ตอนที่แล้วLSG-บทที่ 64: การลอบสังหารยามค่ำคืนอันเงียบสงบ (ตอนที่ 1) (อ่านฟรี6สิงหา)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปLSG-บทที่ 66: ลำบากสุดๆ (ตอนที่ 3) (อ่านฟรีวันที่10สิงหา)

LSG-บทที่ 65: การลอบสังหารยามค่ำคืนอันเงียบสงบ (ตอนที่ 2) (อ่านฟรีวันที่8สิงหา)


LSG บทที่ 65

แปลไทยโดย : SwordGod

บทที่ 65: การลอบสังหารยามค่ำคืนอันเงียบสงบ (ตอนที่ 2)

ทิ้งร้านค้าเลยหรอ! (Tl: สำนวน: โดยทั่วไปเธอกำลังล่อลวงเขา)

นอกจากนี้นางยังเปิดเผยให้เห้นอีกด้วย ดูเหมือนว่าถ้าจิตตานุภาพของซูหยุนมีกำลังน้อยกว่านี้สักเล็กน้อยมันคงจะทำตามแน่ๆ

อย่างไรก็ตามซูหยุนไม่ได้โง่

หูเชี่ยนเหม่ยเป็นผู้บ่มเพาะทำไมนางถึงสนใจคนอ่อนแอเช่นมัน?

โชคดีที่ศิลานิรันดร์ถูกเก็บไว้กับตัวมันคอนตรวจภายในใจ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วตอนมันแทบจะโยนตัวมันเองไปแทบเท้านางแล้วตอนนี้

"เอาล่ะเล่นกันแค่นี้ ถึงเวลาที่ต้องมาคุยธุระของเรากันได้แล้ว! " ซูหยุนพยายามปรับสติมันขณะพูดเบา ๆ

“ด้านชา”

ปากของ หูเชี่ยนเหม่ย งอสูงขึ้นขณะที่นางดึงเสื้อของนางขึ้น ถึงแม้จะมีคนอยู่ข้างๆสามคนถึงจะไม่ได้ยินเสียงแต่นางนางก็ยกขาขาวๆของนางไปข้างหน้าแล้วพูดว่า "เหตุผลที่ทำไมข้าไม่อยากปล่อยพวกมันไป เพราะไกล้ๆบริเวณนี้มีคนหลายคน!"

"ข้ารู้เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขาเปียงกู่พร้อมกับการบ่มเพาะที่ก้าวกระโดดข้าของจึงทำให้มีคนสงสัย!" ซูหยุน พูดขึ้นทันทีว่าทำไม หูเชี่ยนเหม่ย จึงไม่ต้องการปล่อยให้ทั้งสามคนออกไป

ถ้าชิงเอ๋อและอีกสองคน ออกไปจากกระท่อมหลังน้อยนี้ ก็จะเหลือแต่ หูเชี่ยนเหม่ยกับซูหยุน เพียงแค่สองคน นั่นจะทำให้มันยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นสำหรับตระกูลซู

ทำไมซูหยุนกับหูเชี่ยนเหม่ยถึงได้มาพบกัน? สำหรับเรื่องนี้ คงจะดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการนำผลึกสวรรค์ขึ้นมาดังนั้นหูเชี่ยนเหม่ยจึงไม่ต้องการให้พวกเขาออกไปนอกประตู

"นี่เป็นเรื่องของผลึกสวรรค์!" ซูหยุนตะโกนออกมาโดยพลัน

"อ่าห์ เจ้าอย่าพูดอย่างนั้นสิ ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้ใช้ข้าหรองัย ใช่มั้ย? เจ้ารู้อยู่แล้ว เพราะผลึกสวรรค์ ข้าจึงคอยจับตาดูเจ้า เจ้าตั้งใจโวยวายให้เกิดความสับสนอลมาน คำพูดที่เจ้าตะโกนออกมาไม่ได้เพื่อ ซูม่อสร่า แต่อยากให้ข้าได้ยินใช่มั้ย? " หูเชี่ยนเหม่ยหัวเราะคิกคัก

"ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับข้า ผลึกสวรรค์ ก็จะหายไปพร้อมกับข้า อย่างไร้ร่องรอย!"

"คนอย่างเจ้าฉลาดมากฉลาดกว่าแม้แต่ข้า!" หูเชี่ยนเหม่ย พูดอย่างหวานหู (อ่อย)

"นี่เพียงเพื่อความอยู่รอดของข้า!"

"ไม่ว่ายังไงก็ตาม หากเกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นอีกครั้งข้าจะไม่ช่วยเจ้าแก้ปัญหานี้อีก เจ้ายังมีเวลาอีกสี่วันและความอดทนของข้ามีขีดจำกัด เจ้าเอาผลึกสวรรค์มอบให้ข้าตอนนี้เลยดีกว่า ข้าสามารถช่วยเจ้าเข้าสำนักภายในได้นะ แต่ถ้าเจ้าไม่ส่งผลึกสวรรค์ให้ข้าตามนัดละก็ เจ้าก็เตรียมตัวลงนรกได้เลย! "

หลังจาก หูเชี่ยนเหม่ย พูดจบนางก็ลุกขึ้นยืนเดินตรงไปที่ประตู

ซินเยี่ย จ้องมองคนทั้งสองคุยกันแต่ไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงอะไรกันอยู่

ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาได้ยินเสียงตะปบที่ประตูและความสามารถในการได้ยินของพวกเขาก้กลับมา

หูเชี่ยนเหม่ย เปิดประตูออกไปอย่างสง่างาม

.........

ตึกรักษาตระกูลหลัก 医学中心

สาวใช เสี่ยวชุ่ยได้รับการรักษาโดยหมอจิตวิญญาณ นางกระโผลกกระเผลกเดินกุมท้องออกมาจากห้อง

ตอนนั้นเอง นางได้ยินเสียงมากจาก ตึกรักษา

"เร็ว!เร็ว!เร็ว!เร็ว!เร็ว! เร็ว!เร็ว!เร็ว!เข้านำตัวท่านม่อสร่า เข้าไปข้างในเร็ว!เข้า ช้าลงๆทุกคนเดินช้าลงเร็ว!เข้า! " คลื่นเสียงดังกึกก้องอยู่ข้างใน

ต่อจากนั้น นางเห็ซูม่อสร่า ถูกหน่วยพิทักษ์สองคนแบกมันลอยขึ้น ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในประตูพวกเขาได้ยินเสียง "อัก"' ซูม่ิสร่า ตอนนี้ได้ตกเลือดออกมา ใบหน้าทั้งหมดของมัน ซีดเผือกขณะที่มันร้องคร่ำครวญในความเจ็บปวดสุดขีด?

"เกิดอะไรขึ้น?" เสี่ยวชุ่ย ใจเต้นระรัวงุนงงไปหมด

ซูม่อสร่าถูกนำขึ้นไปไว้บนเตียง ผู้อาวุโสหมอจิตวิญญาณ ตรวจดูอาการของมันทันที

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำตระกูลก็มาแล้วไล่ทุกคนออกไป

เมื่อเห็น ซูม่อสร่า ในสภาพที่อ่อนแอเช่นนั้นอารมณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

"เกิดอะไรขึ้น? เจ้าไม่ได้ไปตาม นาง หรอ " ซูหลี่โซวง ถาม ซูม่อสร่า อย่างเฉยชาขณะที่เขาได้ส่งกลิ่นอายจิตวิญญาณของเขาให้ครอบคลุม ซูม่อสร่า ทั่วทั้งตัว

ซูม่อสร่า แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างระทวยเมื่อไม่นานมานี้

"อะไรกัน?" นางเป็นสหายสนิทกับ หูเชี่ยนเหม่ย? "เป็นไปไม่ได้? ซูหลี่โซวง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อ หูเชี่ยนเหม่ย มาที่ ตระกูลซูเพื่อคุยกับสหายนานเท่าไร?

"ท่านผู้นำ ... ถ้าเป็นเช่นนี้ ... . ต่อไปในอนาคต ... ถ้า ชิงเอ๋อถูกส่งตัวไปนิกายเทียนเว่ย微天 ... . หากหูเชี่ยนเหม่ยค้นหา .... ไม่พบหูเชี่ยนเหม่ยจะไม่มาแทรกแซงแผนการของเราหรือ?" ซูม่อสร่าร้องคร่ำครวญเหมือนคนที่กำลังจะตาย

“ฮึ่ม!” ซูหลี่โซวง หัวเราะเสียงดัง "สำนัก หมิงหยิงอาจจะมีอำนาจ แต่พวกเขาก็กล้าทำอะไรกับนิกายเทียนเว่ย? แม้แต่ผู้อาวุโสแห่งสำนักกระบี่เซียนจะไม่ทำอะไรแบบนั้นดังนั้นข้าคิดว่าหูเชี่ยนเหม่ย จะไม่ทำอะไร! กระนั้นข้าหัวเสียมากไปหน่อย ... ทำไมหูเชี่ยนเหม่ยถึงลงมือกับเจ้าขนาดนี้? สำหรับเรื่องแค่นี้ นางจำเป็นต้องโหดกับเจ้าด้วยหรอ?

ซูม่อสร่า ถ่างตาขึ้นกว้างอย่างฉับพลันและคว้าแขนผู้นำตระกูลไว้ เขาตอบว่า "นายท่าน ท่านต้องแก้แค้นให้กับข้านะ ...เรื่องนี้ข้าเจ็บใจมาก ...ข้าเจ็บแค้นใจที่กับผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้.ข้าอยากแก้แค้น ... .นายท่าน ... "

ความจริงแล้ว ซูม่อสร่า เป็นหลานของผู้นำตระกูล แต่หลาย ๆ คนในตระกูลซูไม่ได้รู้เรื่องความสัมพันธ์นี้

ซูหลี่โซวง รีบสบัดแขนออกจากมือของซูม่อสร่า เขาจ้องอย่างขึงขัง

"ระดับการบ่มเพาะของ หูเชี่ยนเหม่ย สูงมาก นอกจากนี้สำนักวิชาหมิงหยิงตอนนี้กำลังหนุนหลังนางอยู่ หากเจ้าต้องการแก้แค้นก็อาจนำตระกูลซูเป็นศัตรูของนิกายหมิงหยิง! "

ต่อจากนั้นล่ะ!ข้าควรจะลืมเรื่องนี้? "

“แน่นอนว่าไม่!” ซูหลี่โซวงจมอยู่ในความคิด "ข้าได้ยินมาว่า หูเชี่ยนเหม่ย เป็นบุคคลที่หายากที่จะปรากฏตัวเพียงครั้งเดียวทุกๆพันปี นางมีทั้งความคิดอัจฉริยะและร่างกายที่สมบูรณ์แบบ หากเจ้าได้ร่างกายของระดับพลังงานของเจ้าจะเพิ่มขึ้นตามหลายเท่า ยังไงก็ตามดูเหมือนว่าหูเชี่ยนเหม่ย ไม่ค่อยพอใจใครง่ายๆ เพราะฉะนั้นนางจึงไม่เคยนัดพบกับใคร ...ม่อสร่า, เจ้าคิดยังไงกับ หูเชี่ยนเหม่ย? "

หูเชี่ยนเหม่ย! ซูม่อสร่า ถลึงตาอยู่ในความว่างเปล่า ในจิตใจของมันเต็มไปด้วยสุภาพสตรีที่มีเสน่ห์ที่มีผิวพรรณขาวใส นัยน์ตาของมันลุกโชนขึ้นด้วยความปรารถนาและไฟราคะไม่มีที่สิ้นสุด

"หากข้าได้นางมาเชยชม ถึงชีวิตของข้าจะสั้นลงข้าก็จะไม่เสียใจ!"

"ตกลงมั้ย!" รอจนกว่าเจ้าดีขึ้นกว่านี้ก่อนแล้วข้าจะไปคุยให้ เมื่อเจ้ารู้สึกว่าพร้อมและฟื้นตัว ข้านึกอะไรออกบางอย่าง "

"อาห์, หูเชี่ยนเหม่ย .... "

ซูม่อสร่ากำหมัดแล้วกัดฟันพูดว่า "ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจ!"

.........

เกี่ยวกับเป้าหมายที่แท้จริงของหูเชี่ยนเหม่ย ที่มาที่นี่ ซูหยุน ตัดสินใจไม่บอกกับซินเยี่ยและพวก มันคิดว่าถ้าพวกเขารู้ความจริงเรื่องนี้ผลึกสวรรค์คงจะเหมือนหัวมันร้อนๆ

หลังจากซูหยุนได้สนทนากับพวกเขาอีกนาน ชิงเอ๋อ ก็ต้องกลับไปที่ ตระกูลหลัก ในขณะเดียวกันซินเยี่ยและซิงหยางก็กลับบ้าน

หูเชี่ยนเหม่ย ยังคงอาศัยอยู่รอบๆกระท่อมของ ซูหยุน แต่นางไม่มีการเคลื่อนไหว ซูหยุนรู้ว่านางกำลังรออะไรอยู่และเข้าใจว่าจวนจะหมดเวลาแล้ว

มันจะกำจัด หูเชี่ยนเหม่ย ได้อย่างไร?

ซูหยุนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อีกส่วนก็ทิ้งมันไปยังไม่ได้ตอนนี้!

ดวงตะวันร่วงหล่นยามราตรีก็คลืบคลานมา

ซูหยุนกระโดดลงไปบนม้าจิตวิญญาณของมันและกระตุ้นควบมันไป มันกำลังมุ่งตรงไปที่ ตระกูลหลัก

ภายใต้ชื่อ หูเชี่ยนเหม่ย มันไม่มีข้อจำกัดในการเดินทางทั้งหมด มันเข้าไปในสำนักภายในอย่างรวดเร็วและอยู่ห่างจากทางเข้า ตระกูลหลัก ไม่ถึงห้าพันเมตร

ตระกูลซูมีสามขอบเขต ในเขตชานเมืองเป็นสำนักภายนอกแล้วสำนัขภายในและภายในสำนักภายในเป็นตระกูลหลัก เป็นการแบ่งชั้นตามชนชั้น

สำนักภายนอก แห่งตระกูลซู เรียกได้ว่า อัตคัดยากลำบาก ทุกคนดิ้นรนเพื่ออนาคตของตัวเอง ในสำนักภายในทุกคนกำลังดิ้นรนเพื่อเพิ่มกำลังของพวกเขา สำหรับ ตระกูลหลัก มันแตกต่างกันเล็กน้อย

บ้านหลังใหญ่ไม่เพียง แต่มีสภาวะที่ดีที่สุด ตัวอาคารสร้างขึ้นเหนือ อัญมณีวารีวายุ 四大宝พื้นดิน อัตราการฟื้นตัวของพลังวิญญาณของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นโดยไม่กี่ครั้ง นี่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้บ่มเพาะอื่นๆ

หลายความฝันตลอดชีวิตของผู้อยู่อาศัยในสำนักภายนอกได้เข้าสู่สำนักภายใน ในขณะที่ความฝันตลอดชีวิตของเหล่าสาวกภายในของสำนักภายในต้องเข้าไปในตระกูลหลัก แต่สาวกหลายคนก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ในชีวิตได้

หลังจากที่เข้ามาถึงประตูทางเข้ามันได้หยุดม้าของมันที่มุมประตู ในคืนที่มืดสลัวมันเปลี่ยนจากเสื้อผ้าสีขาวธรรมดาของมันและเอาชุดอื่นออกมา มันเปลี่ยนเป็นชุดชุดสีดำชุด จอมดาบ และติดตั้งดาบของมัน จากนั้นมันก็หยิบหน้ากากจากแหวนมิติแล้วใส่เข้าไปบนหัวของมัน จากนั้นมันก็เริ่มเดินอย่างรวดเร็วภายใน

ขณะที่เดินขึ้นไปที่ศูนย์กลางของบริเวณตระกูลหลักซูนหยุนชะลอตัวลง

มีอาคมป้องกันจำนวนมากซึ่งทั้งหมดได้รับการสร้างขึ้นโดยผู้นำตระกูลทุกหนึ่งอันมีความสามารถในการต่อสู้ได้ สามารถแจ้งเตือนยามได้ทันทีหากมีการตรวจพบรัศมีวิญญาณแปลกปลอมอื่นๆ ในกรณีที่มีบางคนวิ่งมาที่นี่จะแจ้งเตือนทุกคนได้อย่างรวดเร็ว วัตถุประสงค์แรกของการป้องกันคือการจับกุมบุคคลในขณะที่จุดสงค์รองคือการแจ้งให้ ยาม

ยามของตระกูลหลักส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง มีแนวโน้มว่าไม่มีการดำรงอยู่ที่อ่อนแอในประตูเหล่านี้ การประเมินระดับกาบ่มเพาะน่าจะอยู่ที่ระดับแก่นแท้วิญญาณขั้นที่ห้าหรืออาจจะแข็งแกร่งมากกว่านั้น ปัจจุบันซูหยุนไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับยามของตระกูลหลักได้ ได้

ดังนั้นทุกอย่างต้องลอบมา

มันค่อยๆลอบไปที่ ตระกูลหลัก และเดินไปที่ตึกรักษา ในแสงจันทร์หน้ากากเหล็กของมันดูเหมือนจะเป็นป่าอันหนาวเย็นไม่มีที่สิ้นสุด

เพื่อหลีกเลี่ยงยามที่มันแอบผ่านเงา

ไม่นานมันก็มาถึงนอกตึกรักษา

ฟึบ!

ประตูถูกเปิดออก

ตอนกลางดึกหมอจิตวิญญาณอาวุโสกำลังหลับอยู่ มีเพียงหนึ่งคนรับใช้ยืนอยู่ข้างเตียงเฝ้าระวังคนที่นอนหลับ

ซูหยุนย่อเข้าหามันโดยไม่มีเสียง เด็กรับใช้ตกใจเพราะมันไม่รู้ว่าใครมาเขาจ้องมองขณะที่คนๆนี้ค่อย ๆ ยื่นมือเข้าไปที่คอของเขาเล็งไปที่กดจุดเจียงไห่และกดเบา ๆ จิตใจของเขาถูกทำให้เป็นอัมพาตทันทีเนื่องจากสมองของเขาขาดออกซิเจนสักครู่ จากนั้นไม่นานเขาก็หมดสติ

ตุบ

คนใช้ล้มลงกับพื้น

เสียงปลุกทำให้ซูม่อสร่าตื่น มันค่อยๆลืมตา มันขยับตัวเองอย่างเจ็บปวด

ใคร ?? ซูม่อสร่าตะโกน

ไม่ต้องห่วง! มีเสียงลึก ๆ มาจากคนสวมหน้ากาก

ซูม่อสร่ามองเขาอย่างหดหู่ใจว่า "เจ้าเป็นใคร?"

"เรื่องนี้ไม่จำเป็น เรื่องที่สำคัญคือกี่ปีที่ชิงเอ๋อได้รับความอัปยศอดสูจากแก ถึงเวลาแล้วที่จะตัดเนื้อเน่าๆนี้ออก "

"ชิงเอ๋อ ... ." ซูม่อสร่าจ้องมองอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็เข้าใจทันทีว่า "สาวใช้ชั้นต่ำ"

"สาวใช้ชั้นต่ำ?" คนๆนี้สวมหน้ากากเหล็ก ซูม่อสร่า ไม่สามารถเห็นเขาได้

"แก แกเป็นไปได้ไหมว่าแกไม่ใช่? ถ้าอย่างนั้น, มันเป็นถังขยะเช่นสาวใช้ชั้นต่ำ ที่ผเอิญโชคดีได้เข้ามาในตระกูลหลักเป็นคนรับใช้! สุดท้ายแล้วไม่ว่ายังไงนางก็ไม่สามารเปลี่ยนสายเลือดได้! สาวใช้ชั้นต่ำก็ยังเป็นสาวใช้ชั้นต่ำ! "

ชายสวมหน้ากากเหล็กไม่ได้พูด เขาไม่ได้ยขยับ จากนั้นเขาก็หันกลับและมุ่งตรงไปข้างนอก

"หยุดนะ!" ซูม่อสร่าตะโกน

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หยุดและรีบออกจากห้อง ซูม่อสร่าอยากจะเรียกหาใครสักคน แต่ถึงแม้จะลุกขึ้นจากเตียงก็ยังเป็นปัญหา

หลังจากที่ชายคนนั้นทิ้งเขาอยู่ท่ามกลางความเงียบอันเงียบเหงา ไม่มีการเคลื่อนไหวและไม่มีเสียง

"อาชีพของคนคนนั้นคืออะไร? เป็นไปได้ไหมที่เขามาที่นี่ ... . เพียงพูดประโยคลึกลับไม่กี่คำ? "

ซูม่อสร่า เริ่มมีข้อกังขาบ้าง

เป็นไปไม่ได้! มีคนมา! เร็วเข้ามีคนมา! "

เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น!

ทันใดนั้น 'หวือหวือหวือ' ตูมเป็นหน้าต่างของตึกรักษาถูกทำลาย ในไม่ช้าก็ตามด้วยใบมีดที่แหลมคมวิ่งตรงเข้าหามัน

ตูม!!

ซูม่อสร่าไม่มีเวลาตอบสนองใบมีอันแหลมคมเจาะหัวสองของมันตอกติดข้างกำแพงตึกรักษา หัวของมันถูกตัดออกเป็นสองส่วนจากใบมีด

หลังจากที่ตัดหัวมันแล้วใบมีดสั่นสะเทือนอยู่ชั่วครู่แล้วหมุนไปรอบ ๆ และบินตรงออกไปนอกหน้าต่าง ในไม่ช้ามันก็หายตัวไปในเวลากลางคืน

หวอออออออ! ! ! ! !

เสียงเตือนภัยกรีดร้องวุ่นวายทั่วทั้งตระกูลหลักในท้องฟ้ายามราตรี ในไม่ช้าก็มีการเปิดใช้งานไฟสัญญาณอาคมหลายสาย ทั้งตระกูลหลักตื่นขึ้นมา ทางเข้าตระกูลหลักถูกปิดอย่างรวดเร็ว ผู้นำสูงสุดนำกองกำลังของหน่วยพิทักษ์จำนวนมากไปกับเขาเข้าไปที่ตึกรักษา

ที่ตระกูลหลักนอกพื้นที่การต่อสู้ในกรณีที่มีการรับรู้ถึง กลิ่นอายจิตวิญญาณมันจะเปิดใช้งานทันที

กลุ่มหน่วยพิทักษ์พิเศษวิ่งไปที่ตึกรักษาที่ก้าวอย่างไวที่สุด

อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนเพียงคนเดียวเข้ามาที่ตึกรักษาภาพด้านหน้าพวกเขาทำให้ทุกคนตะลึง

ซูม่อสร่า แห่ง ตระกูลหลัก หัวถูกผ่าออกเป็นสองซีก ร่างของมันติดกำแพงและใบหน้าของมันยังคงแสดงออกถึงความสับสนของมัน สมองสีขาวและเลือดสีแดงสดๆกระจายอยู่ทั่วทั้งเตียง ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด