ตอนที่แล้วตอนที่ 098 – กำแพงเปลวเพลิงนกยูง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 100 – จิ่งเหาโดนหลอก

ตอนที่ 099 – ความกดดัน


ตอนที่ 099 – ความกดดัน

 

เพียงหลังจากที่เอ้อร์จู้ล้มลงไปบนพื้น ทุกคนก็ต่างคืนสติของพวกเขา

บุรุษชุดดำและต้าอวี๋ หนึ่งคนไปทางซ้ายและอีกคนไปทางขวา โจมตีบีบเข้ามาไปยังถังเทียน มีดบินเสี่ยวลู่มิได้โจมตีในทันที แต่เฝ้ารออย่างอดทนถึงโอกาสของเขา

สตรีชุดดำหยิบเอาศรอีกอันออกมา แต่ยามเมื่อนางได้ยินเสียงจิ่งเหาแค่นเสียงเคลื่อนไหวไปข้างหน้าสองสามก้าวเขาก็แทบขั้นกลางระหว่างสตรีชุดดำและถังเทียน

สายตาจิ่งเหาจับจ้องไปยังคู่ต่อสู้อย่างจดจ่อ ศรเมื่อครู่นี้มันเป็นความผิดของเขา เขาจดจ่อไปยังเส้นทางหลบหนีของสตรีผู้นั้น แต่มิได้คาดคิดว่านางมิได้เป็นคู่มือของเขา นางสามารถที่จะก่อเกิดอันตรายรุนแรงต่อถังเทียนได้ ความผิดพลาดครานี้มันเพียงพอที่จะทำให้จิ่งเหารู้สึกอับอายอย่างยิ่ง ถ้าเขาทำผิดพลาดถึงสองครา งั้นเขาก็คงมิใช่จิ่งเหาแล้ว

หัวใจสตรีชุดดำหล่นวูบ วิชากระบี่ของจิ่งเหาแข็งแกร่ง และปัดป้องลูกศรของนางได้อย่างง่ายดาย ถ้ามันมิใช่เพราะว่าวิชาตัวเบาของนางแข็งแกร่งกว่าจิ่งเหาช่วงใหญ่ นางก็คงจะพ่ายแพ้แล้ว ลูกศรสองดอกที่เหลือ นางเพียงหวาดกลัวว่านางจะมิได้โอกาสที่สมบูรณ์แบบอีก

ในระหว่างพวกเขาทั้งสาม

จิตใจของนางสั่นสะท้านด้วยความไม่พอใจอย่างเงียบๆ นางมิใช่พวกมองโลกในแง่ดี

มรดกของกรงเล็บปีศาจหนง เขามีโชคขนาดไหนกันถึงได้สืบทอดมัน? และเมื่อเห็นความสามารถการต่อสู้ของถังเทียนแล้ว เขาน่ากลัวนัก และแม้แต่สตรีชุดดำก็มิได้มีความมั่นใจที่จะชนะ แต่สิ่งที่ประทับใจนางมากที่สุดคือ รูปแบบการต่อสู้ที่ความดุร้ายและรุนแรงของถังเทียน ในเรื่องนี้แม้กระทั่งจิ่งเหาก็ห่างไกลจากเขานัก

บุรุษหนุ่มเบื้องหน้าเขาเป็นประเภทบุรุษผู้บ้าคลั่งการต่อสู้ บุคคลประเภทนี้กำเนิดมาเพื่อการต่อสู้ มีเพียง… เจ้าเด็กนี้แท้จริงแล้วเขามาจากที่ใดกันแน่?

นางมั่นใจในแหล่งข้อมูลของนาง แต่นางมิเคยได้ยินเกี่ยวกับบุคคลที่แข็งแกร่งเช่นนี้จากสมาคมนักสู้แห่งแสงเลย

พวกเขาพบเจอปัญหาแล้วในวันนี้...

สถานการณ์การต่อสู้มันพลิกกลับไปจากที่นางได้คาดการณ์เอาไว้ แม้ว่าทั้งสามจะปิดล้อมเอาไว้ พวกเขาก็ต่างถูกกดดันโดยถังเทียน

วิธีการอันดุร้ายของถังเทียนมันราบเรียบและหมดจรด อัตราการโจมตีของเขาก็น่าทึ่งนัก ความเร็วการตอบสนองของเขายิ่งกว่าเรื่องน่าตกใจ แม้ว่าวิชาการต่อสู้ของเขาจะมิได้สูง ยามเมื่อเขาหลอมรวมวิชาการต่อสู้ของเขาทั้งหมด มันลื่นไหลอย่างมิคาดคิดและมักจะทำให้เขาได้เปรียบเสมอ

เมื่อเฝ้ามองเขาทำให้สตรีชุดดำสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัวและหัวใจของนางที่ตื่นตระหนก

สตรีชุดดำมิได้รู้ว่าหัวใจของนางที่ตื่นตระหนกจะมิได้เป็นเพียงคนเดียว แม้กระทั่งจิ่งเหาผู้ที่ซึ่งอยู่ด้านข้างนางก็ตื่นตกใจและตะลึงเช่นกัน

ดูคล้ายว่าคราวต่อไปที่ข้าจะประลองกับเจ้าเด็กผู้นี้ ข้าจะต้องระวังตัวไว้แล้ว… ข้าจะต้องมิให้เขาทุบตีข้าจนถึงจุดที่บ้าคลั่ง...

ถังเทียนลืมเรื่องของตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง และภาพของพลองและฝ่ามือที่ปรากฏเบื้องหน้าเขาก็มิได้ทำให้เขาหวาดกลัวเลย การบาดเจ็บเล็กน้อยที่เขาได้รับก่อนหน้านี้ แทบจะมิทำความเสียหายอะไรเขาได้ ถังเทียนตระหนักได้ว่าตราบเท่าที่เขากระตุ้นปราณแท้จริงมากไป เส้นชีพจรของเขามันรู้สึกราวกับถูกเชือดด้วยมีด และบุคคลทั้งสองเบื้องหน้าเขาก็ตั้งกระบวนท่าป้องกันอย่างระวังเช่นเดียวกันควบคู่กับมีดบินที่มิอาจคาดเดาได้ในช่วงเวลาสั้นๆถังเทียนมิสามารถที่จะทะลวงผ่านศัตรูได้เลย

นี่มันทำให้ถังเทียนโมโห

ความเจ็บปวดและขมขื่นที่ประสบจากตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ทำให้เขายับยั้งความโกรธภายในจิตใจของเขา การตายของบุรุษหัวล้านทำให้เขาหงุดหงิด และบุรุษถังแต่เดิมก็มิใช่บุคคลที่ใจเย็น การที่จะต้องใช้เวลามากมายและยังมิสามารถที่จะกระทำอันใดได้กับกระดองเต่าทั้งสองนี้ มันทำให้เขาโมโหยิ่งขึ้น

ในตอนนี้ เขาแม้กระทั่งบอกกล่าวกับวิญญาณของบุรุษหัวล้านบนสวรรค์ ว่าเขาจะต้องล้างแค้นให้เขาเป็นแน่!

ถังเทียนกราดเกรี้ยวอย่างมาก นี่มันมิใช่การผลาญพลังที่มากขึ้นงั้นหรือ? พวกเราจะได้รู้ว่าใครกันที่สามารถอยู่ได้นานที่สุด?

เขาเริ่มที่จะควบคุมการผลาญปราณแท้จริงของตัวเขา และใช้พลังกายของเขามากขึ้น ถังเทียนมีร่างกายที่แข็งแกร่ง และนั่นมันเป็นสาเหตุที่แท้จริงเบื้องหลังที่ทำให้เขาทนทานได้นานในการต่อสู้ เขายังคงสงวนปราณแท้จริงและมิได้ใช้ประโยชน์มัน และการผลาญพลังก็ลดลงในทันที ขณะปราณแท้จริงของคู่ต่อสู้มิสามารถทำลายการป้องกันของเขาได้และแทรกซึมไปภายในเส้นชีพจรของเขา

การโจมตีของถังเทียนมิได้เชื่องช้าลง แต่มันกลับเร็วยิ่งขึ้น

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!

ระหว่างทั้งสองฝ่าย เสียงระเบิดต่ำเริ่มที่จะกลายเป็นคมชัดและชัดเจนขึ้น

ดวงตาของสตรีชุดดำพลันสว่างวาบ นางสามารถบอกได้เลยว่าปราณแท้จริงของถังเทียนใกล้ที่จะหมดสิ้นแล้ว ปกติแล้วนางเป็นคนฉลาด หลังจากที่ขบคิดเล็กน้อยนางก็มีความคิดขึ้นว่าบ่อตันเถียนที่สี่เมื่อเทียบกับบ่อตันเถียนที่ห้าแล้วมันเล็กกว่ามาก และหลังจากที่การต่อสู้ยืดเยื้อ จุดอ่อนปราณแท้จริงของถังเทียนควรจะหมดสิ้นในมิช้านี้แล้ว

นั่นคือโอกาสอันแท้จริงที่จะได้รับชัยชนะ!

มันเพียงแค่...

นางเหลือบมองไปยังจิ่งเหา เพียงมองเห็นเสียงหัวร่ออันเยือกเย็นบนใบหน้าของเขา

หรือว่า เจ้าเด็กผู้นี้ยังคงมิกระบวนท่าสังหารหลงเหลืออยู่อีก? หัวใจของนางเต้นแรงแต่หลังจากนั้นไม่นาน ถังเทียนก็มิได้ใช้กระบวนท่าสังหารอันใด นางยิ่งสงสัยขึ้น นางมิเชื่อว่าจิ่งเหาจะมิสามารถมองเห็นได้ว่าถังเทียนกำลังตกอยู่ในอันตรายงั้นหรือ?

เหตุใดจิ่งเหาจึงดูสงบนัก?

เวลายังคงเดินอย่างต่อเนื่องแต่สตรีชุดดำมักคอยระวังกระบวนท่าสังหารซึ่งที่ยังไม่ใช้ออกมาอยูเสมอ

เอ๊ะ เดี๋ยวนะ?

ดวงตาของสตรีชุดดาจ้องเขม็ง ทำไมเจ้าเด็กผู้นี้ถึงมิอ่อนแรงเลย?

นางไตร่ตรองอย่างระวังและรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในการต่อสู้ ฝ่ามือผลาญใจของบุรุษชุดดำและพลองของต้าอวี๋อ่อนลง นางสามารถเห็นได้ว่าพวกเขาจนปัญญาแล้ว แสงมีดบินของเสี่ยวลู่ก็เจือจางแล้วเช่นกัน มิว่ามันจะเป็นอัตราการโจมตีหรือความเร็วของมีดบิน พวกมันต่างอ่อนแรงลง

ตรงกันข้ามกับถังเทียนยังคงมีพลังและการโจมตีของเขาราวกับพายุอันบ้าคลั่ง เสียงชกออกมันดังขึ้นมากขึ้นในแต่ละครั้ง ด้วยเหตุนี้ ถังเทียนก็กลับมามีเปรียบอีกครา ขณะที่สองคนนั้น หากพวกเขามิได้อยู่ในกระบวนท่าป้องกันนี้ พวกเขาก็จะตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง

มัน… มันเป็นไปได้เยี่ยงไร...

สตรีชุดดำจ้องมองไปยังเงาร่างที่มีชีวิตชีวาด้วยความงุนงง มันมิมีแม้กระทั่งความเหนื่อยล้า ยี่สิบนาทีเต็มแล้วที่ผ่านไป เป็นไปได้เยี่ยงไรที่เขาจะมั่นคงอัตราการโจมตีได้สูงเช่นนี้?

มิใช่ว่าเขาเหนื่อยล้าแล้วหรือ?

หรือว่าสหายผู้นี้มิรู้จักความเหนื่อยล้ากัน?

ขณะที่ฉากที่เห็นเบื้องหน้าของนาง มันเหนือกว่าสิ่งใดที่นางเคยพบเห็นมา แม้ว่าพลังของถังเทียนจะเพิ่มขึ้นและบรรลุไปยังขั้นห้าด้วยวัยเพียงเท่านี้ ไม่สิ แม้ว่าเขาจะก้าวไปยังขั้นหก นางก็คงมิตกใจเลย สิ่งที่นางเห็นเกี่ยวกับเจ้าเด็กผู้นี้ ร่างที่มีชีวิต เอาชนะศัตรูของเขาที่ระดับขั้นสูงกว่าเขาเองและกับนักสู้อีกสองคนที่ระดับขั้นเท่าเขา..

นี่...นี่มันเป็นร่างกายประเภทใดกัน...

แม้กระทั่งอสูรกายอำมหิตยังคงอับอายอดสู...

เดี๋ยวนะ!

ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นภายในจิตใจของสตรีชุดดำ สองคำที่เข้ามาภายในหัวของนางคือ เส้นชีพจรโลหิต!*

*血脉/เซวี่ยม่าย

มีเพียงเส้นชีพจรโลหิตที่แข็งแกร่งสามารถที่จะทำให้ใครบางคนแข็งแกร่งและทนทานได้เช่นนี้

ท่าทางที่นางมองไปยังถังเทียนเริ่มที่แปรเปลียนไปทันที ถูกต้องแล้ว เหตุใดข้าถึงขบคิดไม่ออกกัน? ด้วยร่างกายอันไม่ธรรมดานี้ นอกเหนือจากพลังของเส้นชีพโลหิตแล้ว มันจะเป็นสิ่งใดได้กัน?

เส้นชีพจรโลหิต!

สายตาของนางกลับกลายเป็นละโมบและหลงใหลในทันที ภายในวิญญาณนิล เส้นชีพจรโลหิตที่แข็งแกร่ง มันมีค่ายิ่งกว่าสมบัติใดๆทั้งสิ้น ตราบเท่าที่นางสามารถได้รับเส้นชีพจรโลหิตเช่นนี้ นางเชื่อว่านางจะสามารถได้รับสิ่งใดก็ได้ที่นางต้องการ

อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้เป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมนักสู้แห่งแสง ทางที่ดีข้าจะต้องขบคิดให้ดี

สตรีชุดดำขบคิดอย่างรวดเร็ว

การต่อสู้มิต้องสงสัยมากเลย สำหรับถังเทียนผู้ที่ซึ่งพยายามต่อสู้ภายในตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ การต่อสู้รอบนี้มันเป็นเพียงการอุ่นเครื่องเท่านั้น กล่าวถึงพลังแล้ว ถังเทียนแข็งแกร่งมากกว่าบุรุษชุดดำเล็กน้อย แต่รวมกับต้าอวี๋และเสี่ยวลู่แล้ว ความหวังของถังเทียนที่จะได้รับชัยชนะมันจะมิได้มาอย่างง่ายดายนัก

ขณะที่เส้นชีพจรของถังเทียนบาดเจ็บ เขามิมีทางเลือกอื่นจำต้องทน อย่างไรก็ตาม เขาก็สำเร็จด้วยความโชคดี ความอดทนที่แข็งแกร่งของถังเทียนคือจุดแข็งของเขา และสามารถจัดการใช้พลังได้อย่างสมบูรณ์

บุรุษชุดดำและต้าอวี๋ต่างเหนื่อยล้าจนหอบหายใจ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเชื่องช้าราวกับยายแก่ จนกระทั่งยามเมื่อถังเทียนกำลังที่จะจัดการพวกเขา ใบหน้าพวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงสีหน้าสำนึกผิด

เสี่ยวลู่กำลังตื่นตระหนก เขากระตุ้นพลังของเขาทั้งหมดที่เขาเหลืออยู่ และเริ่มที่หลบหนีไปยังสตรีชุดดำ ขณะที่เขาหันร่างของเขาลูกศรก็ทะลุผ่านตัวเขาไป เสี่ยวลู่ประหลาดใจมองไปยังจุดที่เขาถูกยิง และล้มลงไปบนพื้น

ท่าทางของสตรีชุดดำเป็นปกติขณะที่นางวางธนูและลูกศรของนางลง

ถังเทียนและจิ่งเหาตกใจและหวาดกลัวความโหดเหี้ยมของสตรีชุดดำ พวกเขามิคาดคิดว่าสตรีชุดดำจะกระทำการเช่นนี้กับลูกน้องของนางเอง

“ข้าคิดว่าพวกเราสามารถที่จะหารือกันได้” สตรีชุดดำพลันเอ่ยปากของนาง

เบื้องหลังหน้ากาก เปิดเผยเสียงที่เย็นยะเยียบ

“ไม่จำเป็นต้องพูดกันแล้ว!” จิ่งเหาแค่นเสียง เขาหยุดยั้งที่ทางเข้าที่ใกล้ที่สุดกับสตรีชุดดำ แม้ว่าบุคลิกของเขาจะภายนอกจะดูเย็นชา แต่ภายในของเขากับอ่อนโยน เขาเป็นบุคคลที่ซื่อตรงและซื่อสัตย์ ยามเมื่อเขาพบเห็นว่าสตรีชุดดำได้ลงมือกับลูกน้องของนางเอง เขาอดมิได้ที่จะเกลียดชังนาง

ปราศจากคำกล่าวถังเทียนกราดเกรี้ยวขณะที่เขาตะโกน “เจ้า สตรีผู้นี้ เจ้ามันช่างโหดร้าย! อย่าได้คิดว่าจะเดินจากไปได้อย่างมีชีวิต!”

สตรีชุดดำคล้ายจะคาดการณ์การตอบสนองของทั้งสองได้พลางกล่าวอย่างอ่อนช้อย “พวกเจ้าจะปล่อยเขาไปงั้นหรือ? อย่างไรก็ตามเขาก็จะต้องตาย มันจะมีความแตกต่างอันใดกับการตายโดยน้ำมือเจ้าหรือข้ากัน?”

“เหลวไหล! ตายซะเถอะ!” ถังเทียนกราดเกรี้ยวขณะที่เขากระโจนไปยังสตรีชุดดำ

อาการดูแคลนปรากฏขึ้นภายในดวงตาของนาง วิชาตัวเบาของนางแข็งแกร่งกว่าจิ่งเหา และแน่นอนว่าแข็งแกร่งกว่าถังเทียน เพียงชั่วพริบตา นางก็หายไปและทันใดนั้น ดวงตานางก็กระตุก แทบในจะเวลาเดียวกัน ร่างเลือนลางปรากฏขึ้นด้านข้างของนางปราศจากสัญญาณเตือนอันใด ราวกับอัสนีบาต

เขา เขาปรากฏตัวมาได้เยี่ยงไร...

สตรีชุดดำตื่นตระหนกและย่ำเท้าของนางเบาๆ ขณะที่นางหันไป นางเห็นภาพเงาอันน่ากลัวที่ติดตามมา

แคว๊ก!

มีมือคว้าจับด้านข้างชุดของนางและถูกฉีกกระชากออก

สตรีชุดดำตกใจ ขณะที่นางย่างก้าวอย่างต่อเนื่อง นางก็ได้นำเอาเงาดำอันน่ากลัวติดตามมาจนกระทั่งนางระงับตัวเองก่อนที่นางจะสงบลงอีกครา นางมองลงไปยังเอวของนางเพื่อดูชุดที่ถูกกระชากออกไป

เขา...เขาทำได้เยี่ยงไรกัน?

นี่มันเป็นไปไม่ได้...

ใบหน้าของนางภายใต้หน้ากากก็ซีดขาว ขณะที่สายตาของสตรีชุดดำมีความสับสน

ถังเทียนแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ โยนเศษผ้าที่เขากระชากมาจากมือของเขา หัวใจของเขาไม่เต็มใจอย่างยิ่ง เขาช้าไปเพียงนิดเดียว!

จิ่งเหาสามารถได้ชมฉากอย่างชัดเจนที่สุด แม้ว่าการเคลื่อนไหวของถังเทียนจะช้ากว่าสตรีชุดดำ ถังเทียนก็พึ่งพาเพียงวิชาตัวเบา และภายในชั่วพริบตาการตัดสินใจไปยังทิศทางที่สตรีชุดดำจะเคลื่อนไหวไป และนั่นมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

ช่างเป็นสัญชาตญาณที่น่ากลัว!

จิตใจจิ่งเหาตื่นตระหนกอย่างสิ้นเชิง ช่วงเวลาที่สตรีชุดดำเคลื่อนไหวเท้าของนาง แม้ว่าเขาจะมิเห็นชัดเจนนัก แต่ถังเทียนสามารถที่จะคาดการณ์ที่ที่นางจะไปได้

สายตาอันตกใจของเขาจ้องมองไปยังร่างของถังเทียน

อีกคราที่ถังเทียนก้มเอวของเขา ตั้งท่าลงต่ำ ดวงตาของเขาสื่อถึงความหมาย ‘ข้ามิได้แพ้’ ในตอนนี้ ความล้มเหลวนั่นมิได้ทำให้ถังเทียนท้อแท้ แต่เพียงทำให้ยิ่งมีแรงกระตุ้นและพลังเพิ่มขึ้น

สหายผู้นี้… ขอบเขตระดับใดกันที่เขาจะเติบโตขึ้นไปถึง?

ความตื่นตระหนกถาโถมสตรีชุดดำ ในทันทีนางก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอันรุนแรง นางมิคาดคิดว่าบุคคลที่ทำให้นางเคร่งเครียดมันจะมิใช่จิ่งเหาแต่ดันเป็นบุรุษหนุ่มนิรนาม

ความไม่พอใจของคู่ต่อสู้ ความอุตสาหะ และความตั้งใจต่อสู้ ทั้งหมดทำให้นางสะท้าน

บัดซบ! ข้ากลับพบบุคคลที่มีใจหนักแน่นเสียแล้ว!

ในตอนนี้ นางมิสามารถสนใจเรื่องใดอื่นได้เลย นางก็ใช้ทีเด็ดของนางออกมาอย่างรวดเร็ว “อย่าบอกข้านะว่าแม้กระทั่งคลังสมบัติของกลุ่มดาราพิณก็มิสามารถทำให้พวกเจ้าทั้งสองนั่งลงหารือกันได้งั้นหรือ?

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด