ตอนที่แล้วChapter 130: The Underground World (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 132: Blowing Wind (1)

Chapter 131: The Underground World (2)


Chapter 131: The Underground World (2)


ผมเอากระเป๋าเวทที่อยู่ตรงเอวออกมา.

โชคดีที่มันยังปลอดภัย ผมเป็นเจ้าของมันดังนั้นจึงไม่มีใครเอาของข้างในออกมาได้นอกจากผม.

'วาธและดาบจักรพรรดิ อยู่ข้างใน.’

มันเป็นโชคดีของผมที่ไอเทมทั้งหมดอยู่ในกะเป๋า ผมตรวจสอบสิ่งของทั้งหมดเพื่อยืนยัน.

ผมเริ่มขยับแขน มันใช้เวลาเพียงแค่30วิฯก่อนที่แขนจะสั่น.

มันเป็นเรื่องยากที่จะเดินได้เร็วๆนี้ ความอดทนของผมต้องเยอะขึ้นกว่านี้.

'ฉันจะต้องเริ่มจากพื้นฐานอีกครั้ง.’

มันเหมือนกกับตอนที่ผมก้าวเข้าไปสู่สนามรบของโลกดีม่อน.

ผมพยายามทุกอย่างเพื่อให้อยู่รอด ผมได้สร้างเทคนิคในการต่อสู้เมื่อตอนสิ้นหวัง ดูเหมือนว่าผมต้องทำอีกครั้ง.

'ก่อนอื่นต้องขยับตัวให้ได้ก่อน.’

มันเป็นเรื่องแรกที่ผมต้องทำให้เร็วที่สุด.

ผมเคยมีประสบการณ์มาแล้วครั้งนี้ นอกจากนี้ร่างกายของผมมีระดับการฟื้นฟูที่โดดเด่นซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าถึงสภาวะเดิมได้ เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมได้รับทุกวัน แม้จะมีปัญหาในการเดินในวันแรกกล้ามเนื้อของผมได้ฟื้นตัวมากขึ้นในวันที่สอง

‘มันไม่ใช่สารกันบูด.’

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบของมัน ‘จีเรียม’ ยอดเยี่ยมอย่างมาก. มันทำให้ร่างกายของผมสดชื่อและแข็งแรงเป็นอย่างมาก พลังเวทที่อ่อนแอก็กลับมา มันเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่ผมจะได้ใช้สกิล.

‘วาธ. ดาบจักพรรดิ.'

เดิมทีพวกมันหนักขนาดนี้?ผมรู้สึกว่ามันหนักมากและต้องถือด้วยมือทั้งสองข้าง.

เฮือก!

มันเหมือนกับว่าผมไม่เคยถือดาบมาก่อน มันทำให้ผมนึกถึกครั้งแรกที่จับดาบ

‘นี่คือความรู้สึก.’

มันเกิดขึ้นเมื่อตอนผมอายุ12ปี ผมถูกบังคับให้เข้าสงครามและได้รับการฝึกฝนดาบ มีคนฝึกอายุประมาณ30ปีสองคนพวกเขาช่วยผมฝึกมัน เขาเป็นทหารที่น่าชมเชยและสามารถอยู่รอดได้มาจนถึงตอนนี้ ก่อนที่จะเกษียณ.

ผมเก็บชีวิตของผมได้อย่างเหนียวแน่น ผมใช้ทุกอย่างของความแข็งแกร่งของผมเพื่อฝึกดาบ.

ในเวลานั้นผมจำได้ว่ามองเข้าไปในดวงตาของครูผู้สอน ผมมั่นใจว่าผมจะไม่สูญเสียการเป็นทหาร.

‘ดวงตาเหล่านั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง.’

หลังจากชัยชนะในการรบในวันนั้น!

ผมได้ท้าทายผู้ฝึกสอนที่กำลังเมาอยู่และฆ่าเขา เพราะเนื่องจากว่าสันชาตญาณของผมบอกว่าหากปล่อยเขาไปผมจะเป็นคนที่ตายเอง ผมมุ่งมั่นที่จะอยู่รอด สงครามเกิดขึ้นในโลกปีศาจ เฉพาะผู้มีอำนาจที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะมีอิสระ.

'นั่นคือช่วงเวลาที่เราเติบโตเร็วที่สุด.’

มันเกิดขึ้นเพราะดีม่อน เดวิลที่ชื่อบิกิเซล หลังจากที่ผมฆ่าเขาผมก็เอาชื่อเดวิลตัวนั้นมาเป็นนามสกุล แม้กระนั้นเขาก็ยังเป็น1ใน72ดีม่อน.

ต่อจากนั้นผมก็ทำทุกท่างเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น.การพัฒนาของผมฉะลอตัวหลังจากที่ผมได้เจอแกร์นดยุค. แต่หลังจากที่ได้รับข้อเสนอของ เดธ บิ้งเกอร์...มันเป็น ‘พลัง’ ที่เกิดจากความพยายามของผมอย่างแท้จริง?

แน่นอนว่าผมไม่สามารถปฎิเสธความพยายามของผมเองได้ ผมเดินไปในสนามรบในโลกปีศาจ ผมเป็นคนที่ห้าวหาญเล็กน้อย แต่ผมก็ยังรู้ถึงขีดจำกัดของผม.

‘ฉันพยายามหลังจากกลับไปแล้ว อย่างน้อยที่สุดฉันทำได้ดีกว่าชีวิตก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามฉันยังไม่สามารถลบความรู้สึกไม่เพียงพอออกไปได้.’

ผมเริ่มอิ่มเอมใจเนื่องจากความทรงจำในชีวิตก่อนหน้านี้ เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่ชัดเจนตอนนี้ที่ผมคิดเกี่ยวกับมัน.

ผมต้องพึ่งพาความสามารถที่แท้จริงมากกว่าสถานะ.

การที่ได้ต่อสู้กับแกร์นดยุคโอคูลอสเป็นที่มาของความภาคภูมิใจดังกล่าว ถ้าผมทำอะไรมากกว่านี้เรื่องราวอาจแตกต่างออกไป.

มันเป็นแค่หนึ่งในความเป็นไปได้มากมาย แต่..ผมก็ต้องทำเพื่อข้ามกำแพง.

‘เราต้องสร้างร่างกายใหม่อีกครั้งคราวนี้เราจะเอาแต่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเราเอง.’

ผมต้องที่จะเพิ่มพลังโดยไม่พึ่งพาคนอื่น.

ผมจับไปที่วาธและดาบจักพรรดิอีกครั้ง.

‘เฮเลน มูน.’

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเลียบแบบ100%แม้ว่าผมจะใช้ทุจริต มีความล้ายกัน99%แต่อีก1%ยังคงหาไม่เจอ.

ผมจะทำเทคนิคดาบที่ผมมีเอาไว้ด้วยกัน.

ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.

“ดวงจันทร์กำลังลอยอยู่ ดีมาก.”

ตอนเย็น.

ผมใช้ดาบของฉันใต้แสงจันทร์.

การเคลื่อนไหวของผมไม่ได้หยุดจนกว่าผมรู้สึกเหนื่อยและกำลังจะหมดลง.

เข้ามาถึงวันที่6.

ผมสามารถปรับตัวเขากับน้ำหนักของดาบได้ดียิ่ง.

‘นี่คือผลกระทบจากการทุจริตหรืออิทธิพลของสิ่งอื่น.’

ผมที่กำลังใช้ดาบอยู่บนหน้าผาคิดอยู่ครู่นึง.

ผมอยากรู้ถึงเหตุผลที่เข้ามาในโลกเบื้องล่าง

มันส่งผลกระทบต่อร่างกายของผมอย่างชัดเจน พลังเวทย์ไหลรอบๆตัวผมเนื่องจากหัวใจราชานรกยังไม่เข้าที่ อย่างไรกล้ามเนื้อในร่างกายของผมได้เบาอย่างเหนได้ชัด มันอาจจะเกิดขึ้นจากทจุริตหรือคอนทากอโนม.

ผมไม่สามารถใช้ทุจริตได้อีก มันอันตรายเกินไป ผมได้ทิ้งคำถามเหล่านั้นเพื่อที่จะได้มุ่งเน้นการฟื้นฟูร่างกายของผม.

ผมหันหัวเพื่อจะมองหาใครสักคน.

‘เจฟ.’

อันเดธเจฟ

ร่างกายเตี้ยๆของเขากำลังฝึกดาบ.

"อ่าห์! อูย่าห์!”

เขาตะโกนดังขึ้น เขาเรียนรู้ได้ดีทีเดียว.

เจฟทำแบบนี้ซ้ำๆกันเมื่อสองวันก่อน.

หลังจากที่เห็นผมฝึกดาบและพูกถึง ‘สงคราม’ เขาก็มักจะมาที่นี่เสมอ เขาร้องไห้และบางครั้งเขาก็จะถามผมว่า‘ทักษะเขาเป็นยังไงบ้าง?’

แน่นอนว่าการจับดาบของเขาไม่เลว มันเป็นที่ชัดเจนในทางปฎิบัติ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่ในการรบได้นานแค่ไหน.

"เหวี่ยงมันมาหาฉัน.”

ผมเดินไปพร้อมดาบกับผม.

ความแข็งแกร่งของผมอยู่ในระดบปานกลางนั่นหมายความว่าผมยังใช้ดาบได้อยู่.

มีสิ่งหนึ่งที่เหลืออยู่ ผมต้องค่อยๆทำให้ร่างกายจดจำการเคลื่อนไหวเพื่อการต่อสู้อีกครั้ง.

มุมปากของเจฟยักขึ้น.

"ดีหรอ? คุณเพิ่งฟื้นตัวได้หน่อยเดียว แต่คุณต้องการปะดาบ...”

เขามองดูผมอยู่สอง สามวัน.

เทคนิคการดาบของเฮเลน มูนมีความซับซ้อน จากมุมมองของบุคคลที่สามมันเหมือนเป็นการเต้นรำด้วยดาบ นอกจากนี้ผมกำลังเดินช้าๆทีละขั้นตอนดังนั้นความเข้าใจผิดจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เจฟฟ์ได้สังเกตเห็นความขลังของเทคนิคดาบของผม

“คุณไม่สามารถทำมันได้?”

“ทำไม? ฉัน? ฮ่าฮ่า, ไม่. ผมฆ่าคนเป็นร้อยๆในสนามรบ. เจฟนักฆ่า100ศพ! นั่นฉันเอง!”

เขาตีหน้าอกของเขา.

มีความมั่นใจในทักษะของเขา และเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจ.

ผมพูดอย่างใจเย็น.

"งั้นเรามาพนันกัน ผู้ชนะจะได้ทุกอย่างจากผู้แพ้ เป็นไง?”

"ผู้ชนะจะได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการ?”

“ถูกต้อง.”

เจฟมองมาเมื่อผมพูด.

วาธและดาบจักรพรรดิ.

พวกเขาไม่ได้มองมาที่อาวุธ พลังเวทมันเพียงพอที่จะให้พวกเขาเชื่อ ทุกคนที่ตรวจสอบเขาจะรู้ได้ถึงความโลภ.

ดาบมันดูดีเกินไปสำหรับเขา เขาเริ่มเดินเข้ามาช้าๆ มีความรู้สึกตึงเครียดเพราะว่าดาบสามารถฆ่าเขาได้ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวช้าลงกลับมีประสิทธิภาพอย่างมาก.

ตอนนี้เขาได้รับโอกาสที่จะได้รับพวกมัน.

เจฟเลียริมฝีปากของเขา.

"ดาบเหล่านั้น ให้ฉันทั้งสองคน รัลดาลคุณยังต้องการที่จะเผชิญหน้ากับฉันไหม?”

"คุณสามารถพูดหลังจากชนะได้เท่านั้น.”

“คุณควรฟังฉัน. หุหุ.”

ในเวลาเดียวกันเจฟคำนวนระยะทาง.

เขาถือดาบที่โค้งเหมือนกัยคันธนู ดูเหมือนว่าเขาจะมั่นใจมาก.

‘ในสถานะปัจจุบันของฉัน ฉันจะถูกผลักเบา ๆ.’

ผมวิเคราะห์เชิงวัตถุ ร่างกายของฉันปรับตัว แต่ก็ยังขาดอยู่เล็กน้อย แต่การเติบโตของผมขาดแรงขับเคลื่อน.

ใช่..ชนะการต่อสู้ง่ายๆไม่สนุก.

“เข้ามา.”

“ฮ่าฮ่า! คุณจะไม่เสียใจใช่ไหม?”

ผมยักไหล่และเจฟฟ์ก็เดาะลิ้นของเขา.

ชนะ.ผู้ที่หลงไหลในการต่อสู้จะมีแนวโน้มมากขึ้น.

ผมไม่ได้ทำอย่างนั้น.

ผมพยายามที่จะรักษาความแข็งแกร่งให้มากที่สุด.

โชคดีที่เจฟเข้ามาในช่วงแรก.

"ฮุราน!”

เจฟมีการใช้ดาบที่เยี่ยมมาก ดูเหมืนว่าเขาจะคุ้นเคยการต่อสู้.

มันไม่ใช่เรื่องโกหกที่เขาฆ่า100คน.

แต่..แล้วไง น่าเสียดาย ที่เขาขาดความซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าจะต้องใช้พลังเท่าไรในการกดดันคู่ต่อสู้.

ผมค่อยๆเข้าไปหาเจฟก่อนที่จะเอาดาบไปฟาดคอของเขา.

'มันยากนะ’

มันใช้เวลาถึง10นาที แต่ผมก็เหนื่อยล้าเหมือนกัน.

นอกจากนี้ยังมีบาดแผลทั่วร่างกาย เป็นเพราะว่าผมป้องกันแต่ส่วนที่สำคัญ.

"ไม่มีทาง! ฉันมั่นใจว่าฉันจะชนะ...”

เจฟรู้สึกประหลาดใจ.

เขาได้เปรียบในการโจมตีแต่มันก็มีเพียงแค่แผลตื้นๆ.

ผมส่ายดาบและพูดสั้น ๆ.

"เจฟ คุณจะต่อสู้ผมทุกวันเป็นเวลา 30 วัน”

เจฟฟ์เป็นฝ่ายตรงข้ามที่เหมาะสมในการตรวจสอบสภาพร่างกายของผม

เมื่อเวลาผ่านไปการต่อสู้เริ่มรุนแรงขึ้น สภาพร่างกายของผมดีขึ้น แต่เจฟเริ่มที่จะหมดหวังในการต่อสู้.

"คุณเหมือนมอนสเตอร์!”

เต้งง!

ในวันที่ 20 เจฟนอนอยู่บนพื้นพร้อมด้วยดาบอยู่ในมือ.

20วันและแพ้20ครั้ง!

ตอนนี่เขาไม่สามารถแม้แต่จะสู้กับผมได้ถึง1นาที.

"แค่ฆ่าฉัน! อย่ามาเล่นกับฉัน!”

"ผมไม่สามารถทำเช่นนั้นได้.”

"อ๊วก...แข็งแกร่ง. ฉันจะกัดลิ้นของฉันและฆ่าตัวตาย.”

เจฟนั่งลงและถอนหายใจ.

แปะ แปะ แปะ!

ในขณะนั้นโทเรี่ยมก็ลุกขึ้น.

“คุณมีทักษะที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ดูเหมือนว่าเขากำลังพัฒนาทุกวัน”

"คุณทำอะไรที่นี่วันนี้?”

“ไม่ต้องกังวล วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะมา.”

ใบหน้าของโทเรี่ยมหม่นหมอง.

ในขณะเดียวกันเจฟก็กดใบหน้าลงไปอีก.

“มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น?

"ผู้บัญชาการ มาร์คดาริ ของพื้นที่ภาคกลางได้ตัดสินใจที่จะเคลื่อนไปทางทิศใต้ เจฟกับฉัน ... เราต้องเตรียมพร้อม.”

"เตรียมพร้อม?”

"เราต้องปกป้องบ้านของเราหรือไม่? เราอาศัยอยู่ในภาคใต้เป็นเวลา 50 ปี เราไม่สามารถปล่อยมันไปได้.”

ตาของโทเรี่ยมสว่างวาบ.

มีความมั่นใจในการปกป้อง.

"คุณมีทางให้ผมกลับไปแล้ว?”

เจฟและโทเรี่ยมกำลังหาวิธีการให้ผมกลับไป แต่ตอนนี้สงครามเริ่มขึ้นแล้ว การแสดงออกของโทเรี่ยมเปลี่ยนไปตามคำถามของผม.

"ผมได้มองหาทุกวิธีที่จะพาคุณออกไปได้ และสิ่งหนึ่งที่ผมพบคือ...”

“ผมต้องการได้ยินมัน.”

"ความจริงแล้วผมไม่ต้องการที่จะพูด ความจริงเกี่ยวกับโลกใบนี้ ผมรู้สึกอายมากเกินไปที่จะพูด แต่ตอนนี้ผมไม่สามารถทำอะไรได้.”

ผมกอดอกดูสถานการณ์.

โทเรี่ยมเปิดปกของเขา.

"โลกนี้เป็นของปลอม โลกที่ถูกราชานรกปลอมขึ้นมา.”

“...ราชานรก?”

ผมไม่ได้ตั้งใจพูด.

ราชานรก ชื่อที่คุ้นเคย!

โทเรี่ยมยังพูดต่อด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม.

"เขาเป็นคนที่น่ากลัวโครตๆด้วยชื่อของเขา ราชันเงา เขาตายแล้ว แต่เราถูกหลอกให้มาที่นี่ ความจริง เจฟและผมไม่เคยเห็นเขา ..ตอนนี้ไม่รู้ว่าผู้บัญชามีวัตถุประสงค์อะไรเพื่อที่จะปกป้องสมบัติของเขา บทบาทของเขาคือการปกป้องมันจนกว่าเขาจะกลับมายังโลกใบนี้สักวันนึง อย่างไรก็ตามพวกเขาบิดเบี้ยวเมื่อเวลาผ่านไป.”

โทเรี่ยมถอนหายใจ.

“พวกเขาเริ่มที่จะแข่งขันกันด้วย ‘สิทธิอันชอบธรรม’ ในสมบัติ. แต่,ผู้บัญชาการทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าควรจะเปิดสมบัติของราชานรก นี่เป็นวิธีเดียวที่จะออกจากที่นี่ มันการอธิบายว่าสมบัติจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง.”

โทเรี่ยมสายหัวก่อนที่จะบอกต่อ.

"ผู้บัญชาการทั้งหมดเห็นด้วย แต่พวกเขากำลังจะฆ่ากัน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะปิดบัญชี ผู้บัญชาการบางคนก่อนสงคราม มันเป็นจุดเริ่มต้นมายาวนานอย่างไม่สิ้นสุด...”

“ผู้บัญชาการที่โหดร้าย แม็กซิมั่ม.”

ผมขัดจังหวะของโทเรี่ยม.

ตาของโทเรี่ยมกว้างขึ้น.

"คุณรู้จักชื่อนี้ได้อย่างไร?”

"เขาอยู่ในโลกนี้หรือไม่?”

"ชะ-ใช่...! เขาเป็นผู้บัญชาการที่เป็นกลาง แต่ตอนนี้เขาได้ประกาศสงคราม!”

อ่า หมอกค่อยๆจางหาย.

นี่เกี่ยวข้องกับหัวใจ และผู้บัญชาการคนนั้นก็คือคนที่ผมซื้อมาจากร้านค้าเกรียติ

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร.

ผมคิดว่าผมตกอยู่ในโลกที่ไม่รู้จัก แต่มันก็มีเหตุผลอยู่.

โทเรี่ยมถามด้วยสีหน้าซึดเซียว.

"ผมไม่เคยพูดชื่อนี้มาก่อน คุณรู้ได้อย่างไร? ชื่อนั้นมันทำให้เรากลัวมาก เขาไม่ค่อยเข้าสงครามดังนั้นมีเพียงไม่กี่คนที่เคยเห็นความสามารถของเขา อย่างไรก็ตามชื่อของเขาเป็นข้อห้ามในหมู่พวกเรา แม้แต่เจฟก็ไม่เคยพูดชื่อนี้เลย...”

เขามองมาอย่างระมัดระวัง.

ผมยักดาบจักรพรรดิขึ้น

นี่คือดาบของแม็กซิมั่ม มอบให้ผม เอกลักษณ์ที่แท้จริงของมันคืออาวุธที่ใช้โดยราชานรก.

“โทเรี่ยม.สงครามครั้งนี้ผมจะร่วมด้วย.”

ผมพูดอย่างเรียบๆ.

อย่างไรก็ตามคำพูดของผมมีน้ำหนักมาก และนี่คือวิธีเดียวที่จะกลับไปได้...

ผมต้องหยุดโลกนี้ด้วยตัวของผมเอง.


0 0 โหวต
Article Rating
6 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด