ตอนที่ 096 – ปืนใหญ่แห่งวิญญาณนิล
ตอนที่ 096 – ปืนใหญ่แห่งวิญญาณนิล
สตรีชุดดำสังเกตเห็นความภาคภูมิใจลูกน้องของนาง ก็ขมวดคิ้วและตะโกนกล่าวโทษ “พวกเจ้าทั้งหมดหุบปาก!”
เสียงอันเย็นเยียบราวกับคมดาบอันเยือกเย็นกวาดผ่านมา เสียงที่ดังพลันเงียบในทันที ทุกคนต่างยืนนิ่ง หุบปากนิ่งด้วยความกลัว
“มันเป็นเพียงค่ายกองกำลังชั้นนอกเท่านั้น มีสิ่งใดที่จะต้องภูมิใจกัน” น้ำเสียงสตรีชุดดำเยือกเย็น “ถ้าเจ้ามิสามารถที่แม้กระทั่งรับมือค่ายกองกำลังชั้นนอกของสมาคมนักสู้แห่งแสงแล้วล่ะก็ เฮอะ!”
เสียงเย็นชาที่แค่นออกมาคราสุดท้ายราวกับย้อนยักษ์ กระแทกอย่างรุนแรงไปยังหัวใจทุกผู้คนและหัวใจพวกเขาก็สั่นสะท้าน
“จิ่งเหาอยู่ด้านล่างนี้” จากนั้นบุรุษชุดดำด้านข้างสตรีชุดดำก็กล่าว “อย่างที่ได้กล่าวไว้ ปัจจุบันมันมีบุรุษผู้ที่เพิ่งจะมาใหม่เช่นเดียวกัน มีความแข็งแกร่งค่อนข้างดี แต่ข้อมูลเกี่ยวกับเขามีจำกัดอย่างยิ่ง”
ยามเมื่อนางกล่าวถึงจิ่งเหา ใบหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง
สมาคมนักสู้แห่งแสงเป็นคู่อาฆาตของวิญญาณนิล และผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดภายในสมาคมนักสู้แห่งแสงรู้จักพวกเขาทั้งหมดดีราวกับหลังมือของพวกเขาเอง
จิ่งเหาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญอันดับต้นที่ปรากฏขึ้นมาภายในสมาคมนักสู้แห่งแสงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญวิชากระบี่ และอาจารย์ของเขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงของสมาคมนักสู้แห่งแสง ปรมาจารย์จั๋วอี้เทียน! จิ่งเหามิได้น้อยหน้าอาจารย์ของเขาเช่นกัน ด้วยวัยของเขากลับเป็นถึงนักสู้ขั้นทองแดง และเป็นบุคคลที่เขาเก็บตัวฝึกอย่างสงบเสงี่ยม หัวใจของเขาใฝ่แต่วิชาของเขา ทำให้พลังที่แท้จริงของเขามิชัดเจนนัก
สตรีชุดดำมิคาดคิดว่าจิ่งเหาจะอยู่ภายในสุสานใหญ่ค่ายกองกำลังชั้นนอกแห่งนี้ เพียงหลังจากสอบปากคำสาวกของค่ายกองกำลังชั้นนอกทำให้พวกเขาพบว่าจิ่งเหาผู้นั้นอยู่ที่นี้จริงๆ
เมื่อได้ยินข่าวนี้ หัวใจของนางสั่นด้วยความกลัว และนางแทบจะตัดสินใจละทิ้งภารกิจในการบุกค่ายกองกำลังชั้นนอกแห่งนี้ แต่ลังเลใจเพียงชั่วครู่ นางก็รู้สึกว่าพลังของนางเองมีเพียงพอ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจที่จะดำเนินการต่อ
สำหรับภารกิจนี้ นางตระเตรียมมาเป็นเวลานาน และใช้ชั่วโมงอันมากมายกับความพยายาม เป็นปกติที่นางจะมิยินยอมที่จะยอมแพ้
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“มันคือวิญญาณนิล” จิ่งเหากล่าวบางเบา ท่าทางของเขาเย็นเยียบ ปลดปล่อยกลิ่นอายสังหาร
วิญญาณนิลเป็นศัตรูคู่อาฆาตของสมาคมนักสู้แห่งแสงและการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายได้เกิดขึ้นตั้งแต่ที่ทั้งสองกลุ่มต่างก่อตั้งขึ้น
หัวใจของถังเทียนเต้นแรง เขาย้อนนึกถึงไปยังเหตุกาณ์ที่เมืองเมฆาดารา ในความจริงที่ว่าเขามีความรู้ไม่ดีอย่างมากต่อวิญญาณนิลอย่างมาก แต่ในครานี้มันยิ่งเกลียดชังเขาไปอีก
ดวงตาของจิ่งเหาหรี่ลงมองผ่านรอยแยก เขามองอย่างระวังและสามารถพบเห็นกลุ่มผู้คนที่ต่างเดินเข้ามาใกล้จากไกลๆ อย่างรวดเร็ว สายตาจับจ้องไปยังสตรีชุดดำที่สวมใส่หน้าหาก ท่าทางของเขากลายเป็นเย็นเยียบในทันที
ถังเทียนผู้ซึ่งอยู่ด้านข้างสังเกตท่าทางที่เปลี่ยนไปของเขาในทันที และกล่าวถามอย่างรวดเร็ว “มีอันใดหรือ?”
“พวกเราจะต้องระวังตัวไว้ มันคือม้าของวิญญาณนิล!” จิ่งเหาเตือน และไม่นาน เขาก็จดจำได้ว่าถังเทียนมิได้มีความรู้มากเกี่ยวกับวิญญาณนิล และอธิบายอย่างรดวเร็ว “การแบ่งตำแหน่งของวิญญาณนิลแตกต่างไปจากกลุ่มอื่น พวกมันหยิบยืมตำแหน่งมาจากหมากรุกได่แก่ ‘เบี้ย ปืนใหญ่ ม้า เรือ ช้าง องครักษ์ และราชันย์’ ตำแหน่งที่ต่ำที่สุดเป็นมาตรฐานของวิญญาณนิลก็คือ เบี้ย มาตรฐานของพวกมันมิเท่ากัน ตำแหน่งปืนใหญ่เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งและกล้าหาญเป็นส่วนใหญ่ ตำแหน่งม้าเชี่ยวชาญสอดแนม พวกมันจัดการเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพมากที่สุดและรวดเร็ว พวกมันเชี่ยวชาญในการไล่ล่าทางไกลและการซุ่มโจมตี ตำแหน่งเรือมีจำนวนน้อยมาก แต่พวกมันก็เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ถ้าเจ้าพบเจอมัน จะต้องระวังตัวไว้อย่างยิ่ง ตำแหน่งช้างเชี่ยวชาญการวิจัยเกี่ยวกับเส้นชีพจรโลหิตและเครื่องกลไกและมันมีเพียงน้อยนิด แต่พวกตำแหน่งช้างที่น้อยนิดภายในวิญญาณนิลผู้ที่ต้องต่อสู้มีความเชี่ยวชาญในการวางกลยุทธ์และเจ้าเล่ห์ และมีวิธีการหลากหลายรูปแบบ เมื่อพบเจอกับศัตรูเช่นนี้ จดจำไว้ว่าอย่าได้พูดคุยมากความกับพวกมัน และมุ่งตรงไปสังหารในทันที ตำแหน่งองครักษ์เชี่ยวชาญในการลอบสังหาร พวกมันเคลื่อนไหวอย่างไร้เงาและไร้ร่องรอย พวกมันเป็นตัวน่ารำคาญอย่างยิ่ง และพวกมันทั้งหมดต่างเป็นหัวกะทิ ตำแหน่งราชันย์เป็นตัวตนที่อยู่จุดสูงสุดของนักสู้ ก่อนที่จะกลายมาเป็นราชันย์นักสู้ ตราบเท่าที่เจ้าพวกเจอพวกมัน อย่าได้ลังเลใจก้มหน้าของเจ้าและวิ่งหนีไปซะ”
ถังเทียนพลันจดจำได้ถึงการพบเจอใต้เท้าอู่ของวิญญาณนิลที่ดาราอู่อันในเมืองเมฆาดารา เขาอาจจะอยู่ในตำแหน่งช้างของวิญญาณนิล
แต่พลังของใต้เท้าอู่ก็ฝังลึกภายในใจเขา
“ที่เพิ่งกล่าวถึงความชำนาญแต่ละตำแหน่งของพวกมัน แต่มันยังมิได้กล่าวถังพลังของพวกมัน ทุกความชำนาญจะต้องมีความแตกต่างกันในระดับต่างๆ นอกเหนือจากเบี้ยของวิญญาณนิลแล้ว อย่าได้ดูแคลนไปยังตำแหน่งอื่นๆอีก การต่อสู้และการแข่งขันภายในวิญญาณนิลรุนแรงมากกว่าพวกเราเสียอีก และพวกมันต่างชำนาญในการต่อสู้ เมื่อพบเจอวิญญาณนิล อย่าได้ลังเล” ท่าทางของจิ่งเหาดุดันขณะที่เขาแนะนำ
เขามิคาดคิดว่าเขาจะได้มาพบเจอขบวนใหญ่ของสาวกวิญญาณนิลที่ประกอบไปด้วยตำแหน่งม้า ด้วยการมองเพียงคราเดียวมันก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกมันวางแผนไว้แล้ว มันมิมีเวลาที่วางแผนตอบโต้อันใด จิ่งเหามิได้หวาดกลัวสิ่งใด แต่เขาเป็นกังวลในตัวถังเทียน
“ข้าจะรับมือกับตำแหน่งม้าวิญญาณนิลเอง” จิ่งเหากล่าว “เจ้าจะต้องระวังตัวไว้ บุรุษชุดดำที่อยู่ด้านข้างสตรีที่สวมหน้ากาก สหายผู้นี้แข็งแกร่ง คล้ายว่าเขาจะเป็นตำแหน่งปืนใหญ่ ถ้าเขามิใช่งั้นเขาก็คงจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งตำแหน่งเบี้ยวิญญาณนิล”
“อืม” ถังเทียนตอบอย่างเบาๆ ภายในดวงตาของเขาพลุ่งพล่านไปด้วยความหิวโหยการต่อสู้
ท่าทางของจิ่งเหาช่างน่าประทับใจ เขายืดตัวตรงดึงกระบี่ยาวของเขาออกมา ทันใดนั้นปรากฏภายในมือของเขา และพลางกล่าวด้วยเสียงอันบางเบา “มงกุฎเหนือ!”
ฟู่!
ด้ามกระบี่พลังสว่างวาบด้วยลำแสงรังสีอันบางเบา รังสีแสงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ราวกับเส้นสายถักทอขึ้นมา และภายในชั่วพริบตา ด้ามกระบี่ก็แปรเปลี่ยนเป็นมงกุฎสดใสและสวยงาม เกิดประกายเพลิงอันเยือกเย็นลงที่มงกุฎ หลั่งไหลไปตามคมกระบี่จนกระทั่งเปลวเพลิงอันเยือกเย็นปกคลุมปลายกระบี่
สมบัติขั้นทองแดงกลุ่มดารามงกุฎเหนือ กระบี่มงกุฎเหนือ!
ถังเทียนทึ่งเมื่อพบเห็นกระบี่ที่งดงามเบื้องหน้าเขา ทุกวันที่ผ่านมา พี่ใหญ่จิ่งเหาใช้กระบี่ประลองกับเขาเป็นเวลานาน แต่ถังเทียนมิคาดคิดว่ากระบี่สามัญธรรมดาอันนี้แท้จริงแล้วเป็นสมบัติขั้นทองแดง!
นอกจากนี้ มันยังมีปลดปล่อยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!
มันช่างแข็งแกร่งจนถังเทียนเชื่อว่ามันมิใช่สมบัติขั้นทองแดง เมื่อเทียบกับมันแล้ว พลังและกลิ่นอายสนับมือเตาหลอมของเขายังคงห่างไกลกันนัก
“กระบี่มงกุฎเหนืออันนี้ได้รับจากอาจารย์ของข้า ตลอดหลายปีมันมิเคยห่างไปจากมือข้า” จิ่งเหากล่าวอย่างภูมิใจ
เมื่อเห็นสายตาของถังเทียนและท่าทางที่อ้าปากค้าง เขาคาดเดาได้ถึงข้อสงสัยของถังเทียนพลางหัวร่อ “ชุดเกราะนกยูงสีน้ำเงินของน้องถังก็มีชื่อเสียงอย่างมากภายในอดีต ตลอดหลายปีจิตวิญญาณนักสู้ของสมบัติดาราขาดการดูแล ดังนั้นพวกมันจึงอ่อนแออยู่ สมาคมนักสู้แห่งแสงของพวกเราได้ค้นคว้าเกี่ยวกับสมบัติดารา มิมีผู้ใดเป็นคู่มือของพวกเขาได้ ในภายภาคหน้าน้องถังจะต้องมีโอกาสที่จะกระตุ้นพวกมันทั้งหมด ข้าหวังว่าเจ้าจะมิทำให้ชื่อของชุดเกราะนกยูงเสื่อมเสีย”
“โอ้” ถังเทียนจดจำไว้ขึ้นใจ
เขามิคิดว่าความแข็งแกร่งที่สุดของสมาคมนักสู้แห่งแสงแท้จริงจะเกี่ยวกับสมบัติดารา ถังเทียนเพิ่งตระหนักได้
เมื่อเห็นจิ่งเหาพร้อมที่จะต่อสู้ ถังเทียนมิได้กล่าวคำอันใดและเริ่มที่จะกระตุ้นสมบัติของตัวเขา
ฟู่! สนับมือเตาหลอมปลดปล่อยเปลวเพลิงสีแดง
ปุ! รองเท้าอาชาทะยานขยายเกือกทั้งสี่ออก
ชุดเกราะนกยูงสีน้ำเงินปรากฏที่ร่างของเขา และขนสีน้ำเงินอันเยือกเย็นของนกยูงก็มีความงดงามที่ซับซ้อน
เมื่อได้รับการกระตุ้น ปราณแท้จริงภายในร่างของเขาก็ถูกกระตุ้นเช่นเดียวกัน และความเชื่อมั่นของถังเทียนก็เพิ่มขึ้น
แต่น่าเศร้า มันมิฉลาดนักที่จะใช้พยัคฆ์เขี้ยวดาบเบื้องหน้าพี่ใหญ่จิ่งเหา...
การตายของข่งโหยวหลินมีผลกระทบมากกว่าที่เขาคาดคิดไว้ ถังเทียนวางแผนจะมิใช้ศาสตราวุธเครื่องกลไกจนกว่าผลกระทบจากเหตุการณ์การตายจะเงียบลง ถ้าเขาเปิดเผยตัวเองออกไป ข่งอี้อวี่แน่นอนว่าจะต้องสร้างปัญหาให้เขา
แต่การพัฒนาในปัจจุบันของเขาทำให้เขามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น แม้ปราศจากศาสตราวุธเครื่องกลไกเขาก็มิได้หวาดกลัว
“เจ้าพร้อมแล้วหรือไม่?” จิ่งเหากล่าวถามโดยมิได้หันไปมอง
“พร้อมแล้ว”
เกี่ยวกับการต่อสู้ที่กำลังคลืบคลานมา ถังเทียนมิมีความหวาดกลัวสักนิดเดียว ความหิวโหยในการต่อสู้ของเขามันลุกโชน โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
“ฆ่า!”
เสียงของเขายังคงดังอยู่ในอากาศ แต่ร่างของจิ่งเหาได้หายไปแล้ว
ปราศจากคำกล่าว ถังเทียนก็พุ่งออกไปในทันที!
อย่างที่ได้กล่าวไว้ ช่วงเวลาที่จิ่งเหาได้เลือกมันฉลาดอย่างยิ่ง ยามเมื่อทั้งสองพลันปรากฏตัว มันราวกับมีดอันแหลมคมสองเล่ม ทะลวงเข้าไปในใจกลางขบวนของคู่ต่อสู้ ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ตื่นตระหนก
กระบี่มงกุฎเหนือภายในมือของจิ่งเหาเบาบาง เส้นสายของโลหิตก็พลันปรากฏขึ้นภายในอากาศ และลำคอหลายคนก็มีร่องรอยของโลหิตพลันปรากฏขึ้น ดวงตาของพวกมันเบิกกว้าง มือทั้งสองคว้าจับไปยังลำคอของพวกมัน มิสามารถกล่าวอันใดได้ พวกมันก็ล้มลงไปบนพื้น
ความรุนแรงของจิ่งเหาทำให้เกิดความวุ่นวาย
มิมีผู้ใดสังเกตถีงถังเทียน
เป้าหมายถังเทียนคือบุรุษชุดดำ ผู้ซึ่งอาจจะเป็นปืนใหญ่ของวิญญาณนิลตามที่จิ่งเหากล่าว
ขณะที่ถังเทียนเข้าใกล้ไปในรัศมีห้าเมตรของบุรุษชุดดำ บุรุษชุดดำก็พลันตื่นตระหนก แต่เมื่อยามที่เขารู้ว่าเป็นถังเทียน ปากของเขาก็แสยะยิ้มอย่างน่ารังเกียจ
ยกฝ่ามือเหล็กของเขา เขายินดีกับการเข้ามาของถังเทียนพลางฟาดออกไป
ฟู่!
ทั้งสองฝ่ามือปลดปล่อยรังสีดำมืด มันราวกับหมอกสีดำ เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารอันร้ายกาจ ชั่วอึดใจก็ปกคลุมถังเทียน
ดวงตาถังเทียนสว่างวาบ พลังฝ่ามือของคู่ต่อสู้ช่างแข็งแกร่งนัก!
เขามิมีความตั้งใจที่จะหลบหลีกและชกออกหมัดไป
เมื่อเห็นถังเทียนมิได้หลบหลีก บุรุษชุดดำก็หัวร่อเยาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นหมอกปกคลุมหมัดของถังเทียนและทำลายมันเป็นชิ้นๆ เขาพลันจดจำได้ทันทีว่าวิชาการต่อสู้ระดับสี่ที่ถังเทียนใช้คือ [หมัดสั่นสะเทือน]
การเยาะเย้ยของเขากลายเป็นเห็นได้ชัด ช่างประเมินความสามารถของตัวเองสูงเหลือเกิน!
กล้าที่จะยั่วยุเขาด้วยวิชาการต่อสู้ระดับสี่ เขาเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วงั้นหรือ วิชาฝ่ามือของเขาคือระดับห้า [ฝ่ามือผลาญใจ] เขาหมกมุ่นกับวิชาฝ่ามือมีมาหลายปี และด้วยการพึงพาฝ่ามือที่น่ากลัวนี้ทำให้เขาสามารถเข้าร่วมตำแหน่งปืนใหญ่ของวิญญาณนิลได้และลบสถานะเก่าของเขาที่เป็นเบี้ยของวิญญาณนิล
ทั้งสองฝ่ายมิได้คิดจะหลบหลีก หนึ่งหมัดและหนึ่งฝ่ามือ ปะทะเข้าด้วยกัน
การแสดงออกบนใบหน้าของบุรุษชุดดำแข็งค้าง
พลังของหมัดมิได้เป็นอย่างที่เขาคาดคิดไว้ และสิ่งที่ตามมาคือการระเบิดของปราณแท้จริงที่มีท่าว่ามันจะระเบิดรุนแรงกำลังเข้ามา!
ผิดท่าแล้ว!
ปราณมังกรสวรรค์!
โดยมิได้รอเขาตอบโต้ พลังอันแหลมคมก็ตรงเข้าทำลายปราณแท้จริงที่เขาปลดปล่อยออกมา และเข้าสู่ร่างของเขา
เขาแค่นเสียงออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนที่เขาจะสามารถระงับพลังนี้ไว้ได้
เขาตกตะลึง มีปราณสามรูปแบบ ปราณแท้จริงของเจ้าเด็กผู้นี้มันมีปราณสามรูปแบบ!
มันมิต้องสงสัยเลยว่าปราณแท้จริงอยู่ในขั้นสี่ แต่มันเกือบสามารถที่จะมอบความตายได้
โดยมิรอให้เขากลับมาเป็นปกติ เสียงระเบิดก็ดังราวกับอัสนีบาตผ่ามาตรงหูของเขา ลำแสงสีน้ำเงินอันน่ากลัวมากมายเปล่งประกายปรากฏขึ้น หมัดที่ปกคลุมไปด้วยแรงสั่นสะเทือนก็ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของเขา
บุรุษชุดดำมีประสบกาณ์ในการต่อสู้ และเขารู้ว่าเขามิสามารถลังเลได้เลย ร่างของเขาก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วและในช่วงเวลาเดียวกัน เท้าขวาของเขาก็ราวกับอสรพิษฉกออก ผ่านอากาศปราศจากเสียง
รังสีดำมืดปกคลุมไปยังปลายเท้าของเขา ราวกับหอกสีดำที่แหลมคม เล็งตรงไปยังถังเทียนปราศจากเสียง
แต่ถังเทียนผู้ซึ่งอยู่เบื้องหน้าเขา มีความว่องไวราวกับปีศาจ และตอบโต้อย่างรวดเร็ว ขาขวาบุรุษชุดดำพลันย่างก้าว และด้วยขาทั้งสองภายในอากาศ ถังเทียนหมุนร่างของเขาไปรอบอย่างยอดเยี่ยมไปยังศูนย์กลางร่างของบุรุษชุดดำ
การตอบสนองที่รวดเร็วทำให้บุรุษชุดดำคิดว่ามันมีบางอย่างผิดพลาดไป ถังเทียนคาดเดาการโจมตีของเขาออก
จิตใจของเขาตะลึงด้วยความตกใจ!
มันเป็นคราแรกที่เขาเสียเปรียบในการต่อสู้ระดับนี้ ฟู่ ถังเทียนผู้ที่หมุนตัวอยู่ ราวกับก้อนหินยักษ์ที่ถูกโยนด้วยเครื่องเหวี่ยงหิน เสียงเหวี่ยงแหลมต่ำขณะที่ฟาดไปยังตัวเขา
บุรุษุชุดดำเม้มปากขณะที่เขาใช้ออกทั้งสองฝ่ามือ พยายามที่จะขัดขวางการโจมตีของถังเทียน
ถ้าฝ่ามือทั้งสองนี้กระแทกไปยังร่างของคู่ต่อสู้ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากคู่ต่อสู้ คู่ต่อสู้ก็จะต้องได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากกว่าแน่นอน
ระยะห่างระหว่างทั้งสองยิ่งใกล้และใกล้เข้ามา ขณะที่ฝ่ามือหมอกสีดำคู่นั้นต่างเตรียมพร้อมที่จะกระแทกไปยังร่างของถังเทียน
การหมุนร่างของถังเทียนก็พลันยืดออก และปลายของเขาก็สัมผัสไปยังพื้นเล็กน้อย ปัง เขาทะยานขึ้นไปบนอากาศ และขึ้นไปอยู่เหนือหัวบุรุษชุดดำอย่างมิคาดคิด
บุรุษชุดดำประหลาดใจ เขามิเข้าใจว่าสิ่งใดที่ถังเทียนพยายามกระทำ ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็พบเห็นลำแสงสามสายพุ่งมายังเขา ในช่วงเวลานั้นเอง เขาก็สั่นสะท้าน ทั่วใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยน
ผิดท่าแล้ว!
[ฝ่ามือมีดดวงเดือน]!
การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของสหายผู้นี้ ทั้งหมดต่างเป็นการเสแสร้ง...
ปุ ปุ ปุ!
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ