WOC บทที่ 10 - วัชพืช
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/WorldofCultivation/
บทที่ 10 - วัชพืช
หญิงสาวตัวน้อยเล่าอย่างใสสื่อด้วยความหวาดกลัว "มีหญ้าแปลกๆโตขึ้นในทุ่งหญ้าหลิง เสี่ยวกั่วพยายามแล้ว แต่มันก็ยังคงโตเร็วมาก หญ้ากระบี่เขียวช่างน่าสงสารเหลือเกิน พวกมันเติบโตได้ช้าลงแล้วก็ช้าลงกว่าเดิม………..."
เมื่อฟังน้ำเสียงของเด็กหญิงตัวน้อย ที่กำลังบ่น จั้วโมจึงกล่าวขัดจังหวะ "หยุด!!!"
หญิงสาวตัวน้อยตกใจอีกครั้ง สายตาของเธอเริ่มฝ้าฟางคล้ายจะร้องไห้ขณะที่เธอจ้องเขม็งไปที่จั้วโม
จั้วโมยืนขึ้นและปัดฝุ่นที่ติดอยู่ตามตัว "ไปกันเถอะ"
เด็กหญิงตัวน้อยแสดงสีหน้าราวกับเป็นเครื่องหมายคำถาม หลังจากนั้นเธอก็ถามมาอย่างฉับพลันว่า "ที่ไหน?"
การแสดงออกบนสีหน้าของจั้วโมกลับมาเหมือนคนบ้าอีกครั้ง อารมณ์ที่เปรียบดังคลื่นสงบบ้าคลั่งขึ้นอีกหลัง และกล่าวมาด้วยความใจร้อน "หยุดพูดซะ!!! พาข้าไปที่ๆเจ้าเล่าให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้!!!"
จั้วโมพยายามเตือนตัวเองและรวบรวมาติ เพราะมันเป็นเรื่องไร้สาระมากที่จะต้องเถียงกับเด็กตัวเล็กๆ
เขาทำเสียงให้นุ่มนวลลงและพยายามทำให้ตัวเองดูเหมือนว่าสงบสติลงแล้ว "ไปตรวจสอบสิ่งที่เจ้าเห็นในทุ่งหญ้าหลิงกันเถอะ"
นิกายกระบี่อู้กงอาจเป็นเพียงนิกายเล็กๆ แต่ถึงกระนั้นนกกระจอกก็ย่อมต้องมีปีกเป็นของตัวเอง สถานที่เลี้ยงสัตว์ตั้งอยู่ที่ยอดเขาทางทิศตะวันออกของ เทือกเขาอู้กง ซึ่งสาวกหญิงของนิกายชั้นนอกทั้งหมดส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ที่แห่งนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่จั้วโมเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาทิศตะวันออก ทิวทัศน์ที่เขาเดินผ่านเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อเทียบกับยอดเขาทิศตะวันตก ยอดเขานี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามกว่า จำนวนของสาวกหญิงมีมากมาย และตลอดเส้นทางบนภูเขานั้นเต็มไปด้วยดอกไม้และหญ้า ยิ่งทำให้จิตใจของเขาผ่อนคลาย
ยอดเขาทิศตะวันตกและทิศตะวันออกอยู่ห่างไกลกันมาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่สาวกชายของนิกายชั้นนอกจะมาที่แห่งนี้
ลึกเข้าไปในป่า ปรากฏเป็นบ้านสีขาวหลังเล็กๆ และหญิงสาวตัวน้อยที่กำลังเหลือบมองจั้วโมก็ชี้ไปทางบ้านหลังนั้น " ศิษย์พี่นี่คือบ้านของเสี่ยวกั่ว"
จั้วโม้ ขี้เกียจที่จะพูดสิ่งใดเขาจึงมุ่งตรงไปยังบ้านหลังเล็กๆอย่างนั้น
เมื่อเดินเข้ามาก็พบว่ามีหญ้าอยู่กองหนึ่งตั้งอยู่ใกล้กระท่อมหลังเล็ก และมีวัวเขาทองคำที่กำลังยืนกินหญ้าผิวของมันเมื่อกระทบกับแสงแดดก็สะท้อนราวกับแผ่นโลหะ
"อาเป่า อาเป่า!!!"
เมื่อเสี่ยวกั่วมองเห็นวัวทองแดง เธอก็ร้องตะโกนอย่างมีความสุขและวิ่งเข้าไปหามัน
อาเป่าาา
จั้วโมจ้องมองไปยังร่างกายของวัวทองแดงที่มีความแข็งแรงแม้ว่าชื่อของมันจะน่ารักเกินกว่าจะพูดก็ตาม
จากนั้นเขาก็เห็นวัวทองแดงใช้หัวของมันถูกลำตัวของเสี่ยวกั่วและมันก็แลบลิ้นเลียมือที่ยื่นออกมาของเสี่ยวกั่วจนเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำลาย
ลิ้นขนาดใหญ่ที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำลาย ทำให้จั้วโมรู้สึกรังเกียจ
"ทุ่งหญ้าหลิงอยู่ที่ไหน?"เขาหยุดชะงักลงและถาม มิฉะนั้นเขาคงจะต้องยืนดูเธอเล่นกับวัวต่อไป
ภายในทุ่งหญ้าหลิง จั้วโมค่อยๆตรวจสอบพืชที่อยู่ตรงหน้าอย่างระมัดระวัง
นี่คือหญ้าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เพียงแค่มองดูก็ทำให้เขาถึงกับเคร่งเครียด หญ้าส่วนใหญ่จั้วโมจะรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะหญ้าในทุ่งหญ้าหลิง เขารู้เรื่องเหล่านี้ดีตั้งแต่กระบวนการเริ่มปลูกจนกระทั่งครบ 2 ปี แต่ตอนนี้เขามั่นใจมากว่าหญ้าที่เขาเห็นตรงหน้าเป็นหญ้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
หลังจากที่เขาได้สำรวจทุ่งหญ้าหลิง เขาก็เริ่มรู้สึกหนักใจ
" เมื่อไหร่กันที่เจ้าเริ่มพบเจอพวกมัน"
"ประมาณ 3 เดือนก่อน ปกติเสี่ยวเป่าจะมากำจัดวัชพืชในทุกๆวัน แต่พวกมันก็โตเร็วมากเร็วขึ้นเรื่อยๆ………….."ปากของเสี่ยวกั่วเริ่มบิดเบี้ยวเล่นน้ำตาของเธอก็เริ่มไหลออกมา
จั้วโมก็ยังคงมองเธอโดยปราศจากความรู้สึก
เสี่ยวกั่วเริ่มร้องไห้และเดินถอยหลัง เธอยังคงรู้สึกหวาดกลัวอาการที่แสดงออกบนใบหน้าของจั้วโม
จั้วโมมองทุ่งหญ้า และเขาเองก็รู้สึกตกใจ ทำไมวัชพืชชนิดนี้ถึงสามารถเจริญพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
"และคนอื่นๆล่ะ?"
"ทุ่งหญ้าหลิงของเหล่าพี่สาวก็เป็นเช่นนี้ด้วย และพวกพี่สาวเองก็ไม่สามารถหาวิธีแก้ปัญหาได้"เธอยังคงกล่าวพึมพำต่อ "ศิษย์พี่จะสามารถช่วยพวกเราได้หรือไม่?"
จั้วโมรู้สึกเกียจคร้านเกินกว่าจะตอบ และเขาก็เริ่มคิดหาวิธีกำจัดเหล่าวัชพืชนี้ การที่จะเป็นคนทำฟาร์มนั่นก็หมายถึงพวกเขาจะต้องเผชิญกับคำถามมากมายเหล่านี้ การกำจัดวัชพืชเป็นหนึ่งในคำถามที่พบเจอบ่อยที่สุด ซึ่งถ้าวัชพืชเติบโตมากเกินไป วิธีแก้ปัญหาก็จะยิ่งยากมากยิ่งขึ้น
เพียงแค่กำจัดวัชพืชเหล่านี้คงจะไม่ใช่แนวทางในการแก้ปัญหาที่ดี ในตอนนี้ภายในทุ่งหญ้าหลิงเต็มไปด้วยเหล่าวัชพืชที่กำลังเติบโต และมีหญ้ากระบี่เขียวที่หายากแฝงอยู่ด้วย
จั้วโมจ้องมองพื้นดินที่อยู่ใกล้ใกล้เราวัชพืช บริเวณเหล่านั้นปรากฏเป็นวงแหวนเจริญเติบโตมันทำให้เขาลองตรวจสอบที่บริเวณแห่งอื่นก็เพราะว่ามันมีลักษณะเดียวกัน
เห็นได้ชัดเลยว่าเด็กหญิงตัวน้อยไม่ได้เข้าใจวิธีการกำจัดวัชพืชที่อยู่เหนือพื้นดิน โดยเฉพาะวัชพืชชนิดนี้ที่มีความพิเศษคือเมื่อมันได้รับบาดเจ็บมันจะเติบโตขึ้นเร็วยิ่งขึ้น ถ้าในตอนแรกพวกมันถูกถอนรากถอนโคนโดยสมบูรณ์แบบ เหตุการณ์ในปัจจุบันก็คงไม่เกิดขึ้น
ตอนนี้ปัญหาร้ายแรงยิ่งนักทุกๆที่เต็มไปด้วยวัชพืช ในตอนที่พวกเขาฝั่งเราเมล็ดพืชลงไป นี่คือส่วนที่จะเกิดปัญหามากที่สุด ถ้าหากเอาเมล็ดพืชไม่ได้ทำความสะอาดให้ดี พวกมันก็จะนำมาซึ่งปัญหามากมาย
----------------------------------------------
ลี่อิงเฟิงขมวดคิ้ว ดวงตาที่หลักแหลมที่ไม่ได้แสดงออกถึงความเฉียบแหลมปรากฎขึ้นบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล เธอไม่ได้สวมใส่ชุดยาวตามที่เหล่าสาวกหญิงมักจะส่วมใส่กัน แต่เธอสวมชุดสาวกชาย แขนสั่้นเป็นชุดที่ใช้สำหรับต่อสู้ แม้มันจะไม่ได้มีเสน่ห์ แต่กลับรู้สึกถึงความสง่างามที่ไม่อาจบ่งบอกได้
"ศิษย์พี่หญิง ข้าไม่อาจทำแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว!"สาวกนิกายหญิงชุดเหลืองที่อยู่ติดกับเธอกล่าวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ "จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้อีก หลังจากนี้ 2 เดือน พวกเราก็คงไม่อาจหาหญ้ากระบี่เขียวมาเติมเต็มได้"
"หยุดทะเลาะกันเสียเถิด!!!"ลี่อิงเฟิง ลุกขึ้นและสอนคนอื่นอย่างชาญฉลาด
เธอมีการบ่มเพาะที่สูงที่สุดในบรรดาสาวกหญิงนิกายชั้นนอก โดยปกติ เธอนั้นได้รับการยอมรับจากทุกคนอย่างกว้างขวาง หลังจากเสียงตะโกน ทุกเสียงพูดก็หยุดลงในทันที
จิตใจของลี่อิงเฟิง เต็มไปด้วยความกังวล เหล่าวัชพืชเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มันยิ่งทำให้พื้นที่ปลูกพืชหลิงที่มีน้อยอยู่แล้ว ลดลงไปอีก ถ้าหากว่าหญ้าหลิงไม่เพียงพอ เหล่าสัตว์หลิงก็จะไม่มีอะไรกินแล้วพวกมันก็จะอดตาย เหล่าผู้คนที่ดูแลจะต้องถูกลงโทษโดยกฎของนิกาย
การบ่มเพาะของเธอนั้นอยู่ในระดับเหลียนฉีขั้นที่ 9 ซึ่งห่างจากระดับจูจิเพียงแค่ก้าวเดียว ตอนนี้เราผู้อาวุโสของนิกายได้เริ่มให้ความสนใจกับเธอแล้ว และถ้าหากเธอสามารถบรรลุได้ระดับจูจิเธอก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเข้ามาอยู่ในนิกายชั้นใน
ยิ่งเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในช่วงเวลานี้ มันยิ่งทำให้เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวัน
"ศิษย์พี่หญิง ศิษย์พี่หญิง" สาวกหญิงในนิกายคนหนึ่งวิ่งมาอย่างเหนื่อยหอบ "เสี่ยวกั่วกลับมาที่ยอดเทือกเขาตะวันออกแล้ว และพาสาวกชายกลับมาด้วย แปลว่าเสี่ยวกั่วดูเหมือนจะร้องไห้อยู่"
ทั้งทีที่ได้ยินพวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกโกรธจนเหมือนระเบิดที่พุ่งออกมา
"เขากล้าที่จะรังแกเสี่ยวกั่ว!!!"
"หึ ข้าชักอยากจะเห็นแล้วว่าใครกันที่กล้ารังแกน้องสาวของข้า ข้าจะไม่ปล่อยมันกลับไปได้!!"
"ถูกต้อง!!"
"แน่นอนที่สุด!!"
…………………………………..
ลี่อิงเฟิงกำลังรู้สึกโกรธ เสี่ยวกั่วนั้นได้รับการดูแลจากพวกนางและทุกนามทุกคนต่างให้ความสนใจกับเธอ โดยปกติแล้วทุกคนถือว่านางเป็นน้องสาวตัวน้อย เมื่อได้ยินเรื่องที่คนทำให้เสี่ยวกั่วต้องลองให้ พวกเธอก็ไม่มีความลังเลใดๆและเริ่มเดินทางไปยังที่พักของเสี่ยวกั่ว
เมื่อทุกคนได้รับรู้เหตุการณ์ คนอื่นก็ตามมาอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่จั้วโมกำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องวัชพืช ลี่อิงเฟิงก็นำฝูงชนสาวกหญิงเดินขบวนมา
แล้วในเมื่อลี่อิงเฟิงได้พบกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของเสี่ยวกั่ว ความโกรธที่อยู่ในใจของเธอก็ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง
เธอรีบตรงไปยังเบื้องหน้าของจั้วโม
"เจ้าเป็นใคร?"ลี่อิงเฟิงถามอย่างเย็นชา
จากนั้นเธอก็ได้เห็นคำตอบที่ไร้อารมณ์กับมา "จั้วโม"
ความเย็นชาเริ่มก่อตัวขึ้นบนใบหน้าของลี่อิงเฟิงมากยิ่งขึ้น สาวกของนิกายชั้นนอก เธอถือได้ว่าเป็นศิษย์พี่อาวุโส เบื้องหน้าของเธอนั้น ผู้หญิงมีศิษย์น้องหญิง และศิษย์น้องชาย ในเมื่อเธอไม่ได้รับความสุภาพกับมา เธอจึงชี้นิ้วไปทางจั้วโม
ใบหน้าของเสี่ยวกั่วเริ่มซีดจาง ก่อนที่เธอจะพูด เธอก็ได้ยินเสียงฉีกขาด
พลังกระบี่สีเขียวที่บางเฉียบพุ่งตรงไปยังจั้วโม
ก่อนที่จั้วโมจะเริ่มคิดบางสิ่งบางอย่าง เขายกมือขึ้นอย่างรวดเร็วและในเวลาเดียวกัน เขาก็ถอยหลังในทันที
พลังกระบี่สีทองทอแสงวาบขึ้นมา
เมื่อลี่อิงเฟิงมองเห็นคลื่นพลังกระบี่สีทอง มันทำให้เธอรู้สึกกดดันอย่างช่วยไม่ได้
พลังแห่งดาบทั้งสองเข้าปะทะกันกลางอากาศ
ปัง!!!
ลำแสงพิฆาตฟันทำให้ทุกคนถึงกับต้องปิดตา แสงสีเขียวและแสงสีทองกระจายออกเป็นคลื่น
เมื่อทั้งสองต้องเผชิญหน้ากัน
จั้วโมเริ่มมองออกไปเป็นมุมกว้าง ความโกรธที่ไม่สามารถควบคุมได้กำลังลุกเป็นไฟ เมื่อถูกโจมตีจากใครบางคน และการโจมตีครั้งนี้มีความอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าหากเขาไม่หลีกเลี่ยงมัน ร่างกายของเขาก็คงเกิดเป็นหลุมเป็นบ่อขึ้น และเขาอาจจมอยู่ในกองเลือด
ความตกใจที่ลี่อิงเฟิงได้รับนั้นมากกว่าและรุนแรงกว่าจั้วโม เธอคือคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในนิกายชั้นนอกของนิกายอู้กง และนี่คือ[เคล็ดกระบี่จิตรุกขชาติ] ซึ่งทุกคนได้เห็นต่างก็ไม่มีใครยอมรับได้ แต่เมื่อเธอชายตามองไปที่แขวนของจั้วโมเธอเข้าใจในทันที
บางสิ่งบางอย่างก็ผุดขึ้นในหัวของเธอ - ยุทธภัณฑ์เวทย์!!!
สิ่งอื่นที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น พลั่วกระตุ้นหลิง แม่ก็ยังเป็นเพียงแค่เครื่องมือเท่านั้น แม้แต่ยุทธภัณฑ์เวทย์ระดับต่ำที่สุด ยังถือเป็นของล้ำค่าสำหรับเหล่าสาวกนิกายชั้นนอก แต่สิ่งที่เขาใช้ในตอนนี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าเขานั้นเป็นคนที่มีความร่ำรวย
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจจริงๆนั้นคือ ระดับพลังในการบ่มเพาะ แม้ว่าจะมียุทธภัณฑ์เวทย์ที่ดีที่สุด แต่การบ่มเพาะถือได้ว่าเป็นพลังรากฐานทั้งหมด ซึ่งปฏิกิริยาของผู้คนรอบข้างมันเกินกว่าที่เธอคาดคิดไปมาก
ศิษย์น้องหญิง ส่วนใหญ่ต่างไม่มีผู้ใดคุ้นเคยกับระดับพลังเหลียนชีขั้นที่ 8
การที่มีพลังบ่มเพาะ ถึงระดับเหลียนชีขั้นที่ 8 สามารถไต่ขึ้นสู่อันดับ 1 ใน 3 ของเหล่าสาวกนิกายชั้นนอก ตามที่เธอรู้ สาวกนิกายชั้นนอกที่มีพลังเหนือระดับเหลียนชีขั้นที่ 8 นอกจากเธอก็มีเพียง เว่ยเซิงที่เป็นทั้งข้ารับใช้และผู้สืบทอดกระบี่ของศิษย์พี่หลัวลี่ แต่เธอกลับไม่รู้สึกคุ้นเคยหรือมีความทรงจำใดๆเกี่ยวกับชายที่อยู่เบื้องหน้าเธอ นั่นก็หมายความว่าเขาเองคงก้าวขึ้นสู่ระดับเหลียนฉีขั้นที่ 8 เมื่อไม่นานมานี้
ในนิกายอู้กง การบรรลุขึ้นระดับที่ 8 ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ แต่ทำไมเธอถึงไม่ได้ยินหรือรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว คือชายคนนี้พยายามปกปิดเหตุการณ์เหล่านี้เอาไว้
แต่เหตุผลที่ทำไมชายคนนี้ถึงปิดบังเรื่องสำคัญขนาดนี้ เธอเองก็ไม่สามารถคาดเดาได้
บุคคลคนนี้ช่างฉลาดปราดเปรื่องมาก!!!
เมื่อมองดูใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของจั้วโม เธอก็เริ่มรู้สึกเสียใจเล็กน้อยกับการกระทำก่อนหน้านี้
" ศิษย์พี่หญิง ศิษย์พี่หญิง!! ทำไมท่านถึงโจมตี ศิษย์พี่ชายล่ะ?"เสี่ยวกั่ว รีบวิ่งไปอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสอง ใบหน้าของเธอเริ่มซีดลง
ลี่อิงเฟิงรู้ทันทีว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอจึงถามอย่างช่วยไม่ได้ "เสี่ยวกั่ว ไม่ใช่ว่าชายคนนี้รังแกเจ้ารึ?"
" รังแก?" เสี่ยวกั่วหยุดและส่ายหัว "เขาไม่ได้รังแกเสี่ยวกั่ว!! ศิษย์พี่ชายกำลังช่วยเสี่ยวกั่วตรวจสอบทุ่งหญ้าหลิง ศิษย์พี่หญิง ศิษย์พี่ชายอาจจะมองดูเป็นคนน่ากลัว แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่ดีมาก……."
เมื่อจั้วโมได้ยินเรื่องราวทั้งหมด และเขาก็คงจะโทษเพียงแค่โชคร้ายในตัวของเขา หลังจากนั้นเขาก็เริ่มสงบลง เขาค่อนข้างชื่นชมความแข็งแกร่งของผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา
ทันใดนั้นมนุษย์ถึงข่าวลือที่เขาได้ยินมาโดยตลอด เขาจึงต้องถามอย่างช่วยไม่ได้ "เจ้าคือศิษย์พี่หญิงลี่อิงเฟิงใช่หรือไม่?"
"ใช่ข้าเองลี่อิงเฟิง!"ลี่อิงเฟิงตอบกลับมา พร้อมทั้งแสดงอาการขอโทษโดยการก้มหน้าลง "ในตอนนี้ มันเป็นเพราะข้ามองผิดไปแล้วเกือบจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ข้าต้องขอโทษศิษย์น้องสำหรับเรื่องนี้ด้วย!!"
เมื่อจั้วโมเห็นว่าเธอนั้นเป็นคนที่จริงใจและใจกว้างมันจึงทำให้เขาค่อนข้างรู้สึกดี จั้วโมจะรีบตอบกลับ "มันเป็นเพียงความเข้าใจผิด ศิษย์พี่อย่าได้ใส่ใจ!!"
ลี่อิงเฟิงจึงไม่แสดงอาการเสแสร้งใดๆและถามอย่างจริงจัง "ไม่ทราบว่าศิษย์น้องเจอตรวจพบอะไรบ้างหรือไม่?"