Chapter 25 Proposition (Part 1)
Chapter 25 Proposition (Part 1)
(TN: เขาเขียนบล๊อคโพสของเขา)
[ชื่อเรื่อง: ฝันแปลกๆ.
เนื้อหา: เมื่อคืนผมมีฝันแปลกๆ.
โลกสีขาวที่ว่างเปล่าและไม่มีอะไร เทวดาน้อยที่น่ารังเกียจและกระพือปีกเหมือกกับนกกระจอก เขาพูดไร้สาระต่างๆไม่ว่าจะเป็นคำบัญญัติที่เกี่ยวกับการสอบ.
อย่างไรก็ตามผมก็ขอให้เขาบอกลอตโต้กับผม! สัปดาห์นี้ผมจะขูดลอตโต้ของผม. ถ้าผมได้รางวัลใหญ่มันคือของจริง. (ด้วยความสัตย์) ผมหวังว่าทุกคนจะมีความฝันดีๆ 55+]
ใช่ นี่น่าจะเพียงพอ.
โลกสีขาว,เทวดา,คำบัญญัติ,การสอบ.
ผมอาจจะละเลยมันถ้าผมเขียนความจริงดังนั้นผมจึงตั้งใจเขียนเกี่ยวกับลอตโต้ลงไป แต่เพื่อที่ผู้เข้าสอบจะรู้และติดต่อผมผ่านเมล
หลังจากคัดลอกข้อความนี้ไปยังที่ต่างๆ แล้วผมก็ใส่รองเท้าออกจากบ้านเพื่อไปลุยป่า.
ระหว่างทางที่ขึ้นเขาแทโจผมได้รับการติดต่อจากยูนโฮ
-นี่เป็นเบอร์ของฮยอง-ฮยอนโฮ ถูกมั๊ย?
“ความจริงแล้ว นายพึ่งตื่น.”
-ใช่ ฮยอง คุณได้เบอร์ติดต่อจากนูน่าแฮซูหรือยัง?
“ช่าย.”
-ตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่?
“ฉันกินข้าวแล้วตอนนี้กำลังเดินลุยป่า.”
-ลุยป่า?
“มันคือการออกกำลังกายเหมือนกัน”
-จริงดิ? หลังจากที่ได้รับบัฟเลเวล2แล้วผมก็ไม่ได้สนใจการออกกำลังกายหรืออะไรสักอย่างเลย.
หืม? หลังจากที่ผมได้ยินแล้วมันก็สมเหตุสมผล ถ้าคุณใช้แต้มจากคาม่าคุณก็สามารถได้รับบัฟร่างกายทางกายภาพและมีร่างกายที่แข็งแกร่ง มันไม่อาจที่จะปฎิเสธได้ว่าการได้ร่างกายที่แข็งแรงจากรางวัลหลังจากการทำงานอย่าง.
“ตอนนี้ฉันได้ยินมันเหมือนกับไม่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ผมได้ทำมันทุกวันดังนั้นผมก็จะทำมันต่อไป โอ้ นายได้ใช่คาม่าแล้วหรือยัง?”
-ไม่ ผมยังไม่ได้ใช้เลย
“งั้นก็ตอนนี้ปล่อยมันไปก่อน ลองมาเจอกันแล้วค่อยปรึกษาและตัดสินใจอย่างรอบคอบ.”
-ต้องอย่างงั้น แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอกัน?
“ผมไม่แน่ใจ ผมจะโทรหานายในภายหลัง.”
-โอเค ฮยอง.
ผมโทรเสร็จและบัญทึกหมายเลขของยูนโฮ ในที่อยู่บุ๊คมาร์คไปในกลุ่ม ‘Arena’ และย้ายหมายเลขของแฮซูเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย.
ดูเหมือว่าร่างกายของผมจะดีกว่าเดิมเล็กน้อย การเข้าถึงยอดเขาแทโจและลงมาก็ไม่ได้ยากเท่าที่ผมเคยเจอ ผมสามารถเดินขึ้นลงเขาได้โดยไม่ต้องพัก
‘จากนั้นก็อีกครั้งเราลองมาเทียบการต่อสู้กับสัตว์ก่อนที่จะมาเป็นมนุษย์ เหล่านี้เหมือนกับการแบ่งเค้ก.’
หลังจากที่ผมกับบ้านและอาบน้ำเสร็จ
สั่น สั่น.*Sef
โทรศัพท์ของผมสั่น ผมตรวจสอบหมายเลขและคนที่โทรเข้ามา.
‘ใครโทรเข้ามาตอนนี้?’
ผมตัดสินใจหยิบมันขึ้นมา
“ฮัลโหล?”
-ฉันเอง.
ถ้าคุณพูดแบบนี้กับผม ผมจะต้องรู้ว่าคุณเป็นใคร?
… มันคือสิ่งที่ผมต้องการพูด แต่ผมรู้ได้จากเสียงว่าใครโทรเข้ามา.
“คังจุนชอย?”
-ใช่.
“โอ้ นี่เป็นสิ่งที่ดีที่คุณโทรมา ผมได้ติดต่อกับคนอื่นๆถ้าคุณสามารให้ข้อมูลในการติด…”
-ตอนนี้ผมยังไม่มีโทรศัพท์ ในวันข้างหน้าหากผมจะต้องการติดต่อคุณ ผมจะทำมันเอง.
“โอ้ โอเค?”
ผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?
-มันเป็นการดีที่จะได้เจอคนอื่น บ้านคุณอยู่ที่ไหน?
“มันอยู่ที่ชอยนัน คุณสามารถมาได้ทางรถไฟชอยนันหรือว่าจะมาทางขนส่งชอยนัน”
-ผมจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้ ผมจะติดต่อคุณมาผมไปถึง.
“อะไร? เดี๋ยวก่อน เดี๋ยว…!”
-ตุ๊ด.
จบการโทร.
ผมได้แต่ตัดสินใจเก็บมันไว้ในตอนนี้ แต่มันก็ยังดีที่อย่างน้อยเขาติดต่อผมก่อน ดูเหมือนว่าหลังจากที่ได้รับประเมิณอย่างรุนแรงของเทวดาน้อยเขาเลยเปลี่ยนใจปรับเปลี่ยนรูปแบบ.
ผมยกเวทและดูความคิดเห็นหลังจากที่ผมโพสต์ลงอินเตอร์เน็ตของผมและเวลาผ่านไป.
อีกครั้งที่เลขหมายไม่สามารถระบุว่าเป็นใครได้โทรเข้ามา
“ใช่ คังจุนชอย ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
-สถานีชอยนัน ที่ทางออกตะวันตก.
“โอเคผมจะไปที่นั่นเร็วๆนี้.”
ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปข้างนอก
ผมเดินเอื่อยๆที่ทางออกตะวันตกของสถานีชอยนัน และก็มีบางคนมาแตะที่ไหล่ของผมจากข้างหลัง ผมกันกับไปและจุนชอย
“ไปเถอะ.”
“ได้ คุณกินอะไรมาหรือยัง?”
“ยังเลย.”
“ผมก็เหมือนกัน มีร้านอาหารอยู่ใกล้ๆเราสามารถไปทานอาหารได้…”
“เราสามารถหาอาหารได้ ผมต้องการคุยโดยไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ.”
“โอ้ โอเค งั้นก็เอามันแบบนั้นแหละ.”
จุนชอยบอกว่าเขาไม่สนใจอาหารแบบไหน ดังนั้นเราจึงซื้อพิชช่าและโคล่า จุนชอยต้องมีสถานที่ในใจเพราะว่าเขาเดินนำไปยังอาคารที่เป็นแหล่งช๊อปปิ้งใกล้เคียง ผมตามเขาไปและขึ้นบันไดไปยังดาดฟ้า
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครอยู่บนดาดฟ้านี้
“ผมไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้ผมกำลังถูกไล่ล่า ผมขอโทษสำหรับความไม่สะดวกของคุณ”
“คุณกำลังพูดว่าถูกล่า มันเป็นตำรวจ?”
“ทั้งตำรวจและแก๊งอินชอน.”
ผมเคยคิดเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์มันจะซับซ้อน
เราหยิบพิซซ่าคนละชิ้นและกินมัน
ขณะที่เรากินจุนชอยก็พูด
“ผมทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ในครั้งล่าสุด.”
“ไม่ต้องห่วง มันไม่มีอะไร”
“ผมขอโทษ:เนื่องจากผมมัวคิดแต่เรื่องของตนเอง.”
“ไม่ นั่นมันไม่จริง ไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องเหล่านั้นที่ไอ้เทวดาพูด”
“ไม่ มันเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง ผมทำให้กลุ่มอึดอัด ผมแน่ใจว่าผมสามารถควบคุมไอ้คนประหลาดโกซางด้วยคำพูดได้.”
“แต่มันเป็นเพราะคุณเป็นผู้นำในการต่อสู้เกียวกับชีวิตและยังมีชีวิตอยู่ นั่นคือเหตุผลที่คุณมีคาม่าถึง400 คุณมีส่วนร่วมซึ่งเป็นเหตุผลให้คุณได้รับรางวัลโดยไม่ต้องโต้แย้ง แต่สิ่งที่ทำให้คุณไขว้เขวคุณอาจจะไม่ได้รับอะไรเลย”
“บางที.”
จุนชอยยิ้มน้อยๆด้วยความขมขื่น
“เนื่องจากคุณเป็นผู้นำของเราดูเหมือนว่าคุณต้องฟังสถานการณ์ของผม.”
“ไม่ หมายความว่าไงที่ว่าผมเป็นผู้นำ…”
“ไม่ใช่แค่เทวดา แต่ผมก็จะทำตามการตัดสินใจของคุณ เพื่อให้เราผ่านการสอบทั้งหมดคุณต้องเป็นผู้นำของเรา ผมขอขอบคุณล่วงหน้า.”
“ดี,โอเค ผมก็ขอบคุณคุณเหมือนกัน”
ไม่มีทางเลือกอื่นผมต้องรับหน้าที่เป็นผู้นำ ตั้งแต่ที่ผมเป็นผู้นำกลุ่มนี้
“ผมเป็นคนที่ได้รับฝึกในศิลปะการต่อสู้มาจากเซี่ยงไฮ้.”
และเรื่องราวของจุนชอยก็เริ่มต้นขึ้น
***
ชีวิตของจุนชอยเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาช่วยเพือนที่ต่ำต้อยของเขา
เมื่อเพือนของเขากู้เงินและกำลังถูกคุกคามชีวิตจากพวกอันธพาล จุนชอยไม่มีทางเลือกนอกจากเข้าไปแทรกแซงเพื่อช่วยชีวิตเพือนของเขา.
การใช้นายหน้าในขณะที่เขาเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายในการส่งเพือนในเกาหลี เขาเข้าต่อสู้กับแก๊งค์และส่ง15คนเข้าโรงพยาบาล.
ในที่สุดเขาก็ดันกลายเป็นเป้าหมายของแก๊งด้วยและไม่มีทางเลือกนอกจากหนีมาที่เกาหลีกับเพือนของเขา
ปัญหาก็ยังคงตามมา.
เพือนของเขากับเขาได้กลายมาเป็นคนงานในโรงงานอินชอน แต่เนื่องจากว่าเขาหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายพวกเขาจึงไม่ได้เงินชดเชย.
หลังจากที่เอาชนะเจ้าของโรงงานเพือนและจุนชอยกำลังมองหาวิธีที่จะเอาชีวิตรอดได้ จากนั้นเขาก็เข้าร่วมกับแก๊งอินชอน
เพือนคนนี้ได้กลายมาเป็นสมาชิกแก๊ง แต่ทักษะของจุนชอยเป็นที่น่าประทับใจและเป็นหัวหน้ากาดให้กับหัวหน้าแก๊งแบบพิเศษ.
“แล้วทำไมคุณถึงถูกไล่ล่าโดยแก๊งในตอนนี้?”
หลังจากที่ผมถามจุนชอยตอบผมอย่างขมขื่น
“ปรากฎว่าแก๊งเชี่ยงไฮ้ที่ฉันมีเรื่องด้วยได้แพร่กระจายไปในอินชอนโดยมีไชน่าทาวน์เป็นศูนย์กลาง แก๊งอินชอนได้ทำข้อตกลงกับพวกเลวนั่นและได้แสดงความเป็นมิตรที่พวกเขาให้ผมกับเพือน.”
“โอ้…”
“และจากนั้นเพือนและผมได้ตาย แต่ผมมีโอกาศได้อยู่ต่อโดยการสอบ.”
“และมันเกิดอะไรกับเพือนของคุณ?”
“เขาเลือกเส้นทางอีกเส้น ผมได้ยินมาจากเทวดา เขาเหนื่อยเกินกว่าที่จะมีชีวิตต่อไป”
“… และมันเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?”
“ก่อนอื่นเลยผมก็อัดหัวหน้าแก๊งอินชอนจนเป็นอัมพาตครึ่งตัว ผมจัดการคนกว่า15คน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตามล่าผมเพื่อที่จะแก้แค้นหนึ่งในสองคนนั้น(จุนชอยหรือเพือน).”
(TN: Half paralyzed.)
มันเป็นเรื่องที่เย็นยะเยีอก
หลังจากที่ได้การควบคุมออร่าแล้ว การแก้แค้นของจุนชอยคงจะสามารถทำได้โดยไม่มีปัญหา
“ต้องขอบคุณมันตอนนี้ผมถูกตำรวจไล่ล่า แต่ผมไม่แคร์ ผมจะกลายเป็นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยคาม่า400แต้ม ที่ผมได้รับในตอนนี้.”
“โอ้ คุณใช้คาม่า400 แต้ม มันยังอยู่ไหม?”
“ผมใช้ไปแล้ว.”
ควับ.
มันจะดีกว่าที่จะใช้หลังจากเจอกลุ่ม
“คุณสามารถบอกได้ไหมว่าใช้กับอะไรไปบ้าง?”
“ผมต้องบอกคุณ ผมใช้400คาม่าไปกับการเพิ่มบัฟความแข็งแกร่งปานกลางเลเวล1.”
แปปนะ ผมคิดว่าผมฟังผิด
“ปานกลาง? ไม่มีเลเวล?”
“มันปรากฎออกมาหลังจากมีร่างกายเลเวล5เป็นปานกลางเลเวล1 ผมยังคงมีร่างกายเริ่มต้นเลเวล5ด้วย.”
ตอนนี้การคุมออร่าเลเวล4และเพิ่มพลังกายภาพปานกลางเลเวล1! ผมรู้สึกหวาดกลัวกับความสุดยอดของจุนชอย ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนนะ?
“งั้นเลเวลปากลางนี่มันประมาณไหน?”
“ดูเหมือนว่ามันจะเกินระดับของมนุษย์ไปมาก ผมสามารถรู้สึกได้เลยว่าความแข็งแกร่งของผมเกินกว่ามนุษย์ไปแล้ว”
จุนชอยมองลงไปจากตึก5ชั้น
“ถ้าผมโดดลงไปจากตรงนี้คิดว่ามันง่ายไปไหม?”
“นั่นมันน่าทึ่งจริงๆ.”
“มันเพราะสิ่งที่ผมเลยประสบมา นั่นทำให้ผมแยกจากคนอื่น แต่มันเป็นความคิดที่ผิด จากนี้ไปผมจะร่วมกับคุณตลอดไป ผมจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะอย่างนั้นผมหวังว่าผมจะช่วยเหลือได้มากพอในการสอบครั้งต่อไป”
“ได้ ผมขอบคุณและหวังว่าจะเป็นไปอย่างนั้น แต่คุณไม่มีที่ไปหรือ? นี่มันเย็นมากแล้วนะ.”
“หลังจากที่ผมมีความแข็งแกร่งปานกลางเลเวล1 ร่างกายของผมต้านความเย็นได้ มันไม่ใช่ปัญหา.”
“แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็มั่นใจว่าคุณจะต้องกิน หลังจากนี้เป็นอย่างน้อย”
ผมเอาเงิน40เหรียญออกจากกระเป๋าของผม น่าแปลกใจที่จุนชอยใช้เงินอย่างอดทน
“ผมขอบคุณคุณ.”
“อย่าพูดอย่างนั้น ผมยังหวังกับการสอบครั้งต่อไป.”
“ความจริงแล้ว ผมได้วางแผนที่จะอยู่ชอยนันและผมจะโทรหาคุณตอนกลางวันทุกวัน.”
“ได้ โปรดทำมัน หาดมีอะไรต้องการมากกว่านี้โทรหาผม…”
แต่แล้วก็มีคนโทรหาผมและมันเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก.
“ใครเนี่ย? ขอโทษนะผมขอเวลาแปป.”
“รับเถอะ.”
ผมขอโทษและรับโทรศัทพ์
“ฮัลโหล?”
-นั่นใช่คิมฮยอนโฮรึป่าว?
มันเป็นเสียงของผู้หญิงวัยทำงาน.
“ผมเอง.”
-ฉันติดต่อคุณหลังจากที่อ่านโพสต์แล้ว
คำพูดเหล่านั้นทำให้หัวใจของผมหล่นลงพื้น.
คำที่ผมโพสต์? นั่นหมายความว่าเธอติดต่อผมหลังจากที่อ่านโพสต์ทางออนไลน์ แต่คุณได้เบอร์โทรนี้มาได้อย่างไร?
“คุณคือใคร? คุณได้เบอร์นี้มาได้อย่างไร?”
-ฉันขอโทษที่โทษหาคุณหลังจากที่ออกมาจากสีฟ้า ฉันเป็นนักวิจัยArenaของเกาหลีชื่อว่าชาจีเฮ.
“ศูนย์วิจัยกลางArenaเกาหลี?”
ด้วยคำพูดของผมจุนชอยเปลี่ยนไป
“มันเป็นสถาบันของรัฐ?”
-ใช้แล้ว ด้วยการสนับสนุนของประเทศเรากำลังให้ความช่วยเหลือผู้เข้าสอบเหมือนกับฮยอนโฮคิม
เลดี้จีเฮยังพูดต่อโดยที่ผมประหลาดใจสุดๆ
-ดูเหมือนว่าคุณจะออกไปจากสถานนีชอยนัน ฉันไปหาพวกคุณได้ไหม?
“คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมอยู่สถานีชอยนัน!”
-เราเพิ่งได้รับตำแหน่งจากการโทรนี้
“คุณเป็นใคร!”
ขณะที่ผมโกรธจีเฮตอบกลับ
-ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ฉันขอโทษ มันเป็นการเคลื่อนไหวอย่าวฉับพลันและไม่ได้คิดล่วงหน้าแต่ออย่างใด คุณอาจจะมีช่วงเวลาที่เหลือไปจนถึงการสอบครั้งต่อไปเท่าที่ควรหรอ?
“…”
ไม่นานหลังจากโพสต์ออนไลน์พวกเขาพบข้อมูลที่ติดต่อของผมและมีการระบุตำแหน่งจากการโทรของฉัน คงเป็นความจริงที่ผู้หญิงคนนี้มาจากสถาบันของรัฐบาล
-ฉันอยู่บนถนนวงแหวนรอบนอกมุ่งหน้าไปยังชอยนัน มันจะเป็นไปได้ไหมที่จะพบกันได้ทันที? แน่นอนฉันเดินทางไปที่นั่นเพียงลำพัง.
ตอนนี้ผมโทรเสร็จแล้ว
ผมถามจุนชอย
“ผมควรจะทำอย่างไร? เธอบอกว่าเป็นคนของรัฐบาลและชักชวนผู้เข้าสอบ และตอนนี้เธอกำลังมาที่นี่.”
“คนแบบไหน?”
“หญิงสาวคนนึง และตอนนี้เธอกำลังมาหาเราด้วยตัวคนเดียว”
“สถาบันแห่งชาติ…”
จุนชอยกังวลมาก
ในที่สุดเขาก็พูด
“งั้นไปเจอเธอ”
“เราต้องทำแบบนั้น?”
“ดูเหมือนว่าเธอเป็นคนของรัฐบาลและพวกเขาก็รู้รายละเอียดของคุณอยู่แล้วมันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
“นั่นก็จริง.”
“ก่อนอื่นก็ไปพบเธอด้วยตัวเอง ผมจะดูรอบๆให้และถ้ามีอะไรน่าสงสัยผมจะทำตามสถานการณ์.”
“ตกลง.”
เมื่อจุนชอยเป็นคนคุ้มกันผมหัวใจของผมก็รู้สึกแข็งแรงและไม่กลัวใครน่าไหน
ผมโทรหาจีเฮอีกครั้ง
-คุณตัดสินใจแล้วหรือยัง?
“ใช่ ผมจะพบคุณ แต่ผมมีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง คุณอาจจะทำอะไรไม่ดี? พูด,ลักพาตัวผมหรือ…”
-จะไม่มีอย่างนั้นแน่นอน
“ผมเชื่อคุณได้ไหม?”
-คิดอย่างมีเหตุผล.
จีเฮถอนหายใจอย่างเงียบและพูก
-ฉันจะสามารถใช้ความรุนแรงกับผู้เข้าสอบได้หรือเปล่า?
อ่า จริงด้วย