AST บทที่ 170 - หอจัดประมูล ผลไม้แห่งศักยภาพ
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 170 - หอจัดประมูล ผลไม้แห่งศักยภาพ
หลังจากที่เขาเตรียมแผนการ ชิงสุ่ยก็ตรงไปเช่ารถม้า และเดินทางออกจากตีนเขา เพื่อไปยังหอจัดประมูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้
ตอนนี้เป็นเวลาใกล้เที่ยง ชิงสุ่ยยืนอยู่หน้าห้องจัดประมูล ซึ่งเบื้องหน้าของเขานั้นถูกเรียกว่าหอจัดประมูลแห่งราชอาณาจักร แสงแดดจากพระอาทิตย์สะท้อนตัวอักษรสีทองบนป้ายมันยิ่งทำให้ทุกคนเห็นชัด และแต่ละตัวอักษรนั้นต่างถูกเขียนโดยบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านการวาดตัวอักษร
หอจัดประมูลแห่งราชอาณาจักรตั้งอยู่ในใจกลางของอาณาจักรชางหลางที่แสนมั่งคั่ง และตั้งอยู่บนถนนที่ใหญ่ที่สุดของอาณาจักร หากไร้ซึ่งเส้นสายหรือความสามารถที่โดดเด่น ผู้คนเหล่านั้นบางคนก็อาจจะไม่มีสิทธิ์เข้าไปยังสถานที่ลึกลับแห่งนี้
เนื่องจากมีคำว่าอาณาจักรปรากฏขึ้นบนป้าย ดังนั้นขอจัดประมูลแห่งนี้จึงมีอำนาจเทียบเท่ากับนิกายกระบี่นภา
หอจัดประมูลถูกออกแบบเป็นโทนสีม่วงมันยิ่งทำให้มันดูกว้างขวางและดูอึมครึมอย่างมาก มีรูปปั้นมังกรถูกแกะสลักด้วยหินสีม่วงขนาดใหญ่ และมีรูปปั้นนกหงส์เพลิงที่กำลังร่ายรำอยู่บนฝ้าเพดาน สิ่งของแกะสลักเรานั้นดูเหมือนจริง และทำให้สถานที่แห่งนี้ดูทรงพลังและมั่งคั่งไปด้วยอำนาจ
ที่ด้านหน้าปรากฏเป็นประตูผลึกม่วงที่มีขนาดใหญ่และหรูหราเป็นอย่างมาก ซึ่งชิงสุ่ยเองก็กำลังมองฝูงม้าขนส่งและกระแสของเหล่าผู้คนที่เข้าออกอย่างไม่รู้จบ
"นายท่าน ท่านต้องเสียเหรียญเงิน 10 เหรียญเพื่อเป็นค่าเข้า"
เบื้องหน้าปรากฏเป็นหญิงสาวรูปร่างเพรียวบาง 2 คนกำลังยืนอยู่ข้างประตู ซึ่งพวกเธอกำลังยิ้มให้กับชิงสุ่ย
"เสียงที่ดูไพเราะ รอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรไมตรี นี่สินะที่เขาเรียกว่ามืออาชีพ"ชิงสุ่ยคิด
"การจะเข้าที่แห่งนี้ ข้าจะต้องจ่ายค่าเข้าด้วยงั้นรึ?"
" นี่คือแนวทางหนึ่งในการจำกัดจำนวนผู้เข้า แล้วหยุดเหล่าโจรล้วงกระเป๋าจะเข้าไปภายใน"หญิงสาวเบื้องหน้ากล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่เปลี่ยนแปลง
หลังจากที่ชิงสุ่ยได้จ่ายเงินและเข้าไปยังภายใน หลังจากที่เขาเดินผ่านประตูผลึกม่วง เบื้องหน้าเขาก็ปรากฏเป็นห้องโถงขนาดใหญ่แม้ภายในจะได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอก แต่ทุกอย่างก็ดูดซับเสียงให้เบาลงได้ดีอย่างยิ่ง ชิงสุ่ยสังเกตเห็นว่าภายในหอประมูลแห่งนี้จะมีการประมูล 2 รอบต่อวัน รอบแรกคือในช่วงเช้าและอีกรอบในช่วงบ่าย ซึ่งแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
หอประมูลแห่งนี้ยังมีพื้นที่พิเศษระดับ 3 สำหรับบุคคลพิเศษซึ่ง ซึ่งจะอยู่เหนือหอประมูลแห่งนี้ และมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวน 1,000 เหรียญเงิน!!!
"นายท่าน ดูเหมือนว่านายท่านจะสนใจพื้นที่สำหรับบุคคลพิเศษ?"
เมื่อชิงสุ่ยเดินเข้าไปข้างใน หญิงสาวที่สวมเครื่องแบบที่แสนยั่วยวนใจของหอจัดประมูลก็ยิ้มมาทางเขาและถาม มาตรฐานของหญิงสาวคนนี้สูงเหนือกว่าหญิงสาวที่อยู่ภายนอก ซึ่งที่สำคัญที่สุด คือหญิงสาวเหล่านี้สามารถพาลูกค้าขึ้นไปยังห้องพิเศษที่อยู่ชั้นบนได้ และตลอดช่วงเวลาในการประมูลหญิงสาวคนนี้จะคอยรับใช้ทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ
ชิงสุ่ยก็เริ่มคิดวิเคราะห์บางสิ่งบางอย่าง หญิงสาวคนนี้ทั้งดูฉลาดและดูงดงาม แต่เหตุใดเธอจึงกลับทำงานทางด้านนี้
ชุดเครื่องแบบสีดำที่รัดแน่นจนเห็นรูปร่างอันชัดเจน มาทำให้เขาคิดวิเคราะห์ว่าเธอจะต้องผ่านผู้ชายมาแล้วหลายคนและคอยตอบสนองบางสิ่งบางอย่างที่เกินกว่าจะคาดเดามันยิ่งทำให้เขาตัดสินใจง่ายยิ่งขึ้น
"ต้องขออภัยด้วย ข้าเป็นเพียงคนจนคนหนึ่งที่ไร้ซึ่งเงินตรา"
คำพูดของชิงสุ่ยทำให้คนรอบข้างเป็นกับเป็นใบ้ เหตุใดเขาจึงต้องอ้างเรื่องที่เขาไร้ซึ่งเงินตรา? ผู้หญิงอีกสองสามคนที่สวมเครื่องแบบเช่นเดียวกัน จ้องมองมาที่ชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจ
"ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าต้องขออภัยด้วยที่ทำให้ท่านเกิดปัญหา ถ้าเช่นนั้นกรุณาตามข้ามาที่นั่งตรงนี้ด้วย"ผู้หญิงคนนั้นยังคงยิ้มและพูดคุยกับชิงสุ่ย
ในตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงแล้วเหลือเวลาอีกเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นก่อนงานประมูลในช่วงบ่ายจะเริ่มต้นขึ้น ห้องโถงใหญ่หนาแน่นไปด้วยผู้คน และมีเงาขนาดมหึมาอยู่เหนือขึ้นไปด้านบน ซึ่งนั่นก็คือห้องของเหล่าบุคคลพิเศษ
"นายท่าน นี่คือที่นั่งของท่าน"
เมื่อชิงสุ่ยนั่งลง เขาก็มองดูหญิงสาวรูปร่างอรชรคนนี้ต้อนรับชายอ้วนวัยกลางคนและเดินขึ้นไปพร้อมกับเขาอย่างรวดเร็ว ชิงสุ่ยเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไร หญิงสาวที่แสนงดงามยังคงมีอยู่ทั่วดินแดน 9 ทวีป และเขาเชื่อว่ามีหญิงสาวจำนวนมากยอมทำงานในด้านนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ควรใช้ความรู้สึกน่าสงสารเข้ามาเกี่ยว ทุกคนต่างรับรู้ในคุณค่าของตัวเองแต่เชื่อว่าพวกเขาต้องมีเหตุผลบางอย่างในการทำงาน เช่นเดียวกับเหล่าบรรดาหญิงสาวที่แสนงดงามที่ทำงานในหอนางโลม
ผู้ที่ร่ำรวยและมั่งคั่งมักจะยอมจ่ายเงิน 1,000 เหรียญเงินเพื่อตัวของสาวงามเหล่านั้น แต่สำหรับชิงสุ่ยเองยังคงเชื่อว่าเหรียญเงิน 1,000 เหรียญเงินไม่ใช่สิ่งที่ไร้ค่าเกินกว่าจะใช้ได้อย่างฟุ่มเฟือย
ด้านหน้าของห้องโถง เป็นที่ราบระดับต่ำ ไม่ว่าใครจะอยู่บริเวณไหนในห้องโถงแห่งนี้ก็จะสามารถมองเห็นเวทีการประมูลได้อย่างชัดเจน
และแล้วช่วงบ่าย เวลาแห่งการประมูลก็เริ่มขึ้น
ผู้ประมูลและผู้ช่วยของเขามีลักษณะเป็นชายวัยกลางคนส่งเสื้อผ้าที่ดูดีมันยิ่งทำให้เขาดูมีประสบการณ์และมีความสามารถ เมื่อพวกเขาเดินขึ้น พวกเขาก็เริ่มยิ้มต้อนรับเหล่าผู้คนที่เข้าร่วมลานประมูลแห่งนี้ และเริ่มประกาศเริ่มต้นการประมูล
รายการแรกในงานประมูลคือ กระบี่คลื่นสมุทรสีเงิน ซึ่งทำมาจากและสีเงินที่อยู่ภายในมหาสมุทรลึก มันมีความสามารถในการป้องกันด้านพิษ ช่างน่าเสียดายที่มันจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีพิษระดับต่ำ
ผู้ประมูลเริ่มแนะนำข้อมูลของกระบี่ชิ้นนี้ก่อนที่เขาจะเริ่มกล่าวสิ่งอื่น "ราคาเสนอเริ่มต้นคือ 1,000 เหรียญเงิน และทุกครั้งที่ประมูลจะต้องเพิ่มขึ้น 50 เหรียญเงินทุกครั้ง"
หลังจากนั้นไม่นานเสียงก็เริ่มดังขึ้น "1,050 เหรียญเงิน"
แต่หลังจากนั้นก็ไร้ซึ่งเสียงพูดใดๆออกมาอีก
มันเป็นเพราะว่ายาเม็ดขจัดพิษที่อยู่ในโลก 9 ทวีปแห่งนี้มีราคาที่ถูกมากและง่ายต่อการพกพา ดังนั้นก็มีคลื่นสมุดสีเงินจึงเป็นเพียงกระบี่ที่มีราคาสูงและเป็นสิ่งของที่ไว้สะสมเท่านั้น
ชิงสุ่ยเอ็งก็ไม่ได้คาดหวังว่างานประมูลจะเป็นเรื่องง่าย เขาเองก็ไม่ได้สนใจในสิ่งของชิ้นนี้ เขาสนใจเพียงแค่เหล่าสมุนไพรโอสถและเหล่าสิ่งของที่แปลกประหลาด เขาไม่ต้องการให้เงินที่เขาจะต้องจ่ายออกไปนั้นกลายเป็นสิ่งไร้ค่า เพราะเขาเชื่อว่าตัวของเขาเองนั้นก็มีเงินเพียงน้อยนิด
สินค้าชิ้นที่ 2 นั่นก็คือ ลูกของสัตว์อสูรไร้แก่น หมาป่าสีเงินเขาเดี่ยวระดับ 1
และมันยิ่งทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เมื่อเงินประมูลเพิ่มขึ้นเป็น 350,000 เหรียญเงินอย่างรวดเร็ว
ตัวของชิงสุ่ยเองก็ไม่ทราบเรื่องราคาซื้อขายของสัตว์อสูรเหล่านี้ และตัวเขาเองก็เชื่อว่าทุกคนดีๆก็ย่อมไม่รู้ราคาที่แท้จริง
ขนาดสินค้าเล็กๆ 2 ชิ้น ยังสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนมากมาย และสุดท้ายลูกหมาป่าสีเงินเขาเดียว ซื้อขายโดยคนที่อยู่พื้นที่ระดับ 3 ซึ่งเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามากและนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น หลังจากสิ้นสุดการประมูลของชิ้นนี้ทุกคนก็ถอนหายใจอย่างไม่พึงพอใจ
รายการต่อไปส่วนใหญ่เป็นอาวุธหรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เครื่องสวมใส่ และสิ่งของที่มีประโยชน์เหล่านั้นต่างถูกขายออกไปในราคาที่สูงมาก แต่ก็ไม่มีชิ้นไหนที่สามารถเทียบได้กับลูกหมาป่าสีเงิน แต่ยังไงซะชิงสุ่ยก็ไม่ได้สนใจสิ่งของเหล่านั้นเพราะสิ่งที่เขาสนใจนั้นจะต้องเป็นของที่มีคุณภาพสูงที่สุดดุจพลังพระเจ้า
ชิงสุ่ยเริ่มรู้สึกปวดหัวใจขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ยินเสียงของผู้ทำการประมูลประกาศสิ่งของชิ้นต่อไป "ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่รายการประมูลชิ้นที่ 100 ทุกคนต่างเรียกขานสิ่งนี้ว่า ผลไม้แห่งศักยภาพ ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับนั้นไม่มีใครรู้ ผู้คนมากมายต่างบอกว่าผู้ที่ได้กินมันเข้าไปต้องยอมรับผลลัพธ์เหล่านั้น ดังนั้นข้าจึงขอเสนอราคาประมูลเริ่มต้น 10,000 เหรียญเงิน และในการเพิ่มแต่ละครั้งจะต้องไม่ต่ำกว่า 500 เหรียญเงิน"
หลังจากที่ผู้ประมูลประกาศให้พวกเขาเริ่มต้นประมูล เสียงที่กําลังเงียบอยู่ก็ค่อยๆเริ่มมีเสียงผู้คนเริ่มพูดคุยกัน
"นี่มันต้องเป็นเรื่องบ้าอย่างมาก ที่จะให้พวกเราเริ่มประมูลสิ่งที่พวกเราไม่รู้จัก แถมยังเริ่มต้นประมูลด้วยราคาที่สูงขนาดนี้ อีกทั้งผลลัพธ์ถ้าหากพวกเรากินมันเข้าไปจะต้องยอมรับผลกระทบของมันเอง"
"สิ่งนี้ช่างดูเหมือนยาพิษอย่างมาก?"
" 12,000 เหรียญเงิน!!!!"
เสียงตะโกนออกมาเมื่อคนทั้งสองคนนั้นกล่าวจบ
" 13,000 เหรียญเงิน!!!!"
เมื่อชิงสุ่ยได้ยินคำว่า ผลไม้แห่งศักยภาพ ในครั้งแรกเขาเองก็ตกใจและงุนงงก่อนที่เขาจะแสดงความรู้สึกตื่นเต้นออกมา ในเกมโลกตะวันตกของเขาเองต้องมีผลไม้ชนิดนี้ ผลไม้แห่งศักยภาพสามารถเพิ่มคุณลักษณะทางร่างกายได้ ซึ่งแต่ละคนจะสามารถใช้มันได้มากถึง 100 ผล แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจเรื่องผลกระทบที่จะได้รับหลังจากกินผลไม้ชนิดนี้ ชิงสุ่ยเจ้ามองไปยังผลไม้ขนาดเล็กที่มีขนาดเท่ากับลูกท้อซึ่งผิวของมันนั้นเต็มไปด้วยสีดำขายสีหมึกตั้งอยู่ท่ามกลางลานประมูล มันยิ่งให้ความรู้สึกว่าผลไม้ชนิดนี้เหมือนสิ่งชั่วร้าย
ผลไม้แห่งศักยภาพต้องอาศัยโชคลาภในการค้นพบพวกมัน อย่างไรก็ตาม ชิงสุ่ยเอ็งก็ต้องการมัน แต่เขาเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าผลไม้ชนิดนี้ถูกประมูลเพิ่มราคาไปถึง 30,000เหรียญเงินในช่วง