ตอนที่แล้วAST บทที่ 148 – รูปลักษณ์ดุจพยัคฆ์และหัวใจของผู้หญิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 150 - การต่อสู้! และการตัดสินใจหมั้นหมาย!

AST บทที่ 149 - ใครกันช่างกล้าหยิ่งยโสนัก


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 149 - ใครกันช่างกล้าหยิ่งยโสนัก

ชิงสุ่ยเองยังคงไม่เข้าใจจิตใจของเหล่าอิสตรี  แปลคำพูดของหมิงเยวี่ยนั้นทำให้เขารู้สึกมั่นคง ชายชาตรีจะต้องมีพลังอำนาจก่อนที่เขาจะมีคุณสมบัติในการมีอิสตรีคู่กายหลายคน

"หมิงเยวี่ย เจ้าจะเต็มใจยอมแบ่งปันชายของเจ้าให้กับผู้อื่นหรือไม่?"ชิงสุ่ยมองดูโฉมงามที่อยู่บนหน้าอกของเขา รูปร่างแสนน่าพึงพอใจ และใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อนบนใบหน้าของหมิงเยวี่ย บ่งบอกได้เลยว่าเธอกำลังสนใจอย่างยิ่ง

"ข้ารึ? ข้าคงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะไปต่อสู้จับหญิงคนอื่น แต่ยังไงซะ ข้าก็จะไม่วันแต่งงานอีกแล้ว"หมิงเยวี่ยกระซิบตอบ

"เธอเป็นหญิงที่ถูกสามีทอดทิ้ง และเหลือเพียงแค่ลูกสาวของเธอ หากเปรียบเทียบสถานการณ์เลวร้ายของเธอนั้น มันแย่ยิ่งกว่าหญิงม้ายเสียอีก"ชิงสุ่ย กระซิบกับตัวเองเงียบๆขณะที่หมิงเยวี่ยอยู่ในอ้อมกอดของเขา แววตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง

"ข้าขอบอกก่อนเลยว่าเจ้าจะยังคงเป็นผู้หญิงของข้า และในอนาคตเจ้าก็ยังเป็นของข้า และเจ้าก็ยังคงเป็นภรรยาของข้าด้วย จุดนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนไป"ชิงสุ่ยยกคางของหมิงเยวี่ยขณะที่เขาพูดอย่างอ่อนโยน

"แต่ข้านั้นเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วนะ และข้าเองก็มีลูกสาวอีกด้วย เจ้าเองก็คงจะไม่มองข้า ถ้าไม่ได้เป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์ ข้าไม่มีค่าพอสำหรับเจ้า และข้าอาจจะทำให้เจ้าโชคร้ายอีกด้วย!"

ชิงสุ่ยไม่ได้คิดเหมือนกับเธอ ในโลกใบก่อนของเขา เขาเคยรู้จักเพียงแค่ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กชายและเด็กหญิง เพียงแค่ความสัมพันธ์นี้ก็สามารถทำให้พวกเขาร่วมเตียงกันได้ สำหรับการหย่าร้าง การแต่งงานใหม่ หรือแม้กระทั่งการมีภรรยาหลายคน จึงเป็นเรื่องธรรมดามาก!!!

"หมิงเยวี่ยในสายตาของข้า เจ้ายังคงบริสุทธิ์และเพียบพร้อม การที่ข้าพบเจ้าช้าไปถือเป็นความสูญเสียของข้า แต่ข้าสามารถบอกได้ ถ้าหากได้เกิดเป็นคนความบริสุทธิ์หรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับหัวใจและกระบวนการคิด ถ้าหากผู้เป็นแม่เพื่อที่จะดูแลลูกสาวของเธอให้ดีที่สุดและประหยัดเงินทุกอย่างไว้รักษาเธอ แม้ว่าเธอจะยอมเสียสละตัวเองเพื่อหาทุกวิถีทางที่จะได้เงิน แม้ว่าจะยอมทำงานในหอนางโลมก็ตาม ในสายตาของข้า เธอก็จะยังคงเป็น คนที่มีความบริสุทธิ์ที่สุดตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่! หมิงเยวี่ย เจ้าของใจสิ่งที่ข้าพูดหรือไม่? สำหรับข้า เจ้ายังคงมีความบริสุทธิ๋ตราบชั่วนิรันทร์ เจ้าเข้าใจใช่ไหม"

หมิงเยวี่ยเก้อโหลวกอดชิงสุ่ยแน่นกว่าเดิม น้ำตาแห่งความสุขหลั่งไหลออกจากดวงตาคู่งามของเธอ รอยยิ้มของเธอเปรียบดั่งดอกไม้ที่บานสะพรั่งหลังจากลมมรสุมผ่านพ้นไป มันยิ่งทำให้รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มที่งดงามเกินจะคาดฝัน

"หมิงเยวี่ย ข้ารู้สึกว่าครั้งที่แล้ว ข้าทำมันเร็วเกินไป คราวนี้ข้าขอลองช้าๆอีกครั้งนะ"ชิงสุ่ยยิ้มขณะที่เขาเตรียมพร้อมอีกครั้ง

"ได้เลย!"

หมิงเยวี่ยเก้อโหลวขึ้นคร่อมอยู่บนร่างกายของชิงสุ่ย ชิงสุ่ยค่อยๆลูบไล้ไปตามเอวนุ่มและร่างกายที่อ่อนโยนของเธอ จากนั้นก็ค่อยเคลื่อนไหวร่างกายดุจสายน้ำ มันเป็นรสชาติที่เต็มไปด้วยความหลงไหลและรสชาติแห่งความสุขเกินกว่าจะพรรณาได้

—————————————————————————————————

"ชิงสุ่ย ลูกแน่ใจหรือว่าต้องการจะส่งของมันไปยังตระกูลสือในวันนี้?"ชิงอี้ทำด้วยความประหลาดใจ

"นี่คือสิ่งที่ลูกได้เตรียมไว้ วัวตัวเมีย สร้อยคอ กำไร……………"

"เข้าใจแล้ว พอเถอะ แม่จะไม่ถามและหยุดยั้งลูกอีกแล้ว!!"ชิงสุ่ย หัวเราะขณะที่เธอพูด

การเสนอของหมั้นในโลกเก้าทวีปแห่งนี้หมายถึงการเสนองานสมรส และอาจถือได้ว่าเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งพิธี  โดยปกติแล้วพ่อแม่ของฝ่ายชายและเราผู้อาวุโสจะเดินทางไปสู่ขอและมอบของมันที่บ้านของฝ่ายหญิงและจะมีการจับมือเพื่อตกลงข้อแต่งงาน

สำหรับชิงสุ่ย ชิงอี้ และลุงฮูของเขา และคนอีกจำนวนหนึ่งจักรเหล้ารุ่นเยาว์ที่ 3  ก็ได้เดินทางไปกับเขาเพื่อเสนองานแต่งงานนี้ด้วย อย่างไรก็ตามก็คงไม่มีใครมีความสุขมากกว่าชิงสุ่ยอีกแล้วในตอนนี้

หลังจากที่ตระกูลซือถูออกประกาศว่า "เมื่อสือชิงจวงยังคงมีชีวิต เธอถือว่าเป็นผู้หญิงของตระกูลซือถู และเมื่อเธอตาย ดวงวิญญาณของเธอยังเป็นคนของตระกูลซือถู และใครหน้าไหนที่คิดกล้าหาญแย่งชิงเธอพวกมันจะต้องตาย"

แต่ชิงสุ่ยจะไม่คิดเช่นนั้น เพราะหลังจากที่ชายชราคนนั้นได้มาที่ศูนย์รักษาวิทยายุทธของเขา และเขาได้ฝังจุดอันตรายลงไปยังจุดจิวเหว่ย และจุดจวี้เซวี่ยที่อยู่บนเส้นลมปราณเญิ่นของชายชราคนนั้น มันเปรียบดังการทิ้งระเบิดเอาไว้ในร่างกายของชายชรา และเมื่อชิงสุ่ยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจึงยิ่งมั่นใจมากยิ่งขึ้น

"ชิงสุ่ย แม้ว่าตระกูลซือถูจะรู้เรื่องที่ลูกนั้นบรรลุระดับเทวะเซียนเทียนแล้ว แต่พวกเขายังกล้าออกประกาศเช่นนั้น นั่นก็หมายความว่าพวกเขาได้เตรียมบางสิ่งบางอย่างเอาไว้แล้ว แม่เป็นห่วงลูกนะ"ชิงอี้เตือนชิงสุ่ยก่อนออกเดินทาง

"ท่านแม่ ท่านอย่าได้กังวล ลูกขอรับประกันว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน"

และแล้วข่าวที่ว่าตระกูลชิงกำลังเดินทางไปยังตระกูลสือก็รู้อะไรไปถึงตระกูลซือถู

"ไอ้สารเลวสงสัยว่ามันกำลังแสวงหาความตาย เดี๋ยวข้าจะส่งเคราะห์มันเอง!!"ซือถูเจี้ยนอี้ระเบิดอารมณ์ออกอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด เพียงเมื่อได้ยินข่าว ในตอนแรกเขาคิดว่าหลังจากประกาศออกไปนั้น ชิงสุ่ยจะใส่ใจบ้าง หรือแม้กระทั่งคิดบ้างสักหน่อย แต่เนื่องจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้ เขาจึงใช้โอกาสนี้ในการกำจัดชิงสุ่ย

สำหรับเรื่องนี้ มีตระกูลสืออยู่ตรงกลางระหว่างสองฝั่ง แต่เนื่องจากตระกูลสือไม่มีผู้ใดเลยที่บรรลุระดับเทวะเซียนเทียน ดังนั้นทั้งตระกูลชิงและตระกูลซือถูจึงไม่คิดลากพวกเขามาเกี่ยวข้องด้วย

เนื่องจากทั้งตระกูลชิงและตระกูลซือถูได้ออกประกาศ ในโลกเก้าทวีปแห่งนี้คำสัญญาเปรียบดั่งทองคำ ดังนั้นการประกาศหมั้นของตระกูลชิงจึงเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายอยากรู้อยากเห็น!!!

"ท่านปู ตระกูลซือถูนั้นรู้เรื่องความแข็งแกร่งของชิงสุ่ย แต่ทำไมพวกเขาถึงยังคงออกประกาศเช่นนั้น ข้ากังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นกับชิงสุ่ย"อวี้เหอรินน้ำชาลงถ้วยชาให้กับอวี้ต่งห่าว

"สาวน้อยของข้า เจ้ารู้สึกอย่างไรกับชิงสุ่ยล่ะ?"อวี้ต่งห่าวละเลยคำถามของเธอในขณะที่เขาถามคำถามตรงๆออกมา อวี้เหอถึงกับหน้าแดงและพูดไม่ออกไปทันที

อวี้ต่งห่าวถอนหายใจ ก่อนหน้าที่ชิงสุ่ยจะก้าวเข้าสู่ระดับเทวะเซียนเทียน เขาเองก็ได้รักษาจุดตันเถียนของอวี้ต่งห่าว มันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าอวี้เหอมีค่ามากพอสำหรับชิงสุ่ย แต่ตอนนี้เขาก็ทำได้เพียงถอนหายใจ

"หลานสาวของข้า แม้ว่าชิงสุ่ยแต่ยังเยาว์วัยนัก แต่เขาเป็นคนที่ระมัดระวังและพิถีพิถันในทุกกระบวนการคิด เจ้าเคยเห็นเขาออกไปเสี่ยงทั้งๆที่ไม่มั่นใจหรือไม่? เขาตัดสินใจและรู้ว่าเมื่อไหร่จะต้องถอย ในสายตาของข้าเขานั้นไม่ใช่รุ่นเยาว์ที่ไร้ประสบการณ์อีกแล้ว แต่เขานั้นเปรียบดังคนที่อยู่มีชีวิตมานานและเห็นโลกกว้างมาเยอะ เฉกเช่นช่นเดียวกับฆ่าชายชราคนนี้!!!"

อวี้เหอยังคงหน้าแดงขึ้นราวกับว่าเธอนั้นเข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดปู่ของเธอ ขณะที่เธอกำลังก้มศีรษะลงเธอก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง "ท่านปู่ ท่านกำลังบอกว่าชิงสุ่ยได้เตรียมแผนการป้องกันตัวเอาไว้แล้วใช่หรือไม่?"

—————————————————————————————————

ชิงสุ่ยมองไปบนพื้นถนนที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้า เขารู้ว่าคนเรานั้นเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเมืองร้อยไมล์ แต่ในวันนี้เขาได้ตระหนักแปลว่าการมีคนจำนวนมากนั้นมีความหมายจริงๆ

มันทำให้ชิงสุ่ยได้ยินคำพูดของชาวบ้านที่พูดหรือกันต่างๆนานา

"ตระกูลซือถูกำลังรออยู่ข้างหน้า!!"

"กลิ่นอายของตระกูลซือถูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่น่ากลัวมาก!!!"

"ตระกูลซือถูพวกเขาบอกว่า พวกเขามีบางสิ่งบางอย่างที่จะแสดงให้ตระกูลชิงได้เห็น"

"มันช่างเป็นโชคร้ายที่ลูกชายของตระกูลซือถูถูกชิงสุ่ยขโมยสิ่งสำคัญไป และในวันนี้ทั้งหนี้เก่าและหน้าใหม่คงจะถูกชำระจนหมดสิ้น!!"

—————————————————————————————————

ชิงสุ่ยตกตะลึงเมื่อเห็นเราสมาชิกตระกูลซือถู พร้อมทั้งก้อนหินขนาดใหญ่มากมายที่บดบังเส้นทางถนนใหญ่ของเมืองร้อยไมล์ ชายผู้ที่ยืนอยู่ข้างบนก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจากชายชราที่มีฝีมือ ซึ่งชิงสุ่ยเพลงก็คาดคิดไว้ว่าเขาจะต้องมาจากตระกูลซือถู

เมื่อมองจากระยะไกลชิงสุ่ยมองเห็นเหล่าสมาชิกตระกูลซือถูที่ยืนอยู่หลังชายชราคนนั้น เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะแห่งความสุขออกมา!!!

เนื่องจากถนนถูกปิดกั้น คนตระกูลชิงจึงไม่มีทางเลือกและต้องหยุดเดิน ขณะภูเขามองไปยังชิงสุ่ยที่แสดงท่าทางไม่แยแสและสงบนิ่ง ชิงสุ่ยยิ้มราวกับว่าไม่มีอะไรที่น่าขบขันในโลกนี้เท่ากับที่เห็นสมาชิกตระกูลซือถู กว่าพันคนยืนขวางถนนอยู่

"พวกเจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? ถนนสายหลักเส้นนี้ถูกขวางทางโดยตระกูลของเจ้า อะไรกันที่ทำให้พวกเจ้าหยิ่งยโสได้ขนาดนี้?"ชิงสุ่ยตะโกนเสียงดังอย่างชัดเจน

"หินที่ถูกวางกั้นนี้ก็เพื่อขัดขวางเจ้า ตระกูลชิงเป็นเพียงตระกูลเล็กๆ ถ้าหากพวกเราตระกูลซือถูยอมทนดูอยู่อย่างเงียบๆ ในอนาคตตระกูลข้าจะกล้าสู้หน้าใครได้อีก?"สายตาที่หลักแหลมของซือถูเจี้ยนอี้จ้องมองชิงสุ่ยที่นั่งอยู่บนรถม้า

"ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าพูดถูก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเจ้าจะไม่อาจสู้หน้าใครได้อีก" แม้เสียงพูดของเขาจะไม่ดังนัก เสียงที่ชัดเจนของเขาสะท้อนออกไปท่ามกลางฝูงชน

0 0 โหวต
Article Rating
8 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด