LSG-บทที่ 56: โลกเบื้องหลังประตูแห่งช่องว่างแยกส่วน (อ่านฟรีวันที่23กรกฏา)
บทที่ 56: โลกเบื้องหลังประตูแห่งช่องว่างแยกส่วน
แค่ก ... .แค่ก ... .แค่ก ...
เสียงไอรุนแรงเกิดขึ้นอย่างฉับพลันในที่มืดสงัด มีร่างหนึ่งที่ยังนอนอยู่บนพื้น มันสั่นสะท้านดิ้นรนยันกายลุกขึ้นจากตรงนั้น
"ฟื้นแล้วสิน่ะ เจ้าเด็กเหลือขอ ... . ปู่คนนี้เกือบตายไปกับเจ้าแล้ว ... "
ผู้อาสุโสกระบี่พูดอน่างแผ่วเบาในรูหูของซูหยุน
ซูหยุนมึนงงกับอาการปวดหัวของมันอย่างรวดร้าว หลังจากวิสัยทัศน์ของมันกลับมามันค่อยๆสำรวจบริเวณโดยรอบ มันประหลาดใจที่นี่และถามว่า "นี่มันอยู่ที่ไหน ... . มัน ... . มันเกิดอะไรขึ้น?"
"ข้าไม่รู้!" สถานที่แห่งนี้ลึกลับมาก ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้ามาที่นี่ได้ยังไง ทุกๆที่ในถ้ำนี้กำลังกลืนกินพลังจากวิญญาณ หากเจ้ายังไม่หาทางออกจากที่นี่ไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็จะตายนี่! " ผู้อาวุโสกระบี่เตือน
หนี?
ซูหยุนนึกขึ้นได้ ดูเหมือนมันจะเข้าม่ในสุสานแล้วร่วงลงไป เป็นไปได้ไหมที่สถานที่แห่งนี้เป็นสุสานของคนคนเดียว? ถ้าเป็นเช่นนั้นทางออกจะต้องอยู่ที่ด้านบนสุดของหลุมฝังศพ
ซูหยุนรีบจ้อง แต่ด้านบนเป็นเพียงชั้นอากาศดำมืดเท่านั้น ไม่มีที่สิ้นสุดมันตกลงมาจากไหนดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถหาได้
แล้วนี่ ... . มันจะหนีออกจากสถานที่นี้ได้ยังไง?
ซูหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วนั่งลงบนพื้น มันเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์
“เฮ้! เจ้าหนู เจ้ายังมีอารมณ์ที่จะนั่งเล่น? ปู่ของเจ้ากำลังใช้พลังงานของตัวเองเพื่อปกป้องเจ้าอยู่ อ่าา..ตัวเจ้าไม่คิดเป็นกังวลเกี่ยวกับพลังแห่งสถานที่นี้? รีบๆหาทางออกตากที่นี่ซ่ะ!”
"ข้าออกไปไม้ได้!" ซูหยุนถอนหายใจ จากนั้นมันก็เล่าถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกัยผู้อาวุโสกระบี่
หลังจากที่ผู้อาวุโสกระบี่ได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์เขาก็ประหลาดใจมาก
"ที่นี่ถูกเรียกว่า สุสานมังกรฟ้า แห่งตระกูลซู ทางใต้ดินที่นี่มันมาจากไหน? "
"ข้าแค่ไม่เข้าใจเรื่องนี้" ซูหยุนพูดในขณะที่มันลุกขึ้นยืนและเดินโซเซไปข้างหน้า
"ข้ารู้สึกว่าทางออกที่ด้านบนสุดของถ้ำนี้น่าจะเป็น ประตูช่องว่างแยกส่วน"
"ใครคนหนึ่งสามารถเข้าและออกจากประตูช่องว่างแยกส่วน? ประตูเวทแบบนี้มักใช้สำหรับการเดินผิดที่ผิดทางเท่านั้น ทำไมต้องมีประตูอย่างนี้? "
"ข้าไม่รู้!" อย่างไรก็ตามมันต้องมีเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับทางใต้หลุมฝังศพนี้! ดังนั้นทางออกต้องอยู่ที่อื่น ถ้าเราจะออกจากที่นี่มีทางเลือกเดียวคือการหา ประตูช่องว่างแยกส่วน อื่น ๆ "
"พวกเราจบสิ้นแล้วมันจบแล้วจริงๆ! เจ้าหนู! ปู่คนนี้ช่วยเจ้าหา ประตู อื่นจาก ช่องว่างแยกส่วน ไม่ได้ เวลานี้ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้ทุกอย่าง " ผู้อาวุโสกระบี่ถอนหายใจซ้ำเพราะดูเหมือนว่าไม่มีความหวังสำหรับพวกเขา
โชคดีที่ซูหยุนไม่ได้แสดงความตื่นตระหนกระหว่างสถานการณ์ แต่มันดูสงบและสำรวม จากนั้นมันก็ถามว่า "ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกผู้อาวุโส ข้ามีของสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยได้ นอกจากนี้ยังจะสามารถขยายเวลาที่จะต้องอยู่ที่นี่ได้อีกด้วย "
"โอ้! ผู้อาวุโสกระบี่ร้องออกมา ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็นึกขึ้นได้และถามอย่างจริงจังว่า "เจ้าหมายถึงผลึกสวรรค์ใช่ไหม?"
"ไม่เลวนิ!
ซูหยุนพยักหน้า จากนั้นมันก็หยิบผลึกสวรรค์ออกมาจากแหวนของมัน มันจ้องอยู่สักพัก มันวิเคราะห์ความเข้มข้น จากนั้นมันก็ตอบว่า "อีกแค่นิดเดียวผลึกสวรรค์มันจะฟื้นตัวเต็มที่ ตอนนี้ฉันไม่คิดว่าจะสามารถผลักดันได้ข้าคิดว่า ... มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีกวันหนึ่ง "
"รออีกวันรึ? เราแทบทนไม่ได้อีกแล้วและเรายังต้องรออีกวันรึ? "
"โอ้..สุดท้ายเจ้าต้องการให้ข้าช่วย วางผลึกไว้บนพื้น"
"บนพื้น?"
ซูหยุนกำลังงงงวยว่า "ผู้อาวุโสท่านกำลังจะทำอะไร?"
"วางมันลงไปเถอะน่า"
"เอาล่ะ"
ซูหยุนยังเต็มไปด้วยความสงสัยในขณะที่เขาทำตามคำสั่ง
หลังจากที่ผลึกสวรรค์ถูกวางลงบนพื้นดินทันใดนั้นแสงสีขาวสว่างจ้าละลานตาวงแหวนอากาศก็ลอยออกมา หลังจากที่มีประกายสว่างขึ้นแสงสว่างได้สาดส่องเข้ามาในบริเวณโดยรอบ ไม่นานหลังจากนั้นแสงสว่างหายไปในผลึกสวรรค์
เมื่อซูหยุนเห็นเช่นนี้มันก็ดูเหมือนไร้ชีวิตชีวา
แม้แต่คนโง่ก็สามารถมองเห็นสิ่งที่ผู้อาวุโสกระบี่กำลังทำอยู่
"เจ้าหนู ... . ต่อจากนี้... . ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว.. ."
เสียงของผู้อาวุโสกระบี่พูดออกมาประโยคหนึ่งคำสุดท้าย แต่มันก็ไม่กังวานด้วยพลังอีกต่อไป เสียงแผ่วเบาและอ่อนแอเมื่อการปรากฏตัวของเขาหายไป ...
“อาจารย์!” ซูหยุนเรียกว่าไม่กี่ครั้ง แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ กำหมัดของมันขณะที่อารมณ์หมุนวนลงในสายตาที่เศร้าหมองของมัน
หลังจากนั้นซูหยุนก็หยิบผลึกสวรรค์ขึ้นมา พลังงานภายในผลึกสวรรค์ได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์แล้ว มันก็พร้อมที่จะใช้ ตอนนี้มันสามารถเปิดใช้งานได้ทันที
พลังจิตวิญญาณที่มากมายมหาศาลเริ่มไหลบ่าเข้าสู่ร่างกายของมันขับไล่ความหนาวเย็น เส้นชีพจรที่แช่แข็งและเลือดในร่างกายที่เยือกเย็นของมันเริ่มหลอมละลาย ร่างกายเริ่มฟื้นตัวช้าๆ มันสามารถขยับได้แล้ว กำลังวังชาของมันตอนนี้เกือบกระปรี้กระเป่า
ซูหยุนสูดหายใจเข้า มันยังลังเลในใจ? มันลุกขึ้นยืนและเริ่มออกไปยังทางออก
.........
.........
ตูม!!!
จิตวิญญาณที่หนาแน่นจำนวนมากกระแทกลงและปะทะกับใบมีดของหัวหน้าหน่วยพิทักษ์
แขนของ ซูชิงเอ๋อ ถูกกระแทกกลับขณะที่นิ้วมือทั้งห้าของนางขาดการยึดเกาะ ดาบของนางลอยขึ้นไปในอากาศ
อย่างไรก็ตามนางไม่ได้ถอย นางทรุดตัวลงบนพื้น ใบหน้าที่บอบบางของนางร้องไห้อย่างเงียบ ๆ
ในที่สุดแสงสว่างแห่งความหวังของนางถูกนำออกมา นางหมดหวังเเพียงแค่อย่างเดียวห่างไกลจากทุกคน
"ซูชิงเอ๋อ?" ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้ว! อย่าไปยุ่งกับซูหยุน! มันไม่ได้เป็นเจ้านายของเจ้าอีกต่อไปแล้วเจ้าก็ไม่ได้เป็นสาวใช้อีกต่อไป! เศษสวะนั้นมันตายไปทำไมเจ้าถึงเสียใจ รีบกลับไปที่ตระกูลหลักและฝึกฝนซ่ะ!ถ้ายังล่าช้าและขี้เกียจอยู่เจ้าจะถูกลงโทษด้วย! " ชายที่ดูเคร่งขรึมตะโกนจากด้านหลังนาง
เมื่อมองไปที่เขาจะเห็นได้ว่าเขาพาฝูงชนเหล่าสาวกมาถึงที่เกิดเหตุ
"ข้า ... .ต้องการ... .พบ ... .นายน้อย ... ." ซูซิงเอ๋อพูดออกมาอย่างดุดันขณะที่นางเน้นทุกๆพยางค์
"กลับมา!" ผู้นำตระกูลตะโกน
อย่างไรก็ตามซูซิงเอ๋อไม่ได้ยินคำพูดเลย
พวกเขาได้เห็นเพียงกลิ่นอายจิตวิญญาณของนางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายจิตวิญญาณของนางดูเหมือนจะปะทุขึ้นเหมือนระเบิดขณะที่นางพุ่งเข้าไปที่อาคม มือที่บอบบางของนางที่กำขึงเป็นหมัดขณะที่อำนาจพลังวิญญาณปะทะเข้ากับอาคม ร้องไห้คร่ำครวญขณะที่นางกระแทกอาคม "รีบไปซี่..เปิดคม ...ข้าอยากพบนายน้อย ... . เขายังไม่ตายแน่นอน ... . เปิดอาคม ... "
หญิงสาวคนนี้กระแทกกับคมครั้งแล้วครั้งเล่า นางร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจขณะที่นางตะโกนด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้ง เสียใจทรมารอย่างสุดซึ้ง
หน่วยพิทักษ์แสดงความโง่งมบนใบหน้าของพวกเขา
พี่น้อง ซินเยี่ย และ ซิงหยาง ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น
ไม่คิดเลยว่าในหัวใจของ ซูชิงเอ๋อ ซูหยุนจะมีความสำคัญถึงเพียงนี้
ฟิ้ว!
เมื่อนั้นยอดฝีมือหญิงจากตระกูลหลักลอบเข้าไปด้านหลัง ซูชิงเอ๋อ นางจับตัวเขาไว้แน่นขณะที่นางแทงนิ้วขวาเข้าไปในจุดตรงคอของ ซูชิงเอ๋อ, จุดชีพจรทะเลลมปราณ ฉร่องซิน Chong Xin Qi Hai หลังจากที่โดนซูชิงเอ๋อ หัวใจของนางก็วูบลงดวงตางค่อยปิด พลันร่างที่อ่อนระทวยของนางก็ร่วงหล่นลงกับพื้นทันที
ยอดฝีมือหญิงคว้านางไว้ในอ้อมแขนของนาง
"พากลับมาที่นี่!" ผู้นำตระกูลพูดออกมาอย่างขึงขัง
"ค่ะนายท่าน!" ยอดฝีมือหญิงตอบอย่างเบาๆ
"นอกจากนี้โดยไม่มีคำสั่งของข้าอย่าให้ใครเข้าใกล้! หากพวกมันพยายามที่จะทำลายมันฆ่าพวกมันซะ! "
"ขอรับ,ท่านผู้นำ! ทุกคนตะโกนด้วยความด้วยเพรียงกัน
หลังจากได้ยินแบบนี้ใบหน้าพี่น้อง ซินเบี่ย ซิงหยาง ก็ดูเขียวคล้ำ
บางที ... พวกเขาอาจไม่สามารถรอซูหยุนออกมาได้
“ท่านพี่! !” “ท่านพี่! !”ซูหยุนจะกลับมาใช่มั้ย? " ซินเยี่ยเช็ดน้ำตาของนางขณะที่นางกัดริมฝีปากพูด
"แน่นอนว่าเขาจะกลับมาแน่นอน"
.........
ครืนนนน! ! !
เสียงดังปะทุออกมาจากที่มืด จากนั้นทั้งสองด้านของผนังลุกเป็นไฟขนาดมหึมา ช่องว่างสีดำมืดสว่างไสวด้วยแสงที่ส่องประกายเจิอจ้า ทุกๆอย่าเห็นได้ชัดว่าเป็น ซูหยุน
มองไปที่เปลวไฟภายในผลึกเปลวไฟผสาน(เอี้ยนหยรอง) 炎融水晶 ซูหยุนรู้สึกใจเต้นระรัว
ทันใดนั้นมันก็ตระหนักว่ามันสามารถเปิดใช้แหล่งกำเนิดแสงได้ที่นี่
ด้วยเหตุนี้ตอนนี้มันสามารถหาทางออกในสถานที่ลึกลับนี้ได้
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ความหวังที่เลือนลางออกมาจากใจของซูหยุน
มันรีบเดินตามเส้นทางที่ส่องสว่าง
ที่นี่มันเหมือนกับพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ มันถูกขนาบข้างด้วยเสาหิน ทุกอย่างกว้างขวางมาก ไม่มีใครเข้าใจว่าสถานที่ลึกลับแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ด้านหน้าเป็นประตูใหญ่ สำหรับพื้นที่ที่ใหญ่โตมากต้องมีการสร้างทางออก
ด้านหน้าประตูมีรูปปั้นนักรบผู้ทรงเกียรติที่ถือหอกไว้บนบ่า การแสดงออกของนักรบดูสง่างามมากเช่นเดียวกับเทพสงคราม: ไม่มีความโกรธเพียงแค่อำนาจ
ซูหยุนรีบวิ่งผ่านพวกมัน
ถ้ามีประตูก็ต้องมีเส้นทาง ตอนนี้ร่างกายของมันกำลังใช้ผลึกสวรรค์อยู่ที่นี่เป็นระยะ ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อผลของผลึกสวรรค์สิ้นสุดลงซูหยุนก็กลัวว่าร่างกายของมันจะไม่สามารถทนแรงกดดันของร่างกายได้แม้แต่จะใส่แก่นแท้ลงไป มันต้องแข่งกับเวลา
เพราะซูหยุนไม่รู้ว่าที่แห่งนี้จะมีกับดักใด ๆ ดังนั้นมันจึงต้องวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบคอบเมื่อเดินไปข้างหน้า เส้นประสาทของมันขยายถออกไปตามขีด จำกัด ของพวกมันขณะที่เขาพยายามจะระวังสิ่งแปลก ๆ รอบตัวขณะที่มันก้าวไปข้างหน้า
เพียงแค่นั้น เสียงที่ลึกลับและลึกซึ้งล่องลอยขึ้นมา
"เจ้าโสโครก ขยะสกปรก เจ้ากล้าบุกเข้าไปในสถานที่เจ้านายได้อย่างไร! ! เจ้าเข้าใจขนาดของบาปที่เจ้าได้กระทำหรือไม่? รีบคุกเข่าลงและสารภาพบาปของเจ้ากับเจ้านายซะ มิฉะนั้นข้าจะให้เจ้ากลายเป็นกองขี้เถ้า
เสียงคล้ายกับเสียงสองก้อนหินถูกัน ขณะที่มันฟังซูหยุนรู้สึกถึงแรงกดดันมากมายในร่างกายของมัน
พลันซูหยุนมองไปรอบ ๆ มันมองเห็นรูปปั้นสูงที่ถือหอกซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีชีวิตอยู่
"นี่คือ ... . สิ่งก่อสร้าง?" หัวใจของซูหยุนเต้นระรัว
รูปปั้นนั้นดูธรรมดา แต่มีการสลักอาคมวิญญาณไว้ภายใน พลังวิญญาณจิตวิญญาณที่แท้จริงมาจากชุดแกนภายในอาคมที่สลับซับซ้อน แกนอยู่ในสภาพที่สงบ แต่เมื่อใครก็ตามซึ่งมีกลิ่นอายจิตวิญญาณเข้ามาใกล้ก็จะสามารถใช้งานได้ จากนั้นรูปปั้นจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้
โครงสร้างที่ใช้มีความแปลกและลึกลับ มีคนน้อยมากที่สามารถสร้างได้แม้ว่าซูหยุนได้รู้จักวิธีการสร้างสิ่งประดิษฐ์บางส่วน แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอำนาจ เพื่อให้โครงสร้างยอดเยี่ยมอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่เพียง แต่ต้องใช้เวลามากแต่ยังต้องใชผู้คนจำนวนมากและการสนับสนุนทางการเงินมหาศาลในการสร้างพวกมัน
ในชีวิตที่แล้ว ซูหยุน ได้ทำงานภายใต้ผู้เชี่ยวชาญด้านการประดิษฐ์เป็นระยะเวลาหนึ่ง ภายใต้การสั่งสอนมันได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างในช่วงเวลาสั้น ๆ มันได้เรียนรู้เกี่ยวกับ โครงร่างห้าชีวิต
สำหรับแต่ละโครงร่างมี 5 ส่วนที่สำคัญ ถ้าสามในห้าจุดเสียหายโครงร่างจะหยุดทำงานทันที
อย่างไรก็ตามสำหรับแต่ละโครงร่างห้าจุดชีวิตก็ไม่เหมือนกัน เพื่อหาจุดชีวิตทั้งห้านี้ไม่ง่ายเลย
ซูหยุนค่อยๆคว้าดาบสลักมังวารีหยิบใบมีดสลักมังกรจ้องเขม็งที่รูปปั้น อย่างไรก็ตามมันไม่กล้าที่จะขยับ
กลิ่นอายจิตวิญญาณของรูปปั้นนั้นดูกดดันมากๆ เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของตัวเองแล้วมันตัดสินใจได้ว่ามันคือการบ่มเพาะขั้นที่เก้าแก่นแท้วิญญาณ โชคดีที่ไม่ใช่การบ่มเพาะดวงจิตวิญญาณถ้าไม่อย่างนั้นซูหยุนคงไม่มีโอกาสรอด ในสถานการณ์เช่นนี้มันหมุนเวียนพลังแห่งอำนาจผลึกสวรรค์เว้นเสียแต่ว่ามันจะสามารถใช้ ผลึกสวรรค์ กับ อาคมเลืดปีศาจสวรรค์ ได้
โดยไม่คำนึงว่าตอนนี้ไม่มีทางออก ความหวังเดียวของมันคือประตูนี้ มันต้องหาทางไปรอบ ๆ รูปปั้นและเดินผ่านประตู
จากนั้นมันก็หยุดความลังเลแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ มันจ้องเขม็งไปที่ประตูขณะที่มันวิ่งออกมา
กลิ่นอายจิตเทพวิถีฟ้า ปะทุออกมาเหมือนหน่วยทะลวงฟันจู่โจมพุ่งออกไปไปข้างหน้า
"บังอาจ!"
หอกของนักรบหินกระแทกลงกับพื้น กลิ่นอายจิตวิญญาณของมันถูกเปิดใช้งานขณะที่มันลอยลงมาและกันซูหยุนในทุกทิศทาง
ไม่นานหลังจากนั้นกลิ่นอายจิตวิญญาณของรูปปั้นกดทับซูหยุนและเริ่มใช้อำนาจบีบร่างของเขาทั้งหมด
ซูยองได้รับการส่งเสริมจากผลึกสวรรค์ เมื่อพลังกระชากขึ้นมาราวกับว่าการบ่มเพาะจิตวิญญาณของมันไม่ได้เป็นขั้นเขตแดนพื้นฐานวิญญาณขั้นที่10อีกต่อไป
มันจ้องมองไปที่รูปปั้นเปล่งแสงกลิ่นอายจิตวิญญาณอันลึกล้ำขณะที่มันกำลังวิ่งวนราวกับว่ามันกำลังบินเข้าประตู
เมื่อเห็นสิ่งนี้ รูปปั้นง้างหอกของมันอีกครั้งเพื่อโจมตีซูหยุนอีกครั้งหนึ่ง
ตูม!!!
ดาบสลักมังกรวารีถูกยกขึ้นขวางหอกหินของรูปปั้น
เป้ง !!!
ความกดดันอันหน่วงเหมือนมหาสมุทรพุ่งเข้าไปในร่างของซูหยุน หลังจากที่ร่างกายได้ถ่ายเทพลังส่วนใหญ่ของแรงกดดันเข้ากับพื้น ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนจากแรงกดดันอย่างเต็มที่ ...