Chapter 14 สหาย (Part 1)
Chapter 14 Comrades (Part 1)
“ผมชื่อฮอนโฮคิมและไม่นานมานี้ผมกำลังเรียนหนังสือเพื่อสอบเข้าราชการ คุณชื่ออะไร?”
ผมถามเรื่องนี้หลังจากที่เราเดินอยู่ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดและอึดอัด คุณอย่างน้อยคุณก็ต้องแลกเปลี่ยนชื่อคุณบ้าง ไอ้ห่า
หนุ่มมหาลัยยินดีที่จะให้ความร่วมมือ
“ผมชื่อลีจุนโฮ ผมเป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งสอบเข้าม.เกาหลีได้*”
(TN: ม.เกาหลีก็เหมือนกับฮาวาร์ดในเกาหลี.)
เขาเป็นนักศึกษาจริงๆเขายังเด็ก แต่คิดว่าน่าจะอายุประมาณ20
“ลีแฮซู...ฉันเป็นพนักงานบริษัท”
ชื่อของหญิงสาววัย20ปีคือลีแฮซู เมื่อเห็นว่ามันใช้เวลานานมากแล้วเธอเลยแนะชื่อของเธอออกมาและเนื่องจากปาร์คโกซางได้แนะนำตัวก่อนแล้วที่เหลือก็คือชาย30คนเดียวที่ยังไม่ได้บอกชื่อ แม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรเราก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้
“คังจุนซางนักสู้จากเซี่ยงไฮ้.”
นักสู้จากจีน!
อย่างงั้นเราก็รู้แล้วว่าทำไมจุนซางไม่กลัวโกชาง.
การแสดงออกของโกชางกลายเป็นน่าเกลียด ถ้าเขาโดนเข้าไปโจมตีจริงๆเขาก็จะเสียหน้าแน่นอน.
หลังจากแลกเปลี่ยนชื่อแล้วเราก็ยังเดินต่อไปในบรรยากาศที่น่าอึดอัด
จุนโฮเป็นคนเดียวที่แทบจะไม่ลืมการพูดคุย
พนักงานแฮซูก็ตอบข้อความสั้นจู๋ในการสนทาง่ายๆของพวกเรา แต่มันอาจจะเป็นเพราะว่าเธอตกใจหลังจากเกือบจะโดนโกชางทำมิดีมิร้ายทำให้คำพูดของแฮซูดูน้อยลง
“คอมผมแห้งแล้ว คิดว่าน้ำน่าจะอยู่แถวไหน?”
นี่เป็นคำพูดของจุนโฮ
“ผมก็พยายามจะหาอยู่ ซิล!”
หลังจากการเริ่มการสอบครั้งที่สองผมก็เรียกซิลเป็นครั้งแรก
-เมี๊ยว.
ซิลปรากฎตัวขึ้นกลางอากาศและเอาหน้ามาถูกับหน้าผม
“โอ้? นั่นคืออะไร?”
จุนโฮประหลาดใจอย่างมาก แฮซู โกชาง และจุนซางต่างก็ประหลาดใจและมองมาที่ผมเพื่อขอคำอธิบาย.
“นี่เป็นสกิลอัญเชิญสปิริตที่ได้รับจากรางวัลคาม่าของผม เธอเป็นสปิริตลมชื่อซิล.”
“อัญเชิญสปิริต? นั่นมันเป็นสกิลช่วยเหลือหรอ?”
“สกิลหลัก.”
หลังจากผมพูดจบหลายคนก็มีปฏิกิริยาต่างกัน
“สกิลหลักของคุณ?!”
“นั่นเป็นสกิลหลักของคุณ?!”
“สกิลหลัก?”
จุนโฮ,โกชางและแม้แต่จุนซางก็ประหลาดใจ
จุนซางผู้ที่ไม่อาจจะรู้ได้ว่าเขาจะพูดได้ถามคำถามกับผม.
“คุณได้รับคาม่าเท่าไรจากการสอบครั้งแรก?”
“500 คาม่า.”
“…!”
ใบหน้าของจุนซางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าคะแนนของผมจะสูงกว่าเขามาก
“คุณล้อเล่นหรือป่าว?คุณทำอย่างไรถึงได้500คาม่า?”
โกชางเริ่มที่จะก้าวร้าวอีกครั้ง แต่ผมยักไหล่
“ผมบอกได้ว่ามันเป็นการประเมิณศักยภาพมากกว่าความสามารถ อย่างไรก็ตามผมสามารถที่จะอัญเชิญสปิริตและปืนไรเฟิล ถ้าคุณไม่เชื่อต้องการเห็นไหม?”
ผมได้เรียกปืนเวทย์มนต์และกล่องกระสุน กล่องกระสุนที่มีกระสุนเพิ่มขึ้นมากอีก100นัดมันอัดแน่นไปด้วยลูกกลมๆเหล่านั้น
“มันไม่ค่อยเมกเซ้นเท่าไร…”
การแสดงออกของโกชางดูเหมือนกับว่าเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ
หืมม ตอนนี้คุณเห็นหรือยัง? ผมไม่ใช่คนที่คุณจะหัวเราะหรือจิกหัวใช้ได้ ในบางทีคุณอาจจะต้องจ่ายหนี้ของคุณจากผม.
“ซิลมองหาแหล่งน้ำใกล้ๆ.”
-เมี๊ยว!
ซิลบินไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันผมก็ถามคนอื่นๆ
“พวกคุณได้รางวัลอะไรจากค่าม่า? ผมคิดว่ามันต้องรู้เนื่องจากมันจะทำให้การทำงานของเราดีขึ้นและเสริมการต่อสู้ในภายหลัง.”
“คุณน่าทึ่งเป็นอย่างมาก ในการสอบครั้งแรกผมได้คาม่าแค่ 270 ความต้องการของสกิลหลักคือ400คาม่าดังนั้นผมเลยไม่สามารถที่จะเรียนรู้มันได้.”
จุนโฮเป็นคนตอก่อน
“ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเลือกสกิลรอง ‘เสริมพลังกายภาพ’และมันสามารถเรียนรู้ได้ถึงเลเวล2 ที่เหลือผมก็เอาไปซื้อโล่ผมจะโชว์ให้ดู.”
ขณะที่กำลังพูดอยู่จุนโฮได้เรียกโล่หนังกลมดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีอาวุธ.
“บัฟเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพมันเป็นอย่างไร?”
ผมไม่เคยเห็นสกิลช่วยเหลือ ผมเลยอยากรู้อยากเห็น
“มันเหมือนกับการที่ร่างกายของคุณแข็งแกร่ง ที่เลเวล1 เอนทรี มันจะทำให่ร่างกายของคุณแข็งแรงและเลเวล2จะทำการเคลือบความแข็งทางผิวหนังด้วย อาสติกชาม.”
ราวกับว่าเขากำลังอาย เขาเกาหัวของเขา
“ผมมักจะมีความอ่อนแอทางสายเลือด ดังนั้นผมเลยเพิ่มมันเป็นเลเวล2.”
จุนโฮตัวไม่ค่อยสูงนัก แต่มันก็กำลังพอดี แต่ดูเหมือนกับว่าเขาต้องขอบคุณบัพเสริมความแข็งแกร่งของเขาที่มันช่วยให่เขาไม่ต้องออกกำลังกายมากนัก.
“นั่นเป็นสกิลที่ดีจริงๆ ร่างกายของก็ไม่ค่อนดี มันมีค่าใช้จ่ายเท่าไร?”
“เอนทรี เลเวล1 ใช้คาม่า100 และเลเวลสองใช้150.”
นั่นมันเป็นปฏิวัติการพัฒนาทางร่างกาย
ผมเป็นคนที่มีร่างกายที่ค่อนข้างซับซ้อน ‘ร่างกายที่ไม่ได้เคยดูแลของผม.’แต่ถ้าผมได้รับความช่วยเหลือนี้ผมก็ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายและสามารถเป็น moem-jjang!*
(TN: มันแปลเป็นอังกฤษไม่ได้ แต่มันหมายความว่ามันมีร่างกายที่น่ากลัว)
‘เมื่อการสอบนี้เสร็จสิ้นฉันจะเอารางวัลเหล่านี้ทันที.’
ไม่ใช่ความโลภของผมที่ไม่ต้องการออกกำลังกาย แต่เนื่องจากการมีความแข็งแกร่งคือสิ่งสำคัญทั้งหดม
“อ่า แม่ง ฉันได้ 250 คาม่า แกบอกฉันหน่อยสิว่ามันดีไม่เท่ากับแก?”
ปาร์คโกชางสะอื้นและสถบถามออกมาในเวลาเดียวกัน แต่จุนโอก็กลัวเป็นการยั่วยุเขา
“ฉันได้รับบัฟเอนทรีเลเวล3และดาบ.”
“เลเวล 3?”
“แกคิดว่าฉันจะเหมือนกับพวกแกหรอ?มันมาจากการออกกำลังกายอย่างแท้จริง ไอ้เลว.”
“ฉันรู้.”
ปาร์คโกชางเดิมทีมีร่างกายเท่ากับได้รับบัฟเลเวลสองและเขาก็ซื้อเพิ่มอีกเป็นเลเวลสาม
‘ดังนั้นการที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและมีสุขภาพที่ดีจะสามารถเรียนได้ตั้งแต่เลเวล2.’
ผมได้เรียนรู้มากจริงๆ
ตอนนี้ก็มาถึงแฮซูเธอหยุดพูดชั่วคราวก่อนที่จะบอกออกมาอย่างระมัดระวัง
“ฉันได้100คาม่า นอกนจากเอนทรีแล้วฉันก็ไม่มีอะไร ฉันขอโทษ…”
“ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไร ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะปกป้องคุณ.”
เมื่อได้ยินความคิดเห็นของโกชางไปแฮซูก็หน้าซีดทันที
-เมี๊ยว.
ใช่มันได้เวลาแล้วที่ซิลจะต้องกลับ
“คุณเจอน้ำหรือป่าว?”
-เมี๊ยว!
ซิลชี้ไปทางซ้ายและบอกด้วยความรวดเร็ว ‘293’
“ขอบคุณผมจะเรียกคุณมาใหม่.”
ผมยกเลิกการเรียกซิลและพูดกับกลุ่ม
“300 เมตรจากที่นี่มีน้ำ.”
เรามุ่งหน้าไปทางที่ซิลชี้ หลังจากที่เราเดินผมก็ได้ถามจุนซาง
“คุณได้เลือกราววัลอะไรของคุณ?”
“400คาม่า ควบคุมออาร่า เอนทรีเลเวล 1”
400คาม่า น้อยกว่าผม
ผมคิดว่ามันเกี่ยวกับวิธีการต่อสู้ของทุกคนในการสอบครั้งแรก.
การซ่อนตัวเพื่อโจมตีของลิงแดง แต่จุนซางที่เป็นนักรบเขาสามารถหลีกเลี่ยงขวานหินนั่นได้อย่างรวดเร็วและก็น๊อคลิงแดงในอึดใจเดียวนั่นเป็นสิ่งที่ผมแน่ใน อย่างไรก็ตามการควบคุมออร่ามันเหมาะกับนักสู้เป็นอย่างมาก.
แต่คำพูดของจุนซางก็ยังออกมาเรื่อยๆ
“ตอนนี้ผมมีเอนทรีเลเวล 4.”
“หืม?”
“แม้ว่าจะไม่มีการสอบแต่มันก็เป็นไปได้ว่าจะสามารถยกระดับจากข้างนอกได้.”
มันเป็นการเปิดเผยที่น่าตกใจ
ต้องขอคุณที่สามารถเพิ่มเลเวลสกิลของคุณได้โดยไม่ใช้คาม่า!
‘หืม? แต่มันมีเวลาแค่11วันในการฝึกออร่า?’
มีคำถามตามต่อจากที่จุนซางพูด
“คุณเพิ่ม3เลเวลใน11วัน?”
“การควบคุมออร่ามีหลักการเดียวกับไทเก๊ก. ผมได้ฝึกบังกัลซาน* และเฟยฉีเตียน* ตลอดชีวิตของผม.”
(TN: Bāguà zhǎng มันก็เหมือนกับเดินจงกลม.มันคล้าย ‘แปดฝ่ามืออรหัน’ Fānziquán คือการต่อยสั้นและรวดเร็ว. มันหมายถึงการ ‘หมุนหมัด’ขณะปล่อยกำปั้น)
ผมตะลึงกับความมหัศจรรย์ของจุนซาง.
พูดอีกอย่างคือถ้าเขาไม่มีพื้นฐานแต่แรกเขาก็ไม่สามารถที่จะยกระดับจากเลเวล1ไปยังเลเวล4!
มันเป็นจุดที่ผมไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นการสอบครั้งแรก ผมอยากเห็นเขาสู้ดูว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน.
อย่างไรก็ตามผมมีความคิดพื้นฐานอยู่ในหัวว่าเราควรจะต่อสู้อย่างไร
ผมจะยิงจากระยะไกลและอีกสามคนปกป้องแฮซู
‘สุดท้ายแฮซูก็เป็นปัญหา เนื่องจากเธอไม่มีอะไรเลยนอกจากควาแข็งแรงทางกายภาพเลเวล1 และเป็นอีกครั้งนึงเนื่องจากเธอมีสภรรมภาพเท่ากับผู้ชายคนนึงเธออาจจะแข็งแรงกว่าผมหรือดีกว่าผม?’
จุนโฮไม่มีอะไรเลยนอกจากโล่
‘ผมแย่ใจว่าการตัดไม้ให้เป็นหอกมันจะคุ้มค่าหรือไม่?’
จากการคาดเดาของผมหากคู่ต่อสู้เป็นลิงแดงแล้วหอกมันก็เพียงพอ
ผมสงสัยว่าเราเดินมาไกลแค่ไหน?
เรามาถึงแหล่งน้ำ
เราสามารถเห็นกระต่ายที่ดื่มน้ำได้อย่าวรวดเร็วและไป.
“ซิล!”
-เมี๊ยว?
ซิลถูกอัญเชิญ
“จับกระต่ายนั่น!”
-เมี๊ยว!
ซิลลอบเขาไปทางด้านหลังของกระต่านอย่างไร้ร่องรอย.
เพียงครู่เดียวซิลก็กลับมาพร้อมกับคอของกระต่ายอยู่ในปากของเธอ กระต่ายก็ใช้ฟันของมันกัดโต้ตอบแต่มันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจั่วลม ตอนนี้ผมถือกระค่ายด้วยการถึงหูของมันจากนั้นผมก็บอกซิล
“คุณสามารถทำให้ลมคมเหมือนกับมีและตัดหลอดเลือดของมันได้ไหม?”
-เมี๊ยว.
ซิลพยักหน้าของเธอ
ผมถือกระต่ายไปข้างแม่น้ำหลังจากนั้นผมก็บอกกับซิล
“ทำมัน”
_-เมี๊ยว!
ลมที่เหมือนกับมีดที่แหลมคมกรีดลงไปบนคอของกระต่าย
ฉัวะ! (เสียงเชือด)
เลือดไหลออกจากคอของกระต่าย กระแสน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดง
กระต่ายเอาดิ้นรนในลมหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนที่มันจะแน่นิ่งไป ผมจับขาและเทเลือดให้ใหลออกจากตัวของมันให้หมด.
“โอ้ เธอมีประโยชน์มาก?”
ปาร์คโกซางเคลื่อนไหวเล็กน้อย
หยุดแค่นี้มันก็โอเคแล้ว แต่แล้วเขาก็เพิ่มคำไร้ประโยชน์เข้ามาอีก
“จากนี้ไปคุณจะต้องรับผิดชอบเรื่องอาหาร.”
หน้าของผมกลายเป็นสีแดงด้วยความโกรธ
‘ไอ้อันพาลนั่น เขาต้องการที่จะออกคำสั่ง?’
ผมมีความเสียใจที่ถูกเขาโจมตีก่อน
ในใจของผมคิดว่าอยากจะกรีดคอของเขา.
‘รอและดู.’
หากฉันถึงขีดสุดเมื่อไหร่