ตอนที่แล้วWOC บทที่ 2 – แท่งหยก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWOC บทที่ 4 - ไร้เหตุผล

WOC บทที่ 3 - ทุ่งเล็กๆทั้งสาม


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/WorldofCultivation/

บทที่ 3 ทุ่งเล็กๆทั้งสาม

การสร้างฝนสำหรับพื้นที่ 15 มู(1 มู เท่ากับ 50 เฮกตาร์)นั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยแม้แต่กับจั้วโมผู้ที่มีพลังบ่มเพาะระดับเหลียนชีขั้นที่ 7

เม็ดเหงือปรากฎขึ้นบนหน้าผากของจั้วโม เขาพูดโดนไม่ตั้งใจออกมา “นี้มันคือการฆ่าข้าทั้งเป็น”

เฒ่าดำกล่าวชื่นชมอย่างร่าเริง “พี่ชายโม เคล็ดเมฆาฝนโปรย ของท่านช่างเป็นดั่งข่าวลือจริงๆ” เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุขพร้อมทั้งตรวจสอบการเจริญเติบโตของเหล่าเมล์ดพืชหลิง

จั้วโมได้รับคำเยินยอจากเฒ่าดำ และเหล่าธัญพืชหลิงของเฒ่าดำก็เติบโตอย่างแข็งแรง ปีนี้เหล่าผลผลิตจะต้องดีขึ้น เพราะฝนที่เขาได้สร้างขึ้นมานั้นสามารถเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้นถึง 20 เปอเซนต์ หากเทียบกับมูลค่าเงินที่เขาต้องศูนย์เสียไปนั้น กลับไม่ถึง 10 เปอเซนต์

แต่เมื่อเขามองดูความชื่นชมยินดีของเฒ่าดำที่กำลังจองมองเหล่าธัญพืช เขากลับมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาไม่มีความสุข

เฒ่าดำนั้นอาศัยอยู่นิกายชั้นนอกของนิกายกระบี่อู้กงมากว่า 20 ปีแล้ว แต่การบ่มเพาะของเขานั้นกลับต่ำและยังคงต้องปลูกเหล่าธัญพืชหลิงมาถึง 20 ปี

ค่าเช่าพื้นที่เพาะปลูกนั้นต้องจ่ายโดนเหล่าเมล็ดหลิง ในแต่ละปีจะต้องมอบเหล่าเมล็ดให้กับนิกายเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นคะแนนสะสมเพื่อจะได้อยู่ต่อภายนอกนิกาย ถ้าพวกเขาต้องการเรียนรู้คาถาใหม่ๆ พวกเขาจะต้องเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนิกาย

หากคำนวณแล้ว เงินที่แต่ละคนจะได้รับนั้นช่างน้อยจนน่าสงสาร เหล่าเมล็ดหลิงที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ แม้แต่เฒ่าดำเองยังลังเลที่จะกินมัน

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอาศัยอยู่ภายนอกนิกาย จั้วโมเองนั้นก็รู้ดีกว่าใคร

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น แม้นิกายกระบี่อู้กงจะเป็นเพียงนิกายเล็กๆ แต่กลับมีคนจำนวนมากมายที่พยายามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เมื่อพวกเขาได้เรียนรู้ในบางอย่าง พวกเขาจะออกไปหางานที่ดีๆทำ แต่สำหรับเฒ่าดำผู้ซึ่งไม่มีเงินเก็บใดๆ นี้จึงเป็นงานที่ดีและมั่นคงมากๆสำหรับเขา

จั้วโมในวันนี้นั้นดีกว่าเดิมมากๆ แม้เขาจะอยู่ในนิกายชั้นนอก แต่เขานั้นถูกพามาโดยผู้นำนิกาย จึงไม่มีใครการข่มขู่เขา ทักษะและความเข้าใจของเขาเองนั้นสูงมาก หลังจากที่เขาเข้าใจในขั้นที่สามของเคล็ดเมฆาฝนโปรย ทำให้ทุกวันของเขานั้นสบายยิ่งขึ้น

จั้วโมนั้นไม่มีความทะเยอทะยานใดๆแม้เขาจะไม่รู้ชาติกำเนิดของตัวเอง นอกเหนือจากการทำให้ตัวเองนั้นใช้ชีวิตอย่างสบาย เขาก็ไม่มีความคิดที่จะทำสิ่งอื่นสิ่งใด

หลังจากที่เขาได้ออกแรงไป เขาก็ค่อยๆเดินกลับที่พักของเขา

บนเทือกเขาอู้กงนั้นมีเพียงนิกายอู้กงเพียงนิกายเดียว บนเทือกเขานี้มีพื้นที่มากมาย ยอดเขาทางทิศตะวันตกทั้งหมดถูกแบ่งเป็นบริเวณที่อยู่อาศัยของเหล่าสาวกนิกายชั้นนอก แต่ละคนสามารถเลือกสร้างพื้นที่ของตนเองได้ตามต้องการ แต่คนส่วนใหญ่จะเลือกทุ่งนาที่เหล่าอดีตสาวกชั้นนอกของนิกายได้ทิ้งเอาไว้ แม้ว่าที่อยู่อาศัยแห่งนั้นจะไม่มีคนอยู่มาเป็นเวลานาน เหล่าที่อยู่อาศัยนั้นต้องการเพียงแค่การทำความสะอาดเท่านั้น

ทุ่งของจั้วโมนั้นมีพื้นที่ขนาดใหญ่มาก แม้เขาจะดูผอมแห่งแรงน้อย แต่เขากลับชอบทำเรื่องใหญ่ๆมาตลอด เขาเลือกทุ่งที่ใหญ่ที่สุดบนยอดเขาทางด้านทิศตะวันตด มันถูกแบ่งเป็น 7 ส่วน ครึ่งมูเป็นบ่อปลา ห้ามูเป็นที่เพาะปลูกธัญพืชหลิง ที่แห่งนี้ถูกครอบครองโดยผู้อาวุโสคนก่อนซึ่งเปลี่ยนแปลงพื้นที่แห่งนี้ให้ไม่มีแม้กระทั้งลานว่าง ไม่มีแม้สวนดอกไม้ ไม่มีแม้เครื่องประดับใดๆ ทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นทุ่งธัญพืชหลิงทั้งหมด

คนอื่นๆนั้นไม่รู้สึกถึงความสวยงามใดๆของทุ่งแห่งนี้เลย มันราวกับตราผนึกที่ไม่มีความสมบูรณ์ แต่จั้วโมกลับชอบมันมาก

เขาไม่ได้เลี้ยงอะไรไว้เลยในบ่อปลา เขาใช้มันในการอาบน้ำในฤดูร้อน จั้วโมคำนวณอย่างดีเกี่ยวกับค่าเช่าทุ่งนาของเขา แต่สำหรับทุ่งนาแห่งนี้เขานั้นกลับไม่ต้องจ่ายใดๆ และทุ่งแห่งนี้จะมีเพียงฤดูใบไม้ผลิ

การสร้างบ้านโดยปกติแล้ว ที่ที่ดีที่สุดคือการสร้างบนจุดรวมตัวของเส้นหลอเลี้ยงพลังหลิง ยิ่งที่ที่มีพลังหลิงหนาแน่น ความเร็วในการบ่มเพาะก็จะเพิ่มสูงยิ่งขึ้น นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าเหล่าพื้นที่ดีๆเหล่านั้นทำไมถึงมีราคาแพง แต่พื้นที่ที่มีพลังหลิงหนาแน่นเช่นนี้ ทำไมถึงกลับมอบให้คนนิกายชั้นนอกเช่นเขา

แต่ใครจะคาดคิดว่าบนทุ่งแห่งนี้กลับมีเส้นหลอเลี้ยงพลังหลิงอยู่!!!

เมื่อครั้งที่เขาย้ายเขามาอยู่อาศัย จั้วโมได้ทำการค้นหาทุกที่เพื่อใช้ในการรวบรวมสมาธิ เขาได้พบกลับห้องที่เงียบสงล เมื่อเขาผลักประตูเขามา กลิ่นเหม็นเน่าก็พุ่งเข้ามาหาเข้าในทันที เสื่อหลายพื้นที่ตั้งอยู่ ต่างผุพังเน่าเปื่อย แต่มีเสื่ออยู่ผืนหนึ่ง ที่ยังคงรูปร่างเอาไว้ได้

หลังจากจั้วโมได้ทำความสะอาดห้องแห่งนี้ทั้งหมด โดยเหลือไว้ซึ่งเสือผืนเดิมผืนนั้น

เมื่อจั้วโมได้นั่งลงบนเสื่อผืนนั้นเป็นครั้งแรก เขากลับช็อกด้วยความตกใจ

จุดที่เสื่อนั้นตั้งอยู่นั้นกลับมีพลังหลิงหนาแน่นกว่าทุกๆพื้นที่

จั้วโม ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาพบว่าภายใต้ของเสื่อผืนนี้นั้นมีเส้นหลอเลี้ยงพลังหลิงขนาดเล็กจำนวนมาก แต่ถูกปิดบังโดยเสื่อผืนนี้

ในตอนนี้เขาก็ได้เข้าใจอีกว่าทำไมผู้อาวุโสนิรนามถึงได้เลือกสร้างสถานที่นี้ พื้นที่ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นทางผ่านเส้นหลอเลี้ยงพลังหลิง

จั้วโมจึงเคารพผู้อาวุโสไร้นามคนนี้ในทันที

หลังจากที่เขาได้ค้นพบเส้นหล่อเลี้ยงพลังหลิง จั้วโมคิดทบทวนอย่างดี เขาจึงเลือกที่จะไม่บอกเรื่องนี้แก่ผู้อื่นเพราะมันจะพาหายนะมาแก่เขาก็เป็นได้

ในช่วงลมหายใจสั้นๆเขาได้วางเสื่อนับ 30 พื้นลงบนพื้นที่ห้องแห่งนี้ และมีอีกมากกว่า 70 ผืนถูกปูบริเวณมุมห้อง สีและรูปร่างของมันนั้นแตกต่างกันไป ทั้งหมดถูกทักทอโดยจั้วโมเอง นี้คือนิสัยที่แปลกประหลาดของจั้วโมหน้าผีที่สาวกนิหายชั้นนอกต่างรู้จักกันดี เมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากจั้วโม พวกเขาก็จะออกไปซื้อเสื่อที่ปราณีตมาเป็นของขวัญแก่จั้วโม ทำให้จำนวนเสื่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แต่โดยปกติ จั้วโมจะนั้งบนเสื่อเก่าๆที่ไม่เน่าเปื่อยเพราะมันมีบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษออกไป และเขาก็เก็บความลับเรื่องทั้งหมดนี้ได้เป็นอย่างดี

แต่จก็มีสิ่งที่ทำให้จั้วโมเองค่อนข้างเสียใจ คือ ทุงหญ้าทั้งหมดนี้ถูกทิ้งไว้นานเกินจนทำให้ระดับที่เพาะปลูกได้ ถูกลดขั้นลงไป มันจึงกลายเป็นเป็นทุ่งธัญพืชหลิงขั้นแรก จั้วโมจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะฟื้นคืนระดับของมันให้ไปอยู่ในขั้นต่อไป แต่ทั้งหมดนั้นก็ต้องใช้เวลา

ทุ่งทั้งห้าเต็มไปด้วยเหล่าธัญพืชหลิงสูง ขอบใบของมันแหลมคมราวใบเลื่อน ถ้าไม่ระมัดระวังอาจเกิดอันตรายได้โดยง่าย ทั้งหมดเต็มไปด้วยความเขียวขจีน่าตื่นตา

แต่ในยามราตรีทั้งหมดกลับให้ความรู้สึกมึดมน

และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขโมย จั้วโมได้ติดตั้งแหล่งพลังงานป้องกันระดับต่ำไปทั่วทั้งทุ่ง แม้เหล่าตัวป้องกันเหล่านี้จะไม่สามารถโจมตีหรือทำอันตรายใดๆได้ แต่มันจะส่งเสียงดังออกมาเตือนแทนได้

ภายในบ้านของเขา ทุกอย่างผุพังเน่าเสียไม่ว่าจะเป็นข้าวของตู้เตียง ต่างพังและเต็มไปด้วยหยากใย ผนึกต่างๆที่ใช้ภายในห้องต่างพังทลายเนื่องจากไม่ได้ใช้งานมานานนับปี

แต่มันก็ไม่ส่งผลใดๆต่อจั้วโม เพราะเขานั้นชอบนอนบนหลังคา เขามักจะนั่งสมาธิในห้องอีกห้อง ส่วนห้องอื่นๆนั้นถูกจัดเป็นห้องว่างและห้องเก็บของแทน ส่วนเรื่องอาหาร เขาก็ทำไปตามปกติ เขาได้จ้างคนแกะสลักผนึกตราประทับแสงสำหรับใช้ในยามคำคืน โดยเขาไม่สูญเสียเงินไปกับสิ่งอื่นสิ่งใดเลยนอกจากนี้

ขณะนี้เขานั่งบนเสือที่เขาได้พบเจอพลังงานหลิงจำนวนมากไหลเข้าสู่แกนกลางจิตใจของเขาจั้วโม พยายามควบคุมอารมณ์และสติและมุ่งเป้าไปยังการควบคุมพลังงานหรือในร่างกาย

เคล็ดวิชาหลักที่เขาใช้ชื่อคัมภีร์สิบปฐมบท คัมภีร์นี้เป็นที่แพร่หลายในวงกว้างคุณสมบัติของมันนั้นจะทำให้เกิดการมั่นคงในร่างกายโดยไม่ส่งผลกระทบใดใด โดยทั่วไปไม่ต้องกังวลอะไรเลยแม้จะผิดพลาดก็ไม่อาจกลายเป็นคนบ้าได้ สาวกชั้นนอกของนิกายอู้กงได้เลือกคัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์หลักที่ใช้ฝึกฝนปลูกฝังเม็ดพลังงานปราณ แต่หากพวกเขาต้องการก้าวเข้าสู่ระดับจูจิ(ระดับที่ 2)โอกาสความสำเร็จจากเคล็ดวิชานี้นต่ำมาก  ศิษย์ชั้นนอกที่มีความทะเยอทะยานมากจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากนิกายโดยการทำงานแลกเปลี่ยนเป็นคัมภีร์ระดับสูงกว่านั้น

แต่สำหรับจั้วโม เขาทำจิตใจให้ว่างปล่าว พลังงานหลิงทั้งหมดค่อยไหลผ่านเข้าตัวเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ร่างกายของเขารู้สึกเบาลงเบาลงเรื่อยๆ

ดูพลังการบ่มเพาะของจั้วโม ที่อยู่ในระดับ 7 ขั้นเหลียงฉี เขาสามารถโคจรพลังได้ถึง 3 รอบต่อครั้งเขารู้สึกได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างในขณะที่หายใจเข้าและหายใจออก พลังงานหลิงส่วนหนึ่งที่เขาสูดดมผ่านอากาศไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายอย่างต่อเนื่องพร้อมผสานเข้ากับพลังงานหลิงที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในร่างกาย ใน 2 ปีที่ผ่านมานี้เส้นปรานต่างๆในร่างกายของเขาก็พัฒนาขึ้นจากที่เขาเคยอยู่ในระดับที่ 3 ก็ผลักดันขึ้นไปถึงในระดับที่ 7 ในทันที

หลังจากที่ควบคุมพลังงานครบทั้ง 3 รอบแล้วจิตใจของจั้วโมนั้นก็ค่อยๆผ่อนคลายจากความว่างเปล่า

ร่างกายของเขารู้สึกสดชื่นในทันทีความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานก่อนหน้านี้ก็พลันหายไป

เขาเริ่มต้นกินบางสิ่งบางอย่างที่เขาหามาเพิ่มเติมเต็มท้องของเขาก่อนที่จะเข้าสู่ระดับจูจิ  ผู้ฝึกตนที่ยังอยู่ในระดับเหลียงฉีก็ยังคงต้องทานอาหารเป็นตามปกติ แม้ว่าอาหารไม่สามารถเข้าไปเสริมพลังงานหลิง แต่ก็ต้องขอบคุณที่ไหนโลกแห่งนี้นั้นราคาหารนั้นช่างทรูเหลือเกินจึงไม่มีความอดอยากในใดเกิดขึ้นกับทุกคน

เขาเอาแท่งหยกสีอัมพร-มรกตที่ได้เมื่อวานมานั้นซึ่งมือถือในมือมันทำให้เขารู้สึกถึงความหนาวและหนักอย่างมาก

ภายในห้องมันมืดมิดจั้วโม ตั้งใจตรวจสอบหินหยกที่อยู่ภายในเมืองของเขาเขาได้ใช้พลังงานหรือลงไปในแท่งหยกสีอัมพร-มรกตพระท่านใดนั้นก็มีคำพูดบางคำพุ่งขึ้นมาภายใต้จิตใจของเขา

แท่งหยกประกอบด้วยเคล็ดวิชาทั้ง 5 เคล็ดวิชาเมฆาฝนโปรย เคล็ดวิชาพลังพสุธา เคล็ดวิชาสัประยุทธ์ทองคำ เคล็ดวิชาพฤกษาพรรณา เคล็ดวิชาอัคคีเพลิงเดือด โดยนอกเหนือจากเคล็ดวิชาเมฆาฝนโปรยจั้วโมก็ไม่เคยเรียนวิชาอื่นทั้งสี่เลย

เมื่อจั้วโมรับรู้ถึงเคล็ดวิชาใหม่ทั้งหมดเขาก็มีความสุขเป็นอย่างมากจนเกือบจะลืมหายใจ

เขาคาดดาวในทันทีว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกมากอย่างแน่นอนในการเรียนรู้คัมภีร์คาถาทั้งสี่เล่มให้หมด

โดยคลิปวิชาแรกที่เขาสนใจมากที่สุดนั่นก็คือเคล็ดวิชาสัประยุทธ์ทองคำ โดยองค์ประกอบทั้ง 5 ของเคล็ดวิชานี้นั้นเน้นไปในการทำลายและการฆ่าล้าง ทั้งหมดทั้งมวลของคืนวิชานี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการฆ่าทั้งหมดโดยเมล็ดหลิงนั้นจะมีศัตรูเป็นศัตรูพืชเพลี้ยหลากหลายนานาชนิดพวกมันจะพยายามเกาะกัดเจาะเข้าไปในก้านของธัญพืชหลิงและมันจะทะลวงการออกมาทำให้เราพืชพรรณนานาชนิดถูกทำลายโดยผู้บ่มเพาะส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถจัดการกับปัญหาของพวกเขาได้เลย

แต่เคล็ดวิชาสัประยุทธ์ทองคำนั้นสร้างวิธีมากมายเพียงพอสำหรับการรับมือเหล่าศัตรูพืชเหล่านี้โดยเคล็ดวิชานี้จะปล่อยพลังเข้าไปแทรกซึมภายในธัญพืชหลิงและฆ่าศัตรูภายในธัญพืชหลิง นี่จึงเป็นเคล็ดวิชาที่จั้วโมต้องการมากที่สุดในตอนนี้เพราะเขาต้องการเช่าทุ่งธัญพืชเพิ่มมากขึ้นอีก 50 มู

หากอ่านผ่านๆพบว่า เคล็ดวิชาสัประยุทธ์ทองคำนั้น มีจำนวนคาถาที่เขาเคยเรียนรู้น้อยมากส่วนใหญ่จะถือเป็นคาถาใหม่ทั้งหมดมันจึงเป็นเรื่องที่เขารู้สึกว่าท้าทาย

หลังจากเรียนรู้ผ่านไป 2 ชั่วโมงก็ไม่มีสิ่งใดก้าวหน้าขึ้นเลยไม่ว่าเขาจะพยายามสร้างพลังงานต่างๆขึ้นมาภายใต้เคล็ดวิชาสัประยุทธ์ทองคำ

คาถาทั้งหมดในเคล็ดวิชาสัประยุทธ์ทองคำนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากพลังงานทองคำเก่าแก่ในยุคทองในเมื่อเขาไม่สามารถสร้างพลังงานเก่าแก่ได้เขาก็ไม่อาจจะเรียนรู้คาถาใดๆในเคล็ดวิชาสัประยุทธ์ทองคำได้

และในตอนนี้ใบหน้าของจั้วหน้าผีแสดงให้เห็นความกระตือรือร้นอย่างยิ่งในการเรียนรู้

**** ขอโทษด้วยครับที่หายไปนาน นานมากเกือบ 3 เดือน ตอนนี้กลับมาแล้ว เรื่องนี้จะพยายามแปลลงในทุกๆ 2-3 วันนะครับ ถ้าให้เร็วกว่านั้น ผมจะหาทีมงานมาช่วยแปล จะได้เร็วยิ่งขึ้น ถ้าแปลผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ

***** เรื่องเทพอสูรบรรพกาล ตอนนี้มีคนแปลไปแล้วนะครับ ถ้าผู้แปลท่านคนใหม่ยังแปลลงตามปกติ ผมก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวนะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
9 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด