ตอนที่แล้วLSG-บทที่ 50: ลูกผู้ชายสิบปีแก้แค้นก็ยังไม่สาย (อ่านฟรีวันที่13กรกฏา)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปLSG-บทที่ 52: ช่วยข้าด้วยศิษย์พี่ (อ่านฟรีวันที่17กรกฏา)

LSG-บทที่ 51: เจตนาฆ่าอำพราง (อ่านฟรีวันที่15กรกฏา)


LSG บทที่ 69

แปลไทยโดย : SwordGod

บทที่ 51: เจตนาฆ่าอำพราง

ไม่มีอะไรในพื้นที่ใหม่ที่อาจถูกซ่อนไว้โดยทุ่งหญ้ายกเว้นต้นไม้ที่พบได้ทั่วไป

เมื่อซูหยุนสะดุดกับต้นไม้สูงมันรีบกระโดดขึ้นกระโดผ่านกิ่งก้านต้นไม้ไปสองสามก้าว มันใช้ความหนาแน่นของพุ่มไม้ซ่อนอำพรางตัว

ไม่นานหลังจากนั้นบริเวณที่มีการระเบิด ก็ปรากฏในธารสายตามัน

มีพื้นที่เปิดโล่งอยู่ในป่าเล็ก ๆ แต่ดูเหมือนว่าที่แห่งนี้จะถูกรื้อถอนกวาดออกไปจนหมดสิ้น มีสาวกสองกลุ่มกำลังยืนประจัญหน้ากันอยู่ในพื้นที่โล่ง ทุกคนชักกระบี่ออกมา สายตาของพวกเขาตื่นตัวและดุดันขณะที่จ้องหน้ากัน

บนพื้นมีศพหลายร่างนอนอยู่ บริเวณนี้เป็นที่ราบลุ่ม แต่ไม่มีร่องรอยของการสู้กันมากนัก เห็นได้ชัดว่าการปะทะกันจริงๆยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น เห็นแต่หน้าไม้และอาวุธ มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะอีกไม่นาน การต่อสู้ที่รุนแรงกำลังจะอุบัติขึ้นแล้ว

"หยุดน่ะ!"

ดวงตาของซูหยุนพลันกระตุกขึ้นหันไปมองกลุ่มคนสองคนที่เดินเข้ามา

ซูซินเยี่ย และ ซูซิงหยาง?

ซูซินเยี่ย สวมชุดกระบี่ธรรมดาและถืออาวุธของพ่อเฒ่าชิหลง,ดาบซืออูฮวาไป่ 白绣花 บนไหล่ขวาของนางมีแผลดาบ ดูเหมือนเลือดยังไม่หยุดไหลจากบาดแผล ใบหน้าสีขาวกระจ่างดุจข้าวสาลีซีดเหมือนแผ่นกระดาษตอนนี้

ชุดของ ซูซิงหยาง ก็เรียบง่ายเช่นเดียวกัน มือของมันถือค้อนขนาดใหญ่น่าเกรงขามมากๆ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้บาดเจ็บน้อยๆ ท้องของมันมีเลือดไหลออกมาในขณะที่อีกหลายๆส่วนของร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยบาดแผล ดูเหมือนมันจะมีประสบการณ์มากมายในการต่อสู้

ผู้ที่กำลังนำ ซูซิงหยาง และ ซูซินเยี่ย เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา มันเป็นคนสูงมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนใบหน้าของมัน แต่ว่าดูฉลาดและมีเสน่ห์ มันสวมเสื้อคลุมสีขาว นอกจากนี้มันยังไม่ได้ใช้กระบี่ของมันเพราะมันยังเหน็บไว้อยู่บนเอวของมัน ท่าทางของมันยังคงสุขุมมาก

ข้างกายของมันมีสาวกสาวผมยาวยืนอยู่ที่ดูเหมือนรุ่นเยาว์ หลังจากมองคนเหล่านี้ซูหยุนคิดว่าพวกมันดูคุ้นตา

"ช่วงเวลานี้ผู้ชายคนนั้นกักพลังวิญญาณไว้ ดูจากท่าทางมันแล้วมันน่าจะตั้งใจ ไม่สามารถเดาความตั้งใจของชายคนนี้ออกได้เลย มันอาจจะเป็นสาวกขั้นผลิวิญญาณ อย่างไรก็ตามป้ายที่แขวนอยู่บนเอวของมันชัดเจนแล้วว่า มันเป็นเครื่องของสาวกภายนอก สาวกคนนี้ ... . มันเป็นใคร? "

ขณะที่ซูหยุนพูดกับตัวเองจ้องไปยังกลุ่มสาวกตรงข้าม

มันไม่คาดคิดเลยว่ามันจะรู้จักสาวกบางคนจากกลุ่มนี้ด้วย

ซูหนานอี้!

ตอนนี้มันเปลี่ยนเกราะป้องกันตัวสีดำบริสุทธิ์ พร้อมด้วยอาวุธกระบี่ของมันที่มีราคาแพงและสายตาของมันที่เพ่งมองเจาะทะลุทะลวงเข้ามาด้วยจิตสังหาร

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่คนที่มีสถานะที่แข็งแกร่งที่สุด สาวกที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ด้านหน้าของมัน มันสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาลและเตี้ยกว่าซูหนานอี้นิดหน่อย

ทั้งสองมือของชายคนนั้นถืออาวุธยุทธภัณฑ์ มันดูมั่นใจมาก ขณะที่มันจ้องอีกฝ่าย สายตาของมันเต็มไปด้วยความรังเกียจ ราวกับว่าคนที่อยู่ด้านหน้าของมันไม่ได้อยู่ในสายตามันเลย

นอกจากนี้มันยังมีบุคลิกที่เย่อหยิ่งเพราะมันเป็นสาวกจากสำนักภายใน

ระดับการเพาะของมันอย่างน้อยๆก็อยู่เหนือ สาวกผลิวิญญาณ ขั้นที่ 1 แน่ๆ

"ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย เอาผลึกหยกโลหิต ทั้งหมดของพวกเจ้าออกมาและนำเงินออกมาด้วย ถ้าไม่อย่างนั้น ... . รอบ ๆ ต้นไม้นี่ จะกลายเป็นหลุมฝังศพของแก! " สาวกสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาลตะโกน

"ถ้าพวกเราไม่ให้ล่ะ?" สาวกด้านหน้าอีกกลุ่มกังวลใจมาก

"ไม่ให้น่ะหรอ?" นัยน์ตาของสาวกที่สวมชุดคลุมสีน้ำตาลลุกโชนขึ้นมาอย่างน่ากลัว โดยไม่มีการเตือนใด ๆ กลุ่มของมันได้คลื่นไหวทันที

"ถ้างั้นก็ไปลงนรกซ่ะ!" หลังจากที่มันตะโกนออกมา สาวกที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำตาลใช้อำนาจพลังวิญญาณของมันครอบคลุมฝ่ามือของมัน ฝ่ามือกลายเป็นกรงเล็บแหลมคมดั่งนกอินทรีและมันมีจุดมุ่งหมายที่เหยื่อของมัน สาวกสำนักภายนอกที่หล่อเหลา

มันเริ่มลงมือ และมันเป็นวิชาสังหาร

ทั้งๆที่มีความเหลื่อมล้ำระหว่างพลัง สาวกพื้นฐานวิญญาณ ขั้นที่10 และ สาวกผลิวิญญาณ ขั้นที่1 ความแตกต่างของพลังมันเป็นช่องว่างที่ขนาดใหญ่

สาวกของสำนักภายในทุกคนมีการบ่มเพาะ ระดับ ผลิวิญญาณ ขั้นที่ 1 หรือมากกว่านั้น สาวกทั่วไปจะสามารถเป็นคู่มือของพวกมันได้อย่างไร? ขณะที่มันกำลังจ้องหน้าคู่ต่อสู้ของมัน ซึ่งเป็นสาวกหนุ่มหล่อที่ยืนอยู่ด้านหน้าของกลุ่มตรงข้าม

ในขณะที่ชายเสื้อคลุมสีน้ำตาลพุ่งออกมาอย่างไม่มีควมลังเลใจเลย มันสะบัดแขนซ้ายของมันคว้าดาบขึ้นมาอย่างรวดเร็วหมายจ้วงแทงคู่ต่อสู้ของมัน รัศมีจิตวิญญาณที่แท้จริงไหลหลั่งออกมาดั่งสายธารน้ำที่ไหลทะลักลงสู่แม่น้ำแยงซีเกียง (Tl: แม่น้ำแยงซีเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน)

แต่ทว่าคู่ต่อสู้ของมันทยานเข้าไปอย่างไม่คาดคิด

การโจมตีอย่างรวดเร็วนี้ได้กระตุ้นให้สาวกคนอื่น ๆ ตื่นตัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน

สาวกสองคนของแต่ละกลุ่มกำลังสู้กันอยู่นั้น พวกที่เหลือจะมองอยู่เฉยได้อย่างไร? ทันทีหลังจากที่สองสาวกเริ่มสู้พวกที่เหลือทั้งหมดก็เข้ามาประจัญหน้ากันทันที

การต่อสู้เริ่มขึ้น สาวกแต่ละคนเปิดฉากห่ำหั่นกันอย่างชุลมุล

เมื่ออำนาจพลังวิญญาณของแต่ละคนถูกเปิดใช้งาน กลิ่นอายจิตวิญญาณก็ไหลทะลักทับซ้อนเหมือนดั่งสายน้ำนับสิบสายไหลมากระทบกัน มันดูสับสนอลม่าน สาวกที่หน้าตาหล่อเหลาระดับพื้นฐานวิญญาณ ขั้นที่10ได้ใช้วิชาระดับจิตวิญญาณ ของมันอย่างชำนาญ ปรากฏกลิ่นอายจิตวิญญาณของมันที่ทรงพลังอย่างน่าตกใจและน่าสะพรึงกลัว อย่างไรก็ตามสนามต่อสู้ทั้งหมดถูกอัดแน่นไปด้วยการปะทะกันอย่างจ้าระหวั่น

"ไอ้เวรตะไล พวกข้าจะเอาของที่เป็นของชอบธรรมของพวกข้า!" ซูหนานอี้พูดขึ้นในขณะที่มันจ้องหน้า ซูซิงหยาง มือของมันกวาดคมกระบี่พุ่งเข้าหาหัวของ ซูซิงหยาง

ขณะที่ใบมีดใกล้เข้ามา ผู้คนรอบๆข้างไม่กล้าเข้ามาใกล้

ซูซิงหยาง กัดฟันของมันเอาไว้ มันขมวดคิ้วแน่นขับเหงื่อไหลย้อยออกมา มันยกค้อนขนาดมหึมาของมันขึ้นมาปิดกั้นกระบี่อันหนักหน่วง

รัศมีกระบี่อันหนักหน่วงทับซ้อนกันตกลงมาเหมือนน้ำตกขนาดยักษ์เมื่อมันปะทะเข้ากับค้อนของมัน

ร่างทั้งร่างของซูซิงหยางสั่นสะท้านจากแรงเหวี่ยงที่ทรงพลังขณะที่มันแทบจะยืนไม่อยู่

“ท่านพี่! !”

ในขณะที่ซูซินเยี่ยเห็นฉากนี้นางก็ตกใจกลัวอย่างมาก นางรีบวิ่งไปหาเขาหวังจะป้องกันไม่ให้ ซูหนานอี้ ฆ่า ซูซิงหยาง

ทั้งๆที่พวกเขาทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บมากันก่อนแล้ว แต่ร่างกายของ ซูหนานอี้ ยังคงสมบูรณ์ดีอยู่ แม้ว่า ซูซินเยี่ย จะเข้ามา ซูหนานอี้ ก็ไม่สนใจ

"ข้าจะให้แกได้ลิ้มลองการโจมตีด้วยวิชาระดับศักดิ์สิทธิ์ด้วยวิชา กระบี่ตัดสวรรค์ 裂天剑术 ของข้า!" ซูหนานอี้ ขณะที่มันอัดอำนาจพลังวิญญาณของมันลงไปในใบมีด พุ่งตรงไปทาง ซูซินเยี่ย

ซูซินเยี่ย ไม่เคยเห็นวิชากระบี่ที่ทรงพลังอย่างนี้มาก่อน? นางตกใจจนเนื้อเต้นรีบหลบไปด้านข้างเพื่อหลบการโจมตีที่เข้ามาของ ซูหนานอี้

ซูหนานอี้ เห็นว่ามันสามารถผลัก ซูซินเยี่ย ออกไปได้แล้ว มันก็เริ่มโจมตีออกมาอย่างบ้าคลั่งไปทาง ซูซิงหยาง

ดูเหมือนว่า ซูหนานอี้ ฟันลงมาหนึ่งครั้ง กระแทกลงมาหนึ่งครั้ง ปลดปล่อยและสลัดเพียงหนึ่งครั้ง

ขณะที่กระบี่กระแทกลงที่ค้อนยักษ์อย่างรุนแรง มันดูเหมือนพลังมากมายหลายพลังปะทะเข้ากับร่างกายของ ซูซิงหยาง

ฉึก!!

ร่างของ ซูซิงหยาง พลันแข็งทื่อมันเปิดปากกระอักเลือดออกมา พลังของกระบี่ของคู่ต่อสู้ของเขากระจายอย่างรวดเร็วทั่วทั้งร่าง

สมน้ำหน้า!

นัยน์ตาของ ซูหนานอี้ ฉายแววออกมาทันที มันเตะ ซูซิงหยาง เข้าไปอีกทันที

ตูม!!

ซูซิงหยาง ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว จากการเตะครั้งนี้มันถูกบังคับให้ต้องถอยร่น ทำให้มันต้องสูญเสียการป้องกันของมัน

ทันใดนั้นนาง ซูหนานอี้ กระโดดขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวที่ยกกระบี่ ไม่สามารถบอกได้ว่ามันหนักกี่จิน ลอยสูงขึ้นไปในอากาศพร้อมกับตะโกนว่า "ตายไปซ่ะ!"

แรงกระบี่อันหนักหน่วง ฟาดลงมาอย่างรุนแรงประหนึ่งเหมือนน้ำป่าที่ไหลทะลักไปทาง ซูซิงหยาง

ซูซินเยี่ย หน้าซีด ร่างกายของนางซีดเซียว

 

ฟิ้ว!

ในช่าวน่าสิ่วหน้าขวาน มีใบมีดบินมาจากด้านข้างอย่างฉับพลันพุ่งเข้ามาราวกับพายุพัดโหมกระหน่ำ จิตวิญญาณแทรกซ้อนไหลเวียนผ่านอากาส สร้างเสียงกรีดร้องอันโหยหวน จุดมุ่งหมายของมันที่ชัดเจนมาก พุ่งตรงไปทาง ซูหนานอี้

มันเป็นความตกตะลึงอย่างฉับพลัน!

จู่ๆ ดวงตาของ ซูหนานอี้ ก็มืดลงและจังหวะการตีในปัจจุบันของมันก็หยุดลง มันรีบขยับกระบี่อันหนักหน่วงของมันขนาบเป็นแนวราบเพื่อป้องกันใบมีดบิน รัศมีจิตวิญญาณอันแรงกล้าพุ่งทยานเข้าไปหากระบี่หนัก ในขณะที่มันบินอยู่ หลังจากนั้น ซูหนานอี้ ก็หันใบมีดเพื่อต้านรับ ใบมีดบิน แต่แล้วจู่ๆใบมีดบินก็หักพุ่งขึ้นสู่ด้านบนกระทันหัน

แผนการ เสร็จสมบูรณ์

ขณะที่ ซูหนานอี้ ลอยกลับลงมาสู่พื้น มันก็ไม่กล้าโจมตี ซูซิงหยาง อีก มันหันไปรอบ ๆ ตรวจหาคนรอบตัวมัน จากนั้นมันก็ตะโกนว่า "ใครกล้าบังอาจ!?"

ถึงอย่างนั้นคนที่อยู่รอบๆตัวมัน ที่กำลังสู้กันอยู่ ไม่ได้สังเกตุเห็นมันเลยหรอ?

ในเวลานั้นเอง ซูซินเยี่ย รีบพุ่งไปและฟาด ดาบซืออูฮวาไป่ 白绣花ไปทางซูหนานอี้ อย่างรวดเร็ว นางเล็งไป ที่หัวใจของ ซูหนานอี้

ซูหนานอี้ ยกกระบี่หนักป้องกันเอาไว้

ซูซินเยี่ย รีบเข้าไปหาพี่ชายของนางอย่างเร่งรีบตะโกนว่า"ท่านพี่รีบออกไปเร็ว!"

"ข้าไม่ไป….ศิษย์...ศิษย์.ศิษย์.พี่เฉียนยังอยู่ที่นี่ จะให้ข้าหนีไปได้อย่างไรเล่า? " ซูซิงหยางพูดอย่างอ่อนระทวย ในขณะที่มันพยายามดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นยืน

"เจ้าบ้าไปแล้วหรอ เจ้าโดนโจมตีไปหลายครั้งแล้ว ตอนนี้เจ้ากำลังสู้อยู่กับ ซูหนานอี้ สาวกพื้นฐานวิญญาณ ขั้นที่ 10 นะ ท่านจะสู้กับมันได้ยังไง? ไปๆ! รีบไปซ่ะ! ข้าจะต้านมันไว้เอง! " ซูซินเยี่ย แผดเสียงออกมาด้วยน้ำตา

แต่น่าเสียดายทันทีที่นางพูดจบ ไหล่ที่ได้รับบาดแผลจากคมมีดของนางถูกเตะ ร่างทั้งร่างของนางลอยไปตกลงบนพื้นดิน นางกระอักเลือดอกมา

"น้องพี่!" นัยน์ตาของ ซูซิงหยาง ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

ท่ามกลางสนามรบ มันจะวอกแวะได้ หรอ? นอกจากนี้ ซูหนานอี้ ยังถือว่าเป็นสาวกชั้นสูงแห่งสำนักภายนอกของตระกูลซู ซูซินเยี่ย ไม่ได้มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับมันเลย ดังนั้น นางจึงเป็นเพียงสิ่งที่น่ารำคาญสำหรับมันเท่านั้น ดังนั้นนางจึงพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว

"โอ้..ข้าได้ยินมาว่าเจ้ารู้จักกับ ซูหยุน ดีนิ ในตอนแรกข้าได้ประมาทมันไปหน่อย ทำให้ข้าต้องพ่ายแพ้ต่อ ซูหยุน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าอ่อนแอกว่ามัน แต่แน่นอนว่าหนี้แค้นครั้งนี้ข้าจะคืนให้แก่มัน แต่ก่อนอื่นข้าจะดูแลพวกเจ้าเป็นอย่างดีเลย หลังจากนั้นก็จะเป็นคราของมัน! " ซูหนานอี้พูดด้วยสายตาฉายแววเย็นเฉียบ ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความมืดมัว

พลันมันกระทืบเท้าพุ่งเข้าไป ส่งพลังวิญญาณของมันอัดอำนาจพลังวิญญาณลงไปใบมีดของมัน มันฟาดตรงไปยัง ซูซิงหยาง และ น้องสาว ของเขา ดั่งพยัคฆ์คำรน

ทันใดนั้น

ฟิ้ว!

มันถูกบปกป้องโดยใบมีดบินอีกครั้ง ใบมีดอันปราดเปรียว ฟันลงไปที่ ซูหนานอี้

"วิชาส่งเดชนี่มันอะไรกัน?" อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่วิชาสุ่มๆหรอ! " ซูหนานอี้ไม่สนใจ มันหวดใบมีดบินแปลกๆกลับไป

แต่ในช่วงเวลาที่กระบี่หนักได้ฟันออกมา

"อะไรกัน?"

ซูหนานอี้ ใจหายตกใจวูบ โดยไม่ทันตั้งตัว ใบมีดบิน เจาะทะลุเข้าไปในอกของ ซูหนานอี้ ทันที

มันรีบถอยหลังกลับไป แต่ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว แม้จะมีชั้นหินหลายชั้นแผ่กระจายออกมารอบๆตัวของมัน หินพวกนี้ดูเหมือนจะเป็นเกราะป้องกัน แม้มันจะไม่มีชีวิต แต่มันก็กลืนไปกับร่างของ ซูหนานอี้ มันได้เปลี่ยนเขาเป็นรูปปั้นหิน

ขณะที่สาวกที่อยู่รอบข้างเห็นฉากนี้พวกมันต่างก็อึ่งและตกตะลึง

นี่มันเป็นวิชา ระดับศักดิ์สิทธิ์ ใดกัน?

ขณะที่ ซูเฉียน และสาวกสำนักภายใน ที่ใส่เสื้อคลุมสีน้ำตาลที่ได้เห็นสิ่งนี้ภายในใจของทั้งสองต่างตกใจจนเนื้อเต้น พวกเขารีบจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด แต่เนื่องจากเป็นการปะทะกันด้วยความเป็นและความตาย พวกเขาไม่อาจวอกแวะและหนีได้

ตูม! ! ! !

ขณะนั้นมีเงา ร่างหนึ่งกระโดดขึ้นมาบนยอดไม้แล้วมองดูการต่อสู้

สัมผัสที่แปลกๆนี้ ทำให้การต่อสู้ที่ ซูหนานอี้นำมาตั้งแต่ต้นจนจบ มันเริ่มลงมือ

สาวกคนอื่น ๆ ไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบโต้ภาพเงารางๆของใบมีดทั้งหมดพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว มันกำลังพุ่งตรงไปยัง ซูหนานอี้

"ไม่เข้าท่าแล้ว!" สาวกที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำตาลของสำนักภายในพูดขึ้น ขณะที่ใบหน้าของมันยับยู่ยี่อย่างฉุนเฉียวกล่าวว่า "ปกป้อง ซูหนานอี้!"

สาวกที่ติดตาม ซูหนานอี้ จากสำนักภายนอกเห็นอย่างนี้พวกมันก็กรูกันเข้ามาเพื่อปกป้อง

แต่ มันก็สายเกินไป

พวกมันเห็นได้แค่ภาพเงารางๆที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า ซูหนานอี้ ด้วยมือข้างหนึ่งที่จับด้ามดาบแทงผ่านหน้าอกของมัน จากนั้นมันก็ตวัดขึ้นผ่า ซูหนานอี้ ออกเป็นสองท่อน อย่างไร้ความปราณี

ซึบ!

เศษหินกระจัดกระจาย

ร่างกายของ ซูหนานอี้ ยังคงแน่นิ่งอยู่ มันยังรักษาภาพเดิมๆไว้อยู่ราวกับยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฟ่อ! ! ! !

ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งกระจายออกมา

แผลเหวอะหวะ แพร่กระจายออกจากหน้าอกของมันพุ่งขึ้นไปบนหน้าผากของมัน

สมองถูกผ่าออก หากว่านี่คือการตาย เชื่อได้เลยว่ามันคงจะตายไม่ได้อีก สมองมันไหลทะลักออกมาจากรอยแยก นัยน์ตาของมันเบิกกว้างมาก อย่างตื่นตะลึง!

พวกคนที่เหลือ ทั้งสองกลุ่ม รวมทั้ง ซูซินเยี่ย และ ซูซิงหยาง มองเห็นแค่ภาพเงาของใบมีดเท่านั้น เขาคว้าใบมีดอย่างรวดเร็วแล้ว อันตรธาน หายไปกับความมืดทันที

"ฮึ!" สาวกที่สวมชุดคลุมสีน้ำตาลโมโห แล้วออกไล่ตมมันไปทันที อย่างไรก็ตาม ซูเฉียน ไม่ได้เปิดโอกาสให้มันไล่ตามไป และปิดโอกาสอย่าสิ้นเชิง

ด้วยการตายของ ซูหนานอี้ ซูเฉียน ลดแรงกดดันลงไปมาก และสถานการณ์เริ่มเอนเอียงไปหามัน ...

0 0 โหวต
Article Rating
6 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด