ตอนที่ 22 หากข้าไม่ต้องการ?
ในขณะนี้...ดาบของหลี่ฉิงชานได้พรากไปอีกหนึ่งชีวิต ถึงแม้ว่าเขาจะโดนดาบฟันเข้าที่หลังแต่มันก็ไม่ได้ลึกไปจนถึงเนื้อ นอกจากนี้แผลยังสมานกันเองและไม่ได้มีเลือดออกมากนัก
ในเวลาเดียวกัน ก็ได้มีดาบเล่มหนึ่งแทงเฉียงมาทางด้านข้างมันแทงมาโดนที่ท้องของเขา.. เขาจับคมดาบที่แทงเขาไว้แน่นจากนั้นเขาง้างดาบของตนและตัดหัวคนที่แทงเขาในดาบเดียวอย่างสยดสยอง
กลิ่นอายที่ดุดันแข็งกร้าวเช่นนี้ทำให้ผู้ที่เห็นต่างหวาดกลัว
เสี่ยวเฮย ไม่เชื่อในตอนแรก เอาแต่เพียงพูดว่าที่หลี่ฉิงชานชนะพวกเขาได้เพราะว่าพวกเขายังไม่ทันตั้งตัว เขากำลังหาโอกาสที่จะเอาคืน แต่ในตอนนี้กลับมีเหงื่อเย็นๆไหลออกมาตรงหน้าผากเขาแทน
ทักษะดาบของหลี่ฉิงชานนั้นยอดเยี่ยมและกลิ่นอายฆ่าฟันก็โหดเหี้ยมไม่แพ้กัน มันทำให้เขารู้สึกตื่นกลัว
สัตว์ป่าเช่นนี้มันไม่มีทางที่นักล่าสัตว์ครึ่งๆกลางๆเช่นเขาจะฆ่าได้ โชคดีที่พวกเขาไม่ได้สู้กับหลี่ฉิงชานที่ชักดาบออกมาแล้วในใจกลางเมืองก่อนหน้านี้
ในเวลาไม่นานนัก ชายทั้งเจ็ดคนได้กลายเป็นศพไปแล้ว หลี่ฉิงชานกำลังชันเข่านั่งพักจากนั้นไม่น่าเขาก็เอาดาบพยุงตัวลุกขึ้นมา มีบาดแผลบนร่างของเขามากกว่าสิบแผล เสื้อผ้าของเขาย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสดบ้างก็เป็นเลือดของคนอื่นบ้างก็ของเขาเอง
คนเก็บโสมที่เหลืออยู่มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวราวกับคนบ้า เขามักจะเคยปล้นฆ่าบ่อยๆแต่ก็มักจะเป็นเพียงคนธรรมดาๆเท่านั้นที่พวกเขาข่มขู่ เขาไม่เคยพบกับเหตุการณ์ที่อีกฝ่ายเอาแต่ฆ่าอยู่ฝ่ายเดียวและไร้เขาหนทางที่จะต่อต้านเช่นนี้ในชีวิตมาก่อน “จะ..จะ..เจ้า เจ้าบ้าไปแล้ว”
สีหน้าของหลี่ฉิงชาน นิ่งมั่นคงราวกับหินแข็งๆ ในการต่อสู้ที่อยู่ระหว่างความเป็นตายเช่นนี้ได้กระตุ้นศักยภาพทุกรูปแบบและการเคลื่อนไหวของเขาได้แสดงออกมาเกินกว่าระดับปกติ ทว่าวิธีนี้ก็ทำให้เขาเหนื่อยมากในเวลาสั้นๆก็ทำให้เขาหมดแรง
หรือว่านี้เป็นเต๋าที่ข้าเลือก? มันเต็มไปด้วยเส้นทางของรอยเลือด!
วัวสีเขียวยืนขึ้นสบายๆและกล่าวถามว่า “ตอนนี้เจ้าเสียใจแล้วรึยัง”
“ข้า...ข้าจะฆ่าเจ้า!”คนเก็บโสมตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งและพุ่งเข้ามา
ณตอนนี้ร่างกายของเขาไม่มีแรงเหลือแล้ว แสงเย็นๆของคมดาบได้พุ่งมาที่คอเขา มันทำให้เขารู้สึกขนลุก หลี่ฉิงชานคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ข้าจะไม่เสียใจ!” ลมหายใจและพละกำลังในร่างกายทั้งหมดไหลลงไปที่มือของเขา เขาจับดาบไว้แน่นและแกว่งดาบขึ้นด้านบนเพื่อป้องกัน
“เกร๊งงงงง!!!” “ชิ้ววว!!”
มีลูกศรพุ่งแหวกอากาศมา คนเก็บโสมคนสุดท้ายก็ล้มลง ลูกศรดอกนั้นมันได้พุ่งมันปักบนร่างของคนเก็บโสม
หลี่ชิงชานเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าตะลึง มีร่างเงาที่ดูกำยำแข็งแรงค่อยๆไถลลงมาจากภูกเขาตรงหน้า พวกเขาเป็นนักล่าจากหมู่บ้านม้า พวกเขาค่อยๆเดินเข้าไปหาหลี่ฉิงชานอย่างระมัดระวังจากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งพุ่งไปจับแขนขาทั้งสี่ของหลี่ฉิงชานทันที
ในขณะหลี่ฉิงชานไม่มีแรงเหลือแม้แต่นิดเดียวพวกนักล่าได้แบกเขาขึ้นไปบนยอดหุบเขา
“เจ้าหนูเจ้าทำได้ดีมาก”เสือป่วยสีเหลืองวางธนูคันใหญ่ลง หลังจากที่พูดชมเชยเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาโบกมือจากนั้นนักล่าทั้งหมดก็ไปกลับไปซ่อนตัวในหุบเขาทั้งสองด้านอีกครั้ง
ไม่นานนัก คนเก็บโสมคนอื่นๆก็เริ่มไล่ค้นหาแถบพื้นนี้ พวกเขาสำรวจซากศพของสหายของพวกเขาด้วยใบที่ให้เกียรติ เมื่อพวกเขาเห็นคนเก็ยโสมคนหนึ่งที่ถูกธนูยิงสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและตะโกนออกมา“หนีได้ไวจริงๆ!”
“ยิง!”เสือป่วยสีเหลือตะโกนสั่งจากนั้น ห่าฝนธนูก็โปรยลงมาทั้งสองทิศ
คนเก็บโสมต่างกวัดแกว่งดาบของพวกเขาเพื่อป้องกันลูกศรทว่าพวกเขาจะป้องกันลูกศรที่ถูกยิงด้วยผู้ที่มีทักษะชำนาญเช่นนี้ได้อย่างไร เสียงกรีดร้องได้ดังสะท้อนไปมา
เสือป่วยสีเหลืองได้ยกคันธนคันใหญ่ของเขาขึ้นมา ยืนอยู่บนโขดหินที่ดีและเริ่มเล่งพวกคนเก็บโสมที่วิ่งหนี ในหาฝนธนูนี้ไม่มีนักล่าแม้แต่คนเดียวที่จะพลาดเป้าหมายของตนเองราวกับว่าเขาเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย
หลี่ฉิงชานพยุงร่างของตนเองขึ้นมายืนดูพร้อมกับสีหน้าความรู้สึกตกใจมาก ในด้านหนึ่งเขารู้สึกตกใจที่หมู่บ้านใหญ่ทั้งสองหมู่บ้านได้เกิดการต่อสู้เช่นนี้ได้อย่างง่ายดายและในอีกด้านหนึ่งก็ตกใจในพลังของธนูและลูกศร
เขาบ่มเพาะทักษะหมัดวัวอสูรและแน่นอนว่าสิ่งที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วที่สุดคือพละพลังความแข็งแกร่ง ถ้าหากว่าเขาสามารถใช้คันธนูคัยใหญ่ๆได้ เขาสามารถฆ่าคนได้ราวกับฆ่าสุนัขเช่นนี้?
เมื่อเสือป่วยสีเหลืองได้ยิงลูกศรลูกที่ห้าออกไป เสียงกรีดร้องก็ได้หยุดลงและมีเพียงเสียงคร่ำครวญที่อ่อนแอยากที่จะเข้าใจพูดออกมา
“เสือป่วยสีเหลือง!”คนเก็บโสมที่ถูกลูกศรปักที่ต้นขาได้ตะโกนออกมา
“ข้าอยู่ตรงนี้!”เสือป่วยสีเหลืองกระโดดลงมาจากผาสูงและกล่าวถาม“โสมวิญญาณอยู่ที่ใด หากเจ้าพูดออกมาชัดๆ ข้าจะฆ่าเจ้ามีเกียรติ์”
“จะ จะเจ้า...เจ้ารู้ได้ยังไง”
“เรื่องต่างๆที่ได้เกิดขึ้นรอบๆภูเขานับแสนนี้ ข้าก็ยังคงรู้เรื่องพวกนั้นนิดหน่อย โสมวิญญาณได้ปรากฏขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับภูเขาของหมู่บ้านม้า เมื่อกินมันเข้าไป มันสามารถรักษาได้ร้อยโรคและทำให้อายุยืนยาวขึ้นใช่มั้ย? ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่ามันเป็นเรื่องโกหก แต่ตอนนี้ข้าได้มองเห็นเจ้าแสดงสีหน้า ข้าก็เชื่อเรื่องนี้ขึ้นมาเล็กน้อย เจ้าประเมิณความสามารถของตนสูงเกินไปเล็กน้อย ถ้าหากเจ้าคิดจะฉกมันจากปากเสือ”
"เจ้าต้องการใช้โสมวิญญาณเพื่อรักษาโรคของตนเอง แต่มันก็คงเป็นเพียงแค่ความปรารถนา เจ้าไม่รู้วิธีที่ไปหาโสมวิญญาณแน่นอน เจ้าเพียงแค่รอว่าจะไม่ได้ยินเรื่องที่โกหกจากหมู่บ้านราชาโสม”
“เจ้าต้องการที่จะโต้เถียงกับหมู่บ้านม้าด้วยหมู่บ้านที่แยกตัวออกมาแล้วของเจ้า?”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เมื่อข่าวกระจายออกไป ข้าก็ไม่รู้ว่าจะมีพวกผู้ที่แข็งแกร่งสักเท่าไหร่จะรีบไปประจบหมู่บ้านม้า”
สีหน้าของเสือป่วยสีเหลืองแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย“เจ้าจะทนต่อไป?” เขายกมือโบกเมื่อเขาเห็นว่าไม่สามารถหาข้อมูลได้มากนัก นักล่าลุกขึ้นทีละคนรวบรวมคนเก็บโสมที่ยังไม่ได้ด้วยดาบ จากนั้นก็เก็บข้าวของของเขาจากนั้นก็ยกร่างของพวกเขาและโยนลงไปในหุบเขา
ในช่วงพริบตาเดียว พื้นดินที่เต็มไปด้วยซากศพก็สะอาดเรียบร้อย มีเพียงแค่รอยเลือดเท่านั้นที่แสดงให้เห็นว่ามีการต่อสู้ที่นี้เมื่อถึงเวลาฝนตกสายฝนจะชำระล้างเลือดพวกนี้จนไม่มีอะไรเหลืออีกต่อไป
ชีวิตของผู้ชายในช่วงเวลาหนึ่ง มันมีน้ำหนักเบาและราคาถูกเฉกเช่นจิ้งหรีดหรือตุ่น
นักล่าได้มาจ้องมองหลี่ฉิงชานอีกครั้ง การชื่นชมและความขอบคุณได้อยู่ในใจพวกเขาแต่ก็มีกลิ่นอายฆ่าฟันที่ถูกปกปิดไว้เช่นกัน
หลี่ฉิงชานได้ยินความลับเรื่องใหญ่และแน่นอนว่าคนจากหมู่บ้านม้าจะไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการฆ่าเขาและโยนเขาลงไปที่หุบเขาหลังจากโยนคนเก็บโสมทั้งหมด
วัวสีเขียวที่น่าเกลียดปฏิเสธที่จะช่วย ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ขอบเหวแห่งความตายก็ตาม
คราวนี้ได้ออกไปจากเทือกเขา... เขาเข้าใจแล้วว่าเรี่ยวแรงของตัวเองได้แปรเปลี่ยนไปอย่างมากและเขายังจำได้ว่าเขาเคยตัวเล็กและอ่อนแออย่างไร บางทีนี้อาจจะเป็นเป้าหมายที่วัวสีเขียววางไว้
เสือป่วยสีเหลืองกล่าว“น้องชายเจ้าเต็มใจที่จะตามข้ากลับไปที่หมู่บ้านม้าของเราหรือไม่?”
“ถ้าหากข้าพูดว่าไม่ต้องการ?”
“เจ้าไม่สำนึกบุญคุณ ฆ่ามัน!!!” นักล่าผู้หนึ่งโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
เสือป่วยสีเหลืองโบกมือและกล่าว“ข้าไม่ได้ฆ่าคนไร้เดียงสา ถ้าเจ้าไม่เต็มใจ เจ้าก็ไปจากที่นี้เอง! ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่ใช่พวกปากโป้ง”
หลี่ฉิงชาน ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล มันขึ้นอยู่กับการกระทำที่น่ากลัวของคนอื่น เขาจะไม่ออมมือหากต้องฆ่าใครสักคน แต่นักล่าทุกคนก็ดูดุร้ายและกลิ่นอายฆ่าฟัน
นอกจากนี้ตัวเขาเองก็มีความสนใจที่จะไปดูหมู่บ้านม้า บางทีเขาอาจจะได้เรียนรู้การใช้ธนู แล้วเขาจะสามารถอยู่ได้ด้วตนเองอย่างอิสระโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากวัวสีเขียวและพลังของเขาก็จะเพิ่มมากขึ้น เรื่องเกี่ยวกับโสมวิญญาณเขายังไม่กล้าที่จะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
“เช่นนั้นข้าจะไป ถ้าเจ้ายืนกรานเช่นนี้”
เสือป่วยสีเหลือง แสดงรอยยิ้มของเขาและสั่งให้คนนำขี้ผึ้งมา เมื่อพวกเขาทาลงบนตัว หลี่ฉิงชาน พวกเขาพบว่าบาดแผลของเขาหดตัวและไม่ได้เลือดออก พวกส่งเสียงเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ
หลี่ฉิงชาน อดทนต่อความเจ็บปวดของตนและเดินไปที่เกวียน เขาหยิบโสมที่เพิ่งซื้อมาใส่ในลงไปในปากและเคี้ยวช้าๆ เขายังตบฝาปิดของโถไวน์ออกและกระดกไวน์ไปหลายอึกใหญ่ๆจนเต็มท้อง
ไวน์ได้ละลายโสมจากนั้นก็เกิดกระแสพลังงานที่อบอุ่นกระจายทั่วท้องของเขา เขารู้สึกสดชื่นทันทีทำให้ผู้คนรอบๆต่างตื่นตาตื่นใจไม่รู้จบ
หลี่ฉิงชาน ปีนขึ้นไปบนเกวียนและไม่สนใจคนรอบๆเขา เขาหลับตานั่งสมาธิฟื้นฟูความอ่อนล้าและความเจ็บปวดที่ยังเหลืออยู่ภายในร่างกายของเขา เขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อสรุปความสำเร็จและความผิดพลาดของศึกครั้งนี้
ก่อนอื่น เขาไม่สามารถปล่อยให้โชคดีเช่นนี้ได้อีก ขามักจะได้ยินคนบอกว่าโลกแห่งการต่อสู้เป็นเรื่องเลวร้ายและน่ากลัว วันนี้อาจนับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับประสบการณ์เช่นนี้ด้วยตนเอง หนึ่ง ความประมาทอาจจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเขา ชีวิตของมนุษย์ในโลกนี้ดูจะไร้ค่าจริงๆ เขาอาจจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นทุกครั้ง และเขาก็ไม่สามารถพึ่งพาพลังที่ระเบิดออกมาอย่างฉับพลันจากตัวเองได้ มีความกล้าหาญแต่ขาดการวางแผนคือการแสวงหาหนทางสู่ความตายของตัวเอง เขามีสิ่งที่ดีกว่าสมบัติก็คือชีวิตที่แสนโชคดีของเขาแทน
แต่คราวนี้ท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างความเป็นและความตาย ความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะหมัดวัวอสูรของเขาได้ลึกซึ้งขึ้นไปอีกระดับหนึ่งและแม้แต่แก่นแท้ของร่างกายและพลังงานกลายเป็นสิ่งที่แตกต่างกันเล็กน้อยราวกับมีดล้ำค่าที่ได้รับการขัดบนหินลับมีด
**พึ่งกลับมาจากตจวและมึนอึนๆนิดหน่อยเนื่องจากไม่สบาย อาจมีงงๆบ้างขออภัยด้วยครับแปลสดลงสด วันนี้ตอนเดียวก่อนนะครับ T T
มันส์ขึ้นอีกแล้ววว
ฝากไลคเพจด้วยนะค้าบบบLegend of the Great Saint ครับ^^