บทที่ 3 แรกพบ
บทที่ 3 แรกพบ
"เจ้าเห็นงั้นรึ !?" หญิงงามนั้นโกรธเกี้ยวอย่างเห็นได้ชัด แต่กระนั้น ถึงแม้นางจะดูอันตรายแต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์
“ถูกต้อง, ข้าเห็นหมดทุกอย่างเลยหละ.” ฉื่อหยานหยักหน้า, ไม่แม้จะปฏิเสธมัน.
“เจ้าคงเพลิดเพลินกับมันมากนักสิ?”
“ผิวช่างละเอียดอ่อน,หน้าอกเบ่งบานเหมือนบุปผา. ข้าบอกได้เลยว่ามันช่างน่าลิ้มลองนัก.” ฉื่อหยานนั้นเหมือนพวกโรคจิตที่ซื่อสัตว์. (ถึงจะโรคจิตแต่ก็พูดตรงๆนะเออ)
“เจ้ายังอยากดูอีกงั้นรึ ! ?” โม่หยานหยู รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก. นางนั้นไม่เคยพบเจอบุรุษที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน.
“เยี่ยม !, ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไรเจ้าก็ถอดกางเกงออกเลยสิ, ข้าไม่รังเกียจเจ้าหลอกนะ, แล้วก็,ข้าจะเข้าไปดูใกล้ๆเลยหละ.”ฉื่อหยานยิ้ม.
เห็นได้ชัดว่า, ฉื่อหยานนั้นไม่ได้คิดจะปกปิดนิสัยหรือตัวตนของเขาเลย. ก่อนจะมาที่โลกนี้, ทุกครั้งหลังจากเล่นกีฬาผาดโผนเสร็จ, เขาจะต้องไปหาผู้หญิงเพื่อหาความสุขเสมอ. กีฬาผาดโผนนั้นเป็นเหมือนความสนุกส่วนใหญ่ของเขา, ส่วนผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งที่คอยเพิ่มรสชาตในชีวิตของเขา.
โม่หยานหยู แทบอยากจะเอาเท้าของนางกระทืบพื้น.
ไอ่เจ้านี่เป็นใครกัน?! สารเลวนัก ! เหมือนผีไม่มีผิดอยู่ดีๆก็โผล่มา. ทุกคำพูดของมันนั้นช่างหน้าด้านยิ่งนัก. หากมีการแข่งขันเรื่องความหน้าด้าน, มันคงจะชนะเลิศเป็นแน่.
โม่หยานหยูสูดลมหายใจเข้าลึกๆ, ก่อนจะเริ่มพูดอีกครั้ง ทำให้หน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงไปมา,กระแสความโกรธนั้นเพิ่มพูนขึ้นในอกของนาง. จู่ๆ,นางก็หัวเราะ, “ดี! ดี! ดีมาก!”
เมื่อได้ยินนางพูดแบบนั้น,ฉื่อหยานนั้นรู้สึกมีความสุขนัก,และปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่ใบหน้าของเขา. “ว้าว, ดูเหมือนเจ้าไม่ใส่ใจเรื่องที่เกิดขึ้นเลยนะ.เยี่ยม, งั้นเจ้าก็หันไปทางนั้น.ข้าจะขอดูอีกครั้ง.ข้าเองก็ไม่ใส่ใจอะไรหลอก, แต่ข้าหนะอยากเห็นมันทุกๆอย่างเลยหละ.”
โม่หยานหยู นั้นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากกับการกระทำของฉื่อหยาน. หลังจากที่นางรู้แล้วว่าฉื่อหยานนั้นกำลังล้อเล่นกับนาง,นางก็ไม่สามารถเก็บความโกรธได้อีกต่อไป. “เจ้าจะจ้องที่ก้นข้าอีกนานไหม!”
นางสบถออกมา, โม่หยานหยูนำมือของนางมาไขว่กัน. มือของนางนั้นก็รายล้อมไปด้วยแสงสีเขียว. นางกางมือของออก, ปล่อยสายฟ้าสีเขียวที่แหลมคมไปที่ฉื่อหยาน.
[จันทร์เสี้ยวขจีเฉือดเฉือน]
ในไม่กี่วินาที, ก็เกิดประกายแสงสีเขียว. ทุกอย่างที่ถูกแสงนั้นตัดผ่านล้วนขาดเป็นสองท่อน. มันไม่หยุดแค่นั้น, แสงสีเขียวนั้นยังคงพุ่งไปที่หน้าอกของฉื่อหยาน.
“บูม!”
ฉื่อหยานกระเด็นจากจุดที่ยืนอยู่ไปข้างหลัง. ร่างกายหนังติดกระดูกของเขานั้นไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้และกระเด็นตกไปที่พุ่มไม้.
หน้าอกของเขาฉีกขาดเป็นแผลกว้างขนาดที่สามารถเห็นกระดูกด้านในได้. ความรู้สึกเจ็บนี้มากมมายนั้น, นั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น.
หลังจาก [จันทร์เสี้ยวขจีเฉือดเฉือน]ได้ผ่านไป,พื้นที่รอบๆของทั้งสองนั้นถูกคลื่นพลังกระจายออกไปทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน. ทุกสิ่งทุกอย่างที่[จันทร์เสี้ยวขจีเฉือดเฉือน]ผ่านไปนั้นล้วนกลายเป็นผุยผง.
โม่หยานหยูเคลื่อนตัวไปหาฉื่อหยาน, ด้วยใบหน้าที่เย็นชา.
ฉื่อหยานกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง. เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่หน้าอกของเขา นั่นทำให้เขารู้ว่า มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขา.
ในโลกที่เขาจากมานั้น,แม้เขาจะทำแบบเดียวกัน,อย่างเลวร้ายที่สุดหญิงสาวเหล่านั้นก็ได้แค่ก่นด่าเขาว่า ไอ่งี่เง่า;หรือไม่ก็ฟ้องร้องเขา นี่มันต่างออกไป.
เขาพึ่งมาถึงโลกแห่งนี้ได้ไม่นาน ตัวเขานั้นยังไม่สามารถเข้าใจความโหดร้ายของโลกใบนี้ได้.
โดยเฉพาะในป่าทมิฬแห่งนี่ ! ที่ป่านี้ไม่ใช่ของจักวรรดิใดจักวรรดิหนึ่งและยังมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอีกมากมายหลายชนิดรวมไปถึงสมุนไพรที่ล้ำค่า, นักรบส่วนใหญ่นั้นมักจะมาที่ป่าทมิฬนี่เพื่อฝึกฝนตน, แต่สำหรับ พ่อค้าและทหารรับจ้างนั้น ป่านี้เปรียบเสมือนแหล่งขุมทรัพย์ทางธรรมชาติของพวกเขา.
ไม่มีข้อจำกัด และ กฏเกณฑ์ในป่าแห่งนี่. เนื่องจากมีทั้งสัตว์อสูรและสมุนไพรล้ำค่า, การปล้นและการฆ่านั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกของที่นี่. หรือแม้แต่กระทั่งทรยศหักหลังมิตรสหายก็สามารถพบเจอได้ทั่วไปในป่าแห่งนี้. ที่แห่งนี้มันบ้าอะไรกัน!
ที่ป่าทมิฬแห่งนี้นั้นใช้กฏแห่งป่า. ผู้แข็งแกร่งเอาเปรียบผู้อ่อนแอ.
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ถูกโจมตีอย่างรุนแรง.เขาประมาทเกินไป, เขานั้นคิดไม่ถึงว่าหญิงงามนางนั้นจะฆ่าเขาด้วยเหตุผลเล็กน้อยอย่างนี้. (ไปดูก้นเขาเนี้ยนะเล็กน้อย)
ฉื่อหยานปล่อยวางความคิดของเขาลงโดยไม่เก็บมาใส่ใจและเริ่มตั้งสมาธิ.
พลังปราณลึกลับเบาบางภายในของเขาค่อยๆรวมตัวกันรอบแผลของเขาที่หน้าอกและมันเริ่มที่จะรักษาเขา. ด้วยพลังปราณลึกล้ำนี้ทำให้เขาค่อยๆสามารถขยับตัวได้,และความเจ็บปวดค่อยๆทุเลาลง.
เสียงเท้าเหยียบลงบนพื้นที่เปียกชื้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ. ฉื่อหยานลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิด, เขาสงบจิตใจของเขาลง, และมองไปที่หญิงงามที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ.
“เจ้าตั้งใจจะฆ่าข้างั้นรึ ?”
“ยังมีลมหายใจอยู่อีกรึ?” โม่หยานหยูขมวดคิ้วเล็กน้อย, และหยุดอยู่กับที่ห่างจากฉื่อหยาน 25เมตร. นางสงสัยและชำเลืองมองไปที่เขา, และคิดว่า, “มีพลังปราณลึกลับในร่างกายของเขา. งั้นเขาควรจะเป็นนักรบในระดับเริ่มต้น?. ดูเหมือนว่าข้าจะต้องทุบตีเขาให้หนักขึ้น…”
เวลานี้ฉื่อหยานต้องจริงจัง, ไม่สามารถล้อเล่นได้อีก. เขาตั้งสมาธิจ้องมองไปที่หญิงสาว เขานั้นรู้ว่านางจะต้องโจมตีเขาอีกแน่.
เขาสัมพัสได้ถึงพลังปราณที่เข้มข้นมากกว่าเดิม. นี่เป็นเรื่องของความเป็นความตาย. เขาไม่สามารถพลาดพลั้งได้. ฉื่อหยานรีบตั้งสติอย่างรวดเร็วและกลับมาใจเย็นเขาสามารถทำได้ทุกครั้งขณะกำลังเล่นกีฬาผาดโผน.
ในตอนนั้น, เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บที่หน้าอกแล้ว. และไม่รู้สึกถึงอะไรอีก พลังปราณลึกลับเบาบางกำลังวิ่งผ่านไปทั่วร่างกายของเขา, มันวิ่งผ่านเร็วขึ้น และ เร็วขึ้น.ต่อมา, พลังปราณลึกลับได้พวยพุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกในร่างกายเขา.เขารู้สึกได้ว่าภายในจิตใจของเขาเริ่มโหมกระหน่ำขึ้น. เขารู้สึกเหมือนหัวของเขาจะระเบิด.หลังจากนั้น, โลกของเขาจู่ๆก็เงียบไป.
“ตึก! ตึก!”
ฉื่อหยานได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นอย่างชัดเจน.. หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น,เซลล์ทั่วร่างกายของเขาถูกเปิดใช้งาน. ทุกอนุภาคในร่างกายของเขาตอบสนอง และเขาสัมพัสได้ถึงทุกอย่างรอบๆตัวของเขา. เขารู้สึกสั่นสะท้านเล็กน้อย เมื่อมีสายลมพัดผ่านมาที่ตัวเขา.
พลังลึกลับเริ่มแพร่กระจ่ายไปทั่วทุกรูขุมขนบนร่างกายของเขา, เคลื่อนผ่านไปยังเส้นเอน และ กระดูก. มันรู้สึกเหมือนมีประจุไฟฟ้าวิ่งผ่านไปทั่วเส้นเลือดของเขาอย่างรวดเร็ว.
จากนั้นฉื่อหยานรู้สึกเจ็บที่ตาอย่างรุนแรง,โลกที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้านั้นดูสดใสและชัดเจนขึ้น. เขาสามารถมองเห็นแม้รายละเอียดเล็กๆของใบไม้ทุกใบ. เขามองไปที่หญิงสาวที่ทั้งสวยงามและโหดเหี้ยม, เขาสัมพัสได้ถึงพลังปราณลึกลับที่สวยงามไหลผ่านภายใต้ผิวหนังของนาง.
นี่ยังคงเป็นป่าแห่งเดิม ที่เดิม ที่ๆเขาอยู่. แต่ในสายตาของเขา, มันเหมือนโลกที่ต่างออกไป.
ก่อนที่ฉื่อหยานจะเพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมไปมากกว่านี้,ตอนนั้นเขาก็สัมพัสได้ถึงพลังปราณลึกลับในร่างกายของหญิงสาว มันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว.
ฉื่อหยานรู้สึกสั่นกลัวเล็กน้อย.
ด้วยสัญชาตญาน, เขาผลักดันกระแทกเท้าซ้ายของเขาเคลื่อนตัวไปด้วยพลังทั้งหมดที่มี. ด้วยพลังที่แข็งแกร่งจากเท้าของเขา, ฉื่อหยานเคลื่อนไหวหายไปอย่างรวดเร็ว หายไปจากที่เดิมที่เขาเคยอยู่.
อย่างไรก็ตาม สายฟ้าสีเขียวรูบร่างคล้ายกริชที่แหลมคมพุ่งมาเกือบจะสร้างบาดแผลให้เขา.
สายฟ้าตีเขียวได้ทำลายทุกอย่างด้านขางของเขาด้วยพลังที่น่ากลัว. เห็นได้ชัดว่ามันใช้ระยะเวลาในการโจมตีมากกว่าครั้งก่อน และมันก็รุนแรงกว่าเดิม.
ช่วยไม่ได้ที่ชิหยานจะเหงื่อตก; บางที่นี่อาจจะเป็นความกลัว, หรือบางทีมันอาจจะเป็นความตื่นเต้น.
นี่เป็นครั้งแรก ที่ฉื่อหยานได้รับประสบการณ์การต่อสู้ที่อาจจะทำให้เขาตกตายได้ในไม่กี่วินาที. นี่มันยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว ! นี่เป็นการต่อสู้ที่ตัดสินด้วยความเป็นความตาย. เขาต้องการมันอีก เขารู้สึกชอบมันมาก มากเสียกว่ากีฬาผาดโผนสะอีก.
ในโลกเก่าที่เขาจากมา,มีกีฬาผาดโผนมากมาย.แต่นั้นมันมีทั้ง, กฏ, ศีลธรรม, และ เหตุผล นั้นเป็นเหมือนขอบเขตที่กำหนด, คอยควบคุมเขา. เขาไม่สามารถทำอะไรนอกเหนือจากขอบเขตนั้นได้, เขานั้นไม่สบอารมณ์เลยสักนิด,
แต่ที่นี่,โลกแห่งนี้พลังอำนาจคือกฏ,ไม่มีอะไรมาหยุดได้. ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!
ฉื่อหยานรู้สึกตื่นเต้น ความตื่นเต้นนั้นเติบโตขึ้นในใจของเขา. เขารู้สึกว่าที่นี่อาจจะเป็นสถานที่ของเขา.เป็นสวรรค์ของเขา!
…
“หืมม…” โม่หยานหยูไม่สามารถเก็บซ่อนอาการแปลกใจได้. นางไม่คิดว่าฉื่อหยานจะสามารถหลบการโจมตีของนางได้. นางมั่นใจว่าจะสามารถฉีกฉื่อหยานเป็นชิ้นๆในการโจมตีนี้ได้ ดังนั้นนางจึงไม่ได้เตรียมแผนสำรองไว้.
เมื่อได้ยินเสียงของนาง, ฉื่อหยานที่กำลังเพลิดเพลินกับการรอดชีวิตในการโจมตีนั้น ก็กลับมารู้สึกตัว.
โดยไม่รีรอ, ฉื่อหยานกระโดดอย่างรวดเร็วเหมือนลิง. เขาคว้าเถาวัลย์บนต้นไม้แล้วเหวี่ยงตัวไปข้างหน้า.จากนั้นเขาก็คว้าเถาวัลย์เส้นอื่นด้วยความเร็วดุจสายฟ้า, ลอยไปข้างหน้า, ถึงเถาวัลย์เส้นต่อไป. ด้วยการเคลื่อนไหวที่ราบลื่น, เขาสามารถรับมือกับวิธีการของโม่หยานหยูได้
ในไม่กี่วินาที.
เมื่อมีก้อนหินยักษ์มาขว้างข้างหน้าเขา, เถาวัลย์นั้นเปรียบเสมือนเครื่องมือที่มีประโยชน์. สำหรับผู้ที่ถนัดกีฬาผาดโผนเหมือนฉื่อหยาน, เขาเหวี่ยงตัวด้วยการช่วยเหลือของเถาวัลย์อย่างเป็นธรรมชาติ.
เหมือนลิงป่า, ฉื่อหยานเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วผ่านต้นไม้และเถาวัลย์. เขาเคลื่อนไหวไปมาไม่มีรูปแบบตายตัว, นั้นทำให้เขาสามารถรับมือกับโม่หยานหยูได้.
โม่หยานหยูแสดงสีหน้าดูถูก,และปล่อยกริซสีเขียวลอยพุ่งไปในอากาศ, ทำลายเถาวัลย์ทุกเส้นที่ฉื่อหยานเกาะอยู่.อย่างไรก็ตาม, เขาก็สามารถที่จะหลบหนีการโจมตีของนางอย่างได้อย่างเฉียดฉิวทุกครั้ง และรีบคว้าเถาวัลย์เส้นอื่น.
จริงๆแล้ว, ฉื่อหยานนั้นสามารถสัมพัสได้ถึงพลังปราณในร่างกายของโม่หยานหยู. ในตอนนี้เขาสามารถเห็นการกระทำของโม่หยานหยูได้ชัดเจน. เมื่อเขาสัมพัสได้ถึงพลังปราณใต้ผิวหนังของนาง, เขาก็จะเคลื่อนไหวไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว.
ระหว่างที่เขากำลังเคลื่อนไหวอยู่, ฉื่อหยานเริ่มรู้สึกว่าบ่อโลหิตในถ้ำนั้นได้เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นอะไรสักอย่าง. ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้แข็งแกร่ง, แต่ตอนนี้, ไม่เพียงแต่เขาเคลื่อนไหวได้ด้วยความเร็ว ร่างกายของเขาเองก็สามารถทนต่อความเร็วนั้นได้เช่นกันมันไม่สามารถฉีกกระชากร่างเขาได้,. สัมพัสของเขาคมชัดขึ้นและร่างกายของเขาเองก็แข็งแกร่งและยืดหยุนมากขึ้นเช่นกัน.
“ชิ่วว!”
หลังจากสิ้นเสียงแหลมเล็ก, สายฟ้าสีเขียวแหลมคมพุ่งตามเขามา มันฉีกกระฉากเถาวัลย์ที่อยู่ข้างหลังเขา., พลังปราณของโม่หยานหยูนั้นเกือบจะหมดลงหลังจากปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังนี้.
“นี่เป็นโอกาสของข้า!”
ฉื่อหยานกระโดดลงจากต้นไม้, พุ่งไปที่โม่หยานหยูเหมือนนกอินทรี. กว่าที่นางจะสามารถรวบรวมพลังปราณให้มากพอที่จะโจมตีต่อ,ฉื่อหยานก็อยู่บนตัวนางแล้ว.
“บูม!” โม่หยานหยูล้มลงกับพื้นโดยมีฉื่อหยานคร่อมอยู่บนตัวนาง,นางไม่สามารถขยับเขยื่อนได้.
ต่อหน้า, ฉื่อหยานสัมพัสได้ถึงร่างกายที่นุ่มนิ่มของนาง ที่อยู่ชิดติดกับเขา. หน้าอกของนางนั้นอวบอิ่มและมีกลิ่นหอม, เขาบีบไปทีซาลาเปาที่เร่าร้อนของนางทั้งสองข้าง.
ฉื่อหยานรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เกินกว่าที่จะพูดคำใดออกมา, เขานั้นชื่นชมร่างกายของนางยิ่ง. นี่สิถึงจะเรียกว่าศิลปะ ! นี่ช่างแตกต่างจากผู้หญิงในโลกของเขานัก มันทั้งดูเซ็กซี่และอวบอิมเป็นอย่างมาก,และอีกอย่าง พวกนางนั้นล้วนไม่ใส่ชั้นใน.
“ปล่อยข้านะ !” โม่หยานหยู แสดงออกให้เห็นถึงความรังเกียจ. นางพูดสาปแช่ง, “เจ้าเดรันฉานปล่อยข้านะ! หากเจ้าต้องการที่จะเห็นแสงอาทิตย์อีกครั้ง!”
“เอ้ยย!” ฉื่อหยานเยาะเย้ย, “เจ้าเกือบจะฆ่าข้า ข้ามีเหตุผลอันใดต้องปล่อยเจ้าไปง่ายๆ?”
โม่หยานหยู รู้สึกแย่. ก่อนที่นางจะได้ทำอะไร, ไอ่บ้านี่ก็จูบมาที่ใบหน้าที่สวยงามและบริสุทธิ์ของนาง. ในเวลาเดียวกัน, มือของไอ่บ้านี่กำลังขยับไปมาอย่างไม่หยุด. ฉื่อหยานนั้นก็จับก้นของนางและเริ่้มนวดเข้นมันอย่างต่อเนื่อง.
โม่หยานหยูรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก, ในทันทีจิตวิญญานต่อสู้ของนางก็ระเบิดพลังที่่น่ากลัวออกมา.
ฉื่อหยานที่กำลังเพลิดเพลินกับร่างกายอันยอดเยี่ยมของนาง สัมพัสได้ถึงกระแสไฟฟ้าที่น่ากลัว. เขาถูกช็อตด้วยกระแสไฟฟ้านั่น, ร่างกายของฉื่อหยานนั้นไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอะไรเลย, ดังนั้นเขาจึงพยายามโคจรพลังปราณลึกลับของเขา.
โม่หยานหยูผลักฉื่อหยานออก, แววตาของนางนั้นโหดร้ายและเย็นชา. นางเหลือบมองไปที่ฉื่อหยานที่กำลังนอนอยู่ที่พื้น,และสบถออกมา:
“ข้าไม่ปล่อยเจ้าให้ได้ตายง่ายๆแน่ ไอ่สารเลว!”
โม่หยานหยู หยิบฉื่อหยานขึ้นมาเหมือนขนนก, นางเคลื่อนตัวผ่านป่าไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา.
––––––––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับแปลถึง 232 แล้วนะครับ ติดตามรายละเอียดได้ที่โพสปักหมุดของ https://www.facebook.com/ReadGOS/