ตอนที่ 25 : ปฐมบทของการแข่งขัน
เริ่มเข้าสู่เทอมที่สามของสถาบันการศึกษา ชั้นของรูเดิลได้เตรียมการอย่างจริงจัง พวกเขาเตรียมไว้สำหรับการแข่งขัน อาจารย์ประจำชั้นกล่าวว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นการเตรียมพร้อมขนาดนี้ การแข่งขันในครั้งนี้ได้แบ่งแยกไปตามชั้นปี เป็นสถานที่ที่จะแสดงถึงความสามารถและพัฒนาการของทุกคนในปีที่ผ่านมา มันเป็นเป็นเหตุการณ์ที่น่าหลงใหลในทุกปี หากเพียงแต่ในครั้งนี้ได้มีพระราชวงศ์มา ร่วมชมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย
และยิ่งไปกว่านั้น ชั้นของรูเดิลได้ใส่ความรักที่จะได้ร่วมมือกันจากพลังของพวกเขา และในการแข่งขันครั้งนี้ ได้มีระดับใหม่ของความรัก ชั้นอื่นๆก็ได้เริ่มมีความตึงเครียด
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเทอมที่สอง อัลเลตได้การเป็นฮีโร่ของสถาบันการศึกษา ในขณะที่หลายคนย่อมรู้ความจริง แต่ถึงกระนั้นไม่มีใครจะสู้ความแข็งแกร่งของอัลเลตได้
ภายในสถานการณ์ที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น
และเป็นชั้นของรูเดิล ที่ทุ่มเทเพื่อการฝึกซ้อม ลุกซ์และยูเนียส ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับชั้นของพวกเขาเอง ในพื้นดินเย็นวันนั้น นักเรียนทั้งสามชั้น ปล่อยบางอย่างที่แปลกประหลาดออกมาจากอากาศ
“รูเดิล ฉันเคยได้ยินเรื่องราวของเขา และฉันก็รู้ถึงจุดมุ่งหมายของเขาในการแข่งขันในครั้งนี้”
ในคำพูดของลุกซ์ ที่เริ่มต้นขึ้นกับชั้นของรูเดิล ที่โอบกอดความหวังของแสงแห่งความร่วมมือในชั้นของเขาที่พอจะเป็นไปได้ แม้แต่อิซูมิ หากทั้งสามขุนนางเข้ากันได้ดี แล้ว. . . เธอหวังเช่นนั้น แต่ยูเนียสยังคงยืดหยัดที่จะสู้ต่อไป
“พวกเราก็ได้ยิน แต่เราตัดสินใจที่จะเอาชนะนายด้วยกำลังทั้งหมดที่เรามี ในการแข่งขันครั้งนี้ นายจะเผชิญหน้ากับ ลุกซ์ และนัดแรก และหากว่านายชนะนายก็จะมาเจอกับเรา และถ้าหากนายโชคดีที่ได้ชนะชั้นของเรา อัลเลต จะเป็นคลาสสุดท้ายที่นายจะได้ต่อสู้ นายไม่มีความหวังแห่งชัยชนะในครั้งนี้”
หลังจากที่เขาพูดจบ พวกเขาทั้งสองเดินออกไปยังชั้นของเขา คำพูดเหล่านั้นทำให้อิซูมิรู้สึกแย่ พวกเขาทั้งสองมีความสามารถมากในเรื่องของเวทย์มนต์และเพลงดาบ ถ้าเขาจะต้องชนะทั้งสองทีม จะต้องใช้การแข่งขันแบบเป็นทีมอย่างสูงมาก…ในขณะที่เธอคิดว่า รูเดิลเรียกทั้งสองฝ่ายให้แยกออกจากกัน
“ฉันต้องได้เข้าร่วมในการแข่งขันครั้งสุดท้าย! แล้วพวกนายทั้งสองล่ะ?”
เขาประกาศคำสั่งของเขาอย่ากล้าหาญในการแข่งขัน ภายในอากาศที่น่าสงสัยล้อมรอบพื้นที่ ทั้งสองเพียงแค่ยกมือก่อนที่จะเดินออกไป
“นะ..นาย กำลังพูดถึงอะไร รูเดิล!!?”
เสียงของอิซูมิสะท้อนผ่านสนาม
ooo
ผู้แทนของชั้นเรียนทั้งสอง ได้พูดคุยกับหัวหน้าของพวกเขาเอง
“นะ..นายแน่ใจหรอ ลุกซ์? หาก บ้านอาร์ช ไม่ชนะการแข่งขันในรอบนี้. . .”
ตัวแทนคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนที่ลุกซ์จะตอบคำถามของเขา
“หากนายได้ออมแรงในการแข่งขัน ฉันจะไม่มีวันอภัยให้นาย”
ลุกซ์กล่าวคำออกมาด้วยความเย็นชา ยูเนียสหยุด และหันไปมองทุกคน และด้วยคุณสมบัติที่ดุร้ายของเขา เขาจึงประกาศขึ้นว่า
“ในการแข่งขันครั้งนี้ กลับถือเป็นโทษมากเสียกว่าความพ่ายแพ้! ฉันไม่สนใจเกี่ยวกับชั้นเรียนอื่นๆ ไปเสียกว่าชั้นของรูเดิล!”
“ฮ่ะ ..ยูเนียส ในกรณีนี้ นายไม่สามารถที่จะบ่นได้ หากนายได้แพ้ไปเสียก่อนที่จะได้เจอกับชั้นของรูเดิล”
ในการพูดเช่นนั้น ลุกซ์ก็ได้ถอนหายใจ ยูเนียสตอบเขาด้วยเสียงหัวเราะ
“นายนี่เป็นคนโง่หรือยังไงกัน? เราไม่เคยแพ้ใครนอกเสียจากอัลเลตหรือชั้นของรูเดิล…ฉันตัดสินใจที่จะไม่ต่อต้านเขา”
มันต้องเป็นไปที่ลุกซ์หรือยูเนียส จะต้องต่อสู้กับเขาอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เป็นเพราะ พวกเขาเกลียดรูเดิล หรือะไรเลย พวกเขายอมรับความสามารถของรูเดิล ดังนั้น พวกเขาจะใช้ความสามารถทั้งหมดของพวกเขา และจะไม่บ่นถ้าหากเกิดว่าแพ้หรือชนะ…นั่นคือข้อสรุปของพวกเขา
“เพราะรูเดิลจะไม่มีวันอภัยให้พวกเรา หากเราถดถอยให้แก่เขา”
“ไอนั่นน่ะ … สร้างความท้าทายให้กับเราเสียจริง นายจะทำอย่างไร ลุกซ์?”
เขาพูดในขณะที่หันไปมองชั้นของรูเดิล ..ลุกซ์
“ไม่มีอะไรมาก ฉันจะพาเขาไปเอง…ไปยังผู้แข่งขันคนสุดท้าย”
ในคำเหล่านั้น ลุกซ์ทำท่าทางกวนๆของเขาขึ้น หากพวกเขาต้องการที่จะชนะ มันจะเป็นการดีที่สุดหากไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างลุกซ์และรูเดิล แต่ยูเนียสก็ยังคงตอบ
“และแน่นอนฉันด้วย! ฉันก็อยากที่จะสู้กับเขาสักครั้ง”
ยูเนียสหันไปมองยังชั้นของรูเดิล ที่นั่นเขาสามารถเห็นอิซูมิ ที่ยังคงเดินตามรูเดิลไปรอบๆ และเขาก็ถูกจับโดยอิซูมิ รูเดิลตะโกนขึ้น
“ฉัน…ไม่! เราจะชนะอย่างแน่นอน!!!”
รอยยิ้มที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของเขาทั้งสอง ก่อนที่เขาจะเดินออกไป ไล่ตามหลังของเขาทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา…และแม้กระทั่งขณะเดินไป พวกเขาจะได้ยินเสียงหัวเราะของรูเดิลและเพื่อนร่วมชั้นของเขา
ooo
วันของการแข่งขันได้มาถึง ในห้องโถงของการชมการแข่งขัน ประกอบด้วย ‘ เอลเบทต์ ‘ พระมหากษัตริย์ของ Courtois
และ ‘ ซิเอลล์ ‘ พระชายาของเขา และเจ้าหญิงองค์แรก ไอลีน แห่ง Courtois พวกเขามองลงมาจากห้องโถง ซึ่งเป็นสถานที่ในการการแห่งขันได้ดีที่สุด
มีการคุ้มกันโดยอัศวินชั้นสูง คุ้มกันพวกเขาสามคนอย่างเงียบๆ เมื่อมองไปที่ห้องโถง จะพบครูใหญ่ และถัดไปคือที่นั่งของเจ้าหญิงฟีน่า ที่รอชมการแข่งขันเช่นเดียวกัน และ ใช่ เธอเป็นคนเขียนเชิญครอบครัวของเธอมาชมการแข่งขันในครั้งนี้
“เธอยังดูดีเหมือนเดิมฟีน่า แม้ว่าเราจะเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา”
พ่อของเธอ กษัตริย์เอลเบทต์ พูดด้วยน้ำเสียงหัวเราะ
“ลูกยังคงสีหน้าเช่นเดิม แม่คิดว่าลูกจะดีขึ้นเสียอีก”
แม่ของเธอพูดกับเธอ หลังจากที่พ่อของเธอพูดจบ
“ฟีน่า ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง? ฉันไม่เคยเข้าร่วมเลย ดังนั้นฉันจึงสนใจมาก … เธอจะมพูดอะไรเกี่ยวกับมันในช่วงพักเธอสามารถบอกฉัน เกี่ยวกับวิธีการต่างๆ”
“ฉันมารอสักครู่แล้วเพคะ พ่อ แม่ ..และพี่ไอลีน”
ในขณะที่เธอลุกถอนสายบัวด้วยความสมบูรณ์แบบที่สุดพร้อมกับใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ฟีน่าพยายามแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม อารมณ์ของเธอที่รู้สึกต่อครอบครัว
( จริงๆแล้วราชวงศ์ของเราเป็นความหวังหนึ่ง …โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไอลีน เธอคือผู้ที่อันตราย! หากเธอได้เจอลูกแมวน้อยของฉัน .. ผู้หญิงคนนี้จะฆ่าเธอ! ฉันมั่นใจ! แม่ของฉันยังดีเหมือนเดิม และพ่อของฉัน…ก็คงดีเช่นกัน )
เธอก็ให้ความสงบนิ่งแก่ครอบครัวของเธอ
ฟีน่านั่งอยู่ในชั้นของแขกผู้สูงศักดิ์ มองผ่านไปยังห้องโถงของชุมนุม … ในห้องโถง นักเรียนมีป้ายต่างๆและธงยกขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนสถาบันของตัวเอง ความกระตือรือร้นภายในฮอลล์จะมีให้เห็นเพียงตอนที่ราชวงศ์เสด็จมาเพียงเท่านั้น
( วิธีที่ร้อนระอุ …เมื่อฉันสามารถทนกับความร้อนของมี่ ฉันจะใส่มัน ถ้าเป็นขนปุยของฉันแล้วละก็…!!! )
ในขณะที่เธอกำลังเกิดความคิดจากสิ่งต่างๆ พ่อของเธอก็ได้ถามขึ้น
“แล้วมันเป็นอย่างไร? ตามที่เธอบอก บุตรชายคนโตของบ้านอาร์ช เป็นความเชี่ยวชาญคนหนึ่ง พ่อเคยได้ยินบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกันจากอัศวินชั้นสูงแหละเหล่าดรากูน … พ่อควรจะทำอย่างไรกับรายงานที่ผิดพลาด พ่อลำบากใจที่จะตอบแคทีย่าจริงๆ ดูเหมือนว่าเธอจะเกลียดเขามาก ลูกรู้ไหม? และจากเอกสารมันพูดได้อยากว่าเขาเป็นผู้ที่มีฝีมือ และว่าพ่อจะคิดว่าเขาน่าสนใจ”
“บ้านอาร์ชถือศักดิ์ศรีเป็นที่หนึ่ง ปัจจุบันพวกเขากำลังรวบรวมสามขุนนางให้กลายเป็นหนึ่งเดียว … ช่วงเวลาที่แม่ได้ยินว่า ลูกมีความสนใจในบุตรชายคนโตของบ้าน บอกตามตรง แ ม่รู้สึกสงสัย ฟีน่า”
แม่ของเธอแม้จะไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็ได้ผสมการถางถางออกมาด้วยความสงสัย
“เขาเป็นคนรักการต่อสู้ใช่ไหม? เขาคงจะเป็นพวกที่อำมหิต ดังนั้นเขาจะไม่แตกต่างไปจากพวกเอลฟ์เสียเลย พี่เกลียดประเภทพวกนั้น! หากมันเกี่ยวข้องกับการถือครองอำนาจ บ้านฮาร์ดี้ของอัตเลต ดังที่แคทีย่าพูดนั่นจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด เธอไม่คิดอย่างนั้นหรอ ฟีน่า?”
“… บางที”
ฟีน่าให้คำตอบที่คลุมเครือ แต่ภายในใจของเธอ…
( เอ๊ะ? คนอย่างอัลเลตนั่นคือสเป็คของเธอหรอหรือเป็นสิ่งที่เธอสนใจ?... ไม่เคยคิดคิดจะรับได้อย่างเธอ พี่สาว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเจ้าขนปุยของฉัน อ๊า! แต่มันมีต้นแบบหลายอย่างแยกออกไป! นั่นต่างหากที่เป็นสมบัติของ Courtois สมบัติ!! ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนเธอยังคงจะเกลียด ฟัฟฟี่น้อยของฉัน …ฉันหมายถึงพวกเอลฟ์น่ะ )
ขณะที่พวกเขากำลังดำเนินการสนทนาคู่แข่งที่นำเสนอ น้อมคำนับพระราชวงศ์ ครอบครัวของราชวงศ์โบกมือในการตอบสนองของพวกเขา แต่…
“ให้ตายสิ … จะสียเวลากับเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ”
“พวกเขาคือเอลฟ์ ทำไมพวกเขาจะต้องส่งพวกเอลฟ์ออกมา? พวกเขาควรจะตัดตัวเลขบางส่วนของพวกเอลฟ์ออกไป”
“ฮ่า ใจเย็นลงหน่อย พวกเธอทั้งสอง ลองเรียนรู้จากฟีน่า”
ในขณะที่บทสนทนาได้เปลี่ยนออกไป
( โอ้ โอ้ !! ดูพวกเอลฟ์เหล่านั้นสิ …ฮ่า ฮ่า ยกโทษให้ฉันนะมี่ ฉันอาจจะหลอกเธอ )
…เธอเป็นคนที่เลวร้ายที่สุดของกลุ่ม. . .