ตอนที่แล้วตอนที่ 30 เสือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 32 สำนักดาบมังกร

ตอนที่ 31 รางวัล


“ท่านหัวหน้า ท่านทำอย่างนี้ไม่ได้”นักล่าคนอื่นๆรีบพยายามที่จะขัดขวางการตัดสินใจ

 

 

 

หลี่ฉิงชาน รู้สึกประหลาดใจอยู่ข้างใน เขาต้องการที่จะมอบธนูของตนเองให้กับเขาจริงๆ ความเกี่ยวพันกันระหว่างธนูกับเจ้าของไม่ได้ขาดจากกันเมื่อธนูถูกมอบให้ผู้อื่นดังนั้นหลี่ฉิงชานจึงปฏิเสธ“ท่านหัวหน้า สุภาพบุรุษไม่ฉกฉวยของมีค่าของผู้อื่น ข้าไม่กล้าจะรับรางวัลที่ดีเช่นนี้ สิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อก่อนหน้านี้แค่ล้อเล่น!”

 

 

 

เสือป่วยสีเหลืองลูบธนูไปมาราวกับพูดกับตนเอง“ธนูผ่าศิลาคันนี้อยู่กับข้ามาหลายปี มันใช่งานง่ายและช่วยทำให้ข้าสร้างชื่อเสียงในโลกแห่งการต่อสู้นี้ได้ ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วและข้าก็พบเจ้าของที่เหมาะสมสำหรับมันแล้ว”

 

 

 

“ข้าเคยได้ยินเจ้าพูดว่าธนูของปู่ซางนั้นเบาเกินไป นี่คือธนูเหล็ก ความหนักของมันเท่ากับหินสามก้อนเต็มๆ แม้กระทั่งผู้ฝึกฝนวิชาทั่วไปก็ไม่สามารถใช้มันได้ จงยอมรับมันไปซะ อย่ามัวรวนเร” เสือป่วยสีเหลืองยื่นธนูผ่าศิลาไปให้หลี่ฉิงชาน

 

 

 

หลี่ฉิงชานรู้สึกหนักๆที่ฝ่ามือของตนเมื่อถือธนูผ่าศิลา เขานึกไปถึงอดีตในตอนที่เสือป่วยยื่นอยู่บนก้อนหินและทวงท่าที่สง่างามของเขาในขณะที่ฆ่าคนราวกับฆ่าหมา

 

 

 

อันที่จริงแล้วคันธนูนี้ไม่เหมาะสำหรับการล่าสัตว์แต่เหมาะสำหรับการฆ่าในสมรภูมิมันเป็นอาวุธที่ทำขึ้นสำหรับการฆ่าคนโดยเฉพาะอย่างแท้จริง

 

 

 

นิ้วของเขาลูบสายธนูขึ้นลงไปมา ด้ายโลหะผสมอยู่ภายในและมันคมมาก คนธรรมดาสามารถใช้มันได้ถ้าสวมแหวนไว้ที่นิ้วแต่กับเขาที่มีทักษะหนังวัวอสูรผันแปรมันไม่ได้เป็นปัญหากับเขา

 

 

 

เสือป่วยสีเหลืองแสดงท่าทางไว้วางใจกำเด็กกำพร้าผู้นี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดชัดเจน แต่ก็ทุกสิ่งที่เกิดในที่นี้ทุกคนได้เห็นหมดแล้ว ไม่มีใครพูดขึ้นมาเพื่อคัดค้านการตัดสินใจของเขา นี้ไม่ใช้เพียงชื่อเสียงและอำนาจของเสือป่วยเท่านั้นหลี่ฉิงชานก็ ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาต่อหน้าทุกคนเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

พวกเขาไม่จำเป็นต้องถามเลยว่าหลี่ฉิงชานมีความสามารถพอที่จะเป็นผู้นำพวกเขาได้หรือไม่ บางทีไม่ว่าชาวบ้านจะเชื่อหรือไม่ว่านี้มันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่ยอมรับผู้ที่มีพลังอำนาจมากกว่าเช่นเดียวกับฝูงหมาป่า หมู่บ้านม้าเป็นดั่งเช่นฝูงหมาป่าและเสือป่วยสีเหลีองอยากให้หลี่ฉิงชานมารับตำแหน่งราชาหมาป่าแทน

 

 

 

นี้เป็นการตัดสินใจของเขาหลังจากที่คิดมานาน พวกขุนนางมักไม่ได้แสดงประสงค์ดีใดๆต่อหมู่บ้านม้าและยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาได้มีความบาดหมางกับหมู่บ้านราชาโสม พวกเขาดูเหมือนว่ามีความเกรงขามและน่ากลัวแต่ในความเป็นจริงอันตรายแฝงตัวอยู่ทุกด้าน แม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะคนมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น แต่ก็ไม่มีใครสามารถยับยั้งสิ่งที่มองไม่เห็นเหล่านั้นได้ มีเพียงหลี่ฉิงชานเท่านั้นที่สามารถทำได้

 

 

 

หลี่ฉิงชานรู้สึกราวกับว่าอยู่ในความฝันขณะที่เขาถือธนูผ่าศิลา ไม่กี่เดือนก่อน เขาเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญที่สุดของชาวบ้านในหมู่บ้านวัวหมู่หมอบคนเลี้ยงวัวผู้ต่ำต้อย

 

 

 

จากนั้นไม่กี่เดือนถัดมา เขามีโอกาสได้กลายเป็นนักล่าที่มีพรสวรรค์และมีชื่อเสียงของหมู่บ้านม้า แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ยอมรับ“ท่านหัวหน้า ข้าจะรับธนูนี่ไปและขอบคุณอย่างสุดซึ้งแต่ความจริงวันนี้ข้าจะบอกลาท่าน”

 

 

 

หลังจากคำพูดของหลี่ฉิงชานก็เกิดความวุ่นวายขึ้น ทุกคนรู้สึกว่าหลี่ฉิงชานเป็นคนไม่รู้จักบุญคุณของผู้อื่น แม้ว่าเสือป่วยสีเหลืองยจะเข้าใจถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพของหลี่ฉิงชานแต่เขาก็แสดงสีหน้าไม่ชอบใจเล็กน้อยเมื่อถูกปฏิเสธต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้

 

 

 

"อย่างไรก็ตามข้าจะไม่รับธนูนี้มาเปล่าๆ“หลี่ฉิงชาน กลับไปที่บ้านของเขาและหยิบขวดไวน์ขนาดเล็กเขามอบมันให้กับเสือป่วยสีเหลือง”นี่คือเหล้าสมุนไพรที่อาจารย์ของข้าทิ้งไว้บางทีมันอาจจะสามารถรักษาโรคของท่านได้”

 

 

 

“จะ จะเจ้าพูดความจริงใช่ไหม”มันเกี่ยวข้องกับความเป็นตายของเขาเสือป่วยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แม้กระทั่งคนอื่นๆก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมา

 

 

 

หลี่ฉิงชานยิ้มอย่างยิ้มในขณะที่เขาพูด“ไม่มีอันตรายใดถ้าจะลอง”นีคือเหล้าจิตวิญญาณที่ถูกแช่ด้วยโสมวิญญาณ แม้ว่าเขาจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องยา เขาก็ยังเข้าใจเรื่องอาการป่วยของเสือป่วยสีเหลืองเล็กน้อย หลังจากเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่อ่อนแอและได้ใช้พลังงานจากธรรมชาติทั้งหมดของเขาหลังจากฝึกฝนมาหลายปี เขาผลักดันตนเองจนสามารถฝึกฝนกำลังภายในได้สำเร็จ

 

 

 

โรคแบบนี้เป็นโรคที่แม้แต่หมอผู้ปราดเปรื่องในเต๋าแห่งยายังยากที่จะหาวิธีรักษา นี่คือการเจ็บป่วยโดยธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นโสมหรือเห็ดหลินจือก็อาจเป็นวิธีการรักษา แต่โสมวิญญาณมีพลังปราณในธรรมาชาติอยู่ภายในเล็กน้อยและสามารถช่วยชีวิตเขาได้

 

 

 

เสือป่วยสีเหลืองดื่มเหล้าจิตวิญญาณลงไปหนึ่งอึกและนั่งสมาธิจากนั้นเริ่มโคจรพลังภายในของเขา ครู่ต่อมา เศษเสี้ยวไอพิษไหลออกมาจากหัวของเขา ใบหน้าสีเหลืองของเขาที่ดูเหมือนดูเคลือบไว้ด้วยขี้ผึ้งคืนสภาพกลับเป็นสีแดงจากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นมาหลังจากผ่านไปพักใหญ่

 

 

 

“ท่านหัวหน้า.......รู้สึกอย่างไรบ้าง”หนึ่งในนักล่าเหล่านั้นถาม

 

 

 

เสือป่วยลูบหน้าอกตัวเองพร้อมกับความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ“ข้ารู้สึกดีขึ้นมาก”ไม่เพียง แต่ดีขึ้นเท่านั้นมันดีขึ้นมากดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนราวกับว่าเขากับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง

 

 

 

เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีดังก้องออกมาพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งออกมาของนักล่ามากมายรอบๆ คนที่ตอนแรกรู้สึกอย่ากจะไล่และเกลียดชังหลี่ฉิงชานทั้งหมดต่างเปลี่ยนทัศนคติของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาจับมือและต่างแสดงความขอบคุณนับพันครั้งก็คงไม่สามารถแสดงความขอบคุณได้หมด

 

 

 

หลี่ฉิงชานยกธนูผ่าศิลาขึ้น“ในกรณีนี้มันคงหยาบคายหากข้าปฏิเสธที่จะรับธนูคันนี้”

 

 

 

เสือป่วยสีเหลืองแสดงท่าทีอักอ่วนเล็กน้อย“เกี่ยวกับเรื่องนั้น..........ฉิงชาน.....เราจะเปลี่ยนรางวัลได้ไหม....”ตอนนี้เขารอดพ้นจากความตายเขาก็ไม่สามารถทนทิ้งคู่หูเก่าเขาได้

 

 

 

“ไม่มีทาง!”หลี่ฉิงชานขัดจังหวะและปฏิเสธขึ้นมาทันที“สำหรับคนภูเขาแล้ว คำพูดของพวกเขาต้องหนักแน่นราวกับภูเขาแล้วพวกเขาจะกลับคำง่ายเช่นนี้ได้อย่างไร”

 

 

 

“ก็ได้!!”ใบหน้าที่ข่มขืนของเสือป่วยทำให้คนอื่นระเบิดเสียงหัวเราะออกมา มันหาได้ยากมากที่จะได้เห็นหัวหน้าของพวกเขาแสดงท่าทางดังกล่าวออกมา

 

 

 

“ฉิงชาน หลังจากที่เจ้าไป เจ้าจะกลับมาไหม?”

 

 

 

“ข้าจะกลับไปดูหมู่บ้านวัวหมอบซักหน่อย ที่นั้นมีสิ่งที่ข้าต้องการอยู่และข้ายังต้องไปหาสถานที่ที่เงียบสงบและฝึกด้วยเช่นกัน ดูว่าข้าจะสามารถพัฒนาไปอีกขั้นได้หรือไม่”

 

 

 

หลังจากดื่มเหล้าจิตวิญญาณในวันนี้ หลี่ฉิงชานรู้สึกว่าเขาได้เข้าช่วงสำคัญของหมัดวัวอสูรแล้ว เขากำลังเตรียมพร้อมที่จะฝึกคนเดียวและบ่มเพาะความแข็งแกร่งของวัวตัวเดียว ในเวลานั้นเขาไม่ต้องการถูกเหนี่ยวรั้งไว้ในภูเขานานนักและต้องการไปดูโลกภายนอก

 

 

 

เขาจำได้ว่าเจ้าอ้วนที่เขาช่วยเมื่อวานดูเหมือนจะเรียกตัวเองว่าเป็นผู้พิพากษาของเขตอาทิตย์อัสดง เขาต้องการที่จะทำคำสัญญาที่ให้ไว้กับเสี่ยวอานให้สำเร็จ แม้ว่าเขาจะไม่มีทางรู้เลยว่าทางใต้นั้นห่างไกลแค่ไหนและสถานที่ตรงไหนเป็นที่เสี่ยวอานชี้ เขาต้องข้ามก้าวแรกให้ได้ก่อน

 

 

 

“ต้องการที่จะพัฒนาอีกครั้ง?”เสือป่วยสีเหลืองรู้มานานแล้วว่าหลี่ฉิงชานในวันนี้แตกต่างกันเล็กน้อยน้อยเมื่อเทียบกับไม่กี่วันก่อน มีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ใน จิตวิญญาณ พลังและแก่นแท้ การก้าวหน้าอย่างง่ายดายเช่นนี้ต้องทำให้ทั้งโลกตกใจ

 

 

 

เพียงชั่วพริบตา เขายังจะพูดว่าต้องการทะลวงไปอีกขั้น ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้เขานึกถึงคำพูดของหลี่ฉิงชานในวันนั้นอีกครั้ง เขาเคยบอกว่าเขาจะกลายเป็น“เซียนโดยกำเนิด” ในตอนนั้นเขาได้แค่ยิ้ม แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าบางทีเขาอาจจะทำได้จริงๆ

 

 

 

“แล้วเรื่องการแข่งขัน?”สัตว์ที่หลี่ฉิงชานล่ามาได้ในช่วงสองสามวันนี้อาจเทียบเท่าได้กับผลผลิตของทั้งหมู่บ้าน

 

 

 

“ข้าไม่ต้องการอย่างอื่นนอกจาก เจ้าเสือนี้และกระดูกของมัน  นอกจากนี้ข้าต้องการให้ท่านช่วยรวบรวมกระดูกเสือบางส่วน ข้าต้องการแช่เหล้าสมุนไพรอีกสักหน่อย ข้าจะไปซื้อมันที่ตลาด”

 

 

 

เหตุผลที่เขาไล่ตามเสือนั้นโดยไม่ปล่อยไม่ใช่แค่ต้องการที่จะดูดีในหมู่บ้านเพียงเท่านั้น วัวสีเขียวได้บอกเขาว่าเมื่อหมัดวัวอสูรได้บรรลุถึงความแข็งแกร่งของวัวหนึ่งตัวเขาสามารถเริ่มฝึกหมัดป่นกระดูกเสือได้ เขาต้องการเหล้าสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง และส่วนผสมหลักที่สำคัญที่สุดก็คือโสมที่ล้ำค่าแต่หาได้ทั่วไป

 

 

 

นักล่าและเสือต่างเป็นศัตรูกันแน่นอนว่านักล่าที่โดดเดี่ยวจะกลัวเสือที่ดุร้าย แต่เมื่อเสือรบกวนผู้คนมากเกิน มันย่อมจะนำไปสู่การค้นหาภูเขาทั้งภูเขา พวกเขาจะวางกับดักจำนวนมาก แม้ว่าสัตว์ป่าจะดุร้ายพวกมันก็ไม่สามารถเอาชนะมนุษย์ได้ กระดูกเสือที่สะสมอยู่ภายในหมู่บ้านม้ามีน้อยมาก

 

 

 

เสือป่วยกล่าวว่า“นอกจากนี้ยังเป็นสูตรที่ถูกทิ้งไว้โดยอาจารย์ของเจ้า?”

 

 

 

“ใช่แล้ว”

 

 

 

“ในเมื่อเจ้าใจกว้างเช่นนี้ พวกเราชาวหมู่บ้านม้าจะไม่ช่วยได้อย่างไร ข้าสามารถช่วยเจ้าแช่เหล้าสมุนไพรได้แต่ไปได้ไหมที่จะให้พวกเราใช้สูตรทั้งสองสูตรด้วย”

 

 

 

เสือป่วยสีเหลืองได้ใช้สูตรยาของหลี่ฉิงชานอย่างลับๆและเหล้าสมุนไพรที่เขาทำขึ้นนั้นมันเป็นของที่ดีกว่าเหล้าสมุนไพรของหมู่บ้านม้าจริงๆนอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องซื้อส่วนผสมจากคนต่างแดง หมู่บ้านของพวกเขาได้รวบรวมทั้งหมดแล้ว หากพวกเขาสามารถใช้มันในการฝึกฝนลูกหลานพวกเขาไม่นานความแข็งแกร่งของหมู่บ้านม้าก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

 

 

 

หลี่ฉิงชาน ไม่ได้เห็นว่าทำไมจะให้ไม่ได้ ทั้งสองสูตรนี้เป็นเพียงของชั่วคราวและไม่มีอะไรค่าโดยเฉพาะสำหรับพวกเขา ไม่ได้มีอันตรายใด ๆ ที่จะมอบให้ผู้อื่นและมันสามารถช่วยเขาแก้ปัญหาของการทำเหล้าสมุนไพรด้วยตัวเองนอกจากนี้ควรคำนึงถึงสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งคู่

 

 

 

เขาให้ใบสั่งยาแก่เสือป่วย หลังจากนั้นเขาก็แบกธนูผ่าศิลาไว้นั่งตรงข้ามวัวสีเขียวอย่างสบายๆ

 

 

 

เมื่อเงาของหลี่ฉิงชานหายไปหลังจากเลี้ยวไปบนถนนในภูเขา ปู่ซางกระซิบกับเสือป่วย“หัวหน้า ทำท่านถึงยังสนับสนุนเขา มีโอกาสแปดในสิบที่โสมวิญญาณอยู่กับเขา เหล้าที่เจ้าดื่มน่าจะแช่ด้วยโสมวิญญาณ โสมวิญญาณนั้นน่าจะอยู่ในขวดน้ำเต้าที่เอวของเขา”

 

 

 

หลี่ฉิงชานไม่เคยยกเรื่องโสมวิญญาณขึ้นมาพูด แต่เขาได้เผยร่องรอยและเบาะแสมากเกินไปในสายตาของนักล่าชราที่มากประสบการณ์ผู้นี้ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งเหล่านี้จะยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับเสือป่วยสีเหลืองที่เคยเดินทางผ่านโลกการต่อสู้มามากมาย

 

 

 

เสือป่วยจ้องไปที่เส้นทางที่หลี่ฉิงชานหายไปและอยู่เงียบๆสักครู่ก่อนที่จะหันหัวของเขากลับ“เมื่อเราพูดทุกอย่างออกไปเรียบร้อยแล้ว เราจะไม่ทำตัวเหมือนพวกคนเก็บโสมใช่ไหม?”

 

 

 

“ใช่ท่านหัวหน้า!”

 


 

ฝากไลคเพจด้วยนะค้าบบบLegend of the Great Saint ครับ^^

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด