ตอนที่แล้วLSG- บทที่ 80 ทำร้ายจุดสำคัญ (อ่านฟรีวันที่9กันยา)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปLSG-บทที่ 83 เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง (ตอนที่ 3) (อ่านฟรีวันที่15กันยา)

LSG-บทที่ 81 เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง (ตอนที่ 1) (อ่านฟรีวันที่11กันยา)


LSG บทที่ 81

แปลไทยโดย : SwordGod

ลอร์ดกระบี่ไร้สรรพสิ่ง (ตอนที่ 1)

ณ สถานที่จัดงานแลกเปลี่ยนเชิงวิชายุทธ

ในขณะนั้นสถานที่แห่งนี้เงียบสนิททุกสายตาจับจ้องไปที่บุคคลที่อยู่ในชุดอาภรณ์ท่ามกลางตระกูลซู

ใบหน้าของเขานั้นขาวซีดเหงื่อแตกซิกออกมา ด้วยการดวยสายตาที่จับจ้องหัวเข่าไร้เรี่ยวแรงเกือบทรุดปากสั่นระริก

ในอีกด้านหนึ่งชายร่างกำยำที่เต็มไปด้วยเครื่องแต่งกายสุดหรูและตกแต่งด้วยเครื่องรางกระจุกกระจิกกำลังดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมาก

บรรยากาศค่อนข้างแปลกตา

“เฮ้! ว่าไง!” ในขณะนั้น ชายร่างกำยำพลันก็พุดออกมา ด้วยท่าทางหัวร่อเย้ยหยัน "ทำไมเจ้าต้องทำให้ทุกคนทีนี่ต้องเสียเวลากัน? หากเจ้าตอบไม่ได้ก็ออกไปฟังข้างนอกพร้อมกับตระกูลซูของเจ้าซ่ะ! "

"เจ้า ... เจ้าหุบปาก บิดาเจ้าผู้นี้แค่ลืมคำตอบ ให้ข้า ... ให้ข้านึกแปบนึงสิ "

ซูฮัวหยู โกรธจนหน้าเปลี่ยนสี

"หึ ข้างจะให้เวลาเจ้าครึ่งชั่วยาม!"

อู๋กง แผดเสียงออกมาอย่างแข็งกร้าวยืนกอดอกมั่นใจตัวเองสุดๆ

เพื่อจะทำให้ตระกูลซูกระเด็นออกไปมันกำลังเปี่ยมไปด้วยความสุข

"ข้ารู้สึกเป็นเกียรติและให้ความบันเทิงแก่เจ้าทุกคน แต่สิ่งที่ข้าได้รับก็คือการปฏิเสธ ฮัมพ์เจ้าเป็นเพียงตุ๊กตา แต่มีความกล้าที่คึกคะนอง ข้าจะทำให้พวกเจ้าทุกคนรู้ว่าข้ามีอิทธิพลมากแค่ไหน! "

อู๋กง หัวเราะอย่างเย็นชา

นายหญิงดาราม่วงไม่สามารถทนต่อสิ่งที่กำลังแฉอยู่ด้านหน้าของนางได้ แม้ว่านางจะเป็นอาจารย์ใหญ่ของ สำนักวิชาดาราม่วง ด้วยการเพาะปลูกที่ลึกซึ้งและมีอิทธิพลอย่างมาก แต่ก็ยังไม่ควรนำเอาสุภาพสตรีที่สุภาพอ่อนโยนไปใช้ ถ้าจะพูดถึงมิตรญาติ ความเที่ยงธรรม สำนักวิชาดาราม่วง ไม่อาจเทียบได้กับ นิกายอนัตตา พิจารณาภาพรวมทั้งหมดแล้ว นายหญิงดาราม่วงตัดสินใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นดีที่สุด

"การเคลื่อนไหวทางจิต!"

เมื่อถึงจุดนี้เสียงที่คมชัดและชัดเจนสะท้อนออกมาราวกับว่าระฆังดังขึ้นและทำลายความเงียบ

อู๋กง สงวนท่าทีไว้และมองไปข้างหน้าพบว่าเสียงที่เกิดขึ้นมาจากหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆซูฮัวหยูสวมชุดเครื่องแต่งกาย จอมยุทธ สีขาวบริสุทธิ์พร้อมกับวิหคเพลิงสีทองอยู่ด้านบน ชิงเอ๋อ

อู๋กงลนลานอย่างรีบร้อน "ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะตอบว่าควรจะเป็นซูฮัวหยู! อย่าเข้ามาสอด หรือว่าเจ้าจะทำลายกฎ! "

แต่ทว่า ชิงเอ๋อ นางไม่ได้สนใจริมฝีปากน้อยๆสีแดงของนางยังพูดต่อ "เมื่อช่อง ลมปราณเปิดขึ้น เพื่อให้ได้รับศักยภาพที่แท้จริงของบุคคล ต่อเมื่อเขาปลูกฝังลมปราณผ่านการเคลื่อนไหวทางจิตวิญญาณ ยังจะมีข้อสงสัยใดอีกมั้ย ... "

เสียงที่ไหลล้นไปทั่วทุกทิศทุกทางและแผ่กระจายไปทั่วลานจัสตุรัสผู้คนฟังอย่างเงียบ ๆ และค่อยๆหลงใหล

หญิงสาวคนนี้ที่ไม่ได้ปทินโฉมหน้านางแต่ยังคงความงดงามอยู่บนใบหน้าและเต็มไปด้วยความรู้ความเข้าใจและคำอธิบายอย่างชัดเจน ปิดท้ายด้วยเสียงที่มีเสน่ห์ของนาง ที่กัดกินลึกยากจะหยั่งถึงจนหลายคนหวยหา

นายหญิงดาราม่วงที่กำลังนั่งอยู่ที่ชั้นบนพยักหน้าอย่างต่อเนื่องและมองไปที่ชิงเอ๋ออย่างยอมรับ

ตัวแทนหลายคนที่มาร่วมงานได้มีประกายตาสว่างวาบ น่าแปลกใจ ที่แม้แต่ มู่เฟิง ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องยังมองไปที่ชิงเอ๋อ อย่างช่วยไม่ได้

"เจ้าทำลายกฏ! พวกเจ้าทั้งหมดแพ้แล้ว! ข้าได้พนันกับ ซูฮัวหยู ไม่ใช่เจ้าเพราะฉะนั้นเจ้าจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะตอบ! "

อู๋กง โกรธจัด

คำถามนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายดังนั้นนักเรียนระดับกลางคงไม่เข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง เฉพาะตัวแทนนักเรียนที่โดดเด่นบางรายเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้

หลังจากที่ อู๋กง ร้องโวยวายขึ้น ทุกคนจึงรู้ว่า ตระกูลซู ได้ให้คำตอบที่ถูกต้อง

แม้ว่า ชิงเอ๋อ ได้หักกฏเกณฑ์ที่ทั้งสองฝ่ายที่ได้ตั้งไว้และตอบทันที แต่นางยังคงพิสูจน์ให้เห็นว่านางมีคุณสมบัติที่จะมีส่วนร่วมในงานแลกเปลี่ยนเชิงยุทธในปีนี้และพิสูจน์ให้เห็นว่า ตระกูลซู มีความสามารถที่แท้จริง! สิ่งที่ อู๋กง ได้กล่าวอ้างไว้ตอนนี้ได้สลายหายไปแล้ว ดังนั้น ... ความยากลำบากทั้งหมดที่เขาสร้างขึ้นสำหรับตระกูลซูกลายเป็นไร้ความหมาย

ตอนนี้ ชิงเอ๋อ ได้ปลุกปั่นสถานการณ์เช่นนี้บรรยากาศก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง อู๋กง โกรธมาก แต่เขาไม่สามารถทำอะไร ชิงเอ๋อ ได้

ตรงกันข้ามกับ ซูฮัวหยู ที่ตกหลุมพราง และหัวเราะอย่างบ้าคลั่งว่า "ใช่แล้ว! "ใช่แล้ว! นี่คือคำตอบข้าจำได้ว่านี่คือการเคลื่อนไหวทางจิตวิญญาณ ...อือ... ไม่ว่าเจ้าจะคิดยังไงก็ตามเจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าก็ตั้งใจจะตอบแบบนี้แหละ "

หน้าอก อู๋กง โป่งพองขึ้นด้วยความโกรธหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำและตะโกนว่า "การตอบคำถามหนึ่งข้อไม่ได้หมายความว่าเจ้าตอบได้ เจ้าจะต้องตอบคำถามอย่างน้อย 3 ข้อเพื่อพิสูจน์ว่าเจ้ามีคุณสมบัติ!"

"คำถามสามข้อ?" ซูฮัวหยูหวาดหวั่น

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าคำถามนั้นง่ายมากเขาจึงยืนหยัดด้วยความมั่นใจ เมื่อเขาได้ยิน อู๋กง ถามคำถามแรกเขาก็ตะลึง เขาเคยอยู่ในการเพาะปลูกด้วยจิตวิญญาณมานานแล้ว แต่เขาไม่เคยได้ยินเงื่อนไขใด ๆ เลยดังนั้นเขาจะรู้คำตอบได้อย่างไร?

อู๋กง ปฏิเสธที่จะยอมแพ้ แต่ ซูฮัวหยู หัวหดเงียบลงไป

ถึงแม้จะเป็นตัวแทนของตระกูลซูยองก็ตาม แต่เหตุผลที่ลึกๆที่เขามาแลกเปลี่ยนครั้งนี้ก็เพื่อที่จะเข้าไปใกล้ ชิงเอ๋อ เท่านั้น การบ่มเพาะของเขาไม่เหมาะกับ ชิงเอ๋อ และเขาไม่ได้พยายามหนักเท่า ชิงเอ๋อ ส่วนใหญ่เขาใช้ประคำยาและสิ่งแวดล้อมที่ดี แต่ ชิงเอ๋อ ต่างกัน นางพยายมอย่างหนักในการบ่มเพาะของนางและมีประสบการณ์ที่ดีในหนังสือหลายเล่ม การบ่มเพาะของนางถือว่าเป็นหนึ่งในหมู่สาวกที่ดีที่สุด พูดถึงพรสวรรค์นางแน่ใจว่าเป็นหนึ่งเดียว

"อาจารย์อู๋กง วันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนเชิงวิชายุทธ แห่ง สำนักวิชาดาราม่วง หากท่านต้องการแลกเปลี่ยนกับตระกูลซูเป็นการส่วนตัว ก็ขอเชิญท่านไปที่ด้านนอกได้เพื่อแลกเปลี่ยน ข้าขอให้ อาจารย์อู๋กง อย่าได้เสียเวลาอันมีค่าของทุกคนและหยุดพูดเรื่องไร้สาระนี้! "

ชิงเอ๋อ นางตั้งใจพูดให้อู๋กงน่าขัน

เมื่อ อู๋กง ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ระเบิดความโกรธที่ระงับไว้ทั้งหมดของเขาออกมาแล้วพูดว่า "เจ้า! เป็นแค่เด็กน้อยปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ริอาจมาสอนวินัยข้ารึ ? ดูเหมือนว่าหากข้ายังไม่ได้สอนบทเรียนเจ้า เจ้าคงจะไม่เข้าใจความแข็งแกร่งของข้า และนิกายอนัตตา ทรงพลังแค่ไหน! "

ด้วยคำพูดเหล่านี้ อู๋กง ลุกขึ้นยืนจากหิน ดูเหมือนเขากำลังจะตอบโต้

คนที่นั่งดูสิ่งที่เกิดขึ้นและรู้สึกผิดหวังอย่างสิ้นเชิงขณะที่พวกเขาส่ายหัว พวกเขาจะไม่มอง อู๋กง เป็ฯเหมือนแสงเดียวกันอีกครั้ง

ตั้งแต่ ชิงเอ๋อ ได้วางแนวทางไว้อย่างนั้น ผู้อาวุโส อู๋กง ที่ถูกมองว่าเป็น ผู้เชี่ยวชาญ แต่ตอนนี้ทุกคนสามารถเห็นเขาเป็นคนขี้ขลาดและใจแคบ

"อาจารย์อู๋กง!"

นายน้อย มู๋เฟิง แห่งสกุล มู่ พูด

อู๋กง ค่อยๆหันมาและมองไปที่ มู่เฟิง

"สิ่งที่ แม่นางชิงเอ๋อ กล่าวมานั้นใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล  นักวิชาการยุทธไม่ได้มารวมตัวกันที่นี่เพื่อมาดูท่านและตระกูลซูดังนั้นท่านน่าจะเงียบลงและฟังสิ่งที่นายหญิงดาราม่วงได้กล่าว? "

มู่เฟิง พูดอย่างเย็นชา

มู๋เฟิงคือใคร? เขาเป็นนายน้อยแห่ง สกุลมู่! มีความสามารถมากที่สุดในการบ่มเพาะจิตวิญญาณในเทือกเขาอาถรรพ์! มีลำดับชั้นแม้แต่นิกายอนัตตาจะต้องให้เกียรติพวกเขาดังนั้น อู๋กง จะกล้าล่วงเกินเขาได้อย่างไร?

ด้วยเหตุนี้ อู๋กง จึงถูกยัดด้วยลำดับชั้นที่น่าอึดอัดใจนี้นั่นเอง เขาลังเลและคร่ำครวญก่อนที่จะนั่งลง

"ได้!" ข้าไม่อยากติดตามการทะเลาะวิวาทที่ผ่านมาของท่าน ดังนั้นขอให้เรามาเข้าหัวข้อหลักของพวกเราวันนี้! "

การแลกเปลี่ยนดำเนินต่อ

อย่างไรก็ตามผู้คนจำนวนมากเริ่มมีความสนใจในตัวแทนรุ่นเยาว์จากตระกูลซูและหลายคนก็แอบถามตัวตนของนางอย่างลับๆ

ซูฮัวหยูมองไปที่ชิงเอ๋อและเต็มไปด้วยความโกรธที่ขยายขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่า ชิงเอ๋อ ช่วยเขาออกจากสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้เขาไม่ได้มีความสุข เพราะเขาเป็นบุตรของท่านผู้นำสูงสุด เขาควรจะเพลิดเพลินเป็นจุดสนใจของผู้คน

"นายน้อย ฮัวหยู!

ชิงเอ๋อ พึมพำ

"อะไร?"

ซูฮัวหยุ ขมวดคิ้วและถาม

"โปรดคำนึงถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ ไม่ว่า อู๋กง มันจะพูดอะไรก็ตามสิ่งที่เราต้องทำคือเพิกเฉยและเมื่อการแลกเปลี่ยนนี้สิ้นสุดลงเราจะกลับไปที่ ตระกูลซู ทันที อย่าได้เข้าร่วมกับ อู๋กง เดี๋ยวเรื่องมันจะไปกันใหญ่ มันไม่คุ้มค่า ! "

 

"เจ้ากำลังพูดอะไร? เจ้าคิดว่าข้าจะกลัว อู๋กง หรือ? “ฮึ่ม!” ชิงเอ๋อให้ข้าบอกกับเจ้านะ อย่าคิดว่าเพราะการบ่มเพาะของเจ้าอยู่ในระดับสูงและเจ้ามีความรู้ซึ่งหมายความว่าเจ้าสามารถก้าวข้ามทุกอย่างได้ อย่าลืมว่าเจ้าอญู่ในฐษณะอะไรที่จะมาตักเตือนข้า?

"ชิงเอ๋อ มิกล้า!"

"งั้นเจ้าก็หุบปากไปซ่ะ****!"

ผู้หญิงคนนี้มักจะยอมล่าถอยออกไปกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับนาง บางทีนางแค่อยากมีชีวิตที่เงียบสงบและมีเสถียรภาพแค่นั้นก็ได้

เห็นว่า ชิงเอ๋อ ไม่ต่อปากอีกต่อไป ซูฮัวอยู่ก็กรีดกายนั่งไขว้ขางลง เขาไม่สนใจนางอีกต่อไป

ฟิ้ววว! ! !

ในขณะนั้นลมกระโชกแรงเริ่มพัดผ่านลานจัสตุรัสของสำนักวิชาทั้งหมดฝุ่นบนพื้นยกขึ้นสู่อากาศผมและเสื้อผ้าของผู้คนเริ่มกระพือพับๆ

ผู้บ่มเพาะหลายคนที่มีระดับต่ำๆไม่สามารถต้านแรงลมหนาวได้แต่สั่นพับๆ พวกจับกันไว้สั่นสะท้าน

"เกิดอะไรขึ้น? ทำไมมันถึงหนาว?

"ระยำเอ้ย! อย่าบอกนะว่านี่ วายุสะท้านใจ? แต่ว่า ไม่ได้มีกำแพงต้านทานหรอ? มันมาถึงที่นี่ได้ยังไงกัน? "

"หนาวมาก…"

นักเรียนบ่น

ดูเหมือนว่าด้านนอกได้เกิดความวุ่นวายขนาดใหญ่

นายหญิงดาราม่วง รู้สึกไม่ด๊ ว่าการแลกเปลี่ยนวิชายุทธ ปีนี้ไม่ราบลื่นเหมือนครั้งก่อน

ตูม!!

ทันใดนั้น

การระเบิดดังขึ้นจากระยะไกล

ทุกคนกระโดดออกมาด้วยความตกใจ

ทุกคนยืนขึ้นทีละคนและมองไปในทิศทางที่ระเบิดดังขึ้น

"เกิดอะไรขึ้น!?"

นายหญิงดาราม่วง แผดเสียงร้องออกมา มือยังกุมไม้เท้าไว้แน่น

ขณะนั้น ผู้คุ้มกัน ที่ชุ่มไปด้วยเลือดวิ่งไปที่สำนักวิชา

ตามมาด้วย กลิ่นอายที่อัดแน่นไปด้วย ลมปราณปีศาจ หลายคนที่ได้เห็นต่างขนหัวลุก

“ท่านผู้นำ!” แย่แล้ว พวกปีศาจเหล่านั้นก็แอบเข้ามา! พวกมันลอบสังหารผู้คุ้มกันของสำนักวิชาของเราทั้งหมด! ตอนนี้พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ !! "

ผู้คุ้มกันตะโกนลั่น

พร้อมกับพูดออกมาด้วยเหงื่อที่แตกกราวออกมา

นายหญิงดาราม่วงนัยน์ตาฉายแสงแวบออกมาจ้องมองตะเบ็งเสียงว่า "เจ้าพูดว่าอะไร? ใครที่มันแอบเข้ามา? "

“ปีศาจ! นักบ่มเพาะลมปราณปีศาจ! นักบ่มเพาะลมปราณปีศาจมาเป็นโขยงเลย!”

ผู้คุ้มกันคนอื่นๆกรีดร้องออกมาน้ำตาไหลพราก

"นักบ่มเพาะปราณปีศาจ?"

"เป็นไปไม่ได้? ทำไมต้องเป็นนักบ่มเพาะปราณปีศาจ? "

"ไม่ ... พวกมันไม่ได้รุ่งเรืองอยู่ที่ทวีปปีศาจหรอ? ทำไม ... ทำไมพวกมัน ทำไมมัน ... ทำไมถึงมาที่นี่? "

"โอ้พระเจ้าแล้วตอนนี้เราจะทำยังไงกันดีล่ะ?"

บรรดานักเรียนตกใจจนเนื้อเต้นและเริ่มกรีดร้องไม่หยุดดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสยดสยอง

นานแค่ไหนแล้วครั้งสุดท้ายเจ้าสิ่งที่พระเจ้าสรรสร้างนี้ ทวีปปีศาจ ที่เข้ามายัง ทวีปจอมยุทธฟ้า? ทุกคนรู้ว่าปีศาจมีอยู่ในหนังสือและคำกล่าวขานเท่านั้น ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน

"ไม่มีร่องรอยหรือเหตุผลทำไม นักบ่มเพาะปราณปีศาจ ถึงได้บุกมา สำนักวิชาดาราม่วง ของข้ากัน? นอกจากนี้ ... พวกมันรู้ได้อย่างไรว่าพวกมันต้องแอบมาทางไหนโดยไม่มีใครรู้? เว้นแต่ ... มันจะมีสายลับซ่อนตัวอยู่ใน สำนักวิชาดาราม่วงของข้า! "

นายหญิงดาราม่วงพึมพำ นางพลันหยิบหินสีม่วงออกจากเอวของนางและโยนมันขึ้นไปในอากาศ

เมื่อหินถึงกลางอากาศมันระเบิดทันทีในทุกทิศทางเหมือนเป็นกลีบดอกไม้

นี่เป็นเพียงสัญญาณเตือนสำหรับสมาชิกและนักเรียนของ สำนักวิชาดาราม่วง เท่านั้น

"หัวหน้าผู้บัญชาการลอร์ดเมือง!"

อีกครั้งที่นายหญิงดาราม่วงหันไปรอบๆแล้วตะโกนไปทาง ลอร์ดเมือง แห่งเมือธาตุไฟเมือง

ลอร์ดเมือง ไม่ได้ตอบกลับ แม้ว่าจะเป็น นายหญิงดาราม่วงเรียก

นายหญิงดาราม่วง จ้องมองอย่างพินิจที่นั่งที่ลอร์เมืองนั่งอยู่ค่อยๆจางหายไปในอาศ

กึก !!!

มีหมอกสีแดงเลือดไหลพุ่งไปที่จัตุรัส

"ไม่นะ! พวกมันไล่สังหาญไปตามทางเรียบร้อย! "

มีผู้คนร้องตะโกนด้วยความสยดสยอง

"หนี! เร็วเข้า หนี! "

ตัวแทนที่ไม่รู้ว่าใครลุกขึ้นยืนและเริ่มร้องตะโกน

“รับไม่ได้!” นายหญิงดาราม่วงจ้องมองอย่างหนักแน่น"นี่คือเมืองธาตุไฟและนี่คือสำนักวิชาดาราม่วง พวกเราจะหนีไปไหน? ผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูกทุกคนได้มาชุมนุมกันที่นี่ทำไมเราไม่ร่วมมือกันและกำจันักบ่มเพาะปราณปีศาจ? "

"กำจัด นักบ่มเพาะปราณปีศาจ?"

ทุกคนตกใจ

หลังจากฟังเสียงเย็นเหมือนน้ำแข็งทะลุผ่านอากาศ

"กำจัดนักบ่มเพาะปราณปีศาจ? นายหญิงดาราม่วง! เพียงแค่อาศัยท่านนะหรอ? "

รังสีจากความมืดโบยบินจากระยะไกลมุ่งตรงไปที่หัวใจของ นายหญิงดาราม่วง!

นิ่งๆ และ ช้าๆนายหญิงดาราม่วง โบกไม้เท้าของนางในความพยายามที่จะปิดกั้น แต่ขณะที่นางกำลังจะยกไม้เท้าของนางร่างของนางก็สั่นเทา นางกระอักเลือดออกมาจากร่างของนาง!

ฉึก!

รังสีแห่งความมืดแทงร่างของนางด้วยความแม่นยำ นายหญิงดาราม่วงทรุดลงไปและล้มลงกับพื้น ...

แปลไทยโดย : SwordGod

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด