ตอนที่แล้วAST บทที่ 99 - นักปรุงยาผู้มีพลังอันสูงส่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 101 - ความงามที่แสนเงียบสงบ

AST บทที่ 100 - ความผิดหวังของอวี้เหอ


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique/

 

บทที่ 100 - ความผิดหวังของอวี้เหอ

 

ชิงสุ่ยมักจะเหมอลอยทุกครั้งที่เขาเดินดูปลาที่ว่ายน้ำอยู่ในทะเลสาบ ในความเป็นจริงตอนนี้ เวลาก็ผ่านไปกว่า 2 เดือนแล้ว ย่างเข้าสู่เดือนเมษา ดอกไม้ผลิบานทุกหนแห่ง สภาพแวดล้อมทั้งหลายเริ่มเจริญหูเจริญตายิ่งขึ้น(WTF แล้วไหนเหวินเหรินอูซวงตรูละ)

 

ต้นลูกแพรแน่นขนัดไปทั่วลานกว้าง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยดอกหิมะขาว และกลิ่นหอมที่รัญจวนใจส่งตรงไปยังจมูกของชิงสุ่ย มันทำให้เขานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ร่มรื่นและสนุกสนาน ฝูงผึ้งต่างบินตอมดอกไม้นานาพันธุ์ ชิงสุ่ยมองไปยังฝูงผึ้งและฝูงชนที่วุ่นวายภายนอกประตู อารมณ์ของเขาก็เริ่มสงบลง

 

ฝูงชนและฝูงสัตว์พาหนะต่างพึ่งพาอาศัยเกื้อกูลกัน ทั้งสองอย่างต่างเติมเต็มชีวิตให้แก่กัน

 

"เจ้ายังคงคิดถึง พี่สาวอวี้แสนสวยอยู่สินะ"ชิงสือกล่าวด้วยน้ำเสียงที่รื่นเริง

 

ชิงสุ่ยมองไปยังชิงสือและหัวเราะออกมา " ทำไมเจ้าไม่ไปหาสาวน้อยเซี่ยงหยวนล่ะ?"

 

ชิงสุ่ยเพิ่งรู้เมื่อเร็วๆนี้ว่าชิงสือนั้นชอบเซี่ยงหยวน เด็กน้อยผู้มีหน้าอกที่ใหญ่มหึมา ชิงสุ่ยไม่รู้เลยว่าเขานั้นที่เก็บความลับได้อย่างหนาแน่น เขาได้ใช้เวลาช่วงชีวิตบางช่วงอยู่ด้วยกันกับเซี่ยงหยวน ได้ถึงกระนั้นชิงสุ่ยก็ไม่ทราบถึงความก้าวหน้าของพวกเขาเลย

 

"สาวน้อยเซี่ยงหยวนอะไรกัน? เธอนะอายุ 18 ปีแล้ว แต่เจ้านี้ช่างแปลกนักเหตุใดกันที่เจ้าถึงสนใจผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ หรือมันเป็นเพราะว่าท่านน้ากระทำชำเราเจ้า"ชิงสือกล่าวพร้อมกับ เสียงหัวเราะที่ชั่วร้าย"

 

ชิงสุ่ย "......................"

 

ในยามราตรี ชิงสุ่ยก็กลับเข้าไปในดินแดนยกยุพราชอมตะเพื่อที่จะกลับไปยังจ้องมอง ทะเลสาบที่เดิม เขาสังเกตเห็นว่าจำนวนปลาสีดำนั้นเพิ่มมากขึ้น และยังคงเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ ตัวที่ใหญ่ที่สุดนั้นใหญ่กว่าเท้าของเขาเล็กน้อย แต่ตัวอื่นขนาดก็ไม่ได้ต่างกันมาก และปลาเหล่านี้ก็ดูแข็งแรงและว่องไวมากขึ้น

 

จำนวนเขาดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้ขนาดเท่าอ่างล้างหน้า ส่วนตัวที่เล็กที่สุดก็ยังคงขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟ หากไม่ดูแลระวังให้ดีมันอาจจะกลายเป็นอาหารให้กับปลาดำได้

 

ในตอนนี้ทั้งเต่าและปลาสีดำดูเหมือนจะเริ่มสั่งหารกันเอง ทั้ง 2 ฝั่งต่างกำลังพยายามร้านเหล้าลูกหลานของอีกฝั่งหนึ่ง แต่ตัวเลขจำนวนนั้นก็ยังคงเพิ่มขึ้น แต่เดิมนั้น เต่ามีเพียงแค่ 200 ตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับเพิ่มขึ้นนับพันตัว ส่วนปลาดำจำนวนของพวกมันนั้นมากเกินกว่าที่จะนับได้ คงจะซักประมาณ 10000 กว่าตัว เพราะทั้งทะเลสาบแห่งนี้นั้นดูเหมือนจะเต็มไปด้วยปลาดำ

 

"มันเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ตอนนี้โรงเตี๊ยมอวี้เหอคงจะสามารถเพิ่มซุปเต่าลงไปในรายการอาหารได้แล้ว!!!"ชิงสุ่ยมองดูกลุ่มเตาขนาดใหญ่ พลันเผลอรำลึกถึงตอนที่เขาดื่มซุปเต่ากับสือฉิงจวง มันทำให้เขาเริ่มอยากดื่มมันอีกครั้ง

 

แม้ว่าเขานั้นจะสามารถโคจรพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลได้ถึง 48 รอบแล้ว มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสบายใจเลย เขายังคงฝึกฝนมันทุกวันแม้ว่าจำนวนรอบจะไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ความแข็งแกร่งและความบริสุทธิ์นั้นจะมองเห็นได้ชัดเจน

 

เขานั้นเคยประสบความสำเร็จมาแล้วกับการใช้เคล็ดวิชากระบี่ ซึ่งมันทำให้เขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้ง่ายยิ่งขึ้น ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในเคล็ดวิชากระบี่บวกกับผลประโยชน์ที่ได้รับจากหมัดอสูรสันโดษ มันทำให้เขารู้สึกว่าพลังเหล่านั้นคือสิ่งที่ฟ้าประทานให้เขา มันจะทำให้เขาประสบความสำเร็จในการเรียนรู้รูปแบบการใช้เคล็ดวิชากระบี่

 

สำหรับการปรุงยา ในแต่ละวันชิงสุ่ยใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการกลั่นยา เขาได้ปลูกสมุนไพรมากมายเต็มบริเวณพื้นที่  สมุนไพรบางประเภทสามารถเติบโตได้นับพันพันปีและขยายพันธุ์ได้เอง เขาจึงได้รับสมุนไพรมากมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

เนื่องจากชิงสุ่ยได้เห็นถึงพลังของเข็มสยบลิขิตฟ้าแรกเริ่ม เขาจึงใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งในการคอยทบทวนพวกมัน และ เคล็ดวิชาเปลวเพลิงบรรพกาลหยิน-หยาง ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆเพราะเขานั้นต้องใช้มันในการกลั่นยา

 

หลังจากที่เขาได้กินผลเสริมความว่องไวเข้าไป 2 คนแล้ว และเคล็ดวิชาก้าวไร้วิญญาณที่ได้แปลเปลี่ยนเป็นเคล็ดวิชาก้าวขจัดวิญญาณ มันได้เพิ่มทั้งความเร็วและความว่องไวจนทำให้เขารู้สึกได้ว่าการพัฒนาความแข็งแกร่งในร่างกายของเขานั้นจะสามารถพัฒนาไปได้เรื่อยๆราวกับว่ามันไม่มีจุดสิ้นสุด

 

เกี่ยวกับผลเสริมความว่องไว ชิงสุ่ยยังเหลือผลไม้นี้อีก 6 ผล "มันทำให้ข้าคิดหนักยิ่งหนัก ข้านั้นต้องการให้แม่ของข้า 2 ผล และข้ายังต้องการให้เหวินเหรินอูซวงอีก 2 ผลเพื่อช่วยเธอแข็งแกร่งยิ่งขึ้น"

 

"แต่มันยังเหลืออีก 2 ผลสุดท้าย  ข้าควรเก็บให้อวี้เหอ 2 ผล หรือว่าให้ อวี้ต่งห่าว 2 ผล หรือว่าให้คนละ 1 ผลดี?"ชิงสุ่ยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ มันจะมีน้อยเกินไปแล้วไม่เพียงพอสำหรับทุกคน

 

ตอนนี้ชิงสุ่ยกำลังมองผงยาบรรเทาทองคำจำนวนมากที่เขาได้สร้างขึ้นจากการปรุงยา ไปเขานั้นไม่รู้เลยว่ายาตัวนี้ทำงานได้ดีเพียงใด เขานั้นอยากรู้ประสิทธิภาพของมันมาก แต่เขาก็ต้องเลิกคิดเกี่ยวกับมันไป หากวันไหนเขาบาดเจ็บ เขาคงจะใช้โอกาสนั้นลองใช้มันสักครั้ง

 

ชิงสุ่ยตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น และเริ่มฝึกฝนการโคจรพลังบาลานจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลครั้ง 48 รอบอีกครั้ง ก่อนที่เดินตรงไปยังห้องแม่ของเขา

 

ชิงสุ่ยมักจะตื่นขึ้นมาในยามเช้าตรู่ เพื่อเตรียมอาหารและออกกำลังกายตอนเช้า ในตอนนี้เขามักจะกินปลาดำหรือซุปเต่าทุกครั้งเป็นอาหารเช้า เขาพบว่าหลังจากกินพวกมันเข้าไป มันทำให้ร่างกายของเขาพัฒนาดีขึ้น

 

ชิงสุ่ยเปิดประตูห้องแม่ของเขา เพื่อนำผลเสริมความว่องไว 2 ผลไปให้แม่ของเขา

 

"ผลวายุกระจ่าง? ชายชราโบราณคนนั้นให้มันกับลูกอีกแล้วหรือ?"

 

ชิงสุ่ยยิ้มพร้อมทั้งพยักหน้า "ลูกไม่รู้จะตอบแทนเขาอย่างไร ชายชราโบราณคนนี้ช่วยลูกไว้มากมายจริงๆ"

 

ชิงอี้รับผลเสริมความว่องไวไปพร้อมมองชิงสุ่ยด้วยความประหลาดและทำถามออกมาว่า "ลูกได้กินมันทั้งสองผลหรือยัง? มันจะช่วยให้ลูกเคลื่อนที่ได้เร็วยิ่งขึ้น"

 

โดยไม่ต้องกล่าววาจาใดๆ ชิงสุ่ยลองเดินรอบรอบบริเวณนั้นด้วยความเร็วสูงสุด มันทำให้ร่างกายของเขานั้นจางลงเหลือไว้เพียงเงา

 

ในตอนนี้ชิงอี้รับผลเสริมความว่องไวมาทั้งสองผล พร้อมทั้งส่งรอยยิ้มให้กับชิงสุ่ย อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้ถามคำถามใดๆ

 

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ชิงสุ่ยเริ่มลงมือกลั่นสมุนไพร ภายในที่พักของตระกูลชิง เขายังคงทำสิ่งที่น่าเบื่อต่อไป ทั้งการใช้ทดลองใช้ไฟประเภทอื่นๆและการคัดสรรส่วนผสมที่ลงตัว  ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อผลลัพธ์ที่เขาต้องการนั่นคือค่าแถบประสบการณ์เท่านั้น

 

"ทำไมอัตราการล้มเหลวถึงสูงยิ่งนักเมื่อข้าไม่ได้ใช้ไฟจากเคล็ดวิชาเปลวเพลิงแรกเริ่ม"ชิงสุ่ยประสบความล้มเหลว 5 ครั้งติดต่อกัน และในครั้งสุดท้ายมันทำให้หม้อต้มน้ำของเขาระเบิดออก

 

ขณะที่เขาจ้องมองซากของหม้อน้ำที่เขาเคยใช้ในการกลั่นยา เขาตระหนักได้ว่าคนที่ขายหม้อกลั่นยาเหล่านี้จะต้องมีความสุขเป็นแน่ แม้ว่าต้นทุนในการซื้อหม้อกลั่นยานั้นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเหล่านักปรุงยาฝึกหัด แต่เขาค่อนข้างรู้สึกเสียใจที่อาชีพนักปรุงยาเป็นอาชีพที่เผาผลาญเงินเป็นอย่างดี ยิ่งนักปรุงยาเพิ่มมากขึ้นเงินทองที่ใช้ในการฝึกฝนยิ่งต้องเพิ่มขึ้นมากด้วย

 

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ชิงสุ่ยก็ตัดสินใจไม่ฝึกฝนมันต่อ เพราะยังไงซะเขาก็มีดินแดนหยกยุพราชอมตะ ที่ทำให้เขามีเวลามากกว่าคนอื่นหลายหลายเท่า

 

เขาแวะไปที่สวนร้อยโอสถ และเริ่มรดน้ำต้นสมุนไพรโดยใช้น้ำจากทะเลสาบคริสตัลที่อยู่ในดินแดนห้วงมิติของเขา ในตอนนี้ชิงสุ่ยรับผิดชอบดูแลสมุนไพรทั้งหมดในสวนร้อยโอสถ เพราะชิงสุ่ยเคยกล่าวไว้ว่าชายชราโบราณคนนั้นได้สอนเขา  2-3 วิธีในการดูแลเหล่าพืชสมุนไพร และตอนนี้สมุนไพรภายในสวนร้อยโอสถก็พัฒนาดีขึ้นทางด้านคุณภาพและรูปลักษณ์ ดังนั้นหน้าที่รับผิดชอบทั้งหมดภายในสวนร้อยโอสถจึงถูกยกให้กับชิงสุ่ย

 

ทางด้านของอวี้ต่งห่าว เขานั้นมักจะได้กินปลาดำที่มาจากดินแดนห้วงมิติ มันทำให้ร่างกายของเขาฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาดคิดไว้ ซึ่งอีกหลายคนที่ได้กินต่างก็สรุปเป็นเหตุผลเดียวกัน ทุกคนที่กินปลาดำจากโรงเตรียมอวี้เหอ โดยเฉพาะคนที่กินมันบ่อยๆ ทุกคนต่างพบว่าลักษณะทางกายภาพของพวกเขานั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มันยิ่งทำให้โรงเตี๊ยมอวี้เหอมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไปอีก

 

ในตอนนี้ คนที่คิดร้ายต่อโรงเตี๊ยมอวี้เหอก็ลดจำนวนลงมาก เมื่อได้ยินข่าวคราวเรื่องที่ อวี้ต่งห่าวกำลังจะหายจากอาการเจ็บป่วย

 

แม้ลูกหลานในตระกูลอวี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำตระกูลอวี้คนปัจจุบัน เริ่มฟื้นคืนความเชื่อมั่นที่พวกเขาเคยมีเมื่อสิบปีที่แล้วกลับมา แต่ถึงกระนั้นบุตรชายจำนวนมากของคนที่อยู่ภายใต้ตระกูลอวี้ก็เริ่มก่อปัญหาตามท้องถนน หรือแม้กระทั่งกลั่นแกล้งฉุดกระชากเหล่าอิสตรีอย่างหน้าไม่อาย

 

ในตอนนี้พวกเขาได้คนผู้ทรงพลังกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าลูกหลานไร้ความสามารถ พวกเขาก็ไม่ต้องทำงานลำบากอีกแล้ว เพราะในเมื่อตอนนี้ผู้ทรงอิทธิพลในตระกูลได้ฟื้นพลังกลับคืนมาแล้ว

 

แต่ก่อนนั้น ตระกูลที่หยิ่งผยองมากที่สุดในเมืองร้อยไมล์ คือตระกูลซือถู และ ตระกูลเซี่ยง ในตระกูลซือถูนั้นคนส่วนใหญ่ในตระกูลต่างบรรลุในระดับโฮ่วเที่ยน อีกทั้งยังมีนักปรุงยาไหลผู้ที่อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นก็จะบรรลุระดับเทวะเซียนเทียน ส่วนในตระกูลเซี่ยงนั้นมีชายคนนึงนามว่า เซี่ยงหลาง ซึ่งอยู่ในกลุ่มรุ่นเยาว์ที่ 3 ซึ่งเมื่อต่อสู้กันตามกฎของเมืองร้อยไมล์แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือชายคนนี้กลับสามารถรับมือได้คนทั้ง 3 รุ่นได้อย่างง่ายดาย โดยที่กลุ่มคนรุ่นที่ 1 นั้นไม่อาจโจมตีเขาได้เลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อหนึ่งในสี่ของตระกูลเริ่มมีผู้บรรลุพลังในระดับเทวะเซียนเทียน กฎที่ตั้งขึ้นมานี้จึงไม่เพียงพอที่จะควบคุมมันได้อีก แต่อย่างน้อยความแข็งแกร่งของเขานั้นคือของจริง

 

แต่ทั้งหมดนี้ต่างไร้อิทธิพลกับชีวิตของชิงสุ่ย วิสัยทัศน์ของชิงสุ่ยนั้นไม่ได้อยู่แค่ในเมืองร้อยไมล์แห่งนี้ แต่เขานั้นมองครอบคลุมทั้งหมดผืนนภา เมื่อไหร่ที่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขานั้นสามารถก้าวข้ามผ่านระดับที่ 4 ของเคล็ดวิชากายาบรรพกาล เขาจะออกเดินทางไปทั่วโลกเก้าทวีป เขาจะไปเยือนทุกที่ ที่มีชื่อเสียงและงดงาม พร้อมท้าทายทุกสำนัก ทุกตระกูล และจะไคว้ขว้าสาวที่งามที่สุดบนโลกในนี้มาครอง

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขานั้นยังคงทำได้เพียงกลั่นยาบรรเทาทองคำ และคงอีกนานมากที่เขาจะสามารถทำลายกำแพงสู่ระดับขั้นที่ 4 ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็พอใจในชีวิตที่เขามีอยู่ในปัจจุบัน เขายังคงฝึกตนในทุกๆวัน และใช้เวลาอีกกว่าครึ่งวันเดินไปตามสถานที่ต่างๆ ค่อยเสาะหาซื้อขายสินค้าสมบัติอันล้ำค่าหายากให้กับ ชิงสือและชิงฉาน มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกไม่ดีนั้นคือมี เหล่านักเลงรุ่นเยาวร์ต่างคอยท้าทายเขามาตลอด

 

แต่ตั้งแต่ที่ชิงสุ่ยเอาชนะคู่ต่อสู้มาได้ตลอด มันยิ่งทำให้เขานั้นมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไปอีก มันจึงทำให้ตอนนี้ไม่มีใครกล้าที่จะท้าทายเขาอีกแล้ว

 

หลังจากที่ชิงสุ่ยทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ออกไปข้างนอก และในเวลาอีกไม่นาน เขาก็ได้พบเจอกับ อวี้เหอโดยบังเอิญ มันทำให้เขารู้สึกพอใจมากยิ่งขึ้น กับรูปโฉมความงามแบบผู้ใหญ่

 

"ท่านช่างดูร่าเริงแจ่มใสยิ่งนัก รอยยิ้มของท่านนั้นราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน ทำไมท่านถึงมีความสุขได้ขนาดนี้"ชิงสุ่ยยิ้มขณะถามอวี้เหอ

 

หลังจากได้ยินคำชมของชิงสุ่ย อวี้เหอก็ส่งสายตาพร้อมรอยยิ้ม เธอร่วมมือของเธอไปอีกแก้มบนใบหน้าที่หล่อเหลาของชิงสุ่ย "ข้าเป็นอิสระแล้ว เมื่อคนในครอบครัวของสามีฆ่าได้ยินเกี่ยวกับการฟื้นคืนพลังของท่านปู่ของข้า พวกเขาก็เริ่มที่จะปล่อยข้าในทันที

 

"ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย ในอนาคตท่านจะต้องพบสามีที่เหมาะสมและคู่ควรกับท่านแน่นอน แล้วท่านก็อย่าลืมชวนข้าไปงานแต่งงานของท่านด้วย"ชิงสุ่ยเราอย่างจริงจังพร้อมรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้า

 

อวี้เหอยืนอึ้งอยู่ชั่วขณะก่อนที่เธอจะกล่าวอย่างมีความสุขว่า "แน่นอนได้สิ"

 

ชิงสุ่ย มองไม่เห็นสายตาแห่งความผิดหวังที่อยู่เบื้องหลังสายใต้ความสุขของอวี้เหอ มันทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าถูกมีดแหลมคมกรีดแทง

 

เธอเริ่มหันมองไปรอบๆก่อนที่เธอจะกล่าวว่า "ข้ามีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องไปดูแล"

 

อวี้เหอหันหน้ากลับก่อนที่จะเดินจากไป  ในช่วงเวลาที่เธอก้าวไปนั้น น้ำตาเริ่มไหลลงมาอย่างหนัก " ทำไมข้ายังคาดหวังว่าเขาจะเป็นชายคนนั้น ในเมื่อตอนนี้ข้ารู้ชัดเจนแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้? ทำไมหัวใจของข้ายังยังเจ็บปวดแต่เมื่อข้ารู้ผลของมันอยู่แล้ว? เขานั้นเป็นดั่งมังกรที่จำศีลอยู่บนดิน และสักวันหนึ่งโชคชะตาจะนำพาเขาไปสู่ท้องฟ้าแสนไกล"

 

อวี้เหอไม่รู้ว่าทำไมภายในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยชิงสุ่ย หรือมันจะเป็นเพราะตอนที่เขาจูบเธอ? หรือเป็นเพราะตอนที่เขาใช้ประโยชน์จากเธอและหว่านล้อมด้วยคำพูดวาจาอันแสนหวาน? หรือบางทีมันอาจเป็นเพราะเขาได้ช่วยปู่ของเธอฟื้นคืนความแข็งแรงอีกครั้ง?

 

อวี้เหอรู้สึกสับสน ในตอนนี้ เธอนั้นได้จดจำในคำที่ไม่อยากจดจำ มันเป็นคำที่เขาวิจารณ์เรืองจริงจังออกมาว่า "ในอนาคตท่านจะต้องพบสามีที่เหมาะสมและคู่ควรกับท่านแน่นอน แล้วท่านก็อย่าลืมชวนข้าไปงานแต่งงานของท่านด้วย" มันแถบจะฉีกหัวใจของเธอออกจากกันเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น

 

***************ชิงสุ่ยเจ้าช่างเป็นคนใจร้ายยิ่งนักกกก สงสัยอวี้เหอจะนกแล้วสินะ *****************

 

***************เรื่องของเหวินเหรินอูซวง ชิงสุ่ยจะได้รู้ในอีกไม่กี่ตอนข้างหน้านี้ ว่าทำไมถึงไม่ได้รับข่าวคราวเลย ฮืออออ 55555******

0 0 โหวต
Article Rating
12 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด