ตอนที่ 17 เส้นทางที่ไว้ใจ 1
หลังเลิกเรียน เมื่อธีโอดอร์กินอาหารเย็นเสร็จเขาก็เดินไปขณะที่ครุ่นคิด
เขาไม่มีโอกาสที่จะได้ยินดีกับชัยชนะของเขาที่มีต่อการ์เซียร์เลยเพราะเขารู้ว่าทำไม ศาสตราจารย์วินซ์ ถึงได้เรียกเขาไปพบ ในสถาบันนี้ไม่มีใครรู้จักธีโอไปมากกว่าเขา เขานั้นตระหนักถึงความสามารถของธีโอที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ
‘เขานั้นรู้ดีว่าฉันไม่มีเงินที่จะซื้อยาเพิ่มพลังเวทย์หรือจ้างอาจารย์มาสอนพิเศษได้’
วินซ์ ได้ดูแลเอาใจใส่เขาดีกว่าอาจารย์คนอื่นในช่วงสามปีที่ผ่านมา ธีโอ นั้นได้สาธยายถึงสถานการณืการเงินที่น่าอดสูของเขาและสัมผัสเวทมนต์ที่แสนจะต่ำต้อยของเขาให้แก่ศาสตราจารย์วินซ์ได้ฟัง
วินซ์นั้นแตกต่างจากอาจารย์คนอื่นที่ไม่ใส่ใจเขา และสถานการณ์ในตอนนี้มันแย่มาก วินซ์นั้นจะสามารถจับผิดคำพูดของเขาได้แน่
เหนือสิ่งอื่นใด เขามีปัญหาเกี่ยวกับการซ่อนการดำรงอยู่ของ ความตะกละ
‘บ้าที่สุด มันไม่มีคำตอบใดๆทั้งนั้นไม่ว่าคิดยังไงก็ตาม ฉันไม่สามารถหาข้ออธิบายให้ศาสตราจารย์วินซ์ได้ และมันน่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้’
ความตะกละนั้นได้บอกเขาว่ามันมีอยู่มากกว่าร้อยวิธีในการเพิ่มพลังเวทมนต์ แต่มันก็บอกเขามาเพียงแค่อย่างเดียว
ในปัจจุบันนี้ มีแค่สามถึงสี่วิธีที่เป็นที่รู้จักเท่านั้น ในสถานการณ์ตอนนี้มันเหมือนกับเขาไม่มีรูที่จะหลบหนีไปไหนได้
เขาได้กังวลครุ่นคิดถึงเรื่องนี้นานเท่าไรแล้ว? ตอนนี้ธีโอ ได้มาถึงหน้าห้องทำงานของศาสตราจารย์วินซ์แล้ว
“….ฉันมาถึงแล้ว”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาหลังจากที่เขามาเพื่อขอใบอนุญาติ ธีโอ มองไปที่ประตูสีน้ำตาลตรงหน้าเขา ในเวลานั้นเขามาที่ห้องนี้ด้วยใบหน้ามืดหม่นและตอนนี้เขากลับมาพร้อมกับความกังวลที่แตกต่างจากเดิม
สถานะในตอนนี้ของเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ตอนแรกเขาเป็นแค่ผู้ใช้เวทย์ขั้น2แสนโง่งม แต่ตอนนี้เขาเป็นคนที่สุดยอดที่สุดในชั้นเรียน นี่เป็นผลจากที่เขาเผชิญกับความยากลำบากโดยไม่ย่อท้อ
‘ตอนนี้ก็เช่นกัน’
เขาจะไม่หันหลังหนี ธีโอ ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับมัน ขณะที่เขายกมือขึ้น
ก๊อก ก๊อก
“ศาสตราจารย์ครับ ผม ธีโอดอร์ครับ”
แล้วก็มีเสียงดังออกมาจากหลังประตูราวกับรอเขาอยู่
-เข้ามาสิ....
ธีโอบิดลูกบิดประตูและเข้าไปในห้อง และเขาก็ได้กลิ่นกาแฟเช่นเคยโชยมา ม้วนหนังและหนังสือต่างๆได้กระจายวางอยู่บนโต๊ะไปทั่ว นี่แสดงให้เห็นถึงความขยันของศาสตราจารย์วินซ์ เขาหยิบกระดาษที่เขาอ่านและมองมาที่ธีโอด้วยใบหน้าที่อ่านยาก
“เธอมาตรงเวลาพอดี การประชุมคณาจารย์นั้นใช้เวลานานกว่าที่ฉันคิดไว้ ดังนั้นฉันจึงกลับมาก่อน”
การจัดการกับการ์เซียร์ คาร์เตอร์นั้นเป็นเรื่องยากสำหรับสถาบัน พ่อของการ์เซียร์นั้นเป็นคนมีชื่อเสียงอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากที่จะลงโทษลูกชายของเขาและก่อให้เกิดปัญหา ในที่สุด วินซ์ ก็ถูกบังคับให้ยกเลิกการไล่ออกหรือการให้ซ้ำชั้นแก่การ์เซียร์
การประชุมนั้นใช้เวลา2-3ชั่วโมง สุดท้ายก็จบลงด้วยที่ผู้นำตระกูลคาร์เตอร์มาปรากฏตัวผ่านลูกบอลคริสตัลเวทมนต์และพูดว่า
-ฉันรู้สึกเสียใจอย่างมากกับการกระทำของลูกชายที่โงเขลาของฉัน
ผู้นำตระกูลคาร์เตอร์นั้นไม่ได้พยายามแก้ตัวให้กับการ์เซียร์ ในฐานะที่เขาเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาอย่างมาก แต่เขาขอให้วินซ์นั้นช่วยลดโทษให้ ผลลัพธ์ก็คือ ครูใหญ่ของสถาบันเบอร์เจ้นก็ตัดสินใจละทิ้งการตัดสินของวินซ์
“มันน่าผิดหวัง แต่ อาจารย์ใหญ่นั้นกลัวว่าจะมีปัญหาในอนาคตถ้าเขาตัดสินใจผิดพลาด”
วินซ์นั้นอธิบายถึงสถานการณืก่อนจะหยุดพูดสักครู่ จากนั้นเขาก็จิบกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานเขา เขาค่อนข้างไม่พอใจในตัวอาจารย์ใหญ่ แต่ในทางกลับกันธีโอไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักในเรื่องนี้
“ฉันพูดนานไปแล้ว ฉันควรจะเข้าประเด็นหลักได้แล้ว?”
หลังจากนั้นวินซ์ก็หยิบอะไรบางอย่างออกมา มันเป็นจี้ที่สวยงามสร้อยทำจากเงิน ธีโอรู้สึกได้ถึงพลังเวทย์มหาศาลที่มาจากอัญมณีสีแดงที่อยู่ตรงกลาง
ธีโอเบิกตากว้างทันทีเมื่อเห็นมัน
‘มันเป็นอุปกรณ์เวทมนต์!มันมีพลังเวทย์มากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา’
ถ้าเขาได้กินมันไปมันอาจจะช่วยให้เขาใกล้เข้าสู่ครึ่งก้าวของผู้ใช้เวทย์ขั้น4ได้ จากนั้นศาสตราจารย์วินซ์ก็บอกถึงที่มาของจี้นี้
“เปลวเพลิงคำราม(Roaring Flame) คือชื่อของมัน”
“เปลวเพลิงคำราม...?”
“ใช่ มันเป็นสิ่งที่การ์เซียร์ใช้ในการสู้กับเธอ”
อันที่จริงมันเป็นเพราะอำนาจของจี้นี้ ธีโอพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว คำพูดนี้ช่วยตอบข้อสงสัยให้เขาได้ว่าการ์เซียร์ที่เป็นผู้ใช้เวทย์ขั้น3สามารถใช้เวทย์ กระสุนเพลิงได้อย่างไร(Blaze Shell) มันเป็นเพราะอำนาจของ’เปลวเพลิงคำรามนี่เอง’
อย่างไรก็ตามความประหลาดใจของเขายังไม่หมด
“เอาไปสิ”
“-เอ๋?”
ศาสตราจารย์วินซ์ได้โยนมันมาให้เขา
อุปกรณ์เวทย์ที่มีมูลค่าอย่างน้อย 100 เหรียญทองและเป็นที่ต้องการของเหล่าจอมเวทย์ ได้ถูกโยนขึ้นไปในอากาศ ธีโอ รีบยกมือคว้ามันอย่างทุลักทุเล
ก่อนที่ธีโอจะได้เอ่ยปาก วินซ์ ก็กล่าวว่า “เธอนั้นไม่ได้รับคำขอโทษจากทางสถาบัน แต่อย่างไรก็ตาม เธอได้ถูกโจมตีด้วยอุปกรณ์เวทย์ชิ้นนี้ ‘เปลวเพลิงคำราม’ได้ถูกส่งให้เธอเป็นการขอโทษโดยผู้นำตระกูลคาร์เตอร์
การมอบอุปกรณ์เวทย์แบบนี้เป็นการขอโทษ... ไม่มีใครในอาณาจักร เมลทอร์ จะทำเช่นนี้แน่นอน ธีโอนั้นไม่เชื่อ วินซ์นั้นจึงอธิบายเพิ่ม
“เพื่อการ์เซียร์จะได้รับโทษพักการเรียน1เดือน ฉันได้เลือกข้อเสนอนี้โดยไม่ได้ปรึกษาเธอ ดังนั้นถ้าเธอไม่พอใจและเลือกที่จะคืนจี้เส้นนี้ การ์เซียร์ก็จะถูกไล่ออก”
“…..ผมพอใจครับ ศาสตราจารย์!”
“ฉันก็คิดอย่างนั้น”
ธีโอนั้นกำลังตะลึงกับโชคลาภที่มาอย่างฉับพลันของเขา วินซ์ยิ้มและหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้ง ไม่ว่าการ์เซียร์นั้นจะได้รับบทลงโทษใดๆมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับธีโอดอร์ และการ์เซียร์จะไม่พอใจอย่างมากอีกด้วยถ้าเขาได้รับการลงโทษที่รุนแรง
‘เอาละ ฉันน่าจะเป็นผู้ใช้เวทย์ขั้น4ได้ก่อนจบการศึกษาแน่ๆ’
เกิดความเงียบไปชั่วขณะ มือของธีโอนั้นรู้สึกร้อนรุ่ม เขาอยากจะใช้ การประเมิน ในตอนนี้เลย วินซ์นั้นหลับตาและลิ้มรสกาแฟของเขา อย่างไรก็ตามความเงียบนั้นถูกทำลายในไม่ช้าด้วยเสียงของวินซ์
“ต่อจากนี้ไปเป็นคำถามส่วนตัวของฉัน”
คำถามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้มาแล้ว ความตึงเครียดเกิดขึ้นในทันที ใบหน้าของธีโอนั้นมืดหม่นทันที
“ฉันไม่สงสัยในความสามารถของเธอ ไม่สิ ทุกคนที่เข้าใจตัวเธอจะไม่รู้สึกสงสัยเลย ฉันไม่ได้บอกเธอไปแล้วงั้นหรือ? ธีโอดอร์ มิลเลอร์ ถ้าเธอมีสัมผัสเวทย์และความเข้ากันได้กับเวทย์มากแค่เล็กน้อย เธอก็จะจบด้วยคะแนนลำดับต้นๆเมื่อสามปีที่แล้ว”
การแสดงออกของธีโอนั้นกลายเป็นเครียดมากขึ้นกว่าเดิม ธีโอดอร์ นั้นมีพรสวรรค์ที่ดี แต่ไม่มีใครในสถาบันนั้นรู้ นอกจากศาสตราจารย์วินซ์เพียงคนเดียว
“อย่างไรก็ตาม นั่นคือขีดจำกัดของเธอ มันไม่มีทางที่จะเพิ่มสัมผัสเวทย์และความเข้ากันได้กับเวทย์ได้ และฉันรู้สึกเสียใจในเรื่องนี้มาก”
แต่-
วินซ์มองมาที่เขาด้วยสายตาที่เฉียบคม
“ตั้งแต่ช่วงฤดุหนาวที่ผ่านมานั้นเธอได้เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่เปลี่ยนไป เธอแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง”
ถึงแม้ธีโอจะได้รับประสบการณ์จากอัลเฟรดมาก็จริง แต่เขาก็ยังไม่สามารถสู้กับวินซ์ได้ วินซ์เป็นอดีตจอมเวทย์สงครามและเป็นคนที่ทรงพลังอย่างมากเขาเป็นผู้ใช้เวทย์ขั้น 6 ถ้าธีโอ สู้กับเขา 100ครั้ง เขาก็จะตาย100 ครั้ง
โชคดีที่วินซ์แค่กำลังสอบสวนเขา เขาไม่ได้มีความไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อย
“ไม่เป็นไรถ้าเธอไม่อยากตอบ เธอเป็นคนดี ฉันเชื่อว่าเธอไม่ได้ใช้วิธีการสกปรกเพื่อให้ได้พลังนี้มา”
“ศาสตราจารย์...”
“แต่ถ้าเธอคิดว่าฉันเป็นอาจารย์ของเธอ ฉันสงสัยว่ามีอะไรที่ฉันจะสามารถช่วยเธอได้หรือไม่”
‘ฉันต้องการที่จะสอนเธอ ธีโอคิดว่าเขาต้องการจะสื่อเช่นนั้น’
‘นี่เป็นทางแยกที่เขาต้องเลือก’
ชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เขาเลือก เขาควรจะบอกวินซ์หรือจะเก็บมันไว้เป็นความลับ?
ถ้าเขาปกปิดมันไว้ชีวิตของเขาก็จะเหมือนเดิม เขาจะยังคงกินหนังสือในห้องเรียน และได้รับใบเรียนจบ แต่มันจะเป็นแบบนั้นจริงงั้นหรอ?
หนังสือที่เขาจะนำออกมาจากห้องสมุดได้มีจำกัด ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ความตะกละ ได้กินหนังสือไปมากกว่าร้อยเล่มแล้ว เขาได้ซ่อนไว้โดยการย้ายตำแหน่งชั้นวาง แต่ถ้าใครบางคนสังเกตุแล้วละก็มันก็จะดูออกได้
อย่างไรก็ตามถ้าเขาบอกกับ ศาสตราจารย์วินซ์แล้วละก็เขาก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้
‘ไม่ เรื่องนี้มันไม่สำคัญ’
มันเป็นเรื่องรอง เขาต้องมองไปที่ประเด็นหลักของสถานการณืนี้
ธีโอมองไปที่ศาสตราจารย์วินซ์ อย่างเคร่งเครียด มันเป็นคำถามง่ายๆ...
..เขาควรเชื่อใจ วินซ์ไหม?
“ศาสตราจารย์”
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความเงียบ ธีโอ ก็ได้ตัดสินใจแล้ว
ปล.พวกอุปกรณ์เวทย์กับเวทมนต์ชอบชื่อแบบไหนครับอังกฤษหรือไทย