ตอนที่ 118 – ฮั่วฉี
ตอนที่ 118 – ฮั่วฉี
จากด้านข้างหูของเขา เขาได้ยินอาโม่หลี่กรีดร้อง
ถังเทียนใจหล่นวูบ เขาไม่ได้หันหน้าไปเลยแทนที่เขาก็พึมพำ “เจ้าไปช่วยเหลืออาโม่หลี่ซะ”
หานปิงหนิงมองไปยังถังเทียนอย่างลึกซึ้ง ปราศจากคำกล่าวนางก็หายไป
“ข้าไม่คาดคิดว่าเจ้าจะบีบบังคับให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้” บุรุษร่างสูงเดินมาทางถังเทียนอย่างช้าๆพลางถอนหายใจ “
ถังเทียนจ้องมองอย่างจดจ่อไปยังจิตวิญญาณขุนพลสีเทาและทำเป็นหูทวนลมกับบุรุษร่างสูง
เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างมาก จิตวิญญาณขุนพลมีกลิ่นอายของความอันตราย สิ่งนั่นทำให้เขาขนลุก ดวงตาที่น่ากลัวคู่นั่นมันไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเลย
เขาไม่สามารถแยกแยะได้ว่าจิตวิญญาณขุนพลนี้มันอยู่ที่ขั้นไหน คลื่นที่กระเพื่อมมาจากจิตวิญญาณขุนพลมันไม่ใช่จิตวิญญาณขุนพลธรรมดา เป็นจิตวิญญาณขุนพลที่แข็งแกร่ง ถังเทียนมิกล้าที่จะเคลื่อนไหวอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า
บุรุษร่างสูงยิ้มเล็กน้อย “เป็นยังไงบ้าง? ฮั่วฉีของเขายอดเยี่ยมยิ่งใช่ไหมล่ะ เขาก็เหมือนเจ้า ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด หลายคนตกตายภายใต้น้ำมือเขา”
ถังเทียนเหลือบมองไปยังฮั่วฉีที่ไม่พูดไม่จา
“ข้ารู้ว่าเจ้ามาจากสมาคมนักสู้แห่งแสง” บุรุษร่างสูงยอมรับ “สมาคมนักสู้แห่งแสงทรงพลังนัก พวกเราไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับเจ้า ถ้าเจ้าพาคนของเจ้าจากไป ถ้างั้นเรื่องนี้ก็…”
ถังเทียนหายไป
ตูม!
ฮั่วฉียังคงนิ่งอยู่ ยกฝ่ามือของเขาขึ้น เขาก็ปัดป้องหมัดของถังเทียนอย่างไร้ความรู้สึก เขาเต็มไปด้วยกำลัง ยามเมื่อหมัดและฝ่ามือปะทะกัน ก็เกิดเสียงดังผิดปกติ
บุรุษร่างสูงพูดอย่างเสียใจ “ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการที่จะถอยไป ถ้างั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรแล้ว อันที่จริง เจ้าจะเสียใจกับการตัดสินใจนี้”
ถังเทียนทำเป็นหูทวนลม ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความโหดร้าย ท่าทางของเขาราวกับพายุคลั่ง
ผัวะ ผัวะ!
เสียงที่ปะทะอย่างหนักหน่วงดังก้อง
บุรุษร่างสูงถอนหายใจและส่ายหัว “ฮั่วฉีเกิดมาเพื่อต่อสู้ แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้อ่อนแอ เมื่อเทียบกับฮั่วฉี เจ้ายังด้อยนัก”
ยังไม่ทันที่จะกล่าวคำของเขาจบ เขาก็เคลื่อนไหวแล้ว ปราณอันดุร้ายก็แผ่พุ่ง
บุรุษร่างสูงแสยะยิ้ม
ความมืดมิดปกคลุมอยู่เบื้องหน้าของเขาและฮั่วฉีก็ปรากฏตัวขึ้น
ผัวะ!
การลอบโจมตีของถังเทียนหยุดยั้งฮั่วฉีลง
รอยยิ้มของบุรุษร่างสูงเปลี่ยนเป็นเย็นชา
“สังหารเขา ฮั่วฉี.”
ถังเทียนเพียงรู้สึกว่าสายตาของเขาเลือนลางและหน้าอกของเขาพลันเจ็บขณะที่ร่างก็ปลิวออกไป เพียงครึ่งทาง ถังเทียนก็ฝืนตัวเองปรับสมดุลร่างขณะที่เขาลงไปบนพื้น เขาก็กระอักเลือดออกมา
ช่างรวดเร็วยิ่ง! ช่างเป็นปราณที่แข็งแกร่ง!
ด้วยสัญชาตญาน เขาแน่นอน… แน่นอนว่าไม่สามารถหลบหลีกมันได้...
จิตวิญญาณขุลพลนี้… เขาอยู่ในขั้นอะไรกันแน่… เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะทรงพลังเช่นนี้...
นอกจากนี้ เขาก็มีปราณที่น่ากลัว มันสร้างเสียหายในร่างของถังเทียน ปราณแท้จริงในร่างของเขาใช้ความพยายามอย่างมากที่จะขับล้างปราณน่ากลัวนี้
ฮั่วฉีเดินไปหาถังเทียนอย่างช้าๆ
“เจ้าแข็งแกร่งเพียงเท่านี้?” บุรุษร่างสูงผิดหวังเล็กน้อย “ช่างน่าผิดหวัง ฮั่วฉีคือจิตวิญญาณขุนพลที่โตเต็มที่แล้ว ใช้ออกพลังที่แท้จริงของเจ้า ทำให้ฮั่วฉีของข้าได้เรียนรู้อะไรบ้างและกลายเป็นแข็งแกร่งขึ้น”
ถังเทียนเช็ดเลือดที่มุมปากของเขาและจ้องมองอย่างจดจ่อไปยังฮั่วฉี มันเป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้เหนื่อยล้าเช่นนี้
สายตาของเขาเลือนลางขณะที่ม่านตาของถังเทียนหดลง ด้วยเสียงพึมพำเขาก็งอเอวของเขาและปกป้องร่างของเขาด้วยมือทั้งสองเบื้องหน้าเขาในทันที
ตูม!
มันช่างแข็งแกร่งนัก พลังปราณจำนวนมากไหลผ่านฝ่ามือของเขาและฝ่ามือของเขาก็ด้านชา ถังเทียนจมลงไปในพื้น
เขาป้องกันมัน!
ถังเทียนดีใจ แต่เขาไม่สามารถจะตอบโต้ได้ทัน ความรู้สึกอันตรายก็ล้อมรอบถังเทียน เขาแทบทำไปโดยสัญชาตญาณปัดป้องด้วยศอกของเขาและพลิกฝ่ามือเขา
เปรี้ยง เปรี้ยง!
การโจมตีราวกับพายุคลั่งเกิดขึ้นจากหมัด ถังเทียนทำได้เพียงอดทนไว้เท่านั้น
ในใจของเขาว่างเปล่า เขาสูญเสียความรู้สึกบนแขนของเขาแล้ว เขาเป็นราวกับท่อนไม้ที่ถูกกระแทกด้วยค้อนไม้อย่างรุนแรงต่อเนื่อง เขาก็จมลงไปในดินอย่างช้าๆ
ดินบรรลุมาจนถึงเข่าเขา
ปราศจากสัญญาณ เงาของขาก็เคลื่อนไหวราวกับแส้และโจมตีไปยังด้านล่างแขนของเขา
เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและถังเทียนก็ปลิวออกไป เขากระแทกไปบนพื้นอย่างหนักหน่วงเกิดรอยหลุมลึกอยู่ในดิน
เปรี้ยง!
ใบหน้าของเขาโดยเหยียบโดยขาและใบหน้าของเขาก็จมลงในดิน
“เจ้ามีความสามารถแค่นี้งั้นหรือ?” บุรุษร่างสูงกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ การได้ยินของถังเทียนกลายเป็นเลือนลางราวกับเสียงดังมาจากสถานที่ไกลออกไป
พ่ายแพ้แล้ว...
พ่ายแพ้เช่นนั้น…
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
บุรุษทั้งสองได้ช่วยไว้และแปรเปลี่ยนสถานการณ์อย่างรวดเร็ว อวี๋หมิงเวยมีความสุข เพียงแค่ไม่นาน ถังเทียนก็พ่ายแพ้ไปแล้วคนหนึ่ง ไม่มีโอกาสที่จะแก้แค้น และแม้กระทั่งกลุ่มสี่คนที่เหลือ พวกเขาต่างไม่ใช่คู่มือต่อผู้เชี่ยวชาญ
วันนี้จะเป็นวันสิ้นสุดของตระกูลซางกวนแล้ว
“สังหารพวกมันให้หมด! อย่าเหลือไว้แม้แต่คนเดียว!”
อวี๋หมิงเวยในที่สุดก็ใช้ไพ่ใบสุดท้ายของเขา หัวกะทิทั้งหมดของเขาก็โจมตี
แต่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ความยินดีของเขาก็กลายเป็นหนาวเย็นอย่างรวดเร็ว พลังของใต้เท้าทั้งสองช่างน่ากลัวและทำให้เขาหวาดกลัวอย่างสุดชีวิต แม้กระเขาชนะในการต่อสู้นี้ ตระกูลอวี๋อาจจะกลายเป็นเพียงทาส
แต่ตราบเท่าที่เขาสามารถมีชิวต มันก็ไม่เป็นไร...
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
เขารู้สึกเจ็บปวดบนใบหน้าของเขา ปากของเขาเต็มไปด้วยดินและถังเทียนก็อยู่ในอาการงุนงง ใจของเขารู้สึกว่างเปล่า เขาคิดว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว แต่เขามิเคยคิดว่าเขาจะมามีจุดจบในสภาพเช่นนี้
การโจมตีของฮั่วฉีต่างรวดเร็วเกินไปถึงขอบเขตที่เขาไม่สามารถติดตามทัน
ข้าพ่ายแพ้… พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง… ข้าไม่มีโอกาสที่จะชนะเลย… ตอนนี้ข้ารู้ว่ายามที่ข้ากำลังเผชิญหน้ากับนักสู้ที่แข็งแกร่ง ข้าก็ช่างอ่อนแอนัก...
หยาหยาตะโกนด้วยความโกรธ ‘อี้อี้อาอา’ ไปยังฮั่วฉี และกระพือราวกับยุง บินขึ้นไปในอากาศ
ทันใดนั้นเสียงคร่ำครวญก็ดังมาในหูของเขา
หานปิงหนิง!
ราวกับถูกผ่าด้วยอัสนีบาต ถังเทียนตกตะลึง เขารู้ว่าหานปิงหนิงเป็นสตรีที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง เว้นเสียแต่ว่านางจะเจ็บปวดอย่างหนัก หรือว่านางจะไม่ได้เป็นคนที่ร้องเสียงนั้น
อาโม่หลี่และเหลียงชิวคำรามในเวลาเดียวกัน พร้อมกับเสียงคร่ำครวญของซือหม่าเซียงซาน
พวกเขาตกอยู่ในอันตราย
ใจของถังเทียนปั่นป่วน พวกเขามาก็เพราะเขา พวกเขาสู้ก็เพราะเขา และในตอนนี้ พวกเขาต้องมาเป็นอันตราย เสียงรายละเอียดเล็กๆทั้งหมดรอบตัวดังเข้ามาในหูของถังเทียน เสียงกรีดร้องของซางกวนจู้ เสียงหอบหายใจของซางกวนเวย และเสียงกรีดร้องที่คุ้นเคยทั้งหมด...
บัดซบ!
ถังเทียนกำหมัดแน่นและเขาก็เริ่มที่จะหอบหายใจอย่างหนัก
ข้าจะต้องมาตายเช่นนี้หรือ? ข้าจะต้องมายอมแพ้เช่นนี้หรือ? และมาพลาดเช่นนี้? มีหลายคนต้องมาตายกับข้า...
ข้ามันโง่เขลานัก… ลากทุกคนมาตายกับข้า?
ไม่!
ไม่มีทาง!
เสียงแผดร้องดังออกมาภายในใจของถังเทียนและร่างของเขาก็เดือดจนร้อนรุ่มเขารู้สึกว่าร่างของเขากำลังลุกโชน
ดวงตาของเขาซึ่งแนบติดอยู่ในดินพลันแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ
ใบหน้าของถังเทียนดูเจ้าเล่ห์ในทันที
ฮั่วฉีสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทันที ปราศจากความลังเล เขาก็ถอยกลับไป แต่ด้วยการฟาด เงาร่างเลือนลางก็ปรากฏจากพื้นมาราวกับอัสนีบาต และเงาภาพขานับไม่ถ้วนก็ระเบิดออกเบื้องหน้าเขา
ด้วยความรวดเร็ว ฮั่วฉีกวัดแกว่งฝ่ามือของเขา
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!
การปะทะกันอันหนักหน่วงของขาและฝ่ามือดังก้อง มันช่างกล้ำกลืนไม่มีผู้ใดที่สามารถใช้เวลาหายใจได้
ฮั่วฉีสงบลงและก้าวขาอย่างรวดเร็ว ทั้งสองฝ่ามือของเขาเคลื่อนไหวและปัดป้องอย่างไม่มีข้อบกพร่องใดๆ
ผัวะ!
เงาเขาก็ปรากฏภายในสายตาของฮั่วฉีปราศจากการแจ้งเตือน ปราศจากการตอบสนอง ฮั่วฉีก็ถูกกระแทกด้วยขาข้างนี้
ราวกับเขาถูกกระแทกด้วยค้อนยักษ์ ฮั่วฉีปลิวกระเด็นไป
ถังเทียนคำรามขณะที่เขารวบรวมกำลังทั้งหมดรอบๆขาของเขา วูบ และเขาก็หายไปในกลางอากาศ
สามลำแสงรังสีเสี้ยวจันทร์ นำพาเสียงกรีดแหลม เล็งตรงไปยังฮัวฉี ฮั่วฉีผู้ที่อยู่ในอากาศ ก็ฟาดข้อศอกทั้งสองของเขาออกพร้อมกัน และสามลำแสงรังสีเสี้ยวจันทร์ก็แตกเป็นชิ้นๆ ลำแสงของดัชนีเผด็จการกราดเกรี้ยวก็ยิงออกจากเบื้องล่าง ร่างฮั่วฉีเอียงในทิศทางที่แปลก และหลบหลีกลำแสงไป
หื้ม?
เงาร่างเลือนลางปรากฏขึ้นที่หางตาของฮั่วฉี
ผิดท่าแล้ว!
กลุ่มก้อนโปร่งใสของสุญญากาศประทับลงบนหน้าอกของเขา เช่นเดียวกับแรงสั่นของสุญญากาศ
ผัวะ!
กลุ่มก้อนสุญญากาศถูกบดขยี้ ปุ ปุ ปุ พลังหลั่งไหลมากมายราวกับคมดาบเข้าสู่หน้าอกของฮั่วฉี
ฮั่วฉีกระตุกราวกับร่อนด้วยตะแกรง แต่แขนของเขาต่างแปรเปลี่ยนเป็นแส้อสรพิษขณะมันพุ่งไปยังหน้าอกของถังเทียนทันที
ด้วยการพลิกฝ่ามือของเขา ถังเทียนก็ปิดผนึกหมัดทั้งสองเหล่านี้
อย่างไรก็ตามเหมือนหมัดจะเบาบางต่างทรงพลังรุนแรง ถังเทียนซวนเซถอยหลัง
ฮั่วฉีคุกเข่าอยู่ข้างหนึ่งและยืนขึ้นอย่างช้าๆ บนหน้าอกของเขามีรูขนาดใหญ่เท่ากำปั้น มันน่ากลัวมาก
บุรุษร่างสูงหวาดกลัว เขาเหลือบมองไปยังถังเทียนด้วยใบหน้าที่หมองคล้ำและเปล่งเสียง “สภาวะบ้าคลั่ง...”
ดวงตาถังเทียนแดงก่ำ แต่มันแตกต่างจากสีแดงของฮั่วฉี ดวงตาแดงก่ำของถังเทียนมันราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชน และฮั่วฉีเป็นดวงตาแดงก่ำที่แน่นแฟ้นราวกับทะเลสาบเลือดที่อธิบายไม่ได้ มันน่ากลัวอย่างยิ่ง
ทันใดนั้นลำแสงของกระบี่ก็สาดแสงเหนือตระกูลอวี๋
“น้องถัง!”
เสียงหวีดหวิวดังยาวของจิ่งเหาก็ผ่านมาแต่ไกล ในชั่วพริบตา เขาก็ปรากฏอยู่ด้านข้างถังเทียน
“พี่ใหญ่จิ่งเหา ช่วยสหายข้าก่อน!” ถังเทียนกล่าวโดยไม่หันไปมอง “ข้าสามารถรับมือได้!”
จิ่งเหาได้ยินและไม่ได้พูดอะไรมาก “ระวังตัวด้วย!”
จากนั้น กระบี่มุงกุฎเหนือภายในมือของเขาก็สว่างไสวและเปล่งรัศมี และในทันทีมันก็สังหารจิตวิญญาณขุนพลของบุรุษมีหนวด และช่วยอาโม่หลี่และคนที่เหลือจากอันตราย
เหล่านักสู้ทั้งหมดที่เหลือ ผู้ที่ติดตามจิ่งเหาก็เข้าสู่การต่อสู้อย่างไม่ชักช้า
ตระกูลซางกวนในท่ามกลางการต่อสู้ ก็มีความมั่นคงในสถานการณ์ทันที
ถังเทียนโล่งใจกับภาระของเขา ดวงตาแดงก่ำของเขาลุกโชนขณะที่เขาใส่นกยูงน้ำเงินที่บาดเจ็บกลับไปภายในคลังศาสตราวุธคนโท เขาได้รับปกป้องจากการโจมตีสองครั้งในก่อนหน้านี้โดยนกยูงน้ำเงินแล้ว ปราศจากนกยูง เขาคงจะได้รับบาดเจ็บหนัก
สนับมือเหล็กเตาหลอมและเปลวเพลิงสีเขียวลุกโชนมันดูมืดมัวเล็กน้อย
“เตาหลอม!”
เสียงกระซิบของถังเทียนต่างเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความบากบั่นเหมือนเหล็ก
จิตวิญญาณนักสู้ของสนับมือเตาหลอมสามารถสัมผัสได้ถึงความร้องขอและความมุ่งมั่นของถังเทียน
ฟู่!
เปลวเพลิงสีเขียวพ่นออกไปจากสนับมือและไต่ขึ้นไปบนไหล่ของเขา แขนขวาของถังเทียนปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีเขียวทั้งหมด
ปราณแท้จริงของถังเทียนแทบหมดสิ้นที่ใช้ออกไปและรวบรวมเข้าสู่สนับมือ
บนตัวผิวสนับมือมันต่างมีรอยแตกมากมาย
ผัวะ!
ชิ้นส่วนรอยแตกร่วงหล่นจากสนับมือเตาหลอม แต่ในชั่วพริบตา มันก็ถูกทำลายโดยเปลวเพลิงสีเขียว ทีละชิ้นรอยแตกก็พังทลายและร่วงหล่น มันก็สลายหายไปภายในเปลวเพลิงสีเขียว
เปลวเพลิงสีเขียนของแขนขวาถังเทียนแปรเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้น
ยามเมื่อชิ้นส่วนรอยแตกสุดส้ายหายไป เปลวเพลิงสีเขียวก็เติบโตอย่างดุเดือด
จิตวิญญาณนักสู้ช่วงโชติและกำลังของสมบัติก็ก้าวหน้าทั้งหมดพร้อมกัน แต่นั่นจะต้องเป็นความต้องการของจิตวิญญาณนักสู้ของสมบัติ จิตวิญญาณนักสู้มีสติอยู่แล้ว มันสามารถปฏิเสธการเผาผลาญตัวเองได้
“เจ้าตอบรับคำร้องขอของข้าใช่ไหม?”
การเคลื่อนไหวของถังเทียน เขาเร่งรีบเล็กน้อย หลังจากหมัดนี้ มันจะไม่มีสนับมือเตาหลอมอีกต่อไปแล้ว มันได้เผาผลาญพลังทั้งหมดของมัน
มันราวกับถังเทียนสามารถมองเห็นสิบปีในอดีต ภายในเปลวเพลิงสีเขียวเป็นตัวอ่อนที่กำลังขัดเกลาและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จิตวิญญาณนักสู้ค่อยๆตื่นขึ้น เรียบง่ายและธรรม เหมือนเช่นสนับมือ
“เตาหลอม…”
ถังเทียนเงยหน้าผากของเขาอย่างช้าๆ เปลวเพลิงสีเขียวก็ลุกไหม้บนแขนขวาของเขา เขาจับจ้องสายตาไปยังฮั่วฉี
“ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าดูแคลนหมัดนี้ได้!”
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ