ตอนที่แล้วChapter 131: The Underground World (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 133: Blowing Wind (2)

Chapter 132: Blowing Wind (1)


Chapter 132: Blowing Wind (1)


โทเรี่ยมกำลังยุ่งอยู่กับการจัดหาวัสดุเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ของฉัน.

"จากนี้ไปคุณต้องปลอมตัวเล็กน้อย ถ้ามีใครสังเกตเห็นคุณแล้วสิ่งต่างๆจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก...”

วัสดุที่เตรียมไว้ทั้งหมดเป็นชุดแต่งหน้า.

โทเรี่ยมนั่งลงขัดสามาธิและพูดว่า.

"นี่ไม่ใช่พรสวรรค์?”

"ผมคิดว่าคุณมีความสารถเล่าเรื่องแล้วคุณอาจจะมีความสามารถทุกด้านสะอีก.”

เขาเป็นคนที่เก่งมากคนนึง เจฟรู้แค่วิธีใช้ดาบเท่านั้นความสามารถของพวกเขาเปรียบได้ดั้งสวรรค์และโลก.

'ปลอมตัว.’

มันก็ไม่เลวนัก.

ผมยังฟื้นฟูพลังเวทย์ของผมไม่ได้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะระหว่างมิตรและศัตรู.

ผมอยู่นอกระบบ และไม่มีการรับประกันความสัมพันธ์ระหว่างผมและแม๊ก มันก็เหมือนกับปฎิกิริยาของโทเรี่ยมและเจฟที่รู้ว่าแม็กเป็นความเสี่ยงที่แม้แต่จะเรียกชื่อเขาออกมา.

'ฉันต้องคาดเดาสถานการณ์นี้ก่อน.’

ผมไม่ได้รู้เรื่องนี้มากนัก.

มันเป็นโลกปลอมๆที่ทำโดยราชานรก นั่นคือสิ่งที่ผมรู้.

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคิดตามที่โทเรี่ยมบอก ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดคือการยืนยันมันผ่านสายตาตัวเอง.

"คุณสามารถซ่อนเสียงเต้นของหัวใจได้ไหม?”

การปลอมตัวไม่สามารถซ่อนเสียงได้ มันจะแปลกถ้ามีเสียงที่มีเพียงคนที่มีชีวิตเท่านั้นที่มี.

โทเรี่ยมส่ายหัว.

“ไม่ต้องห่วงฉันแก้ปัญหานี้ได้.”

"ดูเหมือนคุณจะมั่นใจ.”

โทเรี่ยมดึงสิ่งเล็กๆออกจากกระเป๋ากางเกง ขวดที่เต็มไปด้วยเลือด.

“นี่คือเลือดของนกสายฟ้า เราจะใช้มันปกปิด.”

"เหมือนกับผนังกั้นเสียง.”

"ผนังกั้นเสียง...?”

"มีสิ่งเหล่านั้นด้วย.”

ผมรู้เรื่องนี้ มนุษย์ทั่วไปก็ใช้กัน.

"หืมม หืมมม.บอกทีหลังด้วยว่าผนังกั้นเสียงคืออะไร มันเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถพลาดได้ในฐานะผู้เล่าเรื่อง บางทีเลือดเหล่านี้มันอาจจะทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงจากตัวคุณ.”

"แล้วสิ่งที่เกี่ยวกับลมหายใจ?”

“นั่นไม่ใช่ปัญหา บางครั้งเราหายใจ เป็นนิสัยเมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่.”

โทเรี่ยมจ้องมองที่ใบหน้าผมก่อนที่จะเริ่มแต่งหน้า.

"งั้นเริ่มได้แล้ว.”

เขาจับพู่กันและเริ่มที่จะละเลงใบหน้าผม.

'มันต่างจากดาบ.’

รู้สึกเหมือนกำลังเฝ้าดูเทคนิคดาบที่ซับซ้อน.

งานนี้ใช้เวลานานมาก.

เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง.

มันจบลงเมื่อโทเรี่ยมปัดบนหน้าผากผม.

“เสร็จแล้ว มันยากที่จะพูดเว่นแต่ว่าจะมีใครที่มีสายตาสอดรู้สอดเห็น อย่างไรก็ตามคุณต้องกกังวลเรื่องการรักษาและต้องทำความสะอาดมันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง...”

ผมมองเข้าไปในกระจก.

ผมจ้องมองไปยังเงาในกระจก.

มันมองกับรอยหมองคล้ำและรู้สึกประทับใจมาก.

“นี่จบแล้วหรอ?”

"เจฟมันยังเหลืออะไรนิดหน่อย เขาควรจะมาถึงแล้วตอนนี้.”

เขาทำความสะอาดเครื่องมือและรอคน.

เจฟ.

เขาวิ่งออกไปหาอะไรบางอย่างในมือของเขา.

"ได้พวกเศษเดนทั้งหลาย! มันไม่คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ฉันจะขอยืมจีเรี่ยม5อัน? อัค!”

เจฟบ่นออกมาด้วยความรังเกียจในขณะที่เขาเข้ามาใกล้ ใบหน้าของเขาเหย๋เกซึ่งมันแสดงออกว่าเขาไม่ชอบ.

"มันคืออะไร?”

ผมถามในขณะที่เจฟเอาผ้าเช็ดมืออก.

"ที่ๆคุณไป นี่เป็นตราทหารที่มีค่าอย่าลืมมันหล่ะ.”

"ตราทหารรับจ้าง”

คำพูดของโทเรี่ยมยังไม่สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ.

ผมยอมรับตราทหารและศึกษาข้อมูล.

มันดูเหมือนกับว่ามันแกะสลักออกมจากหิน มันมีภาพของเล็บนูนอยู่ตรงกลาง.

นี่เป็นเหตุผลที่จะทำให้ผมดำเนินการต่อไปอย่างเรียบง่าย.

"นั่นคือสัญลักษณ์ของทหารรับจ้าง.”

"โลกนี้..มันหยุดไปนานแล้ว ผู้ปกครองหมู่บ้านรู้ชื่อของทุกคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา มีแต่คนนอกเท่านั้นที่จะเป็นทหารรับจ้างในโลกเบื้องล่าง.”

“ฉันชอบมัน.”

ผมเก็บตรา มันเป็นงานที่ไม่ได้ยึดติดมากนัก ดังนั้นผมจึงสนใจที่มันสวยงาม ผมมีหน้าที่คล้ายๆกับตอนที่อยู่โลกปีศาจ.

ทำไมผมจึงควรปฏิเสธ?

โทเรี่ยมถอนหายใจด้วยความโล่งใจและพูดว่า.

“...ติดตราไว้ที่หน้าอกข้างซ้ายของคุณ.”

ด้านหลังของตราดูเหมือนจะมีกาวสำหรับติดไว้ ผมเหลือบมองโทเรี่ยมเล็กน้อยก่อนที่จะติดมันไว้ที่หน้าอกข้างซ้าย.

"มันให้ความรู้สึแปลกๆ.”

"มันคืออะไร?"

"ความคิดของคุณที่มีต่อผม."

เจฟและโทเรี่ยม.พวกเขาไม่ได้แสดงความเกลียดชังที่มีต่อผมตั้งแต่แรก ผมสงสัยและโชว์วาธและดาบจักพรรดิ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เปิดเผยความโลภของพวกเขาออกมา.

ผมไม่ได้ให้อะไรเขาในช่วง 20 วันมานี้ ทั้งหมดคือคำพูดและฝึกฝน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหาวิธีที่จะมาป้องกันผม มันยากเพียงคิดว่านี่จะทำให้ผมชอบ.

“นั่น...”

อึ๊ก!

โทเรี่ยมกลืนน้ำลายของเขาก่อนที่จะพูด.

"ผมคิดว่าผมสามารถบอกเรื่องราวที่ดีที่สุดได้.”

"นี่เป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นในฐานะผู้เล่าเรื่อง?”

"ผมต้องการเห็นมันจริงๆไม่ใช่ของปลอม เรื่องราวของผมเหมือนกับนิยาย ผมจะพลาดการเล่าเรื่องจากโลกความจริงไปได้อย่างไร?”

"งั้นคุณคิดว่านี่คือสมบัติ.”

"ไม่มีทางอื่น และ ... ผมได้เดินทางมาไกลแล้ว.”

เขาดูเหนื่อยล้า

พวกเขารู้สึกไวตั้งแต่ที่รู้โลกนี้ถูกสร้างโดยราชานรก.

เขาสามารถคาดเดาไปได้ถึงไหน.

"คุณไม่กลัวตายในการเดินทางครั้งนี้?”

มันเป็นคำถามง่าย เพราะว่าเขาอาจจะตายได้เนื่องจากช่วยผมเพราะความอยากรู้อยากเห็น.

โทเรี่ยมแค่หัวเราะ.

"ผมตายไปแล้ว นอกเหนือจากความอยากรู้อยากเห็นผมก็ต้องการพักผ่อน นอกจากผมยังมีทุกๆคนที่ตายไม่ได้.. เรากำลังทำเหมือนกับเป็นศพที่เดินได้..ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถพักผ่อนได้จนกว่จะรู้สึกถึง'ลม'แต่ในโลกนี้มีใครต้องการรู้สึกถึงลม.”

ลม...ความฝัน ที่หวังจะได้หรือสัมผัสอะไรแบบนั้น.

โทเรี่ยมต้องเดินต่อไป.

วันนึงผมก็อาจจะจบลงที่นี่ เขาเต็มไปด้วยความหวังที่จะได้เห็นใครสักคนที่มีชีวิตอยู่.

ผมรู้สึกได้ถึงสายตาที่ร้อนแรงจากคนตาย.

ดังนั้นผมจึงค่อยๆเปิดปากของผม.

"ผมหวังว่าคุณจะตายจากการเดินทาง.”

"นี่ยังตายไม่พออีกหรอ? เยี่ยม...ผมจะคิดเกี่ยวกับสิ่งแปลกๆนั่น.”

หลังจากได้ฟังเรื่องรางเหล่านั้นแล้วผมก็เอาวาธและดาบจักพรรดิออกมา.

"ไปเลย"

"คุณรู้ไหมว่าต้องไปที่ไหน?”

“นำไป.”

“......”

ที่รกร้าง.

เห็นเพียงแค่ฝุ่นและดินเท่านั้น.

มีหมู่บ้านขนาดใหญ่ประมาน200หลังสร้างจากหินรวมอยู่.

“มันเงียบเกิน.”

ผมพูกขณะที่มองไปยังผู้คนเงียบๆ.

หมู่บ้านเกือบที่จะว่างเปล่า ไม่มีใครเดินออกมาตามถนน.

"ตอนนี้พวกเขารวมตัวกันที่ปราสาทของลอร์ด.”

“กำลังเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม?”

"แก้ไขหน่อย มันไม่มีเด็กดังนั้นจึงไม่ต้องอยู่บ้าน?”

ผมพยักหน้า.

เหมือกับที่โทเรี่ยมพูดทั้งหมดพวกเขาเป็นอันเดธ พวกเขาอยู่แบบนี้มาเป็นเวลานานไม่สามารถมีลูกได้ ความแตกต่างระหว่างชายหญิงได้หายไป.

โทเรี่ยมกล่าวอย่างระมัดระวัง.

"ผมสงสัยว่าคุณสามารถเปลี่ยนโทนเสียงของคุณได้หรือไม่?”

"ทำไมคุณถึงถามแบบนั้น?”

"ลอร์ดและนายพลจะไม่ชอบมันนอกจากเสียงคนตายปกติ.”

"ผมจะไม่เปลี่ยนเสียงเพื่อใคร.”

ผมได้เก็บน้ำเสียงนี้ไว้ต่อหน้าเดธ บิ้งเกิอร์ ไม่มีใครบังคับให้ผมเปลี่ยนมันได้.

โทเรี่ยมรู้ว่าการตัดสินใจของผมนั้นมั่นคง.

"งั้น..อยู่ให้เงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นได้”

เจฟพยักหน้ากล่าว.

ดูเหมือนว่าลอร์ดของที่นี้ต้องการแบบนั้น.

ปราสาทของลอร์ด มันไม่อาจจะเปรียบได้กับดันเจี้ยนของผม แต่มันก็ค่อนข้างใหญ่ ยามเปิดประตูหลังจากที่ดูหน้าของโทเรี่ยมและเจฟ.

ไม่นานหลังจากที่เขาปราสาทแล้วผมก็ได้ยินเสียงพึมพำ.

"นี่ เวรเอ้ย! คุณลืมชื่อเล่นของผู้บัญชาการ มาดาริ? ขัดขวาง มาดาริ! เขาดื้อด้าน! เป็นคนชั่วร้ายเนื่องจากเขาต้องการอะไรก็ตามที่เขาอยากได้! เขาเป็นผู้บัญชาการทหาร 100,000 นาย!”

"เราควรจะหนีไปไหม? เราอาจจะไม่ได้กลับมาอย่างน้อง50ปี? แมร่งเอ้ย!”

“มันเป็นไปได้ที่พวกเขาต้องการดินแดนของเรา ดูลาฮัน โซมูเลม เขาแตกต่างจากซอมบี้ปกติ!”

"ละ-ลอร์ด เราควรทำอย่างไรหลังจากได้เลื่อนขั้นเป็นกูล? นอกจากนี้ยังมีทหารโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก...”

ในใจกลางของปราสาท.

มีคนตายหลายพันคนมารวมกันที่นี่.

ลอร์ดนั่งอยู่บนเก้าอี้ขนาดใหญ่และเฝ้าดูการชุมนุม.

ลอร์ดเป็นกูล เขาพัฒนาอีกขึ้นจากซอมบี้ มีทหารสองกองอยู่ข้างๆเขา.

โทเรี่ยมอธิบาย.

"นี่เป็นการทำงานในการประชุม จะมี 20 คนที่มีอำนาจ ที่สุดในหมู่บ้านต่างๆมารวมกันและเสนอแนวทางอื่นๆเพื่อให้ลอร์ดตัดสิน การประชุมของเขามักจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน...”

“เจฟ! ไอ้สารเลว ทำไมมาช้านัก?”

การถกเถียงเมื่อครู่ที่กำลังร้อนแรงอยู่ๆก็โถมเข้ามาใส่พวกเราทันที.

คนที่พูดเป็ยซอมบี้อ้วนฉุ เจฟเกาหัว

"เดี๋ยว ก่อนอื่นเลยผมอยากจะแนะนำใครสักคน...”

ซอมบี้อีกคนที่เห็นตราที่อกซ้ายของผมพูดว่า.

“แนะนำ? อ่า,คนที่อยู่ข้างๆคุณ? เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขา เขาเป็นทหารรับจ้าง?”

"เขามีทักษะดีมาก คุณอาจจะช๊อคเมื่อเห็นเขาแสดงออกมา.”

"ทหารรับร้าง..ฉันไม่อยากจะเชื่อมากนัก ไม่ใช่ว่าเขาอาจจะหนีสงครามเมื่อมันกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน? เขาคงจะสนุกจากหมู่บ้านนึงไปอีกหมู่บ้านนึง”

"มองไปที่เขาดีๆ ฉันเป็นคนคนเขามา!”

“เจฟ นายสามารถรับรองได้ไหม?”

“ใช่ รับรองได้เลย นักรบทั่วไปไม่สามารถเทียบเขาได้ เจฟรับประกัน!”

"ฉันเคยตกหลุมพลางของเจฟ.”

"เวลานี้มันเป็นความจริง!”

เขาอาจจะเป็นคนดูเหมือนไม่สำคัญ แต่เขาก็ได้รับการยอมรับในหมู่บ้าน.

"ชิ. ดูจากด้านข้างสนามก็พอ เข้าใจไหม? อย่าทำอะไรที่มันจะส่งผลเลวร้ายเด็ดขาด..แค่อยู่ด้านหลังก็พอ.”

เจฟฉุดมือและเคลื่อนที่ต่อไป.

มีการวางแผนด้วยแผนที่ขนาดใหญ่บนโต๊ะแลัมีตำแหน่งของศัตรูโดยการทำเครื่องหมายไว้.

พรึ่บ!

เจฟพาผมไปชายอีกคนที่กำลังนั่งคุย.

"ฝ่าตรงข้ามคือ ดูลาฮัน โซมูเลน เขามีทหารประมาณหนึ่งพันคน แบ่งได้ดังนี้ ซอมบี้ 900 ทหารกระดูก 90 และอีก 10 ที่เป็นกระดูดเพียวๆ หัวหน้าของทหารมีความใกล้ชิดกับโซมูเลนมาก พวกเขาจะมาถึงใน 3 วัน เรามีทหาร500และส่วนใหญ่เป็นซอบบี้ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”

“อ่า ดูสินี่ยังไม่สามารถตอบคำถามทั้งหมดได้? เราไม่ต้องกินหรือดื่ม เพียงแค่อดทน!”

"คุณรู้ไหมว่าโซมูเลนนี่เป็นใคร? เขาสามารถพังกำแพงลงได้!”

"ขุดกับดัก!”

ความคิดเห็นหลายๆคนไม่มีประโยชน์.

แต่ผมไม่สนใจพวกเขาและจ้องมองไปที่แผนที่ มันเป็นแผนที่ของโลกเบื้องล่างทั้งหมด แต่ผมก็มองเห็นเส้นทาง.

‘การให้คะแนนของสิ่งมีชีวิตนี้คล้ายคลึงกับกำลังปัจจุบันของฉัน.'

ดูลาฮันเป็นสิ่งมีชีวิตเลเวล1ขั้นสูง.

ตัวตนของเขาสูงแต่มันก็ไม่ได้ยากนัก.

หน้าต่างไม่ทำงาน แต่ดูเหมือกับว่าดูลาฮันเป็นฝ่านตรงข้ามที่ดีและดูเหมือนกับว่าฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ยากนัก.

ชวิ้งงง!

ผมดึงวาธออกมา.

ฉึบ!

และชี้ไปที่แผนที่.

“อะไร...?”

ในขณะเดียวกันเสียงก็เงียบ.

ซอมบี้ทั้งหมดดูผมที่กำลังทำอะไรอยู่บนโต๊ะ.

ผมจับวาธและ..

เช้งงง!

ฟันลงมาที่แฟนที่และโต๊ะ.

ผมชี้ไปส่วนที่ฉีกและพูดว่า.

"ตอนนี้ ผมได้ทลายมันแล้ว จะทำในส่วนที่เหลือ.”(ตรงเหมือนกับจะบอกว่า ผมทำลายมันได้ส่วนนึง(แผนที่)และที่เหลือ(กองทัพ)ก็ไม่เท่าไร)

เกิดความเงียบไม่นานนัก.

อันเดธรอบๆเริ่มส่งเสียงบ่น.

"ชายคนนั้นทำอะไร?”

“โจมตี? ฆ่าตัวตาย?”

"ใครพาเขาไปที?”

ปฎิกิริยาไม่ดีนัก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้ามร่วมประชุม แต่ผมได้แสดงความคิด(ท่าทาง)ที่ไร้สาระ มันคงไม่ดีนัก

เจฟแข็งทื่อและโทเรี่ยมที่ตบหน้าผากตัวเองและพยายามหาทางปกป้องผม.

"หยุด!"

0 0 โหวต
Article Rating
7 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด