ตอนที่ 21 : ความอ่อนแอที่กำลังครอบงำ
อิซูมิกลับมายังหอพักหญิง และเมื่อตกกลางดึก รูเดิลได้แอบเล็ดรอดออกจากโรงพยาบาล มือของเขาได้กุมดาบ ลุกซ์ได้สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของเขา ลุกซ์สงสัยบางอย่างในตัวเขา และตัดสินใจที่จะตามเขามา พร้อมกันกับยูเนียส
“ปล่อยเขาไปเถอะ”
“จะบอกฉันว่าไม่ให้สนใจคนที่ออกไปพร้อมกับอาวุธ!? และไม่มีใครบอกได้ว่าเขากำลังจะทำอะไร”
ยูเนียสลุกขึ้นจากเตียงของเขาด้วยอาการของคนที่ง่วงนอนพร้อมกับเกาหัวของตัวเขาเองไล่ความหงุดหงิดและเรียกให้ลุกซ์ตามเขาไป ลุกซ์เดินตามหลังของยูเนียสไป
ทั้งสองคนเดินออกไปที่ระเบียงของโรงพยาบาล มียูเนียสชี้นิ้วของเขาลงมายังพื้นสยามแห่งหนึ่ง … เสียงของการควงดาบดังขึ้นไปถึงชั้นสอง และลุกซ์สามารถเห็นรูปแบบการควงดาบของเขาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ร่วงหล่นของความเจ็บปวดทั้งภายในใจและกาย ในขณะที่เขาควงมันไปรอบๆ รูปแบบที่น่าสงสารของเด็กหนุ่มน้อยในห่อผ้าพันแผลพร้อมกับควงดาบของเขา
“เขาทำได้ดีสำหรับร่างกายที่กำลังอ่อนแอ … เขาทำแบบนี้ทุกวันในระหว่างที่เขาพักในโรงพยาบาลที่ผ่านมา”
“ทำไมเขาถึงร้องไห้? เขาไม่ได้ปล่อยความรู้สึกของเขาในระหว่างวัน เรื่องเกิดขึ้นเกี่ยวกับการโจมตีพิเศษและการอ่านหนังสือเกี่ยวกับการสัมผัสของมังกร หรืออะไร? …”
“เหมือนว่าฉันจะรู้! แต่ เอ่อ… ไม่เพียงแต่คนรอบข้างที่รู้สึกเกลียดเขา แม้แต่ในครอบครัวของเขาเองก็ยังคงมีท่าทีที่ไม่ดีต่อเขา แต่เขายังมุ่งมั่นที่จะเป็นดรากูน และจากนั้นก็มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาที่ต้องการจะร้องไห้”
ความเงียบครอบงำสู่เขาทั้งสองคน รูเดิลร้องไห้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย จากมุมมองของรูเดิล ความรับผิดชอบในครั้งนี้ถูกวางไว้ที่เขา ลุกซ์ ยูเนียส และแม้กระทั่งอัลเลต ได้รับผลการตอบรับที่ดีเสมอ และที่เป็นไปโดยไม่ต้องสงสัยความผิดทั้งหมด จะถูกมาลงที่เขา
เขารู้ว่าบ้านของเขาไม่เคยที่จะต้องการเขา เขารู้ดีว่าการประเมินผลตัวเขาโดยผู้คนรอบข้างอยู่ในระดับต่ำ แต่ถ้าหากเขาพยายามอย่างมาก เขาจะได้รับการยอมรับ…เขาเชื่อว่าเขาสามารถที่จะกลายเป็นดรากูนได้ และเขายังคงเชื่ออย่างนั้น
เหตุผลที่รูเดิลร้องไห้ : ความจริงง่ายๆที่มีคนที่จะทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของพวกเขา ทุกคนในชั้นเรียนยืนขึ้นเพื่อยอมรับเขา เพื่ออยู่เคียงข้างเขา นั่นคือสิ่งที่เติมเต็มความสุขของรูเดิล หากแต่ในเวลาเดียวกัน เวลาที่เผยให้เห็นถึงอันตราย นั่นทำให้เขารู้สึกละอายใจที่ไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้
รูเดิลต้องการที่จะแข็งแกร่ง แต่สำหรับตอนนี้เขาเพียงได้แต่แกว่งดาบของเขาไปตามความคิด
ooo
รุ่งเช้าของวันถัดไป พนักงานของสถาบันการศึกษา ได้รวบรวมและจัดกระประชุมขึ้น นี่เป็นปัญหาขนาดใหญ่ และพวกเขาจะต้องทำให้มันชัดเจน ว่าใครที่จะเป็นผู้รับผิดชอบถึงอันตรายที่มาเยือนแก่เจ้าหญิงในครั้งนี้ แต่ปัญหานี้คือ…
“คิดว่าบ้าน อาร์ช จะพูดแบบนี้ . . .”
“ถ้าพวกเขาจะบอกให้เราไล่รูเดิล ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็เป็น . . .”
“ราชวังบอกให้เขารีบทำให้เร็วที่สุด บางทีการเชื่อฟังเขาน่าจะดีกว่า”
บ้านอาร์ชเรียกร้องให้ไล่รูเดิลออกจากสถาบันการศึกษาแห่งนี้ โดยระบุว่า พวกเขาขอรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ข่าวลือแพร่สะพัดยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รูเดิลได้ปล่อยให้เจ้าหญิงตกอยู่ในอันตราย…ครัซ น้องชายของเขาได้ปกป้องเธอ ตามข่าวลือที่ได้จงใจคิดขึ้นมาแล้วเป็นอย่างดี และเป็นเรื่องที่ยากลำบากเกินกว่าจะแก้ไข
“ถ้าอย่างนั้น อาร์ช ก็ได้เลือกครัซ มากเสียกว่าที่จะเป็นรูเดิลบุตรชายคนโต”
เป็นครูใหญ่ที่นั่งถอนหายใจ คณาจารย์คนอื่นได้แต่สงสัย พี่น้องสองคนนี้ช่างเต็มไปด้วยปัญหาวุ่นวายมากมาย แต่ในขณะที่รูเดิลจริงจังในการฝึกฝนที่ได้รับอยู่เบื้องหน้า และมุ่งเน้นไปยังความฝันของเขาเพื่อให้ถึงเป้าหมาย ครัซ กลับเป็นเด็กที่สามารถสร้างปัญหาได้อย่างง่ายได้ ในขณะที่เขาเข้ามาพร้อมกับลูกน้องของเขาและเดินไปรอบๆของสถาบัน เขาก็ได้ซื้อความเกลียดชังของสามัญชนและเอลฟ์ไปโดยสิ้นเชิง
คำตอบที่สถานศึกษา ถึงเป็นเรื่องที่จะเลื่อนจนกว่าเป้าหมายของความรับผิดชอบจะหายไป…มีแต่รูเดิลเพียงอย่าเดียว ที่จะโดนบังคับโอนไปหลักสูตรให้จบภายในสองปี จากนั่นชื่อของอัศวินจะได้มอบให้แก่เขา เพื่อให้เขาได้มีโอกาสที่จะเป็นดรากูน
จากความต้องการของบ้านอาร์ช นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดของสถานศึกษาที่จะสามารถทำเพื่อปกป้องนักเรียนของเขา
“แล้วเรื่องการตรวจสอบ?”
“ฉันได้ยินว่ามันถูกให้อยู่ภายใต้อำนาจของพระราชวัง”
“ดังนั้นแม้จะแน่ใจว่าเป็นเรื่องที่น่าขัน …การละทิ้งหน้าที่จะถูกบันทึกไว้และผู้ที่ยืนหยัดในหน้าที่”
ภายในหอประชุมที่สลัว ครูใหญ่มองผ่านเอกสารตามที่เขาได้พูด
“การปกป้องเชื้อพระวงศ์ล้วนเป็นหน้าที่ของขุนนาง เฮ้อ…สำหรับบ้านอาร์ช เขาได้ละทิ้งทายาทผู้สวยงาม”
อาจารย์คนหนึ่งพูดขึ้น ครูใหญ่รู้สึกได้ถึงอันตรายในคำพูดเหล่านั้น ที่เริ่มพูดราวกับจะตัดเขาออก
“แต่นั่นมัน! กับรูเดิล! ผู้ที่สามารถเป็นดรากูนได้อย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ!”
ในคำพูดเหล่านั้น จำนวนอาจารย์ที่เข้ามาเริ่มสดใสขึ้นสำหรับการสนทนาในครั้งนี้ สดใสกว่าที่ประชุมจะสามารถเห็นได้
“แน่นอนที่สุด!”
“หากเขาได้เป็นอัศวิน เขาจะมีคุณสมบัติมากพอที่จะเป็นดรากูนได้”
“ถ้าหากเขาจะได้กลายเป็นที่หนึ่ง .. นั่นเอง!”
เป็นบทสนทนาของความกล้าหาญที่กำลังเดินไป ครูใหญ่คิดเกี่ยวกับอนาคต เพียงแค่ว่าเขาจะปกป้องรูเดิล…
ooo
ร่างกายของเธอกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ดี พร้อมกับนางขนปุยที่อยู่ข้างกันกับเธอ เพียงเสี้ยววินาที ฟีน่ามองไปยังเอกสารที่ทำราวกับมันเป็นเรื่องสยองขวัญที่นำโดยอัศวินชั้นสูงคนหนึ่งได้มารายงานเอกสารให้กับเธอ
“นี่มันหมายความว่ายังไง..”
( นี่มันคืออะไรกัน? กลับกลายเป็นว่าครัซ ปกป้องฉันจากระเบิดนกบ้าๆนั่น และอาจารย์ก็แพร่กระจายความหวาดกลัวให้ฉันเห็นถึงอันตราย!? ไม่มีทางบ้าชะมัด! แต่…ความเห็นของฉันถูกถ่ายทอดลงบัญชี? ในสถานที่แรก ครัซ ปกป้องฉันจากมอนสเตอร์กระต่ายและเมื่อนกนั่นออกมา ฉันก็ไม่เห็นจะพบเขา! )
อัศวินมารายงานมีผมสี่ม่วงที่ยาว ที่มาพร้อมกับแว่นตาที่ให้ความรู้สึกที่หนาวเย็น เธอมีบุคลิกที่แข็งกร้าว และฟีน่า ก็ให้เธอเป็นบุคคลที่น่ากลังคนหนึ่งสำหรับตัวเธอเอง เธอรู้สึกว่ามันจะหาไม่ได้ถึงความยืดหยุ่น
“มันเป็นเพียงการตัดสินใจในเรื่องของรูเดิลว่าเขาจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ สถาบันการศึกษายังไม่ได้ดำเนินการให้เขาออก ยังคงปล่อยให้เขาได้จบการศึกษา แต่หม่อมฉันต่อต้านเขา คนไร้ค่าแบบนั้นไม่ควรที่จะได้เป็นอัศวิน”
อัศวินผู้นั้น ยังคงพูดถึงการลงโทษของรูเดิล ว่าการลงโทษครั้งนี้นั้นจะเบาเกินไป เพียงเพราะเขาเป็นทายาทคนต่อไปของอาร์ชดยุก เธอไม่รู้จักเขา แต่เธอได้แต่พูดกล่าวหาเขา แต่ฟีน่า…
( นี่มันแย่มาก! เขายังไม่ลุล่วงในเทคนิคของเขา หากเขาจะต้องจบจากที่นี่ มันจะเป็นเรื่องไม่ดีต่อชีวิตของฟัฟฟี่น้อยของฉันแน่ … แต่ทำไมบ้านของเจ้านายถึงเกลียดเขามากนะ? )
เธอมองอัศวินชั้นสูงที่ยังคงมีความคิดเห็นที่รุ่นแรงต่อรูเดิล ฟีน่าคิด
( ฉันควรจะให้เธอตรวจสอบ? และในขณะที่เกิดขึ้น ฉันจะเขียนจดหมายถึงท่านพ่อและท่านแม่ ในขณะเดียวกัน ฉันจะกลับไปนั่งกับมี่ และทำอย่างนั้น… ฉันทำไม่ได้! หากฉันได้พลาดครั้งนี้ แล้วสมบัติแห่งชาติของอาจารย์จะถูกลบโดยบ้านอาร์ช )
ในสาระสำคัญ รูเดิลจะมีบทบาทเป็นอัศวินเมื่อเขาได้สำเร็จการศึกษา ของเขา แต่โดยคำสั่งจากบ้านของเขา เขามีแนวโน้มที่จะประจำการอยู่ในโซนอันตรายอย่างมาก
“… โซฟีน่า รายงานนี้อาจจะเข้าผิด”
เจ้าหญิงพูดอย่างไร้อารมณ์ที่จะต้องตกใจ ในขณะที่เธอบอกกับ โซฟ่าน่า อัศวินชั้นสูงของเธอ
“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างนั้นหรอ? แต่นี้เป็นเอกสารทางการ หม่อมฉันคิดว่าคงไม่…”
( นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ช่วงเวลาของเธอหลุดลอย! ความคิดของเธอเข้มงวดเกินไปสำหรับการใดๆ และทุกๆอย่าง! ไม่มีคำโกหกใดๆถูกเขียนลงในเอกสารฉบับนี้ เพียงแต่ไม่คิดว่ามันจะถูกเขียนในทางเชิญชวนโน้มน้าวให้เข้าใจผิด ฉันไม่ดีกับเธอ! ฉันต้องไปทำอะไรสักอย่าง พร้อมกับมี่ของฉัน )
ความคิดของเธอเริ่มขึ้น ฟีน่าพูด
“รูเดิล ซามะ เสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อปกป้องฉัน การปกป้องราชวงศ์เป็นหน้าที่ของขุนนาง … เขากล่าวในขณะที่ชีวิตเขากำลังเสี่ยงอันตรายมาก ไม่มีทางที่เขาจะทำอย่างที่ในเอาสารนี่เขียนเอาไว้”
“แต่ตอนนี้ มันพูดว่า…”
โซฟีน่าพูดอย่างเสียงดัง ฟีน่าพยายามแสดงออกเพิ่มขึ้น
“แล้วฉันจะให้เธอตัดสินใจด้วยตาของเธอเอง ความจริงทั้งหมดไม่ได้อยู่ในกระดาษ และฉันเชื่อว่าฉันถูกปกป้องไว้โดยรูเดิล ซามะ”
( ดูเทคนิคของอาจารย์จะเปลี่ยนชีวิตเธอ! ช่างมันเถอะ หากเธอตรวจสอบด้วยตัวของเธอเอง แน่นอนว่าเธอจะเห็นสิ่งที่แปลกไป ตอนนี้ต้องไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาเสียก่อน )
“หากเจ้าหญิงยืนยันเช่นนั้น…หากแต่ตาของหม่อมฉันบอกว่าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ฉันจะใช้อำนาจของราชวัง ลงโทษเขาอย่างรุนแรง”
เห็นความกระตือรือร้นของโซฟีน่า ฟีน่าเกิดความคิดมากมาย
( เพราะเธอทำหน้าน่ากลัว ผู้ชายถึงวิ่งหนีจากเธอ ความจริงที่เธอคือผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งเลยเช่นกัน ชีวิตของเธอควรจะได้แต่งงานและมีความสุข อยู่ที่ทำงาน ไม่มีโอกาสที่จะเจอใคร … ถ้าเพียงเธอมีหูแมวเหมียวน่ารัก ฉันก็จะรักเธอและให้เธอเคียงข้างฉันตลอดเวลา ! หูของแมวน้อย… นั่นแหละ! )
ooo
ลบเลือนทุกอย่างที่จะเคลื่อนย้ายไปรอบๆ ในวันนี้ เมื่อรูเดิลและอีกสองคนเข้ากันได้ดีข้ามเตียงของห้องพยาบาลของพวกเขา และการสนทนาที่เป็นประกายเกี่ยวกับหนังสือที่รูเดิลกำลังอ่าน ‘วิธีการเลี้ยงมังกร’
“ทำไมต้องมีการประยุกต์ทฤษฎีกับเวทย์มนต์ระดับสูงด้วย!? ทำไมในหนังสือ ถึงทฤษฎีที่น่าอับอายในหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับการสัมผัสของการลูบคลำด้วยล่ะ !?”
รายละเอียดทฤษฏีอันซับซ้อนของใจกลางแห่งเวทย์มนต์ของลุกซ์ ‘วิธีเลี้ยงมังกร’ ทฤษฎีแหละสูตรที่เกินการเรียนการสอนในระบบปัจจุบัน ได้รับพัฒนาเข้าไปในหนังสือเล่มนี้
“โอ้! มันสิ้นสุดลง โดยกล่าวว่า ‘แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดคือความรัก!’ มันไม่ดูแปลกๆไปหน่อยหรอ? การใช้เทคนิคต่างๆนาๆ รวมถึงการเข้าถึงการสัมผัสในขั้นสูงแต่สุดท้ายของทั้งหมดคือความรัก!!!”
ยูเนียสร้องไห้ออกมา การเขียนถึงทักษะของการสัมผัสที่มุ่งเน้นวิธีการประยุกต์ทางกายวิภาคศาสตร์และศิลปะ …รายละเอียดของศิลปะทุกจุดปลีกย่อยมันผูกกันด้วยความรัก ‘วิธีการเลี้ยงมันกร’
“ดู? มันไม่น่าทึ่งหรอกหรอ!? ผู้เขียนของหนังสือเล่มนี้คืออดีตดรากูนที่อาศัยอยู่เมื่อร้อยปีก่อน…หากฉันได้เจอเขา”
หากมองข้ามการช๊อคของพวกเขา รูเดิลคิดเกี่ยวกับผู้อาวุโสของเขา โดยมีช่องว่างคั่นระหว่างเขาเป็นร้อยปี. . .