ตอนที่ 117 – เบื้องหลัง
ตอนที่ 117 – เบื้องหลัง
อวี๋จินหงกังวลอย่างยิ่ง เขามิคาดคิดว่าถังเทียนจะช่างคาดเดาไม่ได้!
ถังเทียนได้ขัดแย้งแทบทุกตระกูลภายในวันนี้ แล้วเขาจะกล้าที่จะโจมตีตระกูลอวี๋ได้อย่างไร? เขาไม่ได้หวาดกลัวว่าผู้อื่นจะมาโจมตีตระกูลซางกวนเลยหรือ? เขาไม่ได้หวาดกลัวว่าทุกคนจะรวมตัวกันกลุ้มรุมงั้นหรือ?
แต่เหลียงชิวเบื้องหน้าเขากำลังพัวพันเขาอยู่ และเขาไม่สามารถที่จะหลบหนีได้เลย
บัดซบ!
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังที่เข้ามาภายในหูของเขา
“เหตุใดต้องพยายามดิ้นรนไป”
อวี๋จินหงตกตะลึง แต่ก่อนที่เขาจะตอบโต้ มันก็รู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอกของเขาและตาของเขาก็พลันเปิดกว้าง
โดยไม่รู้ตัว หน้าอกของเขาก็มีรูเลือดขนาดใหญ่
เหลียงชิวจ้องมองอย่างเย็นชาไปยังเซียงซานปราศจากคำพูด
เซียงซานยิ้มให้อย่างไร้เดียงสา “อาโม่หลี่และโฉมงามน้ำแข็งหานจากไปแล้ว ถ้าพวกเราไปช้า พวกเราอาจจะไม่ได้ออกมาอีก”
เหลียงชิวแค่นเสียงเย็นชา ร่างของเขาก็สว่างวาบและหายไป
เซียงซานหัวร่อและหายไปเช่นกัน
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
บนเสาไฟ หมิงจือชุน อวิ๋นอี่เหยา และฮั่วเหยียนกวง ทั้งสามคนต่างเกาะกลุ่มอยู่ด้วยกัน หมิงหยง อวิ๋นตี๋ และ ฮั่วเหยียนซาน ทั้งหมดเหินขึ้นไปบนเสาไฟเช่นกัน และในที่สุดก็ต่างโล่งใจเมื่อเห็นว่าทั้งสามไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
หมิงจือชุนถอนหายใจ “พวกเราได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่แล้ว มันช่างขายหน้านัก”
ฮั่วเหยียนกวงแค่นเสียง ด้วยกลิ่นอายแห่งความตายภายในดวงตาของเขา “ให้ตระกูลอวี๋ไปลงนรกเถอะ! ข้าจะไปสังหารอวี๋เจ๋อชิง!”
การโกหกอวี๋เจ๋อชิงและอวี๋จินหงทำให้คนอื่นต่างเป็นตัวโง่งมไม่ใช่เพียงแค่ทั้งสามคนนี้
อวี๋อี่เหยาส่ายหัว “เขาตายไปแล้ว สหายที่เหมือนปีศาจจัดการแล้ว เขาสังหารอวี๋เจ๋อชิง ก่อนที่จะไปสังหารอวี๋จินหง”
“ตระกูลอวี๋ถึงจุดจบแล้วในครานี้” หมิงจือชุนมีท่าทางที่ซับซ้อน “ถังเทียนผู้นี้ เขาเก่งกาจนัก เมื่อมีความช่วยเหลือของเขา ตระกูลซางกวนจะต้องเติบโตขึ้นไปอีกสามร้อยเป็นแน่แล้ว”
“มีเพียงตระกูลอวี๋ที่ต้องการต่อสู้กับตระกูลซางกวน” ฮั่วเหยียนกวงกล่าวอย่างไร้ความรู้สึก “ตระกูลซางกวนเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในภูเขากลุ่มดาราอมตะเสมอมา คุณหนูเชียนฮุ่ยย่อมคืออันดับหนึ่งในกลุ่มดาราอมตะ
“มันไม่ง่ายเลย” อวิ๋นอี่เหยาพูดเสียงต่ำ “ถ้าตระกูลอวี๋ไม่มีคนช่วยเหลืออยู่ พวกเขาจะกล้าได้เยี่ยงไร? ตอนนี้มาดูกันเถอะ ว่าการช่วยเหลือของตระกูลอวี๋มันจะช่วยได้มากเท่าใด”
ทั้งสองคนมีเบาะแส พวกเขาได้ยินมาว่าตระกูลอวี๋มีผู้ช่วยเหลือลึกลับอยู่
“กำลังเสริมของถังเทียนแข็งแกร่งมาก” อวิ๋นตี๋เสริม เขาพ่ายแพ้ให้กับสตรีในวันนี้ แต่เขาก็ยังใจเย็น
“ถูกต้องแล้ว! ภูมิหลังของถังเทียนจะต้องไม่ธรรมดา!” หมิงหย่งกล่าวเสียงเข้ม “เหล่าผู้เชี่ยวชาญ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีภูมิหลังอะไรเลย”
“ข้าเกรงกลัวว่ามันคงจะต้องคิดเช่นนั้น” ฮั่วเหยียนซานพยักหน้า
“พวกเราเพียงรอดู” หมิงจือชุนถอนหายใจ “โชคดีนักมันมีเพียงพวกเราที่มาในตอนท้ายในช่วงเวลานี้ แม้ว่ามันจะน่าอับอาย อย่างน้อยพวกเราก็ไม่ต้องลากตระกูลพวกเราเข้ามาด้วย”
อวิ๋นอี่เหยาและฮั่วเหยียนกวงเงียบงัน
พวกเขาทั้งสามได้เป็นกลุ่มผู้นำคนรุ่นเยาว์ที่โอ้อวด แต่เมื่อเทียบกับถังเทียนแล้ว พวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาต่างไม่ใช่คู่มือของเขาเลย
นี่มันทำให้พวกเขาทั้งสามที่หยิงยโสพ่ายแพ้หมดรูป
“พวกเราจะไปดูการต่อสู้หรือไม่?” อวี๋อี่เหยาเงยหน้าพลางกล่าวถาม
“ไปสิ!” ฮั่วเหยียนกวงขบฟันของเขา “เหตุใดพวกเราจะต้องไม่ไป! ข้าต้องการไปชมดู เขาเก่งกาจเพียงใดกัน!”
หมิงจือชุนพยักหน้า “การต่อสู้นี้ มันเป็นสถานการณ์สำคัญของภูเขากลุ่มดาราอมตะของพวกเรา”
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“ตอนนี้จะกระทำเยี่ยงไร?” บุรุษมีหนวดมองไปยังบุรุษร่างสูง
พวกเขาไม่คาดฝันว่าถังเทียนจะเลือกที่โจมตีก่อน จากจุดที่พวกเขาเห็น เมื่อเชียนฮุ่ยไม่อยู่ ตระกูลซางกวนแน่นอนว่าไม่กล้าที่จะขัดแย้งกับตระกูลอื่น
แต่พวเขาไม่เคยคิดว่าถังเทียนจะปรากฏตัว ช่างดุร้ายและคาดเดาไม่ได้
ด้วยกำลังใจของตระกูลซางกวนในตอนนี้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ตระกูลอวี๋แน่นอนว่าไม่ใช่คู่มือของพวกเขา ตระกูลอวี๋ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายแล้ว
บุรุษร่างสูงขมวดคิ้ว “สหายผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย ดูสิ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขายังคงพลิกกลับมันได้ เขาแน่นอนว่าไม่ได้บ้าบิ่นอย่างที่เขากระทำ”
“ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้” บุรุษมีหนวดขมวดคิ้ว “ถ้าพวกเราไม่โจมตี ตระกูลอวี๋ต้องถูกกวาดล้างเป็นแน่ ข้าไม่สามารถขบคิดได้เลยว่าผู้ใดภายในตระกูลอวี๋ที่จะหยุดเขาได้ นอกจากนี้ เขายังมีผู้ช่วยเหลืออีกสี่คน”
บุรุษร่างสูงดูคล้ายลังเลใจเช่นกัน
ถ้าพวกเขายื่นมือออกไปตระกูลอวี๋แน่นอนว่าจะถูกช่วยเหลือได้ แต่เรื่องนี้หมายถึงจะต้องขัดแย้งกับสมาคมนักสู้แห่งแสง แต่ถ้าพวกเขาทำเป็นมองไม่เห็น ตระกูลอวี๋ก็จะถูกทำลายในวันนี้
ฝูงแกะถูกนำโดยราชสีห์มันเพียงพอแล้วที่จะฉีกกระชากฝูงหมาป่านอกจากนี้ตระกูลซางกวนก็ไม่ใช่แกะ
ความกล้าหาญของถังเทียนแน่นอนว่าเป็นคู่ที่ดีที่สุดเท่าที่พบเห็นมา
ถ้าตระกูลอวี๋ถูกกวาดล้าง แผนการทั้งหมดของพวกเขาภายในภูเขากลุ่มดาราอมตะจะต้องพังลง ถ้าพวกเขาออกไปช่วยเหลือตระกูลอวี๋ ตระกูลที่เหลือจะไม่มาตลบหลังพวกเขาอีกคราหรอกหรือ ปราศจากการความช่วยเหลือของกองกำลัง พวกเขาจะต้องใส่พลังมากขึ้นเพื่อที่จะได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ
แต่พวกเขารู้ดีแม้ว่านายท่านจะสนใจในมุงกุฎอมตะ นายท่านก็ยังรับผิดชอบอีกหลายภารกิจเช่นเดียวกัน นายท่านไม่เคยให้กำลังเสริมในเรื่องนี้ ซึ่งหมายความว่าแผนการมันจะต้องพังลงแน่
ชะตากรรมของทั้งคู่ต่างถูกปิดผนึกไว้แล้ว
“พวกเราไม่สามารถปล่อยให้ตระกูลอวี๋พินาศเช่นนี้ได้” บุรุษร่างสูงกล่าวหนักแน่น “ผลกระทบจะตกไปอยู่ที่นายท่าน พวกเราจะต้องคุ้มครองตระกูลอวี๋ก่อน”
“ดี!” ความลังเลของบุรุษมีหนวดหายไปเช่นกัน
พวกเขาทั้งสองพลันหายไป
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“ปิดประตู! เร็วเข้า ปิดประตู!”
เสียงร่ำร้องที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตระกูลอวี๋ตกอยู่ในความยุ่งเหยิง มิมีผู้ใดคาดฝันว่าตระกูลซางกวนจะกล้าที่มาเปิดการต่อสู้ก่อน! เชียนฮุ่ยไม่ได้อยู่ที่นี้! เหตุใดพวกเขาถึงกล้านัก?
เหล่านักสู้ที่ประจำการอยู่ที่หอสังเกตการณ์รู้สึกหนังหัวด้านชา และสั่นสะท้านเมื่อเห็นกลุ่มคนที่กำลังเข้ามา
ฝีเท้าที่กำลังวิ่งมามากมายชวนให้รู้สึกไม่อาจหยุดยั้งได้
ตึง ตึง!
แต่ละก้าวคล้ายทำให้หัวใจพวกเขาหล่นวูบ
มันใกล้.. มันใกล้เข้ามาแล้วเรื่อย!
“เตรียมพร้อม!” หัวผู้คุ้มกันของตระกูลอวี๋ตะโกน ด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อยของเขา แต่ในตอนนี้ เขารู้ว่ามันเป็นช่วงวิกฤตได้มาเยือนแล้ว “ยิง!”
ลูกศรนับร้อยหลุดออกจากคันธนู!
เหล่านักสู้ที่มีปราณแท้จริงน้อยกว่าขั้นสามหรือเหนือกว่า เหล่าศรต่างปกคลุมไปด้วยรังสีแสง ด้วยความรุนแรงที่น่าทึ่ง
ลูกศรพรมลงมา!
อากาศส่งเสียงกระหึ่มต่ำพลันเต็บไปด้วยเสียงอึกทึก ลูกศรส่วนมากต่างเล็งไปยังถังเทียน สำหรับพวกเขาแล้วรู้ว่าถังเทียนเป็นผู้นำของศัตรู และตราบเท่าที่พวกเขาจำกัดเขาไปได้ พวกเขาจะต้องได้รับชัยชนะ!
แต่ฉากที่เกิดขึ้นตามมาก็ทำให้พวกเขาหนาวเย็น
ถังเทียนผู้ที่กำลังจะเปิดประตู ผู้ที่ราวกับการวิ่งพุ่งของแรด ยกหมัดของเขาและชกออกไป!
เปรี้ยง!
อากาศเบื้องหน้าพลันคล้ายกับบีบอัดเกิดเป็นกำแพงอากาศ ยามเมื่อลูกศรกระทบถูกกำแพง พวกมันก็หยุดนิ่ง ไม่สามารถไปข้างหน้าได้อีก ในช่วงเวลาต่อมา กำแพงอากาศก็เต็มไปด้วยลูกศร พวกมันต่างถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆด้วยมหาวินาศ!
[มหาวินาศ]!
With Tang Tian’s level five True Power now, performing the Great Avalanche was effortless.
ด้วยปราณแท้จริงขั้นห้าของถังเทียนในตอนนี้ ก็ใช้ออกมหาวินาศได้อย่างง่ายดาย
ถังเทียนเตะอย่างแรงไปที่พื้น ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ราวกับปืนใหญ่ที่ยิงออกไป พลันสั่นสะเทือนเหล่าพลธนู และปรากฏด้านล่างของกำแพง
ยามเมื่อตระกูลอวี๋ก่อตั้งขึ้น พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าพวกเขาจะถูกโจมตีได้
ถังเทียนสูดหายใจเข้าลึก ร่างของเขาเต็มไปด้วยปราณแท้จริงสุดขอบเขต ด้วยความโกรธในดวงตาพลางตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว เขาชกออกไปยังกำแพงที่ทำด้วยหินแกรนิต
พรึบ!
หมัดเปลวเพลิงสีเขียวหายเข้าไปภายในหินแกรนิต ราวกับมันเป็นเต้าหู้
อึดใจต่อมากำแพงเบื้องหน้าของเขาก็ทลายลงเป็นก้อนกรนวดเล็กๆมากมายราวกับมันพังพินาศ ถล่มลงมา เบื้องหน้าเขาปรากฏช่องว่างกว้างสองเมตรเปิดโล่ง ราวกับมีใครบางคนมาตัดกำแพงออกเป็นชิ้นด้วยกระบี่
ถังเทียนหายไปเกือบจะในทันทีจากช่องว่าง
ต่อมาเขาก็ปรากฏอยู่เบื้องล่างหอสังเกตการณ์ คำรามด้วยความโกรธและชกออกที่เสาหนาที่ค้ำหอสังเกตการณ์
ไม้หนาก็พลันแตกกระจายในทันที ขณะที่ขี้เลื่อยก็ปลิวกระจายไปทุกแห่ง
แคร๊ก แคร๊ก แคร๊ก!
หอสังเกตการณ์ที่สูญเสียเสาค้ำก็เริ่มที่จะปริแตกและค่อยๆเอียง หอสังเกตการณ์เหล่านี้ปกติมันว่างเปล่าและสร้างมันมาอย่างหยาบๆเรียบง่ายต่างทรุดโทรม
นักสู้ที่อยู่บนยอดหอสังเกตการณ์ร้องขณะที่พวกเขารีบเร่งโยนคันธนูและลูกศรพลางกระโดดออกมาจากหอสังเกตการณ์
ตูม!
หอสังเกตการณ์สูญเสียสมดุลของมันและพังทลายอย่างฉับพลันก่อเกิดเป็นหมอกฝุ่น
ก็เกิดเสียงดังตามติดกันมา แต่ในครานี้มันเป็นอาโม่หลี่ ตามความเหมาะสมตัดออกเสาค้ำของหอสังเกตการณ์อีกอัน
ปราศจากอุปสรรคใดๆต่อกับพวก กำลังใจของกลุ่มคนก็เพิ่มขึ้นอย่างยิ่ง
ถังเทียนมีกลิ่นอายดังพยัคฆ์ดุร้าย ไม่อาจหยุดหยั้งได้ อาโม่หลี่คล้ายเหมือนจะบ้าคลั่งไปแล้ว ดาบของเขาเหมือนกันลม ฟันอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครเป็นคู่มือเขาเลย
หานปิงหนิงเหินไปอยู่ด้านข้างถังเทียน และโจมตีอย่างไม่คาดคิด แต่ละการแทงตรงเข้าสู่เป้าหมาย
ตระกูลอวี๋กำลังจะจบสิ้นแล้ว
“ท่านผู้นำ!” ผู้อาวุโสตระกูลรีบเร่งตะโกน เมื่อเห็นว่าเหล่าศิษย์ของตระกูลอวี๋ต่างถูกสังหารราวกับปศุสัตว์ เขากังวลใจอย่างยิ่ง
อวี๋หมิงเวยซีดเขียวแต่เขาก็สูดหายใจเข้าลึก “รอไปอีกสักครู่!”
ที่ด้านข้างเขา เหล่าผู้เชี่ยวชาญของตระกูลอวี๋ต่างมารวมตัวกันแล้ว พวกเขาต่างเป็นความหวังสุดท้ายสำหรับตระกูลอวี๋
เขาจำต้องรอเพียงอีกนิดเดียว..
รัศมีเป็นประกายระเบิดเบื้องหน้าอวี๋หมิงเวย เขาเป็นสุขอย่างอย่างไม่คาดคิดและประหลาดใจพลางโพล่งออกมา “พวกเขามาแล้ว!”
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ถังเทียนไม่ได้เข้าใจในกลยุทธ์ใดๆเลย ในใจของเขา ลุงทหารได้ก่นด่าเขาอย่างไม่หยุด เป็นโรคที่ติดมาจากอาชีพของเขาที่ทำให้เขาไม่สามารถข่มใจตัวเองได้ เมื่อเห็นว่าถังเทียนวิ่งไปรอบๆอย่างไร้เรื่องราว
“เจ้าโง่ วิ่งเข้ายังกลุ่มผู้คนที่แห่มา เจ้ารีบเร่งที่จะไปตายหรือไงกัน?”
“เจ้าไม่เห็นหรือว่ามันไม่ใช่จุดที่ดี? เจ้าไม่มีตาเลยหรือ?”
“ใช้สมองหน่อย! สมองน่ะ!”
……
ถังเทียนกลายเป็นหูตึง เขากลายบ้าคลั่งจากการต่อสู้ ไม่ใช่เพียงเขา เหล่าศิษย์ทั้งหมดตระกูลซางกวนก็ต่างก็บ้าคลั่งร่วมด้วยเช่นกัน
ความคิดของถังเทียนเป็นเรื่องง่ายมาก เพื่อจะไม่ทิ้งปัญหาให้ตระกูลซางกวนในอนาคต
เขาและเชียนฮุ่ยในท้ายสุดแล้วต้องไปยังเส้นทางสวรรค์ เส้นทางนี้มันจะต้องเต็มไปด้วยอันตราย อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต มิมีผู้ใดล่วงรู้
แม้ว่าพวกเขาจากไป พวกเขาจะต้องทำให้ตระกูลซางกวนมีอนาคตที่สดใส! แม้ว่าพวกเขาจากไป พวกเขาจะต้องไปอย่างไร้กังวล!
ทันใดนั้นสายตาเยือกเย็นก็จับจ้องไปยังถังเทียน
ถังเทียนชะงัก
เขาเงยหน้าขึ้นไป ห่างไปไม่ไกล มีบุรุษร่างสูงยืนจ้องมองเขาอยู่
แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือ จิตวิญญาณขุนพลที่อยู่ด้านข้างบุรุษร่างสูง ทำให้รู้สึกหนาวเย็นอย่างลึกลับ
ถังเทียนหรี่ดวงตา
มันเป็นคราแรกที่เขาเห็นจิตวิญญาณขุนพลเด่นชัดถึงเช่นนี้! จิตวิญญาณขุลพลเบื้องหน้าเขาไม่ใช่โปร่งแสงสีเทาราวกับกระจก แต่มันมีร่างเนื้อ สวมใส่เครื่องแบบสีดำ ผิวที่เปิดเผยออกมาเป็นสีเทา ถังเทียนแม้กระทั่งเห็นโครงร่างของกล้ามเนื้อ ผมสีเทาก็แทบจะคล้ายกับเปลวเพลิงสีเทา
สิ่งที่ทำให้สั่นสะท้านมันก็คือดวงตาสีแดงคู่นั้น!
มันน่ากลัวจนหายใจไม่ออก!
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ