแผนที่เต็มของอารีน่า ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างที่จะรู้เรื่องมากมาย
การประเมิณผลทำได้เร็วมาก
จีเฮกลับมากหลังจากไม่ถึง30นาทีและยื่นสัญญาให้กับพวกเราทั้ง4คน.
“คุณอ่านเงื่อนไขและเซ็นชื่อ เงินเดือนโดยรวมของจุนชอยและฮยอนโฮคือ60,000เหรียญขณะที่อีกสองคนได้30,000เหรียญ.
“60k?”
ผมประหลาดใจอย่างมากเงินเดือนได้มากกว่าที่ผมคิด.
จีเฮได้พูดในสิ่งที่ผมตกใจมากขึ้นไปอีก.
“คุณคิมฮยอนโฮคุณได้รับเงินเดือนที่สูงเนื่องจากคุณมีสกิลที่หายากอย่างมากและยังเป็นหัวหน้าทีมและคุณคังจุนชอยคุณได้รับการประเมิณที่60k นั่นก็เพราะว่าคุณมีความสามารถเท่ากับผู้เข้าสอบครั้งที่5-6รอบ.”
“งั้นข้อกำหนดบังคับที่เราต้องปฎิบัติตาม?”
“คุณจะต้องใช้คาม่าหลังจากที่ปรึกษากับศูนย์วิจัยแล้ว พร้อมกับของที่เราจะมอบให้กับเมไจในการเข้าไปทดสอบ พร้อมทั้งฝึนฝนตามตารางเวลา โดยไม่มีข้อแม้.”
“พูดได้ดี.”
ผมได้อ่านสัญญาแล้วและจีเฮก็พูดไม่ผิด.
หลังจากที่ผมอ่านสัญญาของทุกคน
และเราก็ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับสัญญา
“ฉันขอแสดงความยินดีด้วยที่ผู้เข้าสอบทุกคนเข้าร่วมกับศูนย์วิจัย อารีน่า เกาหลี ฉันเป็นผู้จัดการในการวิจัยของทุกคน ชาจีเฮ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคุณอาจต้องมาคุยกับฉัน.”
“ขอบคุณ.”
“ฉันจะมาเจอกันครั้งหน้า.”
เราได้อำลาครั้งสุดท้ายกับจีเฮ
ดังนั้นเราจึงได้เริ่มต้นการฝึกเต็มรูปแบบสำหรับการสอบของเรา
***
สิ่งแรกที่เราทำคือการสัมภาษณ์รายบุลคล
จีเฮได้เรียกเราเข้าไปทีละคนและสอบถามรายละเอียดการสอยที่ผ่านมาของเรา เธอขอคำอธิบายอย่างเต็มรูปแบบว่าเราผ่านการทดสอบครั้งแรกและครั้งที่สองมาได้อย่างไร
จุดมุ่งหมายและแนวโน้มในสไตล์ที่เราใช้ต่อสู้
ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้า ผมถูกเรียกสัมภาษณ์ก่อน.
ผมเปิดเผยความจริงทุกอย่างรวมทั้งการตายของปาร์คโกซาง
ผมไม่คิดว่าผมต้องซ่อนมัน
“ฉันจะสรุป ผู้เข้าสอบคุณคิมฮยอนโฮ คุณได้กำจัดผู้เข้าสอบที่จะข่มขืนเพือนและหัวหน้าลิงแดงถูกต้องไหม?”
“ใช่.”
เธอผงกหัวของเธอ
“ดีมาก ผู้เข้าสอบฮยอนโฮมีความสามารถมากกว่าที่ฉันคิด เหนือขึ้นไปอีกทีมของคุณยังมีคุงจุนชอย มีโอกาสมากที่ทีมคุณจะรอดได้ในระยะยาว.”
“ขอบคุณ แต่เกี่ยวกับการตายของโกซาง…”
“ไม่ต้องกังวล ไม่มีหลักฐานในการลงโทษสำหรับอารีน่าและคุณก็มีมาตรการที่ชัดเจนและเหมาะสม มีทีมจำนวนมากที่พังลงกับคนที่ทำตัวเหมือนเขา.”
เท่านี้ ภาระในวิญญาณของผมเกี่ยวกับการตายของโกซางก็หมดไป