Chapter 132: Blowing Wind (1)
Chapter 132: Blowing Wind (1)
โทเรี่ยมกำลังยุ่งอยู่กับการจัดหาวัสดุเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ของฉัน.
"จากนี้ไปคุณต้องปลอมตัวเล็กน้อย ถ้ามีใครสังเกตเห็นคุณแล้วสิ่งต่างๆจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก...”
วัสดุที่เตรียมไว้ทั้งหมดเป็นชุดแต่งหน้า.
โทเรี่ยมนั่งลงขัดสามาธิและพูดว่า.
"นี่ไม่ใช่พรสวรรค์?”
"ผมคิดว่าคุณมีความสารถเล่าเรื่องแล้วคุณอาจจะมีความสามารถทุกด้านสะอีก.”
เขาเป็นคนที่เก่งมากคนนึง เจฟรู้แค่วิธีใช้ดาบเท่านั้นความสามารถของพวกเขาเปรียบได้ดั้งสวรรค์และโลก.
'ปลอมตัว.’
มันก็ไม่เลวนัก.
ผมยังฟื้นฟูพลังเวทย์ของผมไม่ได้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะระหว่างมิตรและศัตรู.
ผมอยู่นอกระบบ และไม่มีการรับประกันความสัมพันธ์ระหว่างผมและแม๊ก มันก็เหมือนกับปฎิกิริยาของโทเรี่ยมและเจฟที่รู้ว่าแม็กเป็นความเสี่ยงที่แม้แต่จะเรียกชื่อเขาออกมา.
'ฉันต้องคาดเดาสถานการณ์นี้ก่อน.’
ผมไม่ได้รู้เรื่องนี้มากนัก.
มันเป็นโลกปลอมๆที่ทำโดยราชานรก นั่นคือสิ่งที่ผมรู้.
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคิดตามที่โทเรี่ยมบอก ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดคือการยืนยันมันผ่านสายตาตัวเอง.
"คุณสามารถซ่อนเสียงเต้นของหัวใจได้ไหม?”
การปลอมตัวไม่สามารถซ่อนเสียงได้ มันจะแปลกถ้ามีเสียงที่มีเพียงคนที่มีชีวิตเท่านั้นที่มี.
โทเรี่ยมส่ายหัว.
“ไม่ต้องห่วงฉันแก้ปัญหานี้ได้.”
"ดูเหมือนคุณจะมั่นใจ.”
โทเรี่ยมดึงสิ่งเล็กๆออกจากกระเป๋ากางเกง ขวดที่เต็มไปด้วยเลือด.
“นี่คือเลือดของนกสายฟ้า เราจะใช้มันปกปิด.”
"เหมือนกับผนังกั้นเสียง.”
"ผนังกั้นเสียง...?”
"มีสิ่งเหล่านั้นด้วย.”
ผมรู้เรื่องนี้ มนุษย์ทั่วไปก็ใช้กัน.
"หืมม หืมมม.บอกทีหลังด้วยว่าผนังกั้นเสียงคืออะไร มันเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถพลาดได้ในฐานะผู้เล่าเรื่อง บางทีเลือดเหล่านี้มันอาจจะทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงจากตัวคุณ.”
"แล้วสิ่งที่เกี่ยวกับลมหายใจ?”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา บางครั้งเราหายใจ เป็นนิสัยเมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่.”
โทเรี่ยมจ้องมองที่ใบหน้าผมก่อนที่จะเริ่มแต่งหน้า.
"งั้นเริ่มได้แล้ว.”
เขาจับพู่กันและเริ่มที่จะละเลงใบหน้าผม.
'มันต่างจากดาบ.’
รู้สึกเหมือนกำลังเฝ้าดูเทคนิคดาบที่ซับซ้อน.
งานนี้ใช้เวลานานมาก.
เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง.
มันจบลงเมื่อโทเรี่ยมปัดบนหน้าผากผม.
“เสร็จแล้ว มันยากที่จะพูดเว่นแต่ว่าจะมีใครที่มีสายตาสอดรู้สอดเห็น อย่างไรก็ตามคุณต้องกกังวลเรื่องการรักษาและต้องทำความสะอาดมันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง...”
ผมมองเข้าไปในกระจก.
ผมจ้องมองไปยังเงาในกระจก.
มันมองกับรอยหมองคล้ำและรู้สึกประทับใจมาก.
“นี่จบแล้วหรอ?”
"เจฟมันยังเหลืออะไรนิดหน่อย เขาควรจะมาถึงแล้วตอนนี้.”
เขาทำความสะอาดเครื่องมือและรอคน.
เจฟ.
เขาวิ่งออกไปหาอะไรบางอย่างในมือของเขา.
"ได้พวกเศษเดนทั้งหลาย! มันไม่คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ฉันจะขอยืมจีเรี่ยม5อัน? อัค!”
เจฟบ่นออกมาด้วยความรังเกียจในขณะที่เขาเข้ามาใกล้ ใบหน้าของเขาเหย๋เกซึ่งมันแสดงออกว่าเขาไม่ชอบ.
"มันคืออะไร?”
ผมถามในขณะที่เจฟเอาผ้าเช็ดมืออก.
"ที่ๆคุณไป นี่เป็นตราทหารที่มีค่าอย่าลืมมันหล่ะ.”
"ตราทหารรับจ้าง”
คำพูดของโทเรี่ยมยังไม่สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ.
ผมยอมรับตราทหารและศึกษาข้อมูล.
มันดูเหมือนกับว่ามันแกะสลักออกมจากหิน มันมีภาพของเล็บนูนอยู่ตรงกลาง.
นี่เป็นเหตุผลที่จะทำให้ผมดำเนินการต่อไปอย่างเรียบง่าย.
"นั่นคือสัญลักษณ์ของทหารรับจ้าง.”
"โลกนี้..มันหยุดไปนานแล้ว ผู้ปกครองหมู่บ้านรู้ชื่อของทุกคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา มีแต่คนนอกเท่านั้นที่จะเป็นทหารรับจ้างในโลกเบื้องล่าง.”
“ฉันชอบมัน.”
ผมเก็บตรา มันเป็นงานที่ไม่ได้ยึดติดมากนัก ดังนั้นผมจึงสนใจที่มันสวยงาม ผมมีหน้าที่คล้ายๆกับตอนที่อยู่โลกปีศาจ.
ทำไมผมจึงควรปฏิเสธ?
โทเรี่ยมถอนหายใจด้วยความโล่งใจและพูดว่า.
“...ติดตราไว้ที่หน้าอกข้างซ้ายของคุณ.”
ด้านหลังของตราดูเหมือนจะมีกาวสำหรับติดไว้ ผมเหลือบมองโทเรี่ยมเล็กน้อยก่อนที่จะติดมันไว้ที่หน้าอกข้างซ้าย.
"มันให้ความรู้สึแปลกๆ.”
"มันคืออะไร?"
"ความคิดของคุณที่มีต่อผม."
เจฟและโทเรี่ยม.พวกเขาไม่ได้แสดงความเกลียดชังที่มีต่อผมตั้งแต่แรก ผมสงสัยและโชว์วาธและดาบจักพรรดิ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เปิดเผยความโลภของพวกเขาออกมา.
ผมไม่ได้ให้อะไรเขาในช่วง 20 วันมานี้ ทั้งหมดคือคำพูดและฝึกฝน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหาวิธีที่จะมาป้องกันผม มันยากเพียงคิดว่านี่จะทำให้ผมชอบ.
“นั่น...”
อึ๊ก!
โทเรี่ยมกลืนน้ำลายของเขาก่อนที่จะพูด.
"ผมคิดว่าผมสามารถบอกเรื่องราวที่ดีที่สุดได้.”
"นี่เป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นในฐานะผู้เล่าเรื่อง?”
"ผมต้องการเห็นมันจริงๆไม่ใช่ของปลอม เรื่องราวของผมเหมือนกับนิยาย ผมจะพลาดการเล่าเรื่องจากโลกความจริงไปได้อย่างไร?”
"งั้นคุณคิดว่านี่คือสมบัติ.”
"ไม่มีทางอื่น และ ... ผมได้เดินทางมาไกลแล้ว.”
เขาดูเหนื่อยล้า
พวกเขารู้สึกไวตั้งแต่ที่รู้โลกนี้ถูกสร้างโดยราชานรก.
เขาสามารถคาดเดาไปได้ถึงไหน.
"คุณไม่กลัวตายในการเดินทางครั้งนี้?”
มันเป็นคำถามง่าย เพราะว่าเขาอาจจะตายได้เนื่องจากช่วยผมเพราะความอยากรู้อยากเห็น.
โทเรี่ยมแค่หัวเราะ.
"ผมตายไปแล้ว นอกเหนือจากความอยากรู้อยากเห็นผมก็ต้องการพักผ่อน นอกจากผมยังมีทุกๆคนที่ตายไม่ได้.. เรากำลังทำเหมือนกับเป็นศพที่เดินได้..ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถพักผ่อนได้จนกว่จะรู้สึกถึง'ลม'แต่ในโลกนี้มีใครต้องการรู้สึกถึงลม.”
ลม...ความฝัน ที่หวังจะได้หรือสัมผัสอะไรแบบนั้น.
โทเรี่ยมต้องเดินต่อไป.
วันนึงผมก็อาจจะจบลงที่นี่ เขาเต็มไปด้วยความหวังที่จะได้เห็นใครสักคนที่มีชีวิตอยู่.
ผมรู้สึกได้ถึงสายตาที่ร้อนแรงจากคนตาย.
ดังนั้นผมจึงค่อยๆเปิดปากของผม.
"ผมหวังว่าคุณจะตายจากการเดินทาง.”
"นี่ยังตายไม่พออีกหรอ? เยี่ยม...ผมจะคิดเกี่ยวกับสิ่งแปลกๆนั่น.”
หลังจากได้ฟังเรื่องรางเหล่านั้นแล้วผมก็เอาวาธและดาบจักพรรดิออกมา.
"ไปเลย"
"คุณรู้ไหมว่าต้องไปที่ไหน?”
“นำไป.”
“......”
ที่รกร้าง.
เห็นเพียงแค่ฝุ่นและดินเท่านั้น.
มีหมู่บ้านขนาดใหญ่ประมาน200หลังสร้างจากหินรวมอยู่.
“มันเงียบเกิน.”
ผมพูกขณะที่มองไปยังผู้คนเงียบๆ.
หมู่บ้านเกือบที่จะว่างเปล่า ไม่มีใครเดินออกมาตามถนน.
"ตอนนี้พวกเขารวมตัวกันที่ปราสาทของลอร์ด.”
“กำลังเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม?”
"แก้ไขหน่อย มันไม่มีเด็กดังนั้นจึงไม่ต้องอยู่บ้าน?”
ผมพยักหน้า.
เหมือกับที่โทเรี่ยมพูดทั้งหมดพวกเขาเป็นอันเดธ พวกเขาอยู่แบบนี้มาเป็นเวลานานไม่สามารถมีลูกได้ ความแตกต่างระหว่างชายหญิงได้หายไป.
โทเรี่ยมกล่าวอย่างระมัดระวัง.
"ผมสงสัยว่าคุณสามารถเปลี่ยนโทนเสียงของคุณได้หรือไม่?”
"ทำไมคุณถึงถามแบบนั้น?”
"ลอร์ดและนายพลจะไม่ชอบมันนอกจากเสียงคนตายปกติ.”
"ผมจะไม่เปลี่ยนเสียงเพื่อใคร.”
ผมได้เก็บน้ำเสียงนี้ไว้ต่อหน้าเดธ บิ้งเกิอร์ ไม่มีใครบังคับให้ผมเปลี่ยนมันได้.
โทเรี่ยมรู้ว่าการตัดสินใจของผมนั้นมั่นคง.
"งั้น..อยู่ให้เงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นได้”
เจฟพยักหน้ากล่าว.
ดูเหมือนว่าลอร์ดของที่นี้ต้องการแบบนั้น.
ปราสาทของลอร์ด มันไม่อาจจะเปรียบได้กับดันเจี้ยนของผม แต่มันก็ค่อนข้างใหญ่ ยามเปิดประตูหลังจากที่ดูหน้าของโทเรี่ยมและเจฟ.
ไม่นานหลังจากที่เขาปราสาทแล้วผมก็ได้ยินเสียงพึมพำ.
"นี่ เวรเอ้ย! คุณลืมชื่อเล่นของผู้บัญชาการ มาดาริ? ขัดขวาง มาดาริ! เขาดื้อด้าน! เป็นคนชั่วร้ายเนื่องจากเขาต้องการอะไรก็ตามที่เขาอยากได้! เขาเป็นผู้บัญชาการทหาร 100,000 นาย!”
"เราควรจะหนีไปไหม? เราอาจจะไม่ได้กลับมาอย่างน้อง50ปี? แมร่งเอ้ย!”
“มันเป็นไปได้ที่พวกเขาต้องการดินแดนของเรา ดูลาฮัน โซมูเลม เขาแตกต่างจากซอมบี้ปกติ!”
"ละ-ลอร์ด เราควรทำอย่างไรหลังจากได้เลื่อนขั้นเป็นกูล? นอกจากนี้ยังมีทหารโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก...”
ในใจกลางของปราสาท.
มีคนตายหลายพันคนมารวมกันที่นี่.
ลอร์ดนั่งอยู่บนเก้าอี้ขนาดใหญ่และเฝ้าดูการชุมนุม.
ลอร์ดเป็นกูล เขาพัฒนาอีกขึ้นจากซอมบี้ มีทหารสองกองอยู่ข้างๆเขา.
โทเรี่ยมอธิบาย.
"นี่เป็นการทำงานในการประชุม จะมี 20 คนที่มีอำนาจ ที่สุดในหมู่บ้านต่างๆมารวมกันและเสนอแนวทางอื่นๆเพื่อให้ลอร์ดตัดสิน การประชุมของเขามักจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน...”
“เจฟ! ไอ้สารเลว ทำไมมาช้านัก?”
การถกเถียงเมื่อครู่ที่กำลังร้อนแรงอยู่ๆก็โถมเข้ามาใส่พวกเราทันที.
คนที่พูดเป็ยซอมบี้อ้วนฉุ เจฟเกาหัว
"เดี๋ยว ก่อนอื่นเลยผมอยากจะแนะนำใครสักคน...”
ซอมบี้อีกคนที่เห็นตราที่อกซ้ายของผมพูดว่า.
“แนะนำ? อ่า,คนที่อยู่ข้างๆคุณ? เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขา เขาเป็นทหารรับจ้าง?”
"เขามีทักษะดีมาก คุณอาจจะช๊อคเมื่อเห็นเขาแสดงออกมา.”
"ทหารรับร้าง..ฉันไม่อยากจะเชื่อมากนัก ไม่ใช่ว่าเขาอาจจะหนีสงครามเมื่อมันกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน? เขาคงจะสนุกจากหมู่บ้านนึงไปอีกหมู่บ้านนึง”
"มองไปที่เขาดีๆ ฉันเป็นคนคนเขามา!”
“เจฟ นายสามารถรับรองได้ไหม?”
“ใช่ รับรองได้เลย นักรบทั่วไปไม่สามารถเทียบเขาได้ เจฟรับประกัน!”
"ฉันเคยตกหลุมพลางของเจฟ.”
"เวลานี้มันเป็นความจริง!”
เขาอาจจะเป็นคนดูเหมือนไม่สำคัญ แต่เขาก็ได้รับการยอมรับในหมู่บ้าน.
"ชิ. ดูจากด้านข้างสนามก็พอ เข้าใจไหม? อย่าทำอะไรที่มันจะส่งผลเลวร้ายเด็ดขาด..แค่อยู่ด้านหลังก็พอ.”
เจฟฉุดมือและเคลื่อนที่ต่อไป.
มีการวางแผนด้วยแผนที่ขนาดใหญ่บนโต๊ะแลัมีตำแหน่งของศัตรูโดยการทำเครื่องหมายไว้.
พรึ่บ!
เจฟพาผมไปชายอีกคนที่กำลังนั่งคุย.
"ฝ่าตรงข้ามคือ ดูลาฮัน โซมูเลน เขามีทหารประมาณหนึ่งพันคน แบ่งได้ดังนี้ ซอมบี้ 900 ทหารกระดูก 90 และอีก 10 ที่เป็นกระดูดเพียวๆ หัวหน้าของทหารมีความใกล้ชิดกับโซมูเลนมาก พวกเขาจะมาถึงใน 3 วัน เรามีทหาร500และส่วนใหญ่เป็นซอบบี้ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
“อ่า ดูสินี่ยังไม่สามารถตอบคำถามทั้งหมดได้? เราไม่ต้องกินหรือดื่ม เพียงแค่อดทน!”
"คุณรู้ไหมว่าโซมูเลนนี่เป็นใคร? เขาสามารถพังกำแพงลงได้!”
"ขุดกับดัก!”
ความคิดเห็นหลายๆคนไม่มีประโยชน์.
แต่ผมไม่สนใจพวกเขาและจ้องมองไปที่แผนที่ มันเป็นแผนที่ของโลกเบื้องล่างทั้งหมด แต่ผมก็มองเห็นเส้นทาง.
‘การให้คะแนนของสิ่งมีชีวิตนี้คล้ายคลึงกับกำลังปัจจุบันของฉัน.'
ดูลาฮันเป็นสิ่งมีชีวิตเลเวล1ขั้นสูง.
ตัวตนของเขาสูงแต่มันก็ไม่ได้ยากนัก.
หน้าต่างไม่ทำงาน แต่ดูเหมือกับว่าดูลาฮันเป็นฝ่านตรงข้ามที่ดีและดูเหมือนกับว่าฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ยากนัก.
ชวิ้งงง!
ผมดึงวาธออกมา.
ฉึบ!
และชี้ไปที่แผนที่.
“อะไร...?”
ในขณะเดียวกันเสียงก็เงียบ.
ซอมบี้ทั้งหมดดูผมที่กำลังทำอะไรอยู่บนโต๊ะ.
ผมจับวาธและ..
เช้งงง!
ฟันลงมาที่แฟนที่และโต๊ะ.
ผมชี้ไปส่วนที่ฉีกและพูดว่า.
"ตอนนี้ ผมได้ทลายมันแล้ว จะทำในส่วนที่เหลือ.”(ตรงเหมือนกับจะบอกว่า ผมทำลายมันได้ส่วนนึง(แผนที่)และที่เหลือ(กองทัพ)ก็ไม่เท่าไร)
เกิดความเงียบไม่นานนัก.
อันเดธรอบๆเริ่มส่งเสียงบ่น.
"ชายคนนั้นทำอะไร?”
“โจมตี? ฆ่าตัวตาย?”
"ใครพาเขาไปที?”
ปฎิกิริยาไม่ดีนัก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้ามร่วมประชุม แต่ผมได้แสดงความคิด(ท่าทาง)ที่ไร้สาระ มันคงไม่ดีนัก
เจฟแข็งทื่อและโทเรี่ยมที่ตบหน้าผากตัวเองและพยายามหาทางปกป้องผม.
"หยุด!"