ตอนที่ 110 – ก่อปัญหา
ตอนที่ 110 – ก่อปัญหา
ที่หน้าประตูตระกูลซางกวนเต็มไปด้วยผู้คนถึงแม้กระทั่งน้ำก็มิอาจไหลผ่านไปได้
กลุ่มของผู้คนรุ่นเยาว์ขนาดใหญ่ต่างมารวมตัวกัน พวกเขาทั้งหมดแต่งตัวหรูหรา ด้วยคนรับใช้ของพวกเขา เพียงแค่มองคราเดียว มันก็สามารถเห็นได้ว่ามันมีมากกว่าสองร้อยคน พวกเขาทั้งหมดมองอย่างไม่เป็นมิตรด้วยท่าทางของพวกเขาที่หมองคล้ำ
อย่างรวดเร็ว ถังเทียนและซางกวนเฉียนก็นำซางกวนเวยและพวกที่เหลือมายังหน้าประตู
เมื่อเห็นผู้คนมากมายเช่นนี้ ถังเทียนหรี่ตาของเขา “มาก่อปัญหาอย่างงั้นหรือ?”
ถังเทียนมิรู้ว่าหลังจากที่ประสบการณ์ของเขาค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละน้อย ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงคราเดียว กลิ่นอายสังหารที่หนาแน่นและแข็งแกร่งของเขาก็ไหลออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ลุงเฉียนประหลาดใจกับกลิ่นอายสังหารของถังเทียน แม้ว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมาถังเทียนยังเป็นเพียงจอมเผด็จการหนุ่มในสถาบัน และตัวตนจะดูโหดเหี้ยม เขาก็มิมีกลิ่นอายสังหารใดๆเลย
“ให้ข้ากล่าวถามก่อนขอรับ” ลุงเฉียนหยุดยั้งถังเทียนในทันที เขามิรู้ว่าสาเหตุใด แต่เขารู้สึกว่าถังเทียนเต็มไปด้วยอันตรายที่ลึกลับ
แต่ยามเมื่อเขาเหลือบมองไปรอบๆยังกลุ่มผู้คน หัวใจของเขาก็หล่นวูบ เนื่องเพราะเขารู้ได้ว่ามันมีปัญหา
เหล่าคนผู้นี้… ทั้งหมดต่างมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา!
บุคคลทางด้านซ้ายสวมใส่เสื้อคลุมผ้าแพรสีเขียวอ่อนของบุรุษหนุ่ม เขาคือหมิงจือชุนจากตระกูลหมิง แม้ว่าตระกูลหมิงจะไม่ได้มีชื่อเสียงเท่ากับตระกูลซางกวนในอดีตภายในประวัติอันยาวนานของกลุ่มดาราอมตะ แต่มันก็มิได้เป็นตระกูลระดับต่ำเช่นกัน ตระกูลหมิงของกลุ่มดาราอมตะมิใช่จะประมาทพลังได้ และหมิงจือชุนก็เข้าร่วมกับตระกูลหมิงมานานแล้ว เพื่อมาเยี่ยมเยียนยังตระกูลซางกวน มันเนื่องจากมีความชื่นชมอย่างยิ่งในตัวคุณหนู
ห่างออกไปสองก้าวระหว่างพวกเขา เป็นบุคคลหนึ่งที่ดูเหลาะแหละ เป็นบุรุษหนุ่มผมสั้นแดงเพลิง เป็นนายน้อยคนรองของตระกูลฮั่วเหยียน ฮั่วเหยียนกวงมีนิสัยอารมณ์ร้อน หลังจากที่ได้รับการให้ท้ายจากยายในตระกูลฮั่วเหยียน เขาก็มักจะหยิ่งยโสเสมอ ตระกูลฮั่วเหยียนก็เช่นเดียวกันที่เป็นตระกูลก่อตั้งภายในกลุ่มดาราอมตะมายาวนาน ซึ่งมีรากฐานลึกซึ้งในสถานที่นี้
ห่างไปอีกก้าวคือนายน้อยอวิ๋นอี่เหยาจากตระกูลอวิ๋น ตระกูลอวิ๋นเป็นตระกูลพ่อค้า และเป็นสถานประกอบการอันดับหนึ่งของกลุ่มดาราอมตะ พวกเขาร่ำรวยมั่งคั่งอย่างยิ่ง และแม้กระทั่งตระกูลซางกวนก็มิอาจหวังจะเทียบเคียงพวกเขาได้
ตระกูลฉู่ ตระกูลเฮ่า ตระกูลเซิน ตระกูลฉี...
ด้วยการเหลือบมอง ตระกูลทั้งหมดที่ต่างมีประวัติศาสตรจากกลุ่มดาราอมตะได้มารวมตัวกันแล้ว มันช่างเป็นกลุ่มผู้คนที่แข็งแกร่งนัก หัวใจของลุงเฉียนเต้นแรง มีหลายตระกูลที่ไม่ได้มาจากเมืองรุ้งดาราด้วย
มันจะต้องเป็นกับดัก!
หลังจากชั่วครู่ลุงเฉียนรู้ได้ว่าจะต้องมีผู้ใดบางคนที่ชักใยอยู่ในที่มืด และด้วยอำนาจของบุคคลนั้นสามารถที่จะรวมเหล่าอำนาจของตระกูลภายในกลุ่มดาราอมตะได้ หัวใจลุงเฉียนก็เต้นแรง พลังตระกูลเหล่านี้รวมกัน แม้กระทั่งคุณหนูอยู่ที่นี้ พวกเขาก็มิสามารถที่จะต่อต้านพวกเขาได้
แต่ลุงเฉียนมิใช่บุคคลเดิมกับเมื่อสองปีก่อน สีหน้าของเขามิได้เปลี่ยนแปลง เขาสงบนิ่งและมั่นคง ปราศจากการเปลี่ยนแปลงของท่าทางพลางกล่าว “เหล่านายน้อยทั้งหลายเหตุใดพวกท่านทั้งหมดถึงมารวมตัวกันที่ประตูของตระกูลซางกวนของข้ากันเล่า?”
ฮั่วเหยียนกวงแค่นเสียง “อย่าได้ทำเป็นโง่หน่อยเลย ผู้ใดกันในพวกเจ้าที่คือถังเทียน?”
ถังเทียนประหลาดใจ พวกเขาแท้จริงแล้วมาหาเขางั้นหรือ? เขาเกิดอาการงุนงง เขาเพิ่งจะมาถึงยังเมืองรุ้งดารา และมิได้ต่อสู้กับผู้ใดเลย เหตุใดพวกเขาถึงมาหาเขากัน?
ลุงเฉียนก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน แต่เขาก็คืนสติอย่างรวดเร็ว “ข้าก็มิแน่ใจเช่นกันว่าเรื่องอันใดที่ท่านถึงมาตามหาท่านลูกเขยของตระกูลข้ากัน?”
“ลูกเขยงั้นหรือ?” หมิงจือชุนขัดจังหวะเขาทันที น้ำเสียงของเขาไม่เป็นมิตร “ข้าต้องการที่จะพบเห็นผู้ที่จะกลายมาเป็นสามีของคุณหนูเชียนฮุ่ย เขาจะเป็นบุคคลประเภทใดกัน!”
อวิ๋นอี่เหยาออกมาและคำนับพลางกล่าวอย่างชัดเจน “ยินดีที่ได้พบท่านลุงเฉียน สาเหตุที่พวกเรามาในวันนี้คือต้องการที่จะเห็นบุคคลที่ท่านเรียกว่าลูกเขยแห่งตระกูลซางกวน คุณหนูเชียนฮุ่ยเป็นบุคคลที่ข้าเคารพอย่างที่สุดและมิใช่ที่บุคคลที่ใดก็ได้จะเหมาะสมกับคุณหนูซางกวนเชียนฮุ่ย”
“ถูกต้อง! สุขันแมวที่ใดก็ไม่รู้จะกระโดดออกมาและต้องการที่จะไขว่คว้าคุณหนูเชียนฮุ่ย มันจะต้องมาลิ้มรสหมัดของพวกเราก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่!”
“ช่างเป็นคางคกที่ต้องการจะกินเนื้อหงส์! เทพธิดาเช่นคุณหนูเชียนฮุ่ย ข้ามิเชื่อว่ามันจะมีบุคคลใดในโลกนี้ที่คู่ควรกับนาง!”
“จะแต่งงานกับคุณหนูเชียนฮุ่ย พวกมันจะต้องมาถามข้าก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่!”
“ผู้ใดคือตัดบัดซบถังเทียน? ถ้าเขายังคงเป็นบุรุษก็ควรให้เขาออกมาในตอนนี้!”
“วันนี้บัดซบตัวนั้นมิมีทางหนีรอดไปได้ ขบคิดถึงเรื่องนี้แล้วมันก็ทำให้ข้าโมโหนัก! ถ้าข้ามิได้ทุบตีเขา หัวใจข้าคงจะไม่เป็นสุขแล้ว!”
….
อารมณ์ของทุกคนต่างขุ่นเคือง เกิดเสียงด่าตำหนิและสาปแช่งหลายอย่างที่ไม่สบายหู ใบหน้าของทุกคนก็ขุ่นเคืองอย่างอธิบายไม่ได้
เมื่อเห็นอารมณ์ของพวกเขาที่ยิ่งเดือดพล่านรุนแรงและมากยิ่งขึ้น ผู้คนเหล่านี้ก็เหมือนถังของดินปืน ตราบเท่าที่พวกมันปะทุขึ้น มันก็จะระเบิดออก! เบื้องหลังของกลุ่มคนนี้คืออวี๋เจ๋อชิง หัวใจของเขารู้สึกยินดียิ่ง โดยเฉพาะยามเมื่อเขาพบเห็นศิษย์ของตระกูลซางกวนมีสภาพตื่นตระหนก เขามีความสุขอย่างยิ่งจนเขาแทบจะคร่ำครวญออกมา
ถังเทียนจะต้องตายก็ครานี้แล้ว!
เขายืนอยู่ในชุดผ้าแพรของเด็กผู้ชาย ขณะที่เขาก็เป็นเช่นเดียวกับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะมิมีชาติตระกูลที่เจ้าเล่ห์หรือชั่วร้าย ยามเมื่อกล่าวถึงใบหน้าของพวกเขาแล้ว เมื่อพวกเขากราดเกรี้ยว พวกเขาสามารถที่จะกระทำได้แทบทุกสิ่ง
เพื่อสร้างแผนการอันเจ้าเล่ห์นี้ในแรกเริ่ม และเพื่อเห็นแผนการของตัวเองสำเร็จ ความรู้สึกเช่นนี้ มันเป็นคราแรกสำหรับเขาที่รู้สึกมันได้ตั้งแต่เกิด
ช่างน่าตื่นเต้นเหลือเกิน!
ไกลออกไปบนหลังคา ตำแหน่งนั่นสามารถเห็นได้ชัดเจนถึงการโวยวายทั้งหมด ภายในกลุ่มบุรุษร่างสูงและบุรุษมีหนวดต่างอยู่ภายในพวกเขา
“ท้ายสุดแล้วอวี๋เจ๋อชิงก็มีความสามารถบ้าง” บุรุษมีหนวดหัวร่อพลางกล่าว
“ข้ามิชื่นชอบบุคคลประเภทนี้” บุรุษร่างสูงส่ายหัวของเขา
“แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นเดียวกัน” บุรุษมีหนวดกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ “เช่นนี้มันก็เพียงพอแล้ว!”
“อืม” บุรุษร่างสูงตอบ “ถังเทียนเจอปัญหาแล้วตอนนี้”
ตระกูลซางกวนเต็มไปด้วยผู้คนกว่าสองร้อยชีวิต จากทั้งหมดในสองร้อยชีวิตนี้ แม้ว่ามันจะไม่มีนักสู้ที่แข็งแกร่งมากนัก แต่ด้วยมีมือที่มากมายมันก็กลายเป็นมีพลัง นายน้อยทั้งหมดมีคนรับใช้ที่รอพวกเขาอยู่ และพวกเขาทั้งหมดต่างมีกำลังมากมาย ฉะนั้นตระกูลซางกวนมิกล้าที่จะกระทำอันใดที่ต่อต้านเหล่านายน้อยพวกนี้ ถ้าพวกเขาขัดแย้งกับตระกูลใดตระกูลหนึ่ง มันจะต้องเป็นมิมีที่ยืนสำหรับตระกูลซางกวนภายในกลุ่มดาราอมตะอีกต่อไป
มิว่าจะมองมุมใด ตระกูลซางกวนก็ถูกบีบจนมุมเสียแล้ว นอกจากนี้เรื่องการฟื้นคืนของตระกูลซางกวน การโจมตีจะยิ่งเป็นอันตรายต่อพวกเขา
เมื่อเห็นใบหน้าซีดขาวและตื่นตระหนกของซางกวนเฉียนเป็นอย่างไร และเหงื่อบนหน้าผากของเขา มันก็เห็นได้ว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายแล้ว
ตระกูลซางกวนจบสิ้นในครานี้แล้ว!
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ยามเมื่อถังเทียนได้ฟังพวกเขา เขาก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพยายามจะกล่าว
เขาพลันหัวร่อออกมาอย่างดัง แสดงฟันอันเรียงตรงสมบูรณ์สองแถวของเขา
เส้นชีพจรโลหิตภายในร่างของเขาต่างเดือดพล่านร้อนจนพวกมันสามารถละลายโลหะได้ และม่านตาของเขาก็วูบวาบไปด้วยความโกรธ เสียงกรนด่าทั้งหมด แต่ละคำและทุกคำทุกประโยคได้ยินภายในหูของเขา
ข้ามิได้กราดเกรี้ยวมาเป็นเวลานานแล้ว...
หัวใจของเขาเยือกเย็นด้วยกลิ่นอายสังหารอันเย็นเยียบ และเขาก็ฝืนยิ้มราวกับม้าที่ไม่เชื่องพร้อมกับความแหลมคมของปลายกระบี่
เขาก้าวเท้าออกไปเบื้องหน้าทุกคน ใบหน้าของเขายังคงปรากฏรอยยิ้มที่สดใส มองไปรอบสภาพแวดล้อมของเขา และด้วยท่าทางจองหองของเขาและเสียงเยาะเย้ยในน้ำเสียงของเขาที่กล่าวขึ้น “เมื่อใดกันที่เรื่องระหว่างเชียนฮุ่ยและข้าถึงต้องอยู่ในน้ำมือขยะอย่างพวกเจ้ากัน?”
ทั่วสถานที่ต่างเงียบลง
ทุกคนจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปยังถังเทียน พวกเขาทั้งหมดมิเชื่อในสายตาของพวกเขา
มิมีผู้ใดคาดคิดว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ บุคคลนั้นจะไม่เพียงแค่ออกมาและแม้กระทั่งยั่วยุทุกคน บุรุษผู้นี้เบื่อหน่ายชีวิตแล้วงั้นหรือ?
“พวกเจ้ารนหาที่ตายแล้ว!”
ถังเทียนตะโกนออกไป ปากของเขาก่อตัวเป็นรอยยิ้มอันน่ากลัว
ก่อนที่เสียงของเขาจะดังออกไป ร่างของเขาก็หายไปแล้ว
ในชั่วอึดใจนั้น ปราศจากสัญญาณใดเขาก็ปรากฏตัวด้านข้างหมิงจือชุน
การเคลื่อนไหวฉับพลันของถังเทียนเหนือเกินความคาดหมายของทุกคน สำหรับพวกเขา ถังเทียนยังอยู่ที่นี้มันก็ถือว่าโง่เขลาแล้ว แต่เขากลับนำตัวเองมาเริ่มประมือกับพวกเขาก่อนงั้นหรือ?
มิมีรู้ได้คาดคิดถึง ขณะที่ทุกคนยังคงตกใจจากการยั่วยุของถังเทียน
ถังเทียนก็เคลื่อนไหว
คนรับใช้ทั้งสองของหมิงจือชุนด้านข้างเขาเป็นพวกแรกที่ตอบสนอง ราวกับพวกเขาตื่นจากฝัน สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขาตระโกนเสียงดังและพยายามที่จะขัดขวางถังเทียน
ผู้ใดจะรู้ว่าถังเทียนคาดการณ์เคลื่อนไหวของพวกเขาไว้แล้ว ร่างของเขาแกว่งไปมาเหมือนลูกตุ้ม ก่อให้เกิดเป็นภาพร่างของเขาสองร่าง ราวกับกับปลาไหล ในระหว่างคนรับใช้ทั้งสอง เขาก็สไลด์ผ่านพวกเขาไป
หมิงจือชุนแน่นอนว่ามิคาดคิดว่าถังเทียนจะกระทำเช่นนี้
คนรับใช้ทั้งสองต่างประหลาดใจ ขณะที่รังสีหมัดที่หนาแน่นและทรงพลังกระแทกบนหลังพวกเขาทั้งสอง
ถังเทียนฝึกฝนกรงเล็บเหยี่ยว นิ้วของเขาราวกับตะขอ และคว้าจับอย่างแน่น
หมิงจือชุนรู้สึกเจ็บปวดที่ลำคอของเขาในทันทีและเขาก็โอดครวญออกมา
คนรับใช้ทั้งสองสะท้าน พวกเขาแน่นอนว่าทำให้นายน้อยตกอยู่ในน้ำมือของศัตรู พวกเขามิได้รั้งปราณแท้จริงของเขากลับ พวกเขาทั้งสองก็ต่างแค่นเสียง แต่พวกเขาก็ต่างเจ็บปวดจากบาดแผลภายในในกระบวนท่านั้น
มือข้างหนึ่งของถังเทียนคว้าจับไปยังลำคอของหมิงจือชุน ร่างของเขาพลันปรากกูขึ้น ราวกับอัสนีบาตตอนที่เขาเหินออกมา
ทุกคนต่างหวาดกลัวจนกระทั่งใบหน้าของพวกเขาซีดขาวและในที่สุดพวกเขาก็ตอบสนอง แท้จริงเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!
ช่างเป็นคนที่ดุร้ายนัก!
พวกเขาต่างเป็นนายน้อยผู้ที่ซึ่งได้รับการเอาใจใส่และให้ท้ายตั้งแต่เยาว์วัย ยามใดกันที่พวกเขาจะมาเคยพบเห็นการต่อสู้เช่นนี้มาก่อน และต่างหวาดกลัวจากท่าทางที่ฉลาดเมื่อก่อนหน้านี้ หลังจากที่พวกเขาในที่สุดก็ฟื้นคืนสติของพวกเขา ทุกคนก็กระวนกระวายและกราดเกรี้ยว
“ช่างโอหังนัก!”
“บัดซบ พวกเรามิอาจแบกรับไหว! ต้องการจะหลบหนีงั้นหรือ? มิมีทาง!”
“ไล่ล่า! สังหารเขา!”
“ทุกคนติดตามไปและสังหารเขา!”
….
ทุกคนต่างรวมตัวกัน แต่ก็พ่ายแพ้แก่ถังเทียน สำหรับพวกมันเป็นสิ่งที่น่าอับอายอย่างสุดซึ้ง! พวกเขารู้สึกว่าพวกเขามีข้อได้เปรียบเรื่องจำนวนผู้คน พลังของพวกเขาก็เป็นเรื่องที่แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันเป็นเพียงความโชคดีที่ถังเทียนลอบโจมตียามเมื่อพวกเขามิได้ตั้งตัว
สีหน้าของอวี๋เจ๋อชิงเต็มไปด้วยความตกใจและประหลาดใจ และเขาก็แทบกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น
การกระทำของถังเทียนหมายความถึงความตายของเขาเองแล้ว!
ถ้าถังเทียนพูดคุยอย่างสุภาพและนิ่มนวลหลังจากพวกที่เหลือได้ปลดปล่อยความโกรธของพวกเขา มันเป็นไปได้ว่าจะปล่อยให้เขาทำตัวใหญ่โต แต่ในตอนนี้ ถังเทียนรุกรานทุกผู้คน และเขายังจัดการหมิงจือชุน เรื่องมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว
เขามองไปยังนายน้อยที่เหลือผู้ที่ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหมิงจือชุน พวกเขาเริ่มไปยังตระกูลหมิงเพื่อรายงานแล้ว
ถังเทียน เจ้าตายแน่!
เกิดกลุ่มผู้คนต่างไล่ล่าไปยังทิศทางของถังเทียน
ดวงตาของลุงเฉียนปรากฏความโหดเหี้ยม เขาสูดหายใจเข้าลึกและตะโกน “ไปเรียกศิษย์ทุกคนที่สนามฝึกซ้อม!”
มิว่าจะเป็นเยี่ยงไร เขามิสามารถปล่อยให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นกับนายน้อยเทียนได้ แม้ว้าตระกูลซางกวนจะจบสิ้นและเป็นศัตรูต่อเหล่าตระกูลทั้งหมด เขาก็มิใส่ใจ หลังจากติดตามเชียนฮุ่ยและประสบพบเจอความยากลำบากที่สุดแล้ว เขาผู้ที่ซึ่งยังมิได้แต่งงาน ดูแลคุณหนูราวกับลูกสาวของตัวเอง ในสายตาของเขา คุณหรูเป็นบุคคลสำคัญที่สุดสำหรับเขา
หัวใจของลุงเฉียนสงบลง ความลังเลและความหวาดกลัวทั้งหมดสลายหายไป
เขาสามารถได้ยินถึงผู้คนของตระกูลซางกวนต่างกำลังตะโกน ศาสตราวุธของพวกเขาเกิดเสียงดังทุกที่ เสียงฝีเท้าและเสียงตะโกนด้วยความโกรธ ทุกคนต่างมารวมตัวกันและเข้ามาใกล้ตัวเขา
“ลุงเฉียน!”
ซางกวนเวยและซางกวนจู้กำลังหอบหายใจ ขณะที่พวกเขานำเหล่าศิษย์หลายคนมาด้วยกลิ่นอายสังหาร
ใบหน้าที่เมตตาและอ่อนโยนของซางกวนเฉียนกลายเป็นเคร่งขรึมและขึงตัง และมีเพียงดวงตาของเขาเท่านั้นที่ยังคงมีความอ่อนโยน
คุณหนู เหล่าเฉียนจะปกป้องท่านตลอดไป!
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ