ASTบทที่ 157 – รูปแบบพยัคฆ์อนันตา!
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
แปลโดย ป๋าบีม
บทที่ 157 – รูปแบบพยัคฆ์อนันตา!
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆขณะที่รถนั้นโคลงเคลงไปจากการลากของวัวโลหะอสูรทมิฬและได้เคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ถือว่าช้ามากถ้าเทียบกับการเดินที่มีระยะทางที่ไกล
พวกเขาเดินทางผ่านตลาดที่หนาแน่นเต็มไปด้วยผู้คนและรถลากในพื้นที่ๆทุรกันดารที่ตั้งอยู่บนเป็นภูเขา บางครั้งพวกเขาก็ได้ยินเสียงสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัวหรือบางครั้งพวกเขาก็มองดูสัตว์ร้ายที่กำลังบินอยู่รอบ ๆ !
"ตอนกลางคืนพวกเราจะพักกันที่นี่ ตอนนี้วัวโลหะอสูรทมิฬถึงขีดจำกัดของมันแล้ว "คนขับรถบอกกับชิงสุ่ยและเหวินเหรินอูซวง
"เข้าใจแล้ว!" ชิงสุ่ยยิ้มและตอบกลับ ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
ชิงสุ่ยหันกลับไปมองเหวินเหรินอูซวงและสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเธอนั้นไม่สู้ดีนัก บ่งบอกว่าเธอต้องเคยได้ยินว่า "การพูดคุยอย่างลับๆ ในทางที่ไม่ดีเกี่ยวกับเธอ จากคนขับรถทั้งสองเป็นแน่"!
ชิงสุ่ยคิดว่าคนขับรถทั้งสองมีจิตใจที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พวกเขาดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านเมื่อเห็นเหวินเหรินอูซวงดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะรับพวกเขามาสำหรับการเดินทางไปยังเมืองชางหลาง
ชิงสุ่ยไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะแอบซ่อนความรู้สึกชั่วร้ายไว้ และก็ชิงสุ่ยก็ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะมีความคิดที่สกปรกกับเหวินเหรินอูซวง เมื่อเห็นว่าเหวินเหรินอูซวงมีความงามเมื่อเทียบกับเทพธิดา พวกเขาจึงเริ่มจัดเตรียมแผนที่ชั่วร้ายขึ้นโดยวางแผ่นที่จะฆ่าคนในคืนนี้และพาผู้หญิงไปเป็นภรรยาของพวกเขา!
หากไม่ใช้เพราะตระกูลชิงไม่ทราบเส้นทางไปยังนิกายกระบี่นภา ตระกูลชิงคงจะไม่เอาสองคนนี้มาเกี่ยวข้องเป็นแน่ ผู้ชายสองคนนี้มีความแกร่งเป็นอย่างพวกเขาประสบความสำเร็จในระดับสูงในการเพาะปลูก ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่หน้าขยะแยงที่พวกเขาปล่อยออกมา พวกเขาต้องเคยทำให้ผู้หญิงจำนวนมากมีมลทินเป็นแน่!
เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นและตอนนี้พวกเขาได้อยู่ในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาทั้งสี่คนจึงได้ก่อกองไฟขึ้นมาเพื่อบรรเทาความหนาว สายตาของพวกเขานั้นได้จับจ้องที่เหวินเหรินอูซวงใบหน้าที่กระทบกับเปลวไฟอ่อนๆของเธอทำให้นางดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ทำให้คนที่มองเห็นเกิดแรงกระตุ้นด้วยกิเลสตัณหาและความหื่นกระหายเป็นอย่างมาก
ชิงสุ่ยไม่ได้สนใจกับการกระทำของทั้งสอง ราวกับว่าเขากำลังสนุกอยู่กับการแสดงของตัวตลกที่ไม่สามารถหยุดมองไปยังเหวินเหรินอูซวงได้ ดวงตาของพวกเขาหันไปสบตากันโดยบังเอิญ ในขณะนั้นชิงสุ่ยรู้สึกว่าปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาลึกลับมากราวกับว่าพวกเขา สามารถบอกความคิดให้อีกฝ่ายทราบได้ในขณะนั้น
ในขณะนั้นชายที่ตัวโตกว่าชิงสุ่ยก็ลุกขึ้นยืน เขาหยิบมีดขนาดสั้นออกจากเอวของเขาแล้วแทงไปที่ด้านหลังต้นคอของชิงสุ่ย
"ตายซะเถอะ!"
โดยไม่แม้แต่จะเหลือบมอง ชิงสุ่ยคว้าลงบนด้ามมีด
เสียงของกระดูกแตกสะท้อน ทำให้ใบหน้าของชายคนนั้นบิดเบี่ยวไปด้วยความเจ็บปวด
“อ่า !!!”
เสียงกรีดร้องของชายคนนั้นดังก้องขึ้นเพราะมือข้างหนึ่งของเขาถูกบดขยี้โดยชิงสุ่ย
“อ่า! ข้าทำผิดไปแล้ว นายท่านโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าช่างเป็นคนโง่จริงๆมีตาหามีแววไม่ที่คิดทำร้ายท่าน!”เนื่องจากมือของเขาที่ถูกทำให้พิการ ชายคนนั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมากเหงื่อของเขาได้ไหลออกมาดังฝนที่กำลังตกหนัก เขาสามารถรับรู้ได้ถึงเจตนารมณ์ที่ต้องการฆ่าของชิงสุ่ย
"เจ้าทำผิดไปแล้วรึ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
"ถ้าข้าไม่มีทักษะในการปกป้องตัวเอง ข้าคงจะตายได้โดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมเต็มไปด้วยความโกรธ
โชคดีที่มันเป็นของเขา แต่ถ้าหากเป็นคนธรรมดาสามัญอื่นๆ พวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก ยิ่งเขากล่าวถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เหวินเหรินอูซวงก็รู้สึกกลัวขึ้นมาหลังจากได้ยินที่ชิงสุ่ยกล่าว ในขณะก่อนหน้านี้เธอไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรเพราะเธอเป็นคนที่มีทักษะที่สูง แต่เธอก็อดที่จะคิดไม่ได้จากคำที่ชิงสุ่ยกล่าว จะเกิดอะไรขึ้นเกิดขึ้นหากไม่ใช่กรณีนี้
ชิงสุ่ยแตะไปที่จุดตันเถียนของเขาและยังฝังเข็มบนจุดนั้นของมัน เขาทำแบบเดียวกันกับผู้ชายอีกคน นี้ไม่เพียง แค่ทำลายการเพาะปลูกของพวกเขา แต่ยังทำให้พวกเขาจะไร้ความสามารถที่จะสืบพันธุ์
ชิงสุยไม่ได้ฆ่าพวกเขาเพราะพวกเขายังสามารถเป็นเป็นคนขับรถต่อไปได้ โลกของเก้าทวีปเหล่านี้มีคติอยู่ว่า ผู้อ่อนแอจะตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง นอกจากนี้เขาได้ปล่อยให้พวกเขาไปพบเจอประสบชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!
พวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้แม้ว่าจะต้องการทำก็ตาม เพราะตอนนี้เกิดความกลัวที่ยิ่งใหญ่ในใจพวกเขา
ในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ชิงสุ่ยได้ไปเก็บเกี่ยวสิ่งของสำหรับกับทำการฝึกฝนของเขาตามปกติ เขาได้ทำการฝึกเพียงทักษะกวางย่างก้าวและรูปแบบพยัคฆ์ซึ่งเป็นเทคนิคการเลียนแบบสัตว์เก้าชนิด
ชิงสุ่ยกำหมัดของเขาอย่างแน่นทุกๆครั้งที่เขาเดินพลังจะมีเสียงอึกทึกที่เกิดจากทักษะพยัคฆ์คำรามของเขา เสียงเกิดขึ้นทำให้หัวใจสั่นสะเทือน
ในขณะนั้นชิงสุ่ยก็ได้ปลดปล่อยพลังปราณของเขาออกมาทำให้เขาในตอนนี้ดูมีรูปร่างเหมือนยักษ์ที่ขนาดใหญ่ เขาได้รวบรวมปราณของที่ไหลออกมาเขา ทำให้กลิ่นอายของเขาไปเลื่อนไปในระดับสูงสุด
หลังจากนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบพยัคฆ์ๆได้ประสานเข้ากับมือทั้งสองข้างของเขา ด้วยทักษะนี้สามารถกดดันฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่าย มันได้ปล่อยกลิ่นอายอันหน้าเกรงขาม กลิ่นอายของการทำลายล้างและพลังที่ที่ยิ่งใหญ่ออกมา
พลังปราณที่เขาสะสมไว้ก่อนหน้าได้เปลี่ยนแปลงเป็นรูปร่างที่ชัดเจน รูปร่างในตอนนี้ราวกับท้องมหาสมุทรขนาดใหญ่ที่เกิดในกายเขา จากปราณที่เคยไหลกระจายไปทั่วๆได้รวมกันเป็นจุดเดียวทำให้พวกมันดูแข็งแกร่งและมั่นคง พวกเขาดูเหมือนจะสามารถทำลายทุกๆอย่างแม้แต่โค่นภูเขาขนาดใหญ่!
หลังจากนั้น ชิงสุ่ยได้ฝึกฝนหมัดอสูรสันโดษ ก้าวขจัดวิญญาณ และยังได้ฝึกทักษะการใช้อาวุธอื่นๆเพิ่มอีกด้วย เขาพยายามที่จะนำทักษะกวางย่างก้าว ผสานเข้ากับก้าวขจัดวิญญาณ สิ่งที่ชิงสุ่ยต้องการคือการรวมทักษะทั้งสองและยกระดับพวกมันให้สูงยิ่งขึ้น นี้เป็นวิธีการที่จะทำให้ทักษะก้าวขจัดวิญญาณ และทักษะกวางย่างก้าว กลายเป็นหนึ่งเดียว แต่ ชิงสุ่ย คิดว่าเขายังคงต้องการเวลาอีกมากเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้
ชิงสุ่ยได้อุทิศเวลาให้กับรูปแบบพยัคฆ์เป็นเวลานาน รูปแบบพยัคฆ์มีทักษะที่ใช้ในพิฆาตอีกมากมาย เช่น พยัคฆ์พิฆาต, กรงเล็บพยัคฆ์ขาว และ ลมหายใจพยัคฆ์ ...
รูปแบบพยัคฆ์เน้นรูปแบบที่ก้าวร้าวดุดันควบคู่ไปกับความพลิกแพลงซึ่งคือสิ่งที่ชิงสุ่ยขาด ไปในอดีตเขาได้ใช้ทักษะสนับสนุนในการต่อสู้เสมอ ตลอดเวลาที่เขาสังหารผู้เชี่ยวชาญของขั้นเทวะเซียนเทียนรวมไปถึงรวมไปถึงคนอื่นๆ เขาพึ่งพาแต่ความแข็งแกร่งของเขาและผลที่น่าอัศจรรย์ของเปลวเพลิงบรรพกาลหยิน-หยาง
ชิงสุ่ยได้ฝึกซ้อมรูปแบบทักษะพยัคฆ์ซ้ำไปซ้ำมา จูโจมไปมาดูราวกับว่าในตอนนี้ชิงสุ่ยกลายเป็นพยัคฆ์ขนาดยักษ์ตัวหนึ่ง เขาค่อยๆรวมเทคนิคของหมัดอสูรสันโดษกับรูปแบบพยัคฆ์เขาด้วยกัน
“เพียงหนึ่งเดียวที่เคลื่อนไหว เพียงหนึ่งคำที่กล่าววาจา” นี้เป็นหนึ่งในเคล็ดลับของหมัดอสูรสันโดษ มันจะเปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม แต่รูปแบบพยัคฆ์มุ่งเน้นไปที่การสังหารด้วยความเกรี้ยวกราว ทำให้เขาต้องการผสานรูปแบบพยัคฆ์เข้ากับหมัดอสูรสันโดษ, จะทำให้ความสามารถของมันเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ชิงสุ่ยมีความคิดที่แปลกประหลาด ที่จะแทนที่การเคลื่อนไหวของพยัคฆ์ด้วยการเคลื่อนไหวของมนุษย์ มันจะทำให้ทักษะนี้พัฒนาขึ้นไปเป็นอย่างมาก
การใช้สติปัญญาดังเดิมเป็นพื้นฐานของทักษะหมัดอสูรสันโดษ ผลจากการผสมผสานรูปแบบพยัคฆ์หมัดอสูรสันโดษ ทำให้ ชิงสุ่ย ตะโกนออกมา!
“รูปแบบพยัคฆ์อนันตา!”
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าตนเองในปัจจุบันหรือในอนาคตอาจต้องใช้เทคนิคนี้ในการต่อสู้ มันสามารถทำเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของเขาเพื่อทำให้เขาบรรลุเป้าหมาย นี่คือเสน่ห์ที่แท้จริงของทักษะนี้
ในตอนนี้เขาสามารถโคจรเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลได้ 63 รอบตามที่เขาหวังไว้ ในขณะที่เขามีความสุขเป็นอย่างมาก แต่เขาก็รู้ว่าอุปสรรคต่อไปจะยากยิ่งขึ้นกว่าเดิม!
ในวันถัดมา ชิงสุ่ยตื่นขึ้นมาในเวลารุ่งเช้า ชิงสุ่ยออกมาจากห้องของเขาและสังเกตเห็นว่า อูซวงตื่นขึ้นมาแล้วและยืนอยู่ข้างหน้าต่าง เธอมองไปที่ภูเขาจากระยะไกล
เมื่อนางเห็นชิงสุ่ย เธอได้ยิ้มให้เขา รอยยิ้มของเธอสามารถสะกดทุกสิ่งในโลกได้!
ความสุขุมและความไร้เดียงมีเพียงเส้นบางๆที่แตกต่างไปจากเสน่ห์ที่เย้ายวนใจและที่สำคัญที่สุดทั้งสองสามารถทดแทนกันได้ บางคนชอบผู้หญิงที่สุขุมและความไร้เดียงสา ในขณะที่บางคนชอบผู้หญิงที่มีเสน่ห์และเป็นกันเอง แต่ก็มีบางคนชอบผู้หญิงที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ชิงสุ่ยมองที่อูซวงและยิ้มขณะที่เขามองไปที่ใบหน้าที่ปราศจากการเครื่องประทินโฉมใดๆ จากมุมมองนี้ทำให้นางมีเสน่ห์อย่างมาก ทำให้ชิงสุ่ยระลึกถึงฉากที่เธอกำลังอาบน้ำ ร่างของเธอกับก้นที่ดึงดูดใจของเธอ ได้ลอยขึ้นมาได้ในสมองของเขาโดยทันที