ตอนที่ 23 : โอกาสครั้งสุดท้าย…
ในขณะที่ลิลิมได้มารายงานตัวในสถานศึกษา เธอก็ยังคงพยายามหารูเดิลและความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอได้ตรวจสอบสิ่งที่นอกเหลือจากรายงานของแคทีย่า ก่อนที่ข่าวลือรอบๆจะกลายเป็นเรื่องจริง..เรื่องที่น่าแปลกใจจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
สำหรับน้องสาวของเธอ มิเลีย คือผู้ที่รู้เรื่องราวส่วนใหญ่ของมัน
“ฉันไม่ทราบจริงๆเกี่ยวกับอัลเลต แต่เขาแข็งแกร่งมากและทุกคนล้วนบอกว่าเขาแข็งแกร่งที่สุดในปีของเรา รูเดิล…พยายามอย่างหนักจริงๆ และในขณะที่บางครั้งเขาหมุนล้อชีวิตของตัวเองไปในทางที่ไม่ถูกต้องบ้างแต่เขาก็เป็นคนดี”
เพื่อแก้ไขข่าวลือที่อยู่ทั่วพระราชวัง เธอก็คงถามถึงความจริง
“ครัซ ได้เข้าช่วยเหลือเจ้าหญิง? ต่อให้อีกล้านปีมันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น! เอ่อ..ฉันหมายถึงเขาเป็นคนที่วิ่งหนีและไม่มีทางใดเลยที่จะหาเขาพบ ที่สำคัญ หากรูเดิลไม่ได้อยู่ที่นั่น เราทุกคนคงได้รับการบาดเจ็บ…”
ในการรายงานเหล่านี้ ลิลิมสงสัยว่า รายงานที่ได้รับเป็นการปลอมแปลงขึ้น ยิ่งเธอมองลงไปในเอกสารรายงานนั้น มันยิ่งทำให้คำถามของเธอกระจ่างขึ้น
( ดังนั้นจึงเป็นแคทีย่าที่อยู่หลังเหตุการณ์ทั้งหมด…แม้ว่าเธอจะเกลียดเขา แต่เธอก็ไม่น่าที่จำทำถึงขนาดนี้!? )
ในขณะที่ทั้งสองกำลังดื่มชาถ้วยโปรด เขาก็ได้มองลงไปยังโรงอาหาร อัศวินชั้นสูงเพียงผู้เดียวที่เดินเก้ๆกังๆเข้ามาในโรงอาหารพร้อมน้ำตาที่คลอ … นั่นคือ โซฟีน่า
ลิลิมพยายามที่จะตะโกนเรียกโซฟีน่า แต่เธอสังเกตเห็นโซฟีน่าวิ่งออกไปในทิศทางตรงกันข้าม ลิลิมพบว่ามันน่าสงสัย และเธอก็ได้มองไปยังเส้นทางที่เธอวิ่งออกมา
“นั่นเป็นทางไปโรงพยาบาลใช่ไหม? ทำไมอัศวินชั้นสูงอย่างเธอ ต้องวิ่งออกมาพร้อมน้ำตาจากสถานที่แห่งนั้น?”
หลังจากที่เธอคิด เธอพูดกับมิเลียน้องสาวของเธอเพียงไม่กี่คำ ก่อนที่เธอจะมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล ในโรงพยาบาลที่จัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไว้มากมายราวกับว่าไม่ใช่โรงพยาบาลเสียอย่างนั้น เธอหยุดที่หน้าพยาบาลและได้ถาม
“เธอออกไปจากห้องของ ‘บุตรชายของสามขุนนาง’ ด้วยน้ำตา!?”
นี่เป็นความประหลาดใจ อัศวินชั้นสูงผู้ถือทักษะและเปรียบเสมือนโล่แห่งความภาคภูมิใจของพระมหากษัตริย์…ซึ่งเป็นอัศวินที่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกไป ลิลิมเท่านั้นที่จะสามารถจินตนาการเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะยังเด็ก แต่พวกเขาเป็นชายหนุ่มถึงสามคน…ในฐานะที่เธอเป็นอัศวินหญิง เธอรู้สึกโกรธที่เธอปล่อยให้โซฟีน่าไปยังห้องสามขุนนาง
“ยกโทษให้ฉันด้วย!”
เธอห้ามยามที่มีอยู่หน้าประตูด้วยการสั่งเขาด้วยความโกรธที่ขึ้นหน้าของเธอในตอนนี้ เธอบังคับเขาเพียงเพื่อเธอต้องการที่จะพบรูเดิลในตอนนี้ รูเดิลลุกขึ้นด้วยความตกใจ เขาเห็นสีหน้าที่จริงจังของลิลิมที่เข้ามายังห้องของพวกเขา การแสดงออกบนใบหน้าของเธอทำให้เขาคิดบางอย่าง เมื่อเห็นเขาเช่นนั้น ลิลิมไม่คิดใดๆความคิดที่เธอคิดว่ามันไม่เหมาะสมก่อนหน้านี้ได้เกิดขึ้นบนหัวของเธอ เหมือนอย่างที่เธอว่า เธอกำลังคิดไปเอง…
“อ๊า! ละ..ลิลิม! ทำไมเธอถึงมาที่นี่?”
เมื่อสังเกตเห็นเธอ รูเดิลได้รับการทักทายมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างที่จะอึดอัด ในขณะที่เธอก็รู้สึกค่อนข้างที่จะอึดอัดใจตัวเอง ไม่มีทางที่เธอจะพูดว่าเธอบุกเข้ามายังห้องของเขาเพราะความเข้าใจผิดของเธอ ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนเรื่อง
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก มีอะไรที่นายไม่สบายใจหรือไม่?”
เธอกำลังถามในสิ่งที่เธอไม่ควรถาม
“คะ..ความจริง จะบอกว่าเพราะความไม่พอของตัวฉันเอง ฉันไม่สามารถถ่ายทอดความมหัศจรรย์ของหนังสือเล่มนี้กับคนรู้จักของฉัน …”
หนังสือที่เขาถืออยู่ และยื่นออกมาให้เธอได้เห็น ‘วิธีการเลี้ยงมังกร’…เมื่อเห็นหนังสือเล่มนี้ ลิลิมฝืนยิ้มอย่างขมๆ เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้น หนังสือที่มีชื่อเรื่องเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เสียแรงจูงใจในการอ่านต่อ เมื่อเห็นลิลิมเป็นเป็นเช่นนั้น รูเดิล..
“อะ..อืมม อันที่จริงฉันก็มีเรื่องอยู่นิดหน่อย … เธอสามารถที่จะให้ฉันเลี้ยงเธอได้หรือไม่? แน่นอนว่านี่มันคือหนังสือที่น่าทึ่ง! ฉันต้องการที่จะพิสูจน์มัน!”
ลิลิได้เข้าห้องมาภายใต้ความเข้าใจผิดเธอคิดว่ามันคงจะดีขึ้นหากเธอได้รับการอนุญาตที่มากกว่าขึ้น เป็นผลที่ทำให้เธอเป็นเช่นเดียวกันกับโซฟีน่า สีแดงไปจนสุดปลายหูเอลฟ์อันแสนยาวของเธอ เธอวิ่งออกจากโรงพยาบาลด้วยน้ำตา และรูเดิล ได้ถูกทิ้งไว้ในห้องเพียงคนเดียวอีกครั้ง…
“ดังนั้นนั่นมันยังไม่ดีใช่ไหม? ฉันคงต้องฝึกอีกสักหน่อย”
ooo
ไม่กี่วันหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านั้น พระราชวังส่งข้อเสนอที่ไม่คาดคิด ที่จะจัดการกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เหล่าอาจารย์รวมตัวกันแต่เช้าเพื่อประชุม…เนื้อหาที่ระบุไว้…
“ราชวงศ์จะมาชมการแข่งขันของหลักสูตรขั้นพื้นฐาน!? เรายังไม่ได้เตรียมอะไรเลยสำหรับพวกเขา”
“ดูเหมือนว่า พวกเขาต้องการที่จะเห็นถึงความแข็งแรงของ อัลเลต และ ครัซ ที่ได้ช่วยชีวิตเจ้าหญิงเอาไว้ … ถึงอย่างนั้น แต่นี่มันกะทันหันเกินไป”
“พระมหากษัตริย์ได้กล่าวไว้ว่า เขาเองจะเป็นผู้ที่มอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะ”
เหล่าคณาจารย์รวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นอื่นๆด้วยความยากลำบาก ครูใหญ่กำลังคิดถึงเนื้อหาที่ผ่านมามันเป็นประวัติการณ์สำหรับราชวงศ์ ราชวงศ์ตัดสินใจได้เร็วเกินไป หากแต่มีอะไรไปกวนใจพวกเขาหรือไม่?
ในบรรดาผู้สมัครที่เป็นไปได้ รูเดิลก็เป็นหนึ่งในนั้น
“อืมม หากเป็นเช่นนี้ สถาบันการศึกษาจะต้องยุ่งไปจนถึงระยะที่สามของการแข่งขัน ทุกคนจะต้องทำอย่างดีที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการละเลยในการจัดเตรียม….การแข่งขันในครั้งนี้”
ปฎิกิริยาของครูใหญ่เป็นที่น่าแปลกใจต่อทุกคนโดยรอบ แต่ราชวงศ์ที่จะมาชมการแข่งขัน พวกเขาไม่สามารถเลือกอะไรได้ แต่เพื่อทำการแข่งขันครั้งนี้ให้สำเร็จ เพื่อที่จะทำแบบนั้น พวกเขาก็ต้องที่จะเตรียมความพร้อมด้วยความเร่งรีบ คณาจารย์ได้เดินออกจากห้องประชุม…
ทิ้งครูใหญ่ไว้ให้อยู่เพียงลำพังภายในห้อง
“นี่จะเป็นโอกาสของเขา หรือว่ามันจะแย่อีก…ถ้าชั้นของเขาชนะ ฉันเชื่อว่าเขาจะได้เติบโตใกล้กับความปรารถนาของเขา”
เมื่อครูใหญ่ได้ยินความฝันของรูเดิลครั้งแรกนั่นก็คือการเป็นดรากูน เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี ที่จะมีความฝันและมุ่งมั่นในขณะที่ยังเด็ก แม้ว่าเขาจะผิดหวังเมื่อมันไม่ได้เป็นจริงขึ้นมาดังที่เขาฝันไว้ ตราบใดที่เขายังเด็ก เขาสามารถที่จะเติบโตและเรียนรู้ได้จากมัน…นั่นคือสิ่งที่เขาคิดไว้ในตอนแรก แต่ตอนนี้มันกลับแตกต่างกัน
“ฉันอยากจะให้ความฝันของเขากลายเป็นจริง เพียงแต่ความฝันของเขามัน -บริสุทธิ์เกินไป- อาจจะพังได้ก่อนที่เขาจะได้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ได้ลากผู้คนมาอยู่กับเขา เขาก็จะพูดได้เพียงว่า’ฉันไม่สามารถทำมันได้’”
ครูใหญ่หัวเราะขึ้นในขณะที่เขามองผ่านเอกสาร
เช่นเดียวกันกับที่ทัวร์นาเมนต์ระดับหลักสูตรในระยะที่สาม กลายเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน กษัตริย์เสด็จออกมาด้วยแรงจูงใจต่างๆ ผู้คนจำนวนมากจะใช้โอกาสนี้ในการแสดงความสามารถของพวกเขา ภายในเหล่าผู้คนทั้งหมด ครูใหญ่ไม่สามารถรอดูได้ว่ารูเดิลจะได้อยู่หรือจะต้องไป
ooo
“นายได้ยินเรื่องหรือยังรูเดิล!? ราชวงศ์จะมาเข้าร่วมดูการแข่งขันในปีนี้…เกิดอะไรขึ้น!? ถ้านายชนะนายจะได้รับรางวัล ฉันได้พูดคุยไปทางสถาบันและเราตัดสินใจที่จะขอให้เขาไม่ได้บังคับนายให้จบการศึกษา!”
แข่งกับรูเดิลในห้องพักของโรงพยาบาล อิซูมิได้รีบมาเพื่อที่จะส่งข้อมูล …แต่บาซิลลี่ได้อยู่ที่นั่นก่อนแล้ว แล้วได้บอกในสิ่งที่เขาอยากจะรู้
ลุกซ์และยูเนียวสได้รับการอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล และในขณะนี้มีเพียงรูเดิลเพียงคนเดียวที่ได้อยู่ที่นั่น และมีบาซิลลี่อยู่ข้างกับเขา
“โอ้ฉันขอโทษ ฉันบอกเขาไปแล้วว่า…”
“… โอ้ใช่ๆ เป็นเช่นนั้น”
อิซูมิหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เมื่อเธอเห็นปฏิกิริยาของรูเดิล เธอก็ได้มอบรอยยิ้มให้แก่เขา
“ดังนั้น ฉันจึงมีโอกาสอีกครั้ง .. ฉันต้องการที่จะอยู่สถานศึกษาแห่งนี้! ฉันยังต้องการที่จะแข่งขันกับอัลเลต! และฉันยังคงมีรุ่นพี่ที่แข็งแกร่งกว่าฉัน ... เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าทุกๆคนในชั้นเรียนของฉันได้มาช่วยฉัน..ฉันจะต้องชนะในการแข่งขันครั้งนี้!”
รูเดิลยืนขึ้นจากเตียง สีหน้าจริงจังบนใบหน้าของเขา เขาถอดผ้าพันแผลที่พันรอบร่างกายของเขา เขาใส่เสื้อผ้าของตัวเองและพยายามที่จะออกจากโรงพยาบาล …เพียงแต่อิซูมิรีบก้าวเข้ามาเพื่อหยุดเขา
“นะ..นายจะทำอะไร!? นายจะเป็นที่จะต้องพักร่างกายของนายในตอนนี้!”
“ไม่มีปัญหา! ฉันได้รับการตรวจสอบโดยการเคลื่อนย้ายร่างกายเมื่อสองวันก่อนและฉันสบายดี มันมีอะไรมากกว่าที่ฉันจะต้องมานอนอยู่ที่นี่และเสียใจในภายหลัง”
บาซิลลี่กำลังมอไปยังรูเดิล
“สมกับเป็นรูเดิล ซามะ ! … หากแต่นายผลักดันตัวเองและทำลายตัวเอง นั่นคือสิ่งที่นายจะไม่สามารถเข้าร่วมในการแข่งขันได้ ดังนั้น อย่ากดดันตัวเอง ขอให้เริ่มจากการออกกำลังกายเบาๆในบ้างส่วนที่จะสร้างความแข็งแรงให้ตัวนาย”
เธอพูดไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ยินจากเธอทั้งคู่ แม้รูเดิลก็ไม่อาจจะฝืนตัวเองไปได้…หรือเขาควรที่จะได้รับ
“ เธอพูดถูก! พื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ…ฉันควรจะฝึกตัวเองจากพื้นฐานอีกครั้ง? หรือฉันควรที่จะเรียนรู้สิ่งพิเศษใหม่ๆ”
รูเดิลคิดกับตัวเอง บาซิลลี่ได้บอกกับเขา
“รูเดิล ซามะ นายสามารถแบ่งเวลาในการพักมาได้มั้ย? ถ้านายทำได้ ฉันจะให้นายได้ฝึกดารอบรมที่สุดที่เคยมี”
เธอพูดบางสิ่งบางอย่าง อิซูมิรู้สึกสงสัยบางอย่าง แต่เธอไม่สามารถคิดได้ว่าบาซิลลี่จะสอนอะไรเขา เธอเพียงแต่อยู่เงียบๆ เพื่ออยู่ร่วมสนทนาในครั้งนี้ด้วย
“จริงหรอ!? แล้วตอนนี้ฉันเป็นของพวกเธอ”
รูเดิลตอบอย่างมีพลัง รอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าของพวกเขาทั้งสามคน พวกเขากล้าหาญที่จะออกจากโรงพยาบาล จะมีก็เพียงแต่แพทย์และพยาบาลเท่านั้น ที่จะหยุดเขาไว้. . .