ตอนที่ 103 – การมาถึงของถังเทียน
ตอนที่ 103 – การมาถึงของถังเทียน
อวี๋หมิงชิวยืนตระหง่านและผ่าเผย
ภายใต้แสงตะวัน ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยรังสีแสงวาววับงดงาม เขาดูคล้ายราวกับหยก หยกขาวพิเศษ แต่ละชิ้นส่วนของเกราะหยกได้รับการแกะสลักอย่างประณีต ลวดลายดอกไม้อันสว่างจ้แลดูโบราณเชื่อมต่อกันแต่ละชื้น เกิดเป็นชั้นๆ เอวของเขามีพู่สีเหลืองดูสว่างไสว ซึ่งดูงดงามสะดุดตา
ลมโชยที่ผ่านมาและกระทบชุดเกราะหยกอย่างบางเบา ก่อเกิดเสียงที่ปลอบโยน
อวี๋หมิงชิวดูสง่างามมาก ด้วยชุดเกราะหยกขาวนี้ เขาดูปลอดโปร่งและสบาย บุคลิกอันสง่างามก็เปล่งประกายมากยิ่งขึ้น
เหล่าเด็กสาวที่อยู่ด้านข้างอดมิได้ที่จะเม้มริมฝีปากของพวกนาง ดวงตาของพวกนางเต็มไปด้วยความชื่นชมและหวาดหวั่น
ชุดเกราะจากกลุ่มดาราช่างแกะสลัก [ชุดเกราะหยกสารทโอฬาร]!
ด้วยชุดเกราะหยกสารทโอฬารบนตัวเขา อวี๋หมิงชิวเงยหน้าขึ้นและมองไปยังท้องฟ้า เขาได้เฝ้ารอช่วงเวลานี้ สำหรับสี่ปีเต็ม สำหรับสี่ปี ผู้ใดจะรู้เกี่ยวกับความเจ็บปวดของเขา ผู้ใดจะรู้ถึงความโดดเดี่ยวของเขา ผู้ใดจะรู้ถึงความทรมานของเขา?
พวกมันทั้งหมดกำลังจะจบลง!
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!
เขาจดจ่อสายตาของเขาและมองไปยังซางกวนเวยและซางกวนจู้ ผู้ที่ซึ่งตกใจอยู่ จากนั้นเขาก็ยิ้มบางเบาราวกับเทพยดาตกสวรค์ปราศจากความกราดเกรี้ยว
“สามารถตายตกภายใต้น้ำมือของข้า เจ้าควรจะภูมิใจได้” อวี๋หมิงชิวพึมพำ เสียงของเขามิได้ดังมากแต่ผู้คนในที่นี้ต่างได้ยิน
เขายกมือขวาของเขาและโบกสะบัด
หยกสองชิ้นแปรเปลี่ยนจากแสงสองสายและพุ่งไปยังบุรุษทั้งสอง
ลำแสงหยกแล่นผ่านไปวิบวับ!
ลำแสงมิได้รวดเร็ว แต่พวกมันทั้งสองทำให้รู้สึกราวกับพวกมันมิสามารถหลบหลีกได้ และพวกเขาพลันตระหนักได้ว่าร่างของพวกเขาก็ขยับเขยื้อนไม่ได้!
ไม่...เป็นไปไม่ได้!
ชิ้นส่วนหยกสองชิ้นภายในสายตาของบุรุษทั้งสอง ต่างเข้าใกล้มาอย่างรวดเร็ว ใกล้ถึงขั้นที่พวกเขาทั้งสองสามารถที่จะเห็นชิ้นส่วนหยกได้อย่างชัด มันหมุนเป็นเกลียวและเฉือนอากาศ ทำให้เกิดกระแสอากาศออกมา
เป้าหมายของชิ้นส่วนหยกต่างเป็นลำคอของบุรุษทั้งสอง!
บัดซบ… มิสามารถขยับตัวได้
พวกเขาทั้งสองผลาญปราณแท้จริงไปอย่างมาก มิว่าพวกเขาจะพยายามไปมากเพียงใด พวกเขาก็มิสามารถที่จะขยับได้ ชิ้นส่วนหยกเหินบินเข้ามาใกล้ และพวกเขาทั้งสองก็ปรากฏความกลัวในดวงตาของพวกเขา
ทันใดนั้น ปราศจากสัญญาณอันใด ก็มีเงาร่างปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าบุรุษทั้งสอง
บุคคลนี้อ้าแขนของเขาเปิดกว้าง เขาเป็นดั่งโล่ป้องกันบุรุษทั้งสองราวกับเขาเป็นกำแพงใหญ่ ทำให้บุรุษทั้งสองประทับใจมิลืมเลือนอยู่เบื้องลึกในจิตใจของเขา
ผัวะ ผัวะ!
ชิ้นหยกต่างถูกคว้าเข้าไปภายในมือของบุคคลนั้น ก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะสามารถตอบสนองได้ บุคคลเบื้องหน้าพวกเขาปล่อยมือของเขาออก เศษของหยกก็ร่วงหล่นมา ผงหยกที่ถูกบดละเอียดกระจายไปตามลม และกระทบบนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาทั้งสองหลับตาลงจากการระคายเคืองตาของพวกเขา และยามเมื่อพวกเขาเปิดตาขึ้นอีกครา พวกเขาก็จ้องมองอย่างตกใจไปยังแผ่นหลังของบุคคลนั้น
ช่างแข็งแกร่งนัก...
ความตกใจและตื่นตระหนกบนใบหน้าของพวกเขาหายไป แต่หัวใจของพวกเขาตกใจกลัวมากยิ่งขึ้น
บุรุษผู้นี้… เขาคือผู้ใดกัน?
ในขณะที่บุรุษทั้งสองต่างยังคงขบคิด ทันใดนั้น แผ่นหลังอันสูงใหญ่และลึกล้ำก็กล่าวออกมาสร้างความประหลาดใจ “พวกเจ้ากล้าที่จะทำให้เชียนฮุ่ยผิดหวังได้เยี่ยงไร!”
น้ำเสียงของเขาลึกล้ำและกราดเกรี้ยวราวกับว่ามันเป็นเสียงคำรามของอสูรกาย มันมีเจตนาที่จะสังหารและความโกรธมากมาย ทั้งสองคนหวาดกลัวต่อความตายของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองต่างก็โล่งใจ จากประโยคนั่น พวกเขาสามารถบอกได้เลยว่า บุคคลนี้เป็นมิตรมิใช่ศัตรู เมื่อใดกันที่เชียนฮุ่ยคบหาสหายกับบุคคลที่ทรงพลังเช่นนี้?
ปราศจากการรอให้ทั้งสองเห็นชัดเจน พวกเขาก็ถูกดึงโดยอีกฝ่ายและโยนไปบนท้องฟ้า
“ลุงเฉียน!”
ซางกวนเฉียนงงงันขณะที่เขาจ้องมองอย่างตกใจไปยังร่างที่อยู่ภายในการต่อสู้ผู้ที่ซึ่งเปล่งประกายความดุร้าย ที่เหี้ยมหาญเหนือคำบรรยาย เขามิสามารถสายตาตัวเองเลย นั่น… นั่นมันอาเทียน!
“อา...อาเทียน!”
บุคคลที่ด้านตรงข้ามหันหน้าของเขา และเปิดเผยรอยยิ้มกว้าง “ลุงเฉียน มิได้พบกันนาน!”
มันคืออาเทียนจริงๆ...
ราวกับว่าเขาถูกผ่าโดยอัสนีบาต ลุงเฉียนตื่นตะลึง ยืนอยู่ที่นั่นราวกับไก่ไม้ ขณะที่เขาจ้องมองอย่างตกใจไปยังใบหน้าที่คุ้นเคยซึ่งในขณะเดียวกับเขาก็รู้สึกมันแปลกหน้าต่อเขา นี่...นี่มันคืออาเทียนจริงๆ! นายน้อยเทียนผู้ที่ซึ่งยังคงฝึกพื้นฐานวิชาการต่อสู้ยามที่เขาจากเมืองเมฆาดารามา! นายน้อยเทียนผู้ที่ซึ่งคุณหนูคิดถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน!
แต่...แต่...เหตุใดนายน้อยเทียนถึงมาอยู่เบื้องหน้าเขาได้ ช่างแปลกประหลาด...
“ลุงเฉียน ลุงเฉียน!” ซางกวนเวยผู้ที่ซึ่งอยู่ภายในอากาศมิได้สนใจอันใดพลางตะโกนอย่างกระวนกระวาย
ลุงเฉียนคล้ายกับเขาจะตื่นจากฝันของเขา ขณะที่เขาเหยียดแขนของเขาเพื่อที่จะรั้งบุรุณทั้งสองไว้ด้วยความตื่นตระหนก แต่ดวงตาของเขามันยังจับจ้องไปยังนายน้อยเทียนผู้ที่ปรากฏอยู่ฉากเบื้องหน้าที่ไม่ขยับแม้แต่น้อย
“ลุงเฉียน พวกเราจะพูดคุยกันในภายหลัง!” ใบหน้าของถังเทียนหมองคล้ำ เขาหันกลับไปจ้องมองยังอวี๋หมิงชิวเบื้่องหน้าของเขา และกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้ากล้าที่จะรังแกเชียนฮุ่ย เจ้าเด็กเหลือขอ วันนี้เจ้าตายแน่!”
อวี๋หมิงชิวประหลาดใจเล็กน้อย เขาสำรวจไปยังถังเทียน เขาก็กล่าวเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ตระกูลช่างตกต่ำมากนัก ถึงกับให้คนนอกเข้ามาและรักษาชื่อเสียงตระกูลซางกวนของพวกเขากัน? หรือว่านอกจากซางกวนเชียนฮุ่ยแล้ว ตระกูลซางกวนมิสามารถกำเนิดผู้คนที่สามารถทนต่อการต่อสู้ได้กัน?”
สภาพแวดล้อมก็เกิดเสียงพึมพำในทันที
ยามเมื่ออวี๋หมิงชิวปรากฏที่หน้าประตูตระกูลซางกวน มันก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนแล้ว ทุกผู้คนที่มีพลังน้อยนิดต่างวิ่งมาเข้าร่วมกับฝูงชน ข้อขัดแย้งระหว่างตระกูลอวี๋และซางกวนภายในกลุ่มดาราอมตะ มันเป็นเรื่องสำคัญ เหล่านักสู้ที่เป็นผู้ชมตราบเท่าที่พวกเขามีหัวและใบหน้า พวกเขาก็จะปรากฏตัวมา
น้ำเสียงของอวี๋หมิงชิวเต็มไปด้วยความเย้นหยัน แต่มันทำให้ผู้คนรู้สึกเช่นเดียวกัน ในระหว่างสองปีที่ตระกูลซางกวนเชียนฮุ่ยกลับมา นางก็ผลักดันตระกูลซางกวนให้มีชื่อเสียงไปยังอันดับสูงของตระกูลชนชั้นสูงภายในกลุ่มดาราอมตะ แต่เพราะเหตุนี้ผู้คนจึงตระหนักได้ว่าตระกูลซางกวนผู้ที่ได้รับอันดับสูงมิได้แข็งแกร่งดั่งเช่นที่พวกเขาคาดคิดไว้
พวกเขาต่างถูกหลอกลวงโดยพลังของเชียนฮุ่ยภายในอดีต
จากสิ่งที่พวกเขาเห็น มิว่าจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งเช่นไร มันเป็นไปไม่ได้ที่บุคคลเดียวจะช่วยเหลือทั้งตระกูล พวกเขาสามารถยืนยันได้ในตอนนี้ว่าซางกวนเฉียนมิได้โกหก เชียนฮุ่ยมิได้อยู่ตอนนี้ ถ้าหากมิใช่เช่นนั้น นางก็คงจะปรากฏตัวแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ภายในฝูงชนรู้สึกว่ามันช่างเป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมยิ่ง ตระกูลซางกวนที่ปราศจากซางกวนเชียนฮุ่ยจะต้องกลายเป็นอ่อนแออย่างน่าตกใจ
ซางกวนเฉียนมีประสบการณ์และระวังตัว คำกล่าวของอวี๋หมิงชิวมีเจนตาร้าย จะเป็นไปได้เยี่ยงไรที่เขาจะมิเข้าใจในสิ่งที่กล่าวมา แม้ว่าคนที่ร้อนใจอยู่ภายในฝูงชน เขาก็เฝ้าจับตามองพวกเขาอยู่
เขามิคาดคิดว่าจะมีสิ่งที่ทำให้เหตุการณ์พลิกผันเช่นนี้ แม้กระทั่งคุณหนูมิคาดคิดว่าอวี๋หมิงชิวจะพลันกลับมา ถ้าพวกเขาเพียงมีเวลาเพิ่มอีกสองปี ซางกวนจู้และซางกวนเวยก็สามารถเติบโตเป็นบุคคลที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง ในตอนนี้พวกเขายังคงบกพร่องอยู่เล็กน้อย
คุณหนู…
แม้ว่าซางกวนเฉียนจะรู้สึกกังวลใจ ใบหน้าของเขาก็มิได้แสดงให้เห็น “ผู้ใดภายในตระกูลสามารถที่จะเทียบได้กับคุณหนู? มันมิมีสักคนภายในอดีต และมันก็มิมีในตอนี้ เช่นเดียวกับผู้ใดที่สามารถทนต่อความโกรธเกรี้ยวของคุณหนูได้? เหล่าขยะทั้งหมดที่ทำให้คุณหนูโกรธ พวกมันอยู่ที่ใดกันล่ะ? ตระกูลอวี๋สามารถเพียงพยายามอยู่หน้าประตูแห่งความตายจนกระทั่งคุณหนูกลับมา”
เหล่าคำกล่าวนี้ทำให้ผู้คนทั้งหมดที่ร้อนใจต่างเงียบลง
ในช่วงเวลาสองปีสั้นๆ ซางกวนเชียนฮุ่ยได้สร้างชื่อเสียงศักดิ์ศรีด้วยความสามารถของนางได้เยี่ยงไรโดยที่มิมีผู้ใดสั่นคลอน? โดยทั่วไปเมื่อตระกูลซางกวนทำสงคราม ภายในอดีตยามเมื่อตระกูลซางกวนใช้วิธีซ่อนเร้น และกำจัดไปมากกว่าหกตระกูล ถ้าหากมิใช่เพราะตระกูลอวี๋ ผู้ที่สบโอกาสและคิดถอนตัวกลับอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็คงจะมิมีชีวิตแล้ว
เมื่อนึกถึงความโกรธของซางกวนเชียนฮุ่ย พวกเขาทั้งหมดก็สั่นสะท้าน อวี๋หมิงชิวเพิ่งกลับมายังกลุ่มดาราอมตะและมิรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้ แต่พวกเขาทั้งหมดภายใต้แรงกดดันของซางกวนเชียนฮุ่ยมาเป็นเวลาสองปี และการปกครองของนาง พวกเขาก็รู้ได้อย่างชัดเจน
หัวใจของลุงเฉียนมั่นคงและเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ “และผู้ใดกันที่กล่าวว่านายน้อยเทียนเป็นคนนอก? เขาเป็นคนรักวัยเยาว์ของคุณหนู และจะเป็นลูกเขยของตระกูลซางกวนในไม่ช้า สามีที่คุณหนูเลือกด้วยตัวเอง”
ทั่วทั้งถนนกลับกลายเป็นเงียบกริบ
ซางกวนเวยและซางกวนตู้และพวกที่เหลือเบื้องหลังของลุงเฉียนทั้งหมดต่างตกตะลึงและกลายเป็นเงียบอย่างสิ้นเชิง
ลูกเขย…
ศิษย์ทั้งหมดของตระกูลซางกวนต่างตกตะลึงจนกระทั่งจิตใจของเขาว่างเปล่าเมื่อได้ยินคำว่า “ลูกเขย” อย่างฉับพลัน
จากทั่วสถานที่ที่ยังเงียบอยู่และจากนั้นทั้งถนนก็พลันระเบิดออกมา
“บุรุษของซางกวนเชียนฮุ่ย!”
“เขาคือบุรุษของซางกวนเชียนฮุ่ย!”
“ข้ามิเคยได้ยินเรื่องเขามาก่อน โกหกใช่หรือไม่...”
“โกหก? มันจะเป็นไปได้เยี่ยงไร! นั่นมันคือสิ่งที่เกิดต่อหน้าทุกคน! ซางกวนเฉียนจะโกหกเรื่องเช่นนี้ได้เยี่ยงไร? ถ้าซางกวนเชียนฮุ่ยรู้เรื่อง นางอาจจะมิปล่อยเขาไว้แน่”
“ถูกต้อง… แต่บุรุษของคุณหนูเชียนฮุ่ย… ข้าช่างเศร้าใจนัก...”
เริ่มแรกด้านข้างหนึ่งเกิดเสียงเอะอะ ด้วยความรวดเร็วด้านอื่นก็เกิดขึ้น ทำให้ทั่วสถานที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก ซางกวนเชียนฮุ่ยที่รูปโฉมงดงามและอารมณ์ที่ไม่เหมือนใครที่กลายมาเป็นดั่งเทพธิดาภายในหัวใจของบุรุษทุกผู้คนภายในกลุ่มดาราอมตะ
ในตอนนี้เทพธิดาพลันมีบุรุษแล้ว...
ความจริงได้ทำลายล้างอย่างรวดเร็ว….
หลังจากที่ถังเทียนได้ยินคำกล่าวของลุงเฉียน เขาก็ตกใจ แต่บุรุษของเชียนฮุ่ย...
ฮ่าฮ่าฮ่า
นั่นช่างถูกต้องอย่างที่สุด!
ถังเทียนมีความสุขอย่างยิ่ง เพียงความรู้สึกนี้ร่างของเขาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เขาชกออกด้วยหนึ่งหมัด และความหิวโหยของการต่อสู้ก็เดือดไปจนถึงขีดสุด
ไอหย๋า จากคำเหล่านี้ เขายังคงต้องเอาชนะเด็กหนุ่มหน้าสวยผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว!
สายตาของถังเทียนสำรวจไปยังอวี๋หมิงชิวเบื้องหน้าเขาปราศจากความยั้บยั้ง ราวกับเขาจ้องมองไปยังเหยื่อ เขาจะต้องทุบตีบุคคลที่โอ้อวดเบื้องหน้าของเขาเพื่อฉลองให้กับความรู้สึกอันยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ของบุรุษหนุ่มถังและคุณหนูเชียนฮุ่ยที่มีต่อกันและกัน!
ฮู่ ถ้าเชียนฮุ่ยอยู่ที่นี้ ข้าคิดว่านางคงจะยกดาบของนางและโจมตีไปแล้ว...
ถังเทียนกระตือรือร้นที่จะลองดู
อวี๋หมิงชิวพลันหัวร่อออกมาอย่างดัง “บุรุษของซางกวนเชียนฮุ่ย ที่แท้ก็เป็นแค่คนบ้า! ข้าสามารถบอกได้เลยว่าสายตาของนางช่างแย่อย่างยิ่ง ดอกไม้ที่เติบโตมาจากกองดินโคลน เฮอะๆ ถ้างั้นข้าจะสังหารบุรุษของนางก่อน และจากนั้นจะดูแลนางอย่างดี…”
ขณะที่เขายังกล่าวไม่จบเขาก็ต้องหยุดชะงัก
ถังเทียนพุ่งไปยังเขาและตะโกนอย่างภูมิใจด้วยใบหน้าที่ร่าเริง “หยุดไร้สาระได้แล้ว! หนุ่มหน้าสวย! บุรุษหนุ่มเทพผู้นี้รำคาญแล้ว!”
อวี๋หมิงชิวสั่นสะท้าน ช่างรวดเร็วนัก!
เขาเคลื่อนร่างของเขาและหลบหมัดของถังเทียน
ก่อนที่จะทรงตัวของเขาได้ แรงลมก็พวยพุ่งมาจากเบื้องหลังเขา อวี๋หมิงชิวตกใจและเขาก็รีบเร่งหลบอีกครา
เขารวดเร็วขนาดนี้ได้เยี่ยงไร...
อวี๋หมิงชิวเกิดอาการสับสน
พรึบ เงาร่างปรากฏเบื้องหน้าของเขาปราศจากการเตือนอันใด มันช่างใกล้ถึงขนาดที่เขาสามารถแตะปลายจมูกของเขาได้เลย!
หัวใจของอวี๋หมิงชิวท่วมท้นไปด้วยความตกใจ เขาใช้ออกนิ้วของเขาราวกับเขาเร่งรีบในทันทีและพลังก็เข้าสู่ร่างของเขาทะลุผ่านร่างไปอย่างแนบเนียบ
มีบางอย่างผิดปกติ!
เปรี้ยง!
เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงด้านหลังของเขาราวกับมันถูกฟาดอย่างหนักด้วยขวาน กำลังพลังอันแข็งแกร่งทะลุผ่านร่างของเขา เขากรีดร้องแต่เขาก็หยิบยืมกำลังนี้และพุ่งไปข้างหน้าเพื่อตีตัวออกห่าง.
ช่างเป็นปราณแท้จริงที่ประหลาดนัก!
อวี๋หมิงชิวยืนขึ้นอีกครา ขึงตาของเขาไปยังถังเทียนขณะที่เขาเหยียดฝ่ามืออกและกวาดเช็ดโลหิตที่มุมปากของเขา
ทุกผู้คนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าสายตาของพวกเขา อวี๋หมิงชิวผู้ที่ดูดุร้ายและแข็งแกร่งที่สั่นสะเทือนโลกหล้า ในตอนนี้ได้ถูกทำให้บาดเจ็บโดยบุรุษหนุ่มแปลกหน้า
เหล่าศิษย์ของตระกูลซางกวนต่างตื่นเต้น ช่างเป็นลูกเขยที่แข็งแกร่งนัก...
“แท้จริงแล้วเขาก็มีดีอยู่” อวี๋หมิงชิวกล่าว “แต่มันก็แค่นั้น”
เขายกฝ่ามือของเขาขึ้น
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ