บทที่ 7 : ความหยิ่งยโสที่ไร้สาระ
บทที่ 7: ความหยิ่งยโสที่ไร้สาระ
คนนอกคนนี้ใช้เก้าอี้เพื่อกันลูกเตะของ เย่ติงต่าง ทำให้ขาของเธอกระแทกใส่เก้าอี้เต็มๆ มันจึงไม่แปลกเลยที่เธอจะกรีดร้องเสียงดังแบบนี้
น่ารังเกียจ น่ารังเกียจมาก!
โดยทั่วไป ทุกคนจะมีความคิดแบบเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับ เย่ติงต่าง ที่กำลังกัดฟันแน่น ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้โหดร้ายต่อผู้หญิงสวยๆขนาดนี่ หรือเขาไม่เข้าใจว่า ผู้ชายต้องรักและปกป้องเพศตรงข้าม?
“ฉันจะฆ่าแก!” เย่ติงต่าง ตะโกนอย่างเด็ดขาดด้วยความโกรธ
ติ๊งต่อง!!
ตอนนี้ ระฆังได้ส่งสัญญาณเริ่มเรียน และครูเดินเข้าไป เย่ติงต่าง เป็นเหมือนบอลลูนที่โป่งพองจนใกล้จะระเบิดแต่ก็ถูกปล่อยลมกะทันหัน จ้องไปที่ ถังเจิ้ง เธอไม่เต็มใจที่จะหยุดกลางคัน
ถังเจิ้ง ไม่ได้ยกหัวขึ้นมา เขายังอ่านหนังสือต่อไปเรื่อยๆ คนอื่นๆ พบว่าโชว์จบแล้ว ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง
“นายรอก่อนเถอะ เมื่อหมดเวลาเรียน ฉันจะให้นายได้เห็น” เย่ติงต่าง กัดริมฝีปากของเธอ และนั่งลงอย่างไม่เต็มใจ
เกาต้าจือ กำลังจ้องไปที่ ถังเจิ้ง ด้วยสายตาอำมหิต ก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับไปยังที่นั่งของเขาด้วยความผิดหวัง
ถังเจิ้ง และ เย่ติงต่าง เป็นเพื่อนบ้านที่นั่งอยู่ใกล้ๆกัน แต่เขาไม่เคยมองไปด้านข้าง เพียงแค่ฟังบทเรียน ก่อนที่จะก้มหน้าอ่านหนังสือของเขา
เย่ติงต่าง อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเป็นบางครั้ง ราวกับว่าเธอกำลังพยายามมองเข้าไปในตัวเขา เธอคิดในใจอย่างหงุดหงิด “คนๆนี้ทำอย่างกับว่าเข้าใจ แต่เขาเข้าใจจริงๆ? เคยได้ยินว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาพยายามจะใช้สมอง เขาจะปวดหัว ทำให้เขาได้ที่โหล่ตลอด”
“ฮึ! รอ่กอนเถอะ ฉันจะอัดนายให้ฟันร่วงหมดปากเลย ที่นี้คือห้อง7 นายกล้าที่จะต่อต้านฉัน เย่ติงต่าง นายหาเรื่องโดนเองนะ”
ถังเจิ้ง ไม่รู้ความคิดของ เย่ติงต่าง และไม่สนใจว่าเธอคิดอะไร แต่ในเวลานี้ เทียนซานจือ กล่าวอย่างลึกซึ้งว่า "เจ้าหนู สาวน้อยคนนี้ไม่ใช้คนธรรมดา เธอเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้”
“ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้” ถังเจิ้ง พูดด้วยความประหลาดใจ
“ถูกต้อง ในร่างกายของเธอ มีสัญญาณของพลังภายใน ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้และผู้บ่มเพาะต่างก็มีกระบวนการเคลื่อนพลังที่ต่างกัน สำหรับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ความแข็งแกร่งของพวกเขามาจากพลังภายในไม่ใช่ปราณแท้ นี่เป็นวิธีที่พวกเขาฝึกกันโดยพึ่งพาร่างกายตัวเองและวิทยายุทธของพวกเขา เพื่อปรับแต่งร่างกายและปรับแต่งพลังงานอย่างช้าๆ ในขณะที่พวกเราผู้บ่มเพาะยืมพลังงานจากสวรรค์และโลกเพื่อบ่มเพาะ” เทียนซานจือ อธิบาย
“แล้วเธอเก่งขนาดไหน?” ถังเจิ้ง ถามอย่างอดไม่ได้ด้วยความอยากรู้
"ร่างกายของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ ก็เหมือนผู้บ่มเพาะที่แท้จริง ถูกแบ่งออกเป็น7ระดับ ได้แก่ ชำระล้างกาย รากฐาน ก่อเกิด นักปราญ ราชันย์ จักรพรรดิ และเทพสงคราม
แต่ละระดับจะแบ่งออกเป็น 9 ขั้น ร่างกายของทั้งสองประเภทต่างก็เป็นขั้วตรงข้ามของกันและกัน ส่วนระดับของสาวน้อยคนนี้อยู่ที่ ชำระล้างกายขั้น4
ถังเจิ้ง ช็อค “เดียวดิ งั้นก็หมายความว่าเธอแข็งแกร่งกว่าฉันเหรอ?”
“แน่นอน เธอได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาอย่างน้อยๆก็10ปี ถ้าเธออ่อนแอกว่าเจ้าที่ได้ฝึกฝนมาเพียงวันเดียวแล้วละก็ คงต้องการโขกหัวตายแน่”
ถังเจิ้ง อาย เขาเริ่มกังวลอย่างมากสำหรับผลลัพธ์ที่จะเจอหลังหมดคาบ(@ตายซะ55)
“ข้ารู้ว่าเธอต้องการที่จะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้า ดูเหมือนว่าเจ้าจะเจ็บตัวในอนาคตอันใกล้นี้ ฮ่า ฮ่า” เทียนซานจือ มีความสุขในความโชคร้ายของเขา
“......” ถังเจิ้ง พูดไม่ออก เขาต้องการอยู่อย่างสงบ แต่มีคำพูดที่ว่าต้นไม้สูงต้องการความสงบแต่สายลมยังพัดอยู่ตลอด
“สบายใจได้ เจ้ายังมีทางสู้กับเธอได้อยู่ กล่าวได้ว่าถ้าเจ้าได้ฝึกสิ่งนี้ละก็ผู้ที่อยู่ระดับ ชำระล้างกายขั้น4 ก็ไม่มีทางจัดการเจ้าได้ แต่ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จะต้องเกิดความโกลาหลแน่ และจะไม่มีที่ไหนให้ข้า เทียนซานจือ หลบซ่อนได้ ดังนั่นนี้คือสิ่งที่เจ้าต้องทำ.......” เทียนซานจือ สั่งสอนอย่างเคร่งขรึม
ในที่สุด ถังเจิ้ง ก็สามารถผ่อนคลายได้ซักที
“นอกจากนี้ ให้ข้าบอกข่าวใหม่แกเจ้า สาวน้อยคนนี้ก็มี กายหยินบริสุทธ์ เหมือน ฟางซือซือ เจ้านั่งข้างๆเธอ เช่นนี้ก็ได้ดูดซึมพลังงานหยินจากเธอมาบ้างแล้ว”เทียนซานจือ กล่าว
ถังเจิ้ง กระพริบตา โชคดีจริงๆเขาโชคดีมากๆ ดังนั้นนี่คือการบอกว่า ถ้าเขานั่งข้าง เย่ติงต่าง แล้วเขาก็สามารถซึมซับพลังงานหยินบริสุทธิ์ของเธอได้อย่างต่อเนื่อง
หลังเลิกเรียน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาพัก หลายๆคนจึงเดินไปที่สนามเพื่อออกกำลังกาย เย่ติงต่าง ลุกขึ้นยืน เธอจับมือทั้งสองข้างของตัวเอง และจ้องไปที่ ถังเจิ้ง พูดว่า “ลุกขึ้น ตามฉันไปดานฟ้า”
เฟิงหยาง เห็นฉากนี้ จึงรีบพูดว่า “พี่สาว ติงต่าง ถังเจิ้ง เป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉัน นี้มันดูไม่ดี”
เกาต้าจือ รีบเดินไปผลักเฟิงหยาง และพูดว่า “เจ้าอ้วนเฟิง มึงกล้าท้าทายพี่สาว ติงต่าง มึงอยากสู้?”
เฟิงหยางอ้าปากจะพูด แต่ในที่สุดเขาก็ไม่พูดต่อ
“ถังเจิ้ง ถ้านายยังเป็นผู้ชาย ก็ตามฉันมา อย่าปอดแหกน่า หรือนายไม่ใช้ผู้ชาย?” เย่ติงต่าง ก้าวยาวๆออกไปขณะพูดเสียงดัง
ถังเจิ้ง ยืนขึ้น การที่ถูกกล่าวหาว่าเขาไม่ผู้ชาย เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาไม่ไปจัดการเรื่องนี้ในตอนนี้ เขาจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเก่าที่เหลืออยู่ได้ แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม
บนดานฟ้า เย่ติงต่าง และ เกาต้าจือ ยืนอยู่ด้วยท่าทางอวดดี มองที่ ถังเจิ้ง อย่างเยาะเย้ย เกาต้าจือ พูดอย่างจองหอง ว่า “พี่สาว ติงต่าง พี่จะจัดการไอ้เวรนี้ด้วยวิธีไหนดี?”
“อัดมันซะ แล้วให้มันไปอยู่ห้องอื่น ฉันจะไม่ปล่อยให้มันอยู่ในห้อง7 เพียงแค่เห็นหน้านายนี่ก็ทำให้ฉันรำคาญแล้ว” เย่ติงต่าง พูดเสียงเย็น
เกาต้าจือ ทุบกำปั้นใส่ฝ่ามือตัวเอง และยิ้มอย่างเย็นชา 'ฮึ ฮึ' “เอาล่ะ มันก็สักพักหนึ่งแล้ว ที่กุไม่ได้อัดใคร และตอนนี้มือของกุมันคันมาก” ถังเจิ้ง ไม่สนใจและไม่ขยับตัว เขาผ่อนคลายร่างกายอย่างสมบูรณ์แบบ
ตาของ เย่ติงต่าง เปล่งประกายด้วยความสงสัย คนอื่นๆเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้จะเกิดความกลัว ขาพวกเขาจะสั่น และจะขอร้องอย่างคนขี้ขลาดให้ปล่อยพวกเขาไป แต่ชายคนนี่แตกต่าง เป็นไปได้ไหมที่เขาเป็นคนโง่?
“มันไม่มีทางที่จะอยู่ร่วมกันจริงๆเหรอ? ฉันมั่นใจว่า มันจะไม่มีปัญหาใดๆ ที่เราไม่สามารถจัดการได้” ถังเจิ้ง พูดเบาๆ
เกาต้าจือ หัวเราะอย่างเลือดเย็น “มึงได้ทำผิดต่อพี่สาว ติงต่าง และมึงยังต้องการที่จะอยู่อย่างสงบ กุจะบอกไรให้ มันยังไม่สายเกินไปที่จะขอความเมตตา”
เกาต้าจือ ยกหมัดและเหวี่ยงใส่ ถังเจิ้ง เกาต้าจือสูงและแข็งแรง แต่พื้นฐานนั่นตื้น มันไม่มีทางที่เขาจะสามารถใช้พลังงานจากร่างกายได้ และตอนนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ร่างกายของ ถังเจิ้ง กระพริบวูบวาบและหายตัวไป ทำให้ เกาต้าจือ ตาโตดุจไข่ห่าน ตอนนี้เขาก็สูญเสียเป้าหมาย และรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ทันใดนั่นเขาก็ตระนักว่า เขาไม่สามารถควบคุมของร่างกายได้แล้วก็ล้มลง ตอนนี้ เกาต้าจือ มีสีหน้าน่าเกลียดเหมือนสุนัขกำลังกินอึ
เย่ติงต่าง ช็อค และพูดเสียงเบาๆว่า “นี้...นายก็เป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยเหมือนกัน?”
ถังเจิ้ง ยิ้ม แต่ไม่ตอบกลับ เขาจงใจจ้องหน้าเธออย่างลึกลับ ใบหน้าของ เย่ติงต่าง เปลี่ยนไป และเธอกอดฟันแน่น
เกาต้าจือ ไม่ได้ยินคำพูดแปลกๆของ เย่ติงต่าง และลุกขึ้นด้วยความโกรธ เขาถูก ถังเจิ้ง คว่ำลง ซึ่งมันอัปยศมาก “ไอ้ลูกหมา มึงต้องชดใช้”
“โทษที แต่นายไม่คู่ควร” ถังเจิ้งมองไปที่เกาต้าจือ และพูดอย่างนุ่มนวล ความเย่อหยิ่งคืออะไร? นี่คือแหละคือความเย่อหยิ่งที่แท้จริง
เกาต้าจือ เปล่งเสียงคำราม ขณะที่เขาเตรียมโจมตีอีกครั้ง ทันใดนั่น เย่ติงต่าง ก็พูดขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หยุด นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
เกาต้าจือ โดนดูถูก ใบหน้าของเขาแดงกร่ำ และเถียงไปว่า “ก็แค่ตอนนี้ เมื่อกี่ผมแค่ประมาทไปหน่อย เลยจบลงแบบนั่น คราวนี้มันจะไม่โชคดีอีก”
“หุบปาก ฉันพูดว่า นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง” เย่ติงต่าง พูดซ้ำอีกรอบอย่างไม่สบอารมณ์
ผู้ชายที่แข็งแรงอย่าง เกาต้าจือ ได้ยินดังนั่นก็ก้มหัวให้ทันที ราวกับว่าเขาเป็นคนรับใช้ ขณะที่ยังจ้องมอง ถังเจิ้ง ด้วยความไม่เต็มใจและพูดพึมพำว่า “มันจะเก่งแค่ไหนกันเชียว ทำไมเราไม่เห็นรู้สึกว่ามันเก่ง”
เย่ติงต่าง ก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว และเผชิญหน้ากับ ถังเจิ้ง เธอและถังเจิ้ง มีความสูงใกล้ๆกัน ประมาณ170เซนติเมตร ยิ่งกว่านั้นสายตาของพวกเขา2คนต่างเฉียบแหลม และยังมีการคุกคามจากคลื่นแห่งจิตวิญญาณที่กล้าหาญ
ถังเจิ้ง ไม่ใช้คนขี้ขลาด สายตาของเขามั่นคงแน่วแน่
“ออกไปจากห้อง7ซะ แล้วฉันจะทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” เย่ติงต่าง พูดข่มขู่อย่างเอาแต่ใจ
ถังเจิ้ง คิดแปปนึง แล้วพูดว่า “ทำไมฉันต้องออกไป?”
“เพราะ ... ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”
“งั้นทำไมเธอถึงไม่ออกไปแทนละ” ถังเจิ้ง ไม่เห็นด้วย
“ฝันไปเถอะ!” เย่ติงต่าง จ้องเขม็ง “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่าหาว่าฉันโหดร้ายละกัน”
แม้ว่าเธอจะรู้ว่า ถังเจิ้ง ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เธอก็ไม่กลัว เพราะตัวเธอเองเป็นที่รู้จักภายในตระกูลของเธอ และไม่มีใครเก่งไปกว่าเธอ
เย่ติงต่าง เตะออกไปดุจฟ้าผ่าด้วยขาที่ทั้งยาวและยืดหยุ่นของเธอ ไปที่หน้าอกของ ถังเจิ้ง
สายตาของ ถังเจิ้ง กลายเป็นเย็นเยียบ การเคลื่อนไหวของผู้เชี่ยวชาญ ตามที่คาดหวังไว้ ว่ามันต้องไม่ธรรมดา แล้วเขาก็ยืดขาออกไปเล็กน้อย และควงขาเตะสูงใส่หลังของเธอ ขณะที่หลบลูกเตะของ เย่ติงต่าง ไปด้วย
เย่ติงต่าง ได้เตรียมตัวรออยู่แล้ว ยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา และดีดตัวขึ้นไปในอากาศ ยกขาขึ้นสูงก่อนที่จะฟาดลงมาดุจใบมีดขนาดใหญ่(@มันมากกกก)
ถังเจิ้ง เคลื่อนไหวเร็วดุจฟ้า โดยใช้ หัตถ์ล้อมสวรรค์ เขาจับไปที่ขาอันสวยงามอย่างแม่นยำ แรงกดมหาศาลทำให้เขาสั่น เขากัดฟันอย่างเจ็บปวด แต่เขาก็ยังกำแน่น เพราะนี่คือโอกาศชัยชนะของเขา
นับตั้งแต่ที่ เย่ติงต่าง มีพลังมากกว่าเขา นี้ก็เป็นวิธีเดียวที่เขาจะสามารถชนะได้
“ปล่อยมือของนายซะ!” เสียงดุๆและน่ารักของ เย่ติงต่าง ดังขึ้น และเตรียมพร้อมที่จะปลดปล่อยพลังภายใน(inner energy)ของเธอเพื่อสลัดมือ ถังเจิ้ง
ทันใดนั้นมือของ ถังเจิ้ง วางบนกล้ามเนื้อตรงขาอ่อนของเธอแล้วขยับไปมา และเธอรู้สึกราวกับว่าถูกไฟฟ้าช็อต ทำให้ร่างกายชาไปหมด พลังภายในทั้งหมดของเธอกระจัดกระจาย(มันcollapsedอ่ะ พลังภายในพังทลายก็ดูแปลกๆ)ทำให้เธอทรุดลงในอ้อมกอดของ ถังเจิ้ง ซึ่งไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่นิดเดียว
ท่าทางของทั้งสองดูคลุมเครือมาก เมื่อร่างกายของ เย่ติงต่าง ล้มตัวใส่ ถังเจิ้ง นับตั้งแต่ที่เธอเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ ทำให้ตอนนี้ร่างกายของเธอทั้งอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น ไม่งั้นเธอคงจะไม่สามารถได้ตำแหน่งที่ได้ยาก ที่เธอเป็นอยู่ตอนี้
เย่ติงต่าง ช็อคมาก เพียงแค่โดนโจมตีเพียงครั้งเดียว ส่งผลให้ร่างกายของเธอชาไปหมดขนาดขยับไม่ได้สักนิด นี้เป็นวิชายุทธ์ สกัดจุด(Pressure Point @ใครนึกชื่อดีกว่านี้บอกได้เลย)
เขาใช้วิชา สกัดจุด ได้ยังไง นี้มันไม่ใช่ว่าต้องอยู่ระดับ รากฐาน ถึงใช้ได้ไม่ใช้หรือไงกัน? เป็นไปได้ไหมว่า เขาเขาถึงระดับ รากฐาน ด้วยอายุแค่นี้ มันเป็นไปได้เหรอ?
เย่ติงต่าง ปั่นป่วนอย่างรุนแรง ต้องทราบก่อนว่าเพื่อที่จะใช้วิชา สกัดจุด ต้องมีพลังภายในที่ลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้นต้องสามารถรู้จุดชีพจรต่างๆอย่างแม่นยำ เพื่อให้มันสำเร็จ
แต่ ถังเจิ้ง ทำราวกับว่าเขาเชี่ยวชาญมาก และสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ดังนั่นมันจะไม่ทำให้เธอช็อคได้ยังไง
เย่ติงต่าง ยังคงช็อคไม่หาย แล้วอยู่ในตำแหน่งที่ดูคลุมเครือ และถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้สังเกต แต่ เกาต้าจือ ยังยืนดูอยู่ด้านข้างด้วยความเหวอ เขาตบหน้าตัวเองอย่างรุนแรง ... อาการปวดนี่ไม่ใช่ภาพลวงตา
เกาต้าจือ ไม่สามารถควบคุมความโกรธได้ นี้ไอ้ ถังเจิ้ง มันจะหน้าด้านเกินไปแล้วถึงกับใช้วิธีสกปรก และแม้กระทั่งลูบมือของมันบนเท้า เย่ติงต่าง เป็นที่รู้กันดีว่านี่เป็นขาที่สวยงาม เขามันจะจินตนาการถึง แต่ตอนนี้มันเป็นมลทินจาก ถังเจิ้ง มันทำให้เขาบ้า
ถังเจิ้ง ถอนหายใจอย่างโล่งอก เทียนซานจือ ไม่ได้โกหกเขาจริงๆ แม้ว่าเขาจะอ่อนแอกว่า แต่วิชา สกัดจุด สามารถชนะได้
“ฮี่ ฮี่ เจ้าหนู เป็นอย่างไรบ้าง วิชานี้แข็งแกร่งใช้ไหมละ” เทียนซานจือ พูดด้วยความพึงพอใจ “ฉันจะบอกอะไรให้ วิชา สกัดจุด นี้สามารถใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีระดับ รากฐาน ขึ้นไปเท่านั้น แต่เจ้าสามารถใช้มันได้ นี้เป็นข้อดีของผู้บ่มเพาะ สำหรับพวกเราเหล่า ผู้บ่มเพาะ ในระดับเริ่มต้นปราณแท้จริงของพวกเรานั้นแข็งแกร่งและทรงพลังกว่า พลังภายในระดับเริ่มต้นของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ นี่เป็นหนึ่งในความแตกต่างระหว่างพวกเรา”
ถังเจิ้ง ไม่สนใจการคุยโม้ของ เทียนซานจือ แต่จ้องมองอย่างใกล้ชิดที่ เย่ติงต่าง การมองดูความงามของเธออย่างละเอียด มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะใจสั่น
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้ใกล้ชิดกับคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวงามแบบนี้ ดังนั้นมันจึงช่วยไม่ได้ที่เขาจะเกิดความรู้สึกแปลกๆภายในหัวใจ
เย่ติงต่าง รู้สึกตัวขึ้นมา จากท่าทางที่แปลกประหลาดของ ถังเจิ้ง และตำแหน่งอันคลุมเครือของทั้งสองคน ช่วยไม่ได้ที่เธอจะอาย และใบหน้าเริ่มแดงขึ้น แล้วเธอก็พูดค่อยๆว่า “รีบคลายจุดให้ฉันเร็ว”
"ถ้าฉันคลายให้ เธอก็คงเริ่มสู้ใหม่อีกครั้ง ฉันไม่ได้โง่นะ ถึงจะทำอย่างนั้น”
“ตกลง นายจะทำหรือไม่ทำ” เธอเป็นเด็กที่สวรรค์โปรดปราน เย่ติงต่าง จึงไม่เคยโดนอะไรแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกอับอายและโกรธ
“ไม่ทำ” ถังเจิ้ง พูดอย่างเด็ดขาด
“นี้ นาย……” เย่ติงต่าง โกรธมาก
“พวกเธอสองคนกำลังทำอะไรกัน?” เสียงที่เกิดจากรองเท้าส้นสูงกระแทกพื้นดังขึ้น พร้อมกับเสียงประหลาดใจดังออกมา
@คอมเม้นหน่อย ว่าแปลดีไม่ดี ผมจะได้ปรับถูก