AST บทที่ 135 - สังหารอสูร ราชันย์อสรพิษ
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 135 - สังหารอสูร ราชันย์อสรพิษ
ผิวเรียบเนียนราวหยกภายใต้อ้อมกอด ความรู้สึกอ่อนนุ่มทำให้จิตใจของชิงสุ่ยกลายเป็นความว่างเปล่า มือของเขายังคงกอดเอวของเหวินเหรินอูซวงเอาไว้
"เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้คิดถึงเรื่องอื่น หรือทำสิ่งอื่นสิ่งใดก็ตาม ข้าให้เจ้ากอดเพียงชั่วคราวเท่านั้น!!!"เหวินเหรินอูซวงเงยหน้าขึ้นมอง ขณะที่เธอกล่าวออกมา
"ข้าจะเชื่อฟัง และจะกอดเจ้ายามเมื่อเจ้าอนุญาต ข้ารู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลย เจ้าจะให้ข้ากอดแบบนี้ทุกๆวันหรือไม่?"ชิงสุ่ยก้มหน้าลงและยิ้มให้กับอูซวง
"ฝันไปเถอะ ทุกๆวันอย่างนั้นรึ? วันนี้วันเดียวเท่านั้น เป็นเพราะว่าข้ารู้สึกถึงความเศร้าในจิตใจเจ้า และเพื่อให้วันพรุ่งนี้ของพวกเราได้ดำเนินไปได้ไม่ผิดพลาด พี่สาวคนนี้จึงไม่มีทางเลือก นอกจากเสียสละเพียงเล็กน้อย"อูซวงลดศีรษะลงขณะที่เธอตอบ
ชิงสุ่ยเต็มไปด้วยความสุข อูซวงนั้นไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครแตะเนื้อต้องตัวได้โดยง่าย แต่ในวันนี้ เพื่อที่จะปลอบโยนติดใจของชิงสุ่ย ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเธอนั้นไม่ได้ชอบเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยความชื่นชม บางครั้งอาจเป็นเพราะเขาและทำการรักษาอาการพิษของเธอเมื่อก่อนหน้านี้ มันถึงทำให้ชิงสุ่ยได้เข้าไปอยู่ในใจของเธอแล้ว
"เจ้ากอดข้าพอแล้วหรือยัง?" อูซวงกล่าวเบาๆ
"ไม่ แม้ว่าข้าจะกอดเจ้าไปตลอกชีวิต มันก็ไม่เพียงพอ แต่ข้าก็ยังคงจะกอดเจ้าเช่นนี้ไปตลอด"ชิงสุ่ยกระซิบเบาที่หูของอูซวง
อูซวงไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไรดีต่อชิงสุ่ย ในหัวใจของเธอนั้นเกิดความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายขึ้น อย่างไรก็ตามเธอรู้ดีว่าชิงสุ่ยนั้นมีคนที่อยู่ในใจของเขาอยู่แล้ว บางคนที่เป็นทั้งครอบครัว และไม่ใช่ครอบครัวในเวลาเดียวกัน
อูซวงเอียงศีรษะของเธอเล็กน้อย มองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาของชายที่กำลังกอดเธอ นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเป็นผู้ใหญ่และเปี่ยมล้นไปด้วยสติปัญญา
"สาวน้อย ข้าดูดีพอแล้วหรือยัง!!!"ชิงสุ่ยยื่นมือออกไปแตะจมูกอูซวง
" ออกไปให้พ้น เจ้าคนโลภ เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกข้าว่าสาวน้อย!!!!"อูซวงยื่นมือของเธอไปและพยายามจับนิ้วของชิงสุ่ยที่แตะจมูกของเธอออก แต่ใครจะคาดคิดว่าชิงสุ่ยจะดึงมือของเธอมาและอ้าปากดูดนิ้วมือของเธอ
"อ้า!!!!"เหวินเหรินอูซวงร้องตะโกนด้วยความตกใจ ขณะที่เธอรีบดึงมือของเธอออก และจ้องมองใบหน้าของชิงสุ่ย
"ฮ่าๆๆ ผู้หญิงในหมู่บ้านของข้าต่างถูกข้าเรียกว่าสาวน้อย คงไม่เป็นไรถ้าหากถ้าจะเรียกเจ้าเช่นนั้นบ้าง!!!"ชิงสุ่ยยังคงยกล้ออูซวงจนเธอรู้สึกเขินอาย
"ไม่อนุญาต ก็คือไม่อนุญาต!!!"อูซวงหัวเราะออกมาอย่างไม่คาดคิด หลังจากที่เธอกล่าวจบประโยค
" นี่มันก็สายมากแล้ว เราควรจะพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้"ชิงสุ่ยดึงมือที่อ่อนนุ่มของเหวินเหรินอูซวงขณะที่เขาพาเธอลงมาจากยอดเขาเพื่อเตรียมตัวพักผ่อน
หลังจากการฝึกฝนในคืนนั้น ชิงสุ่ยค่อนข้างรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ตราบเท่าที่ร่างกายเขายังมีการเปลี่ยนแปลง เขาก็ยังคงมีความสุข เคล็ดวิชากายาบรรพกาลได้โคจรพลังปราณทะลุผ่าน 55 รอบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในตอนนี้เขาสามารถโคจรได้ถึง 56 รอบแล้ว อย่างไรก็ตามหนทางยังคงอีกยาวไกลกว่าเขาจะสามารถโคจรพลังปราณได้ถึง 96 รอบ
ในตอนเช้า ชิงสุ่ยตื่นขึ้นมาและเริ่มฝึกฝนเคล็ดวิชาไทเก๊ก และยังฝึกฝนรูปแบบต่างๆของเคล็ดวิชากระบี่พื้นฐาน ทั้งรูปแบบการฟันเฉือนตัด(เคล็ดอิไอโด้) ทั้งรูปแบบตวัด และรูปแบบการสับ ชิงสุ่ยยังคงตั้งใจฝึกฝนพวกมันอย่างไม่หยุดหย่อน
ดินแดนแห่งการรับรู้ของเขายังคงเกิดขึ้นในทุกๆครั้งที่เกิดการฝึกฝน เช่นเดียวกับที่ชิงสุ่ยเคยบรรลุดินแดนกระบี่แห่งสัจธรรม หากเขายอมสูญเสียเวลาจำนวนมากในการฝึกซ้อม สักวันหนึ่งเคล็ดวิชาอื่นๆเหล่านั้น ก็คงจะต้องก้าวเข้าสู่ระดับดินแดนแห่งสัจธรรมที่แท้จริง
อูซวงกำลังจ้องมองทุกท่วงท่าของชิงสุ่ยจากระยะไกล ความสับสนเกิดขึ้นในหัวใจของเธอ ชิงสุ่ยดูเหมือนคนรอบรู้ ไม่เพียงแค่นั้น ทุกครั้งที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กัน อูซวงจะรู้สึกว่าเธอนั้นมีความสุขจากใจจริง แม้คำพูดของชิงสุ่ยในบางครั้ง จะทำให้เธอรู้สึกเขินอาย
"ชีวิตของข้า ก็ถูกเขาช่วยเอาไว้ แต่ทุกครั้งที่ข้านึกถึงมัน……….ข้ากับรู้สึกว่าชายเจ้าชู้คนนั้น ตั้งใจที่สัมผัสร่างกายข้าจริงๆ และเขาก็ไม่ได้รู้สึกผิดไปได้เลย ถ้ามีครั้งต่อไป เขาอาจจะทำมากขึ้นกว่านี้ …….."
"อูซวง เราต้องเข้าไปในหุบเขาลึกนี้เท่าไหร่กัน?" หลังจากเดินทางมาอีกประมาณ 20-30 ลี้ พวกเขาก็ได้พบอสรพิษวงแหวนทองคำหลากหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังไม่เจอ ราชันย์อสรพิษระดับเทวะเซียนเทียน
"ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แต่พวกเราคงจะเดินไปอีกไม่นานมากนัก ก็คงจะได้พบกับผลไม้อสรพิษวงแหวนทองคำ และข้าเองก็หวังว่าราชันย์อสรพิษจะไม่อยู่ที่นั่น" อูซวงกล่าวขณะที่เธอเหลือบมองชิงสุ่ย
"เจ้าไม่ได้บอกว่าผลไม้นั้นมันกำลังสุขในช่วงนี้หรอกหรือ? เหตุใดเจ้าราชันย์อสรพิษจึงจะไม่อยู่ที่นั่นล่ะ ข้าขอบอกเลยว่าท่าทางที่เจ้าแสดงออกมานั้นช่างน่ารักมาก"ชิงสุ่ยจับมืออูซวงขณะที่เขาพูด
"ก็แค่จะบอกว่ามันเป็นเพียงโอกาส มิฉะนั้น ข้าจะขอให้เจ้ามากับข้าเพื่อเหตุใดกัน"เหวินเหรินอูซวงกล่าวด้วยท่าทางโกรธ แต่ชิงสุ่ยกลับหลงรักด้านนี้ของอูซวง
"พวกเราใกล้จะถึงแล้ว โปรดระวังตัวด้วย!!!"เหวินเหรินอูซวงดึงชิงสุ่ยไปพร้อมพร้อมกับเธอ
ทั้งคู่เดินอย่างช้าๆไปข้างหน้า เป็นเพราะหุบเขาแห่งนี้คดเคี้ยวและซับซ้อน มันจึงทำให้พวกเขาสามารถมองเห็นได้เพียงระยะ 10 เมตรเบื้องหน้าเท่านั้น ทุกๆก้าว ค่อยๆย่างก้าวอย่างระมัดระวัง พวกเขาเลือกใช้ประโยชน์จากแนวภูเขาเป็นที่กำบังตัวของพวกเขาเอง
หลังจากเดินลัดเลาะตามโค้งต่างๆ ตาของชิงสุ่ยก็เปิดกว้าง มองไปยังใกล้ๆลำธารที่อยู่ภายในหุบเขา สิ่งเดียวที่เขาจ้องมองในตอนนี้นั่นก็คือ
ราชันย์อสรพิษวงแหวนทองคำ!!!!
ชิงสุ่ยรู้สึกตกใจ ขณะที่เขาจ้องมองสัตว์อสูรขนาดใหญ่โตมโหฬาร ลำตัวของราชันย์อสูรนั้นยาวกว่า 100 เมตร ลำตัวของมันกว้างถึง 3 ตัวคน ผิวของมันเป็นสีเขียวสด พร้อมทั้งวงแหวนสีทองที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่น แววตาของราชันย์อสรพิษตัวนี้ส่องแสงส่องแสงประกายคล้ายกับโคมไฟ เพียงแค่มองก็สามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ในทันที
ราชันย์อสรพิษวงแหวนทองคำ ในตอนนี้กำลังนอนนิ่งอยู่บนพื้น ซึ่งสามารถมองเห็นกล้ามเนื้อที่ถูกถักทอขึ้นอย่างปราณีได้อย่างชัดเจน เหนือศีรษะของมัน สูงขึ้นไปอีกครึ่งเมตร ปรากฏเป็นต้นไม้สูงใหญ่ บนต้นมีผลไม้ที่กำลังส่องประกายความสดชื่นอยู่ 3 รูปแบบ คือสีทองคำ สีเขียวสดใส และสีขาวเงิน ซึ่งผลบนต้นที่มีขนาดเท่ากำปั้น นั่นคือผลไม้สีทอง
เพียงแค่มองชิงสุ่ยก็รู้ได้ทันทีเลยว่า ต้นไม้ต้นนี้คือไม่ใช่ต้นไม้อื่นใดแต่เป็นต้นอสรพิษวงแหวนทองคำ ดูเหมือนว่าถ้าหากพวกเขาต้องการที่ได้รับผลไม้ผลนี้ พวกเขาคงจะต้องขออนุญาตจากผู้พิทักษ์มันเสียก่อน
ชิงสุ่ยเหลือบมองอูซวง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะต้องหาทางช่วยเธอยามเมื่อเกิดวิกฤตให้จงได้
"ร่างกายของราชันย์อสรพิษเปรียบได้ดังเหล็กไหล จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของมันคือดวงตา อย่างไรก็ตาม หากเข้าใกล้มันก็จะพ่นพิษออกมาได้ และสิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือหางของมัน แม้แต่ผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียนเองก็ยังไม่สามารถทนต่อแรงโจมตีที่เกิดขึ้นจากมันได้" เหวินเหรินอูซวงกล่าวออกมา ความกลัวที่เธอได้ไปเผชิญจากครั้งที่แล้วสะท้อนออกผ่านสายตาของเธอ
"ดูเหมือนเจ้ายังคงกลัว ทำไมเจ้ายังต้องการมาที่นี้?"ชิงสุ่ยยิ้ม
"ยังไงซะ เจ้าก็อยู่ที่นี้กับข้า และข้าก็จะไม่กลับไปเพียงคนเดียว"อูซวงกล่าวขึ้นอย่างธรรมชาติ
"หรือว่าสาวน้อยคนนี้ คิดจะใช้ข้าไปเป็นเหยื่อล่อ?"ชิงสุ่ยคิด
"เดี๋ยวข้าจะออกไปล่อมัน ส่วนเจ้าก็ไปขโมยผลไม้นั้นซะ จำไว้ เจ้าจงรีบลงมือ หลังจากที่มันเลื้อยตามข้าไป"เหวินเหรินอูซวงจ้องมองไปยังราชันย์อสรพิษขณะที่เธอกระซิบบอก
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชิงสุ่ยมีหรือที่จะปล่อยให้อูซวงออกไปเสี่ยง เขาคว้ามือจับอูซวงเอาไว้ก่อนที่เธอจะออกไป และกระซิบบอกเธอว่า "อูซวง ให้ข้าไปล่อมันเถอะ ส่วนเจ้าก็รีบไปขโมยผลไม้นั้นซะ และอย่าลืมถอนรากมันมาให้ข้าด้วย ข้ามีความคิดบางอย่างที่ใช้มันให้เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องอสรพิษตัวนี้ข้าว่าข้ามีวิธีการดีๆที่จะจัดการมันแล้ว แต่หากมีอะไรเกินขึ้นเจ้าก็จงหนีไป "
ในมือของชิงสุ่ยได้เตรียมก้อนหินขนาดเท่าไข่ห่าน 2 ก้อนเอาไว้ในมือ เมื่อเขาเหลือบมองสายตาที่อบอุ่นของอูซวง เขาก็พุ่งทะยานออกไป ในขณะเดียวกันเขาก็ซัดก้อนหินพุ่งไปกระแทกเข้ากับศีรษะของราชันย์อสรพิษในทันที
"ปังงงงง!!!"
หินแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ราชันย์อสรพิษก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ความโกรธของมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันยืดกล้ามเนื้อเพิ่มความสูงขึ้น 1 ใน 3 ของความยาวของลำตัว ลำตัวของมันยืดขึ้นอีกกว่า 30 เมตร แต่ชิงสุ่ยก็ไม่หวาดกลัวในความยิ่งใหญ่ของราชันย์อสรพิษ เขายังคงเคลื่อนไหวเร็วดุจสายลม ทั้งคล่องตัวและคล่องแคล่วอย่างเหลือเชื่อ
ชิงสุ่ยรีบใช้เคล็ดวิชาก้าวขจัดวิญญาณในทันที ทุกย่างก้าวล้วนปราดเปรียวและพริ้วไหวเน็ตพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หางของราชันย์อสรพิษก็ฟาดลงมาจนทำให้แนวภูเขาระเบิดแตกออกเป็นฝุ่นละออง
"ให้ตายเถอะ!!!"ชิงสุ่ยเลือกมองพื้นที่ถูกทำลาย แนวภูเขาทั้งหมดสั่นสะเทือนจากแรงระเบิด เขาสงสัยเหลือเกินว่าร่างกายของเขานั้นจะสามารถรับแรงกระแทกที่เกิดจากหางราชันย์อสรพิษได้หรือไม่
ชิงสุ่ยคว้าก้อนหินขนาดไข่ห่านขึ้นมาอีก 2 ก้อน ทันใดนั้นเขาก็เห็นวัตถุก้อนใหญ่มหึมา ปลิวผ่านอากาศมาทางเขา มันคือก้อนหินขนาดยักษ์ที่เกิดจากการระเบิดและถูกฟาดมาทางชิงสุ่ยโดยราชันย์อสรพิษ
นับตั้งแต่ชิงสุ่ยรอดชีวิตจากการโจมตีปีศาจหมูป่ากลายพันธุ์ เขาก็ได้ซ่อนอาวุธที่เรียบง่ายอยู่บนร่างกายของเขา มันคือหินขนาดเท่าไข่ห่านแต่เขาได้ทำขอบให้มันขรุขระเพื่อไว้เตรียมใช้งาน
ชิงสุ่ยกำลังเตรียมพร้อมจะใช้อาวุธซ่อนเร้น ทันใดนั้นหัวงูขนาดยักษ์ก็พุ่งตัวขึ้นสูง ความเร็วของมันเปรียบได้ดังลูกธนูที่ถูกยิงออกมา โดยขณะที่มันพุ่งตัวเข้าหาเขา มันก็ได้พ่นพิษออกมาทางชิงสุ่ยด้วย
"เวรเอ้ยยย"ชิงสุ่ยสบถออกมา ในขณะที่เขาก้าวหลบถอยหลังอย่างรวดเร็ว แม้วาชิงสุ่ย จะบุกทะลวงเข้าสู่ระดับขั้นที่ 4 และได้รับพลังเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถรอดพ้นพิษจากราชันย์อสรพิษไปได้
ทันทีที่พิษกระจายบนอากาศมันก็เริ่มขยายตัวเป็นหมอกพิษ ก้าวขจัดวิญญาณของชิงสุ่ยเริ่มใช้งานถึงขีดสุด ร่างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นภาพลวงตา ก้อนหินทั้งสองของเขาก่อนพุ่งออกด้วยความเร็วเทียบดุจสายฟ้าฟาด
"ฟ่อ!!!" เสียงดังบาดหูแผ่ไปทั่วทิศทาง ร่างของราชันย์อสรพิษคดตัวด้วยความเจ็บปวดและล้มลงบนพื้นที่เล็กเล็ก ชิงสุ่ยที่ลอยตัวบนอากาศก็ถูกแรงระเบิดซัดกระเด็นลอยไปกระแทกกับภูเขา
ทันทีที่ชิงสุ่ยกระแทก หลุมร่างมนุษย์ขนาดใหญ่ก็เกิดขึ้นบนกำแพงภูเขา
ท่ามกลางการต่อสู้ ชิงสุ่ยสังเกตเห็นว่า ดวงตาข้างหนึ่งของราชันย์อัดสรพิษได้บอดลง มันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ราชันย์อสรพิษตอนนี้เคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง
ชิงสุ่ยสบถคำด่าออกมาอีกครั้ง ภาพเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงตอนที่เขาเผชิญหน้ากับแร้งหยกขาวทมิฬ แต่ครั้งนี้ขอสร้างความบาดเจ็บได้เพียงแผลบริเวณดวงตาของสัตว์อสูรตัวนี้ ตอนนี้ร่างกายของชิงสุ่ยอยู่ท่ามกลางร่างกายที่ใหญ่โตมโหฬารของราชันย์อสรพิษ มันค่อยๆขดตัวโอบล้อมร่างของชิงสุ่ยเอาไว้
ร่างกายของราชันย์อสรพิษบดบังร่างกายทั้งหมดของชิงสุ่ย ปล่อยแค่เพียงหัวและแขนสองข้างของเขา อยู่นอกลำตัวที่ขดอยู่
กระดูกของชิงสุ่ยค่อยค่อยถูกบีบอัดด้วยแรงกดดันจากกล้ามเนื้อราชันย์อสรพิษ ถ้าหากเป็นผู้ฝึกตนคนอื่นๆ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับเทวะเซียนเทียน กระดูกและร่างกายพวกเขาคงจะถูกบดขยี้เป็นชิ้นเนื้อไปนานแล้ว
ปากและเขี้ยวของราชันย์อสรพิษเปิดออก ขณะที่มันค่อยๆพ่นเมือกพิษเหม็นเน่าสีขาวมุกจางๆไปทางชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยในขณะนี้กำลังทำให้จิตใจสงบ เพียงชั่วครู่ก่อนที่ราชันย์อสรพิษจะกัดลงมา แขนซ้ายของชิงสุ่ย ก็พุ่งขึ้นไปกระชากลิ้นของราชันย์อสรพิษออกมาอย่างรุนแรง
ความโกรธเกรี้ยวที่ชิงสุ่ยแสดงออกมาทำให้ลิ้นของอสรพิษยักษ์ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ ถ้าหากเขาเลือกที่จะโจมตีหัวของราชันย์อสรพิษ เขาก็สามารถสร้างความเสียหายแกมันได้มากถึง 200,000 จิน แต่ช่างน่าเสียดายที่เขาทำเช่นนั้น มันคงไม่ต่างกับการนำเข็มขนาดเล็กมักลงบนต้นขาของมนุษย์ ซึ่งมันไม่อาจทำร้ายเจ้าอสรพิษยักษ์ได้เลย
แต่เมื่อเขากระชาก ลิ้นเจ้าอสรพิษ ศีรษะของมันก็ย่อมต้องเคลื่อนลงตามมา ดวงตาอีกข้างของอสรพิษ ปรากฏต่อหน้าชิงสุ่ย ซึ่งชิงสุ่ยก็พุ่งหมัดขวา ออกไปเจาะเข้าเบ้าตาอย่างไม่ลังเล
เสียงกรีดร้องของราชันย์อสรพิษดังขึ้น ในช่วงเวลาเดียวกันที่กำปั้นของชิงสุ่ยยังคงอยู่ในเบ้าตาราชันย์อสรพิษ เขาบังคับกำปั้นของเขาพุ่งตรงไปยังสมองของราชาอสรพิษเปลวเพลิงสีเทาจากเคล็ดวิชาเปลวเพลิงบรรพกาลปรากฏขึ้น เผาทำลายสมองของราชันย์สรพิษจากข้างใน
ร่างกายที่ขดตัวก็ค่อยๆคลายตัวออกหลังจากนั้นมันก็แน่นิ่งไปในทันที
เมื่อ ชิงสุ่ยดิ้นรนคลานออกจากร่างกายของราชันย์อสรพิษ เขาก็ได้พบกับใบหน้าของโฉมงาม เหวินเหรินอูซวง ยืนจ้องมองเขาอยู่ใกล้ๆ
"สาวน้อย ข้าดูดีแล้วหรือยัง"ชิงสุ่ยเอื้อมมือของเขาไปแตะจมูกของอูซวง