Chapter 122: Yihi’s Bizarre Adventure (1)
Chapter 122: Yihi’s Bizarre Adventure (1)
ผมเกิดมาในสนามรบ ผมใช้เวลาหลายสิบปีในสนามรบ.
อัตราการรอดตายในสนามรบต่ำกว่า 1% แม้กระทั่งเมื่อทุกคนที่ผมคิดว่าเป็นพันธมิตรก็ตาย ผมก็ยังมีชีวิตรอดได้.
เพราะฉะนั้น ... ผมคุ้นเคยกับการถูกทรมาน.
“ได้โปรด...”
อสุมันอยู่สถานะที่ไม่สามารถพูดได้มากมายนัก. เขาถูกปล้นและความกล้าของเขาก็ออกไป.หูและจมูกของเขาถูกตัดออก.ตาทั้งสองข้าง? พวกมันก็กายไปเช่นกัน.เท้าที่ถูกทำให้หายไปโดยสายฟ้าพระเจ้าก็กำลังถูกเผาอย่างต่อเนื่องเหมือนกับเนื้อ.
มีเหตุผลง่ายๆว่าทำไมเขาถึงยังไม่ตาย ยาชั้นสูงที่ทำโดยการบดใบของต้นไม้ต้นกำเนิด ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้เขาตายได้อย่างง่ายดาย.
“อสุมัน พระเจ้าของคุณไม่มีพลังแล้วตอนนี้.”
"ฆ่า...ฉัน...”
มันถูกทรมาณกว่า 10 ชม.แล้ว ผมทำทุกอย่างเท่าที่ผมคิดว่าทำได้ แบะความคิดของอสุมันก็พังทลายลงพลังของโอคูลอสก็เหมือนกัน.
‘นี้ก็เพียงพอแล้ว’
ความเจ็บปวดที่ผมทำได้มาถึงขีดสุดแล้ว.
ฉัวะ!
ผมใช้วาธตัดหัวของเขา.
ตายแล้ว ร่างกายของอสุมันกระจัดกระจายทันทีที่เขาตาย อย่างไรก็ตามผมไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้อสุมันไปอย่างสบายๆ.
ผมหันหัวของผมไปหาลิซที่เดิมตามผมมา.
“ลิซ.เก็บหัวที่เต็มไปด้วยพลังเวทย์ นี่เป็นแหล่งพลังเวทย์ชั้นยอด.”
“ขะ-เข้าใจแล้ว.” (ลิซมีนิสัยชอบพูดติดอ่าง)
พูดอีกอย่างนีงร่างกายของอสุมันจะถูกสร้างเป็นอันเดต ร่างกายของเขาจะได้รับความทุกข์ชั่วนิรันดร์ ผมอยากรู้ว่าโอคูลอสจะแสดงออกอย่างไรเมื่อผมให้เขาเห็นมัน.
ซูวววว์.
ในขณะเดียวกัน รอยแยกก็ปรากฎขึ้น รายการจากการประมูลเริ่มโผล่ออกมาทีละรายกาย.
'ฉันเดาว่ามันจะโผล่ออกมาตามดันเจี้ยนที่ผมอยู่ใกล้ที่สุด.’
ตอนแรกมันออกมาที่ดันเจี้ยนในเกาหลีแต่ตอนนี้ผมอยู่ในดันเจี้ยนที่จีนและมันก็โปโผล่ออกมาที่นี่ แสดงว่ามันโผล่ออกมาตามที่ๆผมอยู่.
"พวกเรานักรบจากชนเผ่าเคอร์ มาสเตอร์เราอยู่ที่ไหย?”
มีเสียงดังดังขึ้นในดันเจี้ยน.
เผ่าพันธุที่มีสองเท้าเป็นม้าและลำตัวกับหัวเป็นมนุษย์ นักรบจากเผ่าเคอร์ออกมาเป็นอันดับแรก.(ไรต์/ผมไม่รู้ว่าเป็นเซนทอร์หรือพวกที่คล้ายๆครึ่งแพะแบบเพอซี่แต่เป็นม้าแทนอะนะ)
ผู้นำเห็นผมอยู่หน้าร่างของอสุมันและหัวเราะ.
“ทรมาณ! พวกเราเผ่าเคอร์ชื่นชอบการทรมาณ!”
“เบาหน่อย.”
จิตใจของผมยังไม่สงบจากการทรมาณ หัวหน้าเผ่าเคอร์ลังเลเล็กน้อยก่อนจะก้มหัวลง.
"มาสเตอร์ ผมขอโทษ! นี่เป็นเสียงปกติของเผ่าเคอร์!”
ผมไม่รู้เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ส่งเสียงในการประมูล อาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นข้อตกลงในระหว่างประมูลมันอาจจะมีความผิดพลาดนิดหน่อย.
เผ่าเคอร์ประกอบไปด้วยนักรบ100คน แต่ละคนมีความสามารถเทียบเท่าขั้นกลางเลเวล5และมีนักรบระดับสูงปะปนอยู่ในนั้นเล็กน้อยผมไม่ลังเลเลยที่จะซื้อ.
'เยี่ยม ตราบเท่าที่พวกเขาสนุกกับการต่อสู้.’
ผมจะเอาใจใส่เขา ตราบเท่าที่พวกเขาทำตามคำสั่งของผม ผมจะปล่อยอะไรบางอย่างไปเล็กแบบนี้ไป.
วิ้งงง!
ความสนใจของผมได้หันไปมองหลังจากเผ่าเคอร์.
100 อินเฟอร์โนกำลังลงมาจากรอยแตก.
ม้าไฟอินเฟอโน พวกมันไม่ใช้สัตว์กินพืช พวกมันกินมอนเตอร์เช่นก๊อบลิน ออคหรือแม้แต่โทรล มันมีจำนวน100ตัว อย่างไรก็ตามผมไม่ได้ซื้อพวกมันมาเพื่อเพิ่มจำนวน
"ผมได้ยินมาว่าเผ่าเคอร์ขี่ม้าได้ ดังนั้นความสามารถของพวกคุณจะเพิ่มเป็นอย่างมาก.”
"ถูกต้อง!พวกเราสามารถล่าออกี้สองหัวเมื่อเราขี่อินเฟอร์โน!”
ผมพยักหน้า.ได้ยินมาว่าเผ่าเคอร์อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทุกคนมักจะพูดกันว่า, ‘พวกเขาจะแข็งแกร่งมากขึ้นหากได้ขี่ม้า.’ มีตำนานเล่าว่าเพววเขาสามารถล่าไฮดร้าได้ด้วยตัวคนเดียวหากได้ขี่เพกาซซัส. พูดให้ถูกก็คือเผ่าเคอร์เป็นยอดนักรบบนหลังม้า.
‘ยอดเยี่ยม.’
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะมีบทบาทสำคัญในการไล่ล่าโอคูลอสในดันเจี้ยนของเขา.
สิ่งต่อไปที่ออกมาจากรอยแตกคือลิซปากาแรม.
"อูวว, ผมสามารถรู้สึกได้ถึงออร่าแห่งความตาย.มันไม่ค่อยดีเท่าไร.นี่คือดันเจี้ยน?”
"ในฐานะที่คุณเป็นลิซคุณไม่คววรรู้สึกไม่ดีกับออร่าเหล่านั้น?”
ปาการามยิ้มเล็กๆและส่ายหน้า.
"อย่าเอาผมไปเปรียบเทียบกับลิซต่ำๆ ผมได้กลายเป็นลิซเพื่อที่จะวิจัยงานของผม แต่รากฐานของผมเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ งานของผมเกี่ยวข้องกับชีวิตไม่ใช่ความตาย.”
"ลิซ ชะ-ชั้นต่ำ?”
น่าเสียดายที่คนที่กลายเป็นลิซดูถูกความเป็นลิซต่อหน้าลิซตัวอื่น พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้.
ปาการามกล่าวต่อไป.
"อ่า, ผมขอเอาคำว่าชั้นต่ำคืน. ผมหมายถึงลิซเป็นได้แค่ขยะ.”
"แก ต้อง การ ตาย?”
"การต่อสู้เป็นพื้นฐานของคนไม่เจริญ”
“มะ-มาสเตอร์. อนุญาตให้ผม.”
ลิซมองมาที่ผม เขาไม่ต้องการต่อสู้ด้านหน้าผม ดังนั้นเขาจึงขออณุญาติผมก่อน.
“ผมไม่ให้.”
ลิซมองขมวดคิ้วต่ำลง.
ผมคุยกับปาการาม.
“ปาการาม.อย่ามาทำให้ดันเจี้ยนของผมเกิดปัญหา คุณเข้าใจไหม?”
"ผมรู้ ผมจะตั้งมั่นที่งานวิจัย.”
มันมีความไม่พอใจเล็กน้อยเล็ดลอดออกมา.
แต่ผมไม่ใส่ใจสิ่งพวกนั้น.
"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ผลลัพธ์จากการวิจัยของคุณ”
“...ขอบคุณ. ด้วยความสัตย์ จ่ายให้ผม5แสนแล้วผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าคุณค่าของงานวิจัยของผมมีมากแค่ไหน ผมมีความตั้งใจเป็นอย่างมาก คุณจะไม่เสียใจเมื่อคุณเชื่อมั่นในตัวผม ผมจะช่วยมาสเตอร์สร้างโฮมุนคลูสที่แข็งแกร่งและช่วยให้มาสเตอร์เป็นเดวิลให้ได้”
"นั่นคือความมั่นใจ.”
"ดังนั้นผมจึงอยากจะพูดสิ่งต่อไปนี้ ตามที่การประมูล ผมต้องการเครื่องมือ...”
ปาการามหยุดสักพัก เขาต้องการสอง-สามล้านแต้มมั้ง? จำนวนนี้ไม่ใช่ภาระของผม.
"ผมจะให้คุณเร็วๆนี้.”
“ตามที่คาดไว้มาสเตอร์ตระหนักถึงคุณค่าของผม!”
ปาการามผิวปากอย่างมีความสุข เขาไม่ได้ดูเหมือนลิซทั่วๆไปนัก หนังและอวัยวะภายในถูกยึดติดไว้เพื่อสร้างใบหน้ามนุษย์ มันแสดงให้เห็นความสามารถที่ดีและหลากหลาย.
รอยแยกปรากฎอีกครั้ง.
ราชินีนากา, ราชาคนแคระ และ 5คราเค่น พวกเขาค่อยๆออกมาจากรอยแยก.
แซ่กๆ - แซ่กๆ.
หางของราชินียากาส่งเสียงในขณะที่เธอวนไปรอยๆร่างกายของผม.มันอาจจะดูเหมือนว่าเป็นการกระทำที่หยาบคาย แต่ผมรู้ว่าเธอกำลังพยายามที่จะเรียนรู้กลิ่นกายของผม ดังนั้นผมจึงปล่อยเธอไว้คนเดียว. หลังจากที่เธอเคลือนที่ไปรอบๆตัวผมประมาณ20วิฯเธอก็ลดหัวลงซึ่งแปลว่ายอมแพ้.
ราชาคนแคระโค้งคำนับด้วยควววามกระวนกระวายใจ เขาอาจจะแตกต่างจากคนแคระคนอื่น นอกจากเคราที่เป็นสีน้ำเงินแล้วก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างออกไปจากคนแคระด้วยกัน.
5คราเค่นไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร อาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีน้ำแต่นั้นก็ดีแล้ว.
สิ่งแรกที่ผมเห็นคราเค่นเลยก็คือ ‘ใหญ่’ คาเค่นตัวเล็กสุดมีขนาใหญ่กว่า60เมตร. ตอนนี้ผมมีพวกเขาทั้ง5แล้ว.ชั้นบนสุดของดันเจี้ยนมันสูงและกว้างมากที่สุดแต่เมื่อเจอพวกเขาก็เหมือนกับว่าพื้นที่นี่เล็กไปเลย.
‘พวกเขาจะไม่ตายหากอยู่ในทะเล.’
มีศัตรูน้อยมากที่สามารถสู้กับคราเค่นในทะเลได้ แม้แต่มังกรก็ไม่สามารถสู้กับมันเมื่ออยู่ในน้ำ.
ผมสามารถมั่นใจถ้าผมวางมันในภูมิประเทศในทะเล.
ซู่มมมม!
รอยแรกเปิดออกอีกครั้ง.
‘ตอนนี้...’
ตัวสุดท้าย.
ปากของผมแม่มแน่นในขณะที่คิดถึง.
‘มาโก!’
สิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่มีพลังมากกว่ากริฟฟินและยักษ์ทดสอบ.
มาโกมองมาที่ผม.
ทุกอย่างถูกย้ายมาที่ดันเจี้ยนที่จีนผมจุงใช้มันเป็นรากฐานเพื่อการก้าวไปข้างหน้าการเตรียมการทั้งหมดของผมเพื่อเตรียมตัวโจมตีโอคูลอส.
คริสปี้ได้เอาสิ่งมีชีวิตที่สำคัญๆมาให้ ผมเตรียมพร้อมเคลื่อนทัพทันทีหลังจากที่ได้รับของจากการประมูล.
“มะ-มาสเตอร์. ยิฮิไม่สมควรได้รับมันจริงๆ. ดาบอัศวินของแฟร์รี่. ยิฮิไม่คู่ควรกับมัน.”
ยิฮิก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน แม้ว่ายิฮิจะไม่ชอบซิกซิก แต่เธอก็ต้องการให้ดาบเล่มนั้นกับเธอไป.
"ในกรณีของคุณมันก็เพียงพอแล้ว.”
ยิฮิได้รับการอัพเกรดเป็นแฟร์รี่ดั้งเดิม เธอผ่านการรับรองแล้ว.
"แต่...ราชาแฟร์รี่ได้มอบดาบเล่มนี้ให้กับแฟร์รี่ชั้นยอดเท่านั้น ครั้งสุดท้ายที่ราชาแฟร์รี่มอบให้ใครสักคนเมื่อ20,000ปีมาแล้ว ยิฮิฮิ แต่ฉันก็ดีใจที่เห็นมัน.”
“ยิฮิ.”
“ค่ะมาสเตอร์.”
"รับมัน.”
"ค่ะ..."
ยิฮิลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะหยิบดาบขึ้นมา มันมีขนาดยาว 30 ซม.มันคล้ายดาบแต่มันก็มากกว่าดาบ อย่างไรก็ตามเมื่อคิดตามถึงขนาดของแฟร์รี่มันก็เข้าใจได้.
ในขณะที่ยิฮิกำดาบแน่น.
“เอ๋ เอ๋?”
แสงออกมาจากดาบและสร้างประตูขนาดเล็กๆออกมา.
จากนั้นประตูก็ดูดยิฮิเข้าไป
- ‘ดาบของอัศวินแฟร์รี่’ จะทำการทดสอบแฟร์รี่ ‘ยิฮิ.’
แฟร์รี่ ‘ยิฮิ’ จะถูกย้ายไปที่ห้องทดสอบ. |
‘ฉันไม่คิดว่ามันจะเกิดแบบนี้.’
ถูกบังคับให้เข้าไปอีกมิติ.
ดูเหมือนกับว่ามันจะเป็นสถานที่แยกต่างหากเมื่อผมทำการตรวจสอบ ผมพยายามใช้พรแฟร์รี่เพื่อติดต่อกับเธอ แต่ก็ได้รับเพียงความเงียบตอบกลับมา.
“มะ-มาสเตอร์ของฉัน คุณแฟร์รี่ ได้หายไปแล้ว.”
คริสปี้พูดด้วยสายตาที่เบิกกว้าง.
“…มันไม่ใช่เรื่องใหญ่”
เธอหายไปและการเชื่อมต่อก็หายไปด้วยเหตุผลบางอย่าง.
ไม่มีอะไรที่ผมทำได้ ผมหวังว่าจะให้เธอกลับมาโดยไม่เป็นอันตราย มันอาจจะโหดร้าย แต่มีโอกาสที่เธอจะให้เวลานานและผมก็มีหลายสิ่งที่ต้องทำ.
'ฉันไม่สามารถรอได้ แม้เพียงเล็กน้อย.’
ผมไม่รู้ความตั้งใจที่แท้จริงของโอคูลอส โอคูลอสส่งให้กลุ่มของเขาเข้ามาโจมตี แต้ไม่มีการบอกว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ในขณะนี้.
นอกจากนี้โอคูลอสได้เห็นหน้าต่างสถานะของผมแล้วและยังได้เห็นฉายาของผมด้วย เขาอาจจะรู้สึกว่าแต้มที่เหลือได้มาจากดันเจี้ยน.
เพื่อที่จะบรรเทาความกังวลของผม ผมต้องเคลื่อนไหวไปหาโอคูลอส.
“คาซ่ารับมัน.”
“ขอบคุณ.”
ความแปรปวนอยู่ในสายตาของคาซ่าเมื่อเขาได้รับเกราะมังกร.
ทัสมาลได้รับหมวกมั่นคงและคริสปี้ก็ได้รับสกิลสื้อสารทางจิตวิญญาณแฝด จิตวิญญาณแฝนนี้เพื่อเอาไปใช้กับรอยและโรส.
‘ยิฮินี่คือโอกาสที่จะแสดงความสามารถของคุณ.’
ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีใครคิด!
ถ้ายิฮิมีพลังนั้นเธอจะผ่านการทดสอบ.
ถึงแม้ว่าผมยังรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่ก็ตาม ... ตอนนี้ผมไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว.
* * * *
ไอ้บัญทึกอะวิญญาณแฝดนี่อาจจะเป็นของคริสปี้ และคริสปี้ก็ใช้มันติดต่อกับรอยและโรสเพื่อแชร์ประสบการณ์กันตามที่ผมเข้าใจอะนะเพราะว่ามันไม่ได้เป็นบัญทึกอันที่ผมแปลตอนแรก มันมาถึงก็เป็นการสื่อจิตของแฝดไปซะงั้นผมเลยเปลี่ยนๆเพื่อความลื่นไหล ถ้าตอนหน้ามันเฉลยมากกว่านี้ก็ค่อยรู้กัน