AST บทที่ 124 - สนามประลองท่ามกลางงานแต่งงาน (1)
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 124 - สนามประลองท่ามกลางงานแต่งงาน (1)
ข้าควรเชิญใครบ้าง?
ชิงสุ่ยคิดในขณะที่เขากำลังเดินไปเรื่อยๆ "ท่านปู่ส่งต่องานนี้มาให้ข้า แล้วข้าจะรู้จักคนสักกี่คนกัน? ช่างมันเถอะ ยังไงซะมันก็ควรเป็นงานรื่นเริงที่คนยิ่งอยากมาร่วมงาน และยิ่งคนมาก มันจะต้องยิ่งสนุกอย่างแน่นอน"
ในโลกใบก่อนนั้น ชิงสุ่ยไม่ได้มีงานอดิเรกใดๆเลย ยกเว้นแต่เพียงการคัดตัวอักษร และตั้งแต่เขายังหนุ่ม เขาไม่เคยสัมผัสถึงความแข็งแกร่งเลย เพราะตัวเขานั้นอ่อนแอกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เขาจึงคิดว่ามันควรจะสามารถเอามาใช้ได้ในวันนี้
"ข้าคงจะต้องถามท่านแม่ดูก่อน ว่าข้าควรทำเช่นไรต่อคนใกล้ชิดของเหล่าผู้อาวุโส หรือข้าควรจะต้องเป็นผู้ไปเรียนเชิญพวกเขาด้วยตัวข้าเอง" ชิงสุ่ยต้องการกลับไปที่ห้องของเขา แต่เขาก็ตัดสินใจตรงไปยังห้องพักผ่อนแทน
เมื่อเขาเห็นท่านแม่ของเขา และป้าสามของเขานั่งอยู่ที่ห้องพักผ่อน ชิงสุ่ยจึงเริ่มสอบถามเรื่องบัตรเชิญงานแต่งงาน
"โอ้ ถ้าเช่นนั้น…...เดี๋ยวแม่และพวกผู้อาวุโส จะไปเชิญบรรดาแขกด้วยตัวเอง!!!"ชิงอี้หัวเราะ
และก่อนที่ชิงสุ่ยจะเดินออกไป ชิงอี้ก็เรียกเขากลับมา ซึ่งชิงสุ่ยก็มองชิงอี้ด้วยความงุนงง
"ชิงสุ่ยลูกแม่ เจ้ารู้เรื่องกฏระเบียบบางอย่างของเมืองร้อยไมล์หรือไม่? เช่น แม้แต่กฏการแต่งงาน มันก็มีข้อบังคับของตัวเองด้วย?" ชิงอี้กล่าวออกมา
"กฏระเบียบ? แม้แต่งานแต่งงานก็มีข้อระเบียบเป็นของตัวเอง?"ชิงสุ่ยมองไปทางแม่ของเขาด้วยความประหลาดใจ
"กฎระเบียบนั้นย่อมมีเสมอ แม้กระทั่งกับงานแต่งงานในเมืองร้อยไมล์แห่งนี้ ซึ่งในวันแต่งงาน ตระกูลของเจ้าบ่าว จะต้องจัดตั้งเวทีประลองวรยุทธขึ้นมา และเตรียมรับคำท้าของทุกคนที่ก้าวขึ้นบนเวที ซึ่งทุกคนในตระกูลเจ้าบ่าว สามารถก้าวขึ้นเวทีประลองเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตระกูลได้ แต่ถ้าหากพ่ายแพ้ตระกูลของพวกเขาก็จะเสียหน้าและอับอายในทันที"ชิงอี้มองใบหน้าของชิงสุ่ยด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความกังวล
"หืม กฎดังกล่าวมีจริงๆหรือท่านแม่?"ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจมาก ทั้งที่งานแต่งงานควรเป็นงานรื่นเริง แต่เหตุใดพวกเขาจึงจะต้องต่อสู้กัน นี่คงเป็นโลกแห่งการต่อสู้ที่แท้จริง
"แน่นอน แท้จริงแล้วพิธีการนี้มีเอาไว้เพื่อสร้างสานสัมพันธ์ระหว่างรุ่นเยาว์ แต่ตอนนี้ตระกูลชิงของเรานั้นต่างอยู่ในความสนใจของทุกคน แม่เองก็กลัวว่าจะมีคนชั่วเข้ามายุ่งเกี่ยวและใช้เวทีประลองที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้หาผลประโยชน์เข้าตัวเอง เพราะเวทีประลองที่อยู่ในงานแต่งงานถูกวางขึ้นบนพื้นที่การฝึกซ้อมของตระกูล และอนุญาตให้ทุกคนเข้าร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาประลองย่อมต้องเกิดการบาดเจ็บ หรือบางครั้งอาจพลาดถึงแก่ความตายได้หากผู้ดูแลไม่อาจช่วยเหลือได้ทัน ที่สำคัญทั้งสองฝ่ายจะต้องยอมรับผลที่ตามมาโดยมิอาจตำหนิหรือแก้แค้นได้!!!"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชิงสุ่ยก็แสดงท่าทางขมวดคิ้วออกมาแต่ ภายในนั้นกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม "ท่านแม่ ท่านไม่ต้องกังวล และโปรดวางใจในตัวลูกชายของท่าน!!!!"
"ท่านปู่วางใจมอบหมายงานนี้ให้แก่ข้า แสดงได้ว่าท่านปู่มั่นใจในตัวข้า ข้าย่อมต้องทำอย่างดีที่สุด และต้องขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ข้าสามารถบุกทะลวงคลื่นกระแสสวรรค์ขั้นที่ 4 ได้สำเร็จ ถ้าไม่เช่นนั้นข้าเองก็คงจะรู้สึกไม่สบายใจ"ชิงสุ่ยคิดขณะเตรียมความพร้อมที่จะเขียนประกาศเชิญงานแต่งงาน
คำเชิญชวนงานแต่งงาน เป็นวิธีการแสดงความเคารพต่อผู้ที่จะเข้าร่วมงานเพื่อแสดงความปิติยินดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเชิญที่ถูกส่งไปยังบุคคลที่มีสถานะสูงส่ง หากพวกเขาตอบรับ งานแต่งงานนี้จะยิ่งมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
"อืมมม ข้าเองก็ไม่ได้รู้จักคนมากมาย ข้ารู้จักเพียงผู้นำอาวุโสตระกูลอวี้ อวี้เหอ พี่น้องเหวินเหริน ส่วนคนจากตระกูลซือถู ตระกูลสือ ตระกูลเสี่ยง และคนอื่นๆจากตระกูลอวี้ ค่าคงต้องยกให้เป็นหน้าที่ท่านลุงและคนอื่น!!"ชิงสุ่ยคิดบางอย่างขณะที่เขาจับพู่กันและลงมือเขียน
"ข้าควรจะส่งคำเชิญนี้ไปยัง ห่าวหยุนลิ่วลี่ แห่งร้านพี่เล็กอัคนีผลาญเมฆาด้วยหรือไม่?" ชิงสุ่ยกำลังนึกถึงสตรีลึกลับผู้ที่มอบหม้อกลั่นเหล็กทองคำประกายเพลิง
"ไม่ว่าแม่นางผู้นี้จะมาหรือไม่ ข้าคิดว่าควรจะส่งมันให้กับเธอ เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้ให้ความช่วยเหลือที่สำคัญแต่ข้า อีกอย่างถ้าเองก็รู้สึกว่าเธอนั้นเป็นคนที่ลึกลับและเต็มไปด้วยความลับ ที่สำคัญข้าก็อดรู้สึกคิดถึงเธอไม่ได้"
-------------------------------------
ภายในคฤหาสน์อันยิ่งใหญ่เมืองธาราสวรรค์
" เจ้าจะปล่อยให้ลูกชายของเจ้า ต้องตายอย่างไร้ศักดิ์ศรีอย่างนั้นหรือ? ในฐานะที่ต้องเป็นเจ้าเมืองแห่งเมืองธาราสวรรค์ เจ้ากลับไม่อาจปกป้องลูกชายของเจ้าได้ ตอนนี้ไอ้สารเลวที่สังหารลูกชายเจ้ายังเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ เจ้าไม่รู้สึกว่าเจ้าเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องบ้างเลยหรือไง?"หญิงสาวที่มีเสน่ห์กำลังทุบตีกงหยางเสวียตงพร้อมทั้งใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
กงหยางเสวียต่ง สามารถอดกลั้นความขมขื่นที่อยู่ในใจของเขาเองได้ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อปิดกั้นความรู้สึกนี้ไม่ให้ภรรยารับรู้ แต่สุดท้ายเธอก็เข้าถึงมัน
ถานเยวี่ยยู้ ไม่ใช่คนที่จะยอมรับอะไรง่ายๆ เธอเกิดมาในตระกูลถานเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลอย่างมากในเมืองธาราสวรรค์ เธอเอาใจใส่ลูกชายของเธออย่างมาก ภายใต้การเอาใจใส่ของคนเป็นแม่อย่างเธอ กงหยางอวี้จึงได้รับอิทธิพลจากการสนับสนุนของทั้งตระกูลกงหยาง และตะกูลถาน ตลอดชีวิตกว่า 25 ปีที่ผ่านมา เขาสามารถเอาตัวรอดจากคำสาปแช่งของผู้คนมากมาย รวมถึงบรรดาผู้ที่หวังสังหารเขา แต่สุดท้ายเขานั้นก็ต้องตกสู่ห้วงแห่งความตายภายในเมืองร้อยไมล์ไปตลอดกาล
"เยวี่ยยู้ ตัวข้าเองนั้นก็รู้สึกแย่ ที่ข้าจะต้องเสียลูกชายเข้าไป แต่อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายเป็นคนจากนิกายกระบี่นภา และยิ่งไปกว่านั้น ลูกชายของเราถูกสังหารเพราะเขาพยายามที่จะสังหารผู้อื่น ถ้าหากพวกเราลงมือ ตระกูลกงหยางและตระกูลถานจะต้องเจอความโกรธแค้นจากนิกายกระบี่นภา"เพียงแค่ 1 เดือน ที่ต้องทนทุกข์ไปด้วยความเครียด เส้นขนกงหยางเสวียตงก็แปรเปลี่ยนเป็นสีเทา
"นิกายกระบี่นภา เจ้าคิดจริงๆหรือว่านิกายกระบี่นภาจะใช้เพียงความโกรธแค้นมาก่อสงครามกับตระกูลกงหยางกับตระกูลถานเพื่อคนไร้ตัวตัวที่ตายแล้ว?"ถานเยวี่ยยู้มองไปทางกงหยางเสวียตงอย่างเย็นช้า
กงหยางเสวียตง ยิ่งรู้สึกสนใจในตัวภรรยาแสนงดงามของเขามากยิ่งขึ้น เธอไม่เพียงแต่มีความงาม เธอยังฉลาดมากอีกด้วย หลายๆปัญหาของเขาจะถูกแก้ไขอย่างง่ายดาย หรือถูกวิเคราะห์ได้อย่างละเอียดเพียงแค่คำพูดสองสามคำจากเธอ
"ข้าได้ยินข่าวว่า บุตรชายคนโตแห่งตระกูลชิงจะจัดงานแต่งงานในวันที่ 8 เดือนหน้า ในวันนั้นข้าต้องการให้มันตาย เพื่อชดใช้ดวงวิญญาณอวี้ตงห่าว ข้าต้องการให้มันประสบชะตากรรมแห่งความตาย และต้องการให้มันมองดูยังเจ็บปวด เมื่อเห็นภาพคนในตระกูลตายอย่างทรมาน"
------------------------------------
"พี่ชายสุ่ย พี่ชายของข้าและเจ้าอ้วนน้อยกำลังจะต่อสู้กับซือถูปู้ฝาน!!"ชิงสุ่ยเสร็จสิ้นจากการวาดพู่กันเขียนคำเชิญงานแต่งงานและเห็นชิงเป่ยมีเข้ามายังตื่นตระหนก
"กำลังจะต่อสู้ แล้วใครเป็นรองใครล่ะ?"ชิงสุ่ยรู้สึกว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่สองคนนั้นคงไม่อาจเอาชนะซือถูปู้ฝานได้ พวกเขาก็คงไม่บาดเจ็บมากนัก มันไม่ได้เลวร้ายเลยสำหรับรุ่นเยาว์ที่จะได้ลองวรยุทธ
"ใครก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ทุกคนต่างมีรอยฟกช้ำทั่วตัว"ชิงเป่ยสงบลงหลังจากที่เห็นชิงสุ่ยไม่ตื่นตระหนัก
"ว่าแต่ของที่ข้าให้เจ้าไปซื้อมาไปถึงไหนแล้ว"ชิงสุ่ยถาม
"พวกเราทำเสร็จแล้วตั้งแต่ตอนเช้า พี่สะใภ้เย่เฟ่ย ก็มายังเมืองร้อยไมล์ และช่วยพาพวกเราไปซื้อทั้งหมด พี่สะใภ้ช่างสวยมากจริงๆ พี่ชายสุ่ย ภรรยาของพี่ชายในอนาคตจะสวยมากเช่นเดียวกันหรือเปล่า?"ชิงเป่ยยิ้มและพูด
"ว่าแต่เจ้าหน้าที่ว่าพี่สะใภ้เย่เฟ่ย ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะสนิทสนมกันเร็วนะ"ชิงสุ่ยยิ้มให้
"เอาล่ะ หลังจากนี้ถ้าพวกเขาต้องการที่จะสู้กันอีก ก็ปล่อยพวกเขาไป ไม่เป็นไรหรอก ข้าขอฝากคำเชิญเหล่านี้ให้เจ้าเอาไปให้คนอื่นๆที่อยู่ในห้องพักผ่อนหน่อยได้หรือไม่ ฝากมันให้กับชิงหยาง ชิงชาน ชิงสือด้วยนะ ว่าแต่พี่ใหญ่จืออยู่ที่ใดกันตอนนี้" ชิงสุ่ยเตรียมส่งคำเชิญงานแต่งงานที่เขาเขียนให้กับชิงเป่ย
"พี่ชายจือกำลังมีความสุขอยู่กับพี่สะใภ้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาต่างเติมเต็มความรู้สึกกันและกัน ความจริงพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องรอวันแต่งงานในวันนี้เลย"ชิงเป่ยหัวเราะอย่างใสสื่อ
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าถ้าหากวันแต่งงานมาถึงและมีปัญหามากมายเกินขึ้น แน่นอนเข้าจะประกาศความสามารถของเขาในฐานะผู้ฝึกตนระดับเทวะเซียนเทียน ซึ่งสถานะของเขาคงจะแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น
แม้ทั้งวันจะมีงานให้ยุ่งมาก แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงแบ่งเวลาให้กับการฝึกฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการปรุงยา เพื่อให้เขาจะสามารถกลั่นยาเม็ด 5 มังกรได้ในเร็วๆนี้ แต่ตอนนี้เขาจะต้องรวบรวมสมุนไพรมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เขาจะต้องมองหาและซื้อส่วนผสมที่จำเป็นในการทำอาหาร อีกทั้งสมุนไพรสำหรับกลั่นยา และยังต้องหาเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่มเติมภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ เพื่อหวังว่าสักวันมันจะมีประโยชน์พอที่จะช่วยเหลือยามเขาเดือดร้อน
และแล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกเพียง 3 วันเท่านั้น งานแต่งงานของชิงจือก็จะมาถึง