ตอนที่ 095 – ศัตรู
ตอนที่ 095 – ศัตรู
ขณะที่เขามองไปยังสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์เบื้องหน้าเขา คำกล่าวของทหารถึงเหล่ารูปปั้นทองสัมฤทธิ์ก็น่ากลัวยิ่งขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งทำให้ถังเทียนกระตือรือร้นที่อยากจะลองดู
เขาสำรวจไปยังดวงตาของรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ ราวกับพวกมันเป็นชิ้นเนื้อที่จะถูกเชือดที่โรงเชือด สิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ดูเหมือนจะมิรู้สึกกับการจ้องมองของถังเทียน ขณะที่พวกมันยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว เงาวาววับของทองแดงสะท้อนแสงราวกับพวกมันเยือกเย็นผิดปกติ มันมีเพียงสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ แต่ถังเทียนสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ไร้ซึ่งคำอธิบาย
ท่าทางของถังเทียนกลายเป็นเคร่งขรึม เขาจดจ่อและเปิดตากว้างขณะที่จ้องไปยังรูปปั้นทองสัมฤทธิ์
เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
แกร๊ก!
หนึ่งในรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ตรงข้ามเขาพลันตื่นขึ้น และก็เกิดเสียงร้องแหลมขึ้น มันเงยหัวของมันขึ้น ดวงตาอันไร้ชีวิตของมันสว่างวาบราวกับดวงดาราสองดวงฉายเปล่งประกาย รูปปั้นทองสัมฤทธิ์นี้มีรูปร่างสมส่วน ด้วยแขนทั้งสองสัมผัสไปยังเข่า ฝ่ามือใหญ่และหัวที่เปล่งประกาย ราวกับมันเป็นลูกกลมทองแดง อวัยวะทั้งห้าของมันทั้งหมดดูหยาบกร้าน มันสามารถพบได้ว่าบุคคลที่ได้สร้างมันขึ้นมามิได้ใช้เวลามากนัก เช่นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์นี้ที่ดูหยาบกระด้าง
ส่วนบนหน้าอกของรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ถูกสลักด้วยเลข ‘1’
ถังเทียนเพิ่งสังเกตเห็นว่าบนหน้าอกของรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ทั้งหมด มันมีตัวเลขอยู่ ถังเทียนเช็ดปาดของเขา
ตึง!
ขณะที่รูปปั้นทองสัมฤทธิ์หมายเลขหนึ่งย่างก้าวแรกของมัน มันราวกับลูกศรหลุดออกจากแหล่งขณะที่เขากระโจนไปยังถังเทียน
“ไฮ้!” ถังเทียนตะโกนขณะที่เขาชกออกไปข้างหน้า ระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นกระแทกไปยังรูปปั้นทองสัมฤทธิ์หมายเลขหนึ่ง
พลังอันรุนแรงพรั่งพรูออกมาจากหมัด ถังเทียนแค่นเสียงอย่างเย้ยหยัน มันราวกับเขาไถลบนเส้นทางของเขาด้วยหลังหลังลื่นไหลไปสองสามเมตร
แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก!
เหล่าเสียงข้อต่อดังเข้ามาภายในหูของถังเทียน เขาเงยหน้ามองอย่างรีบร้อยพบเห็นว่ารูปปั้นทองสัมฤทธิ์ตื่นขึ้นหมดแล้ว
หนังหัวของถังเทียนด้านชาทั้งหมด เขามิสามารถสนใจสิ่งใดอีกพลางตะโกน “นี่ตาเฒ่า ท่านมันบ้าไปแล้ว…”
ก่อนที่เขาจะกล่าวคำจบ สิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ทั้งหมดพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางไปยังเขาราวกับพวกมันเป็นพยัคฆ์อันดุร้ายที่กระโจนเข้าหาเหยื่อของพวกมัน
ภายในชั่วพริบตา เขาก็ถูกล้อมรอบโดยพวกมัน รอบๆตัวเขาต่างมีร่างของรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ ถังเทียนตกตะลึง เขาขบคิดภายในหัวตระเตรียมที่จะพุ่งออกไปด้านนอก แต่ภายในสถานการณ์นี้ เขาเห็นเพียงสิ่งที่ดูราวกับเหล็ก โอ้ไม่นะ มันคือรูปปั้นทองสัมฤทธิ์หมายเลขเก้า!
ถังเทียนมองไปยังรูปปั้นทองสัมฤทธิ์หมายเลขเก้า ซึ่งผอมบาง มีขาทองแดงที่เล็กกว่าตัวเขา ขณะที่รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ย่างก้าวมาข้างหน้า ก็เกิดเสียงดังก้องกังวานและพื้นก็สั่นสะเทือน
ถังเทียนตะลึง พระเจ้า ปราศจากคำกล่าว เขาหันหลังและวิ่งอย่างสุดชีวิต
วูบ วูบ วูบ!
ร่างของสามรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ปรากฏเบื้องหน้าเขา
สี่ ห้า และหก สามรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ตั้งเป็นสามเหลี่ยมรอบตัวเขา แต่...
ถังเทียนตกอยู่ในอาการงุนงงอีกครา
รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ทั้งสามต่างราวกับเม่นทองแดงสามตัว พวกมันมีแขนมากมายติดอยู่ที่ร่างของพวกมัน ถังเทียนกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เนื่องจากแขนพวกมันต่างถือศาสราวุธแตกต่างกันไปทั้งหมด เม่นทองแดงทั้งสามยืนอยู่ขัดขวางเส้นทางของเขา
วิธีการนี้คงจะมิได้ผล...
ปราศจากคำกล่าวอันใด ถังเทียนก็พุ่งไปยังด้านซ้ายของเขา
ฟู่! รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ฝั่งซ้ายของดูธรรมดามากขึ้น มันมิมีความแตกต่างอันใดระหว่างพวกมันและถังเทียน ความอาจหาญของถังเทียนเพิ่มขึ้นและด้วยการตะโกน เขาก็วิ่งไปข้างหน้า
เขาจะต้องออกจากวงล้อมนี้!
ทหารช่างเป็นตัวบัดซบ ช่างไร้อย่างอาย! ถังเทียนขบคิด สิ่งใดคือตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์กัน? เหล่ารูปปั้นทองสัมฤทธิ์ทั้งหมดต่างเข้ามาตัวแล้วตัวเล่า เขามิได้คาดคิดว่าพวกมันจะขยับเพียงเล็กน้อยและสิบแปดรูปปั้นทั้งหมดก็เข้ามาโจมตีพร้อมกัน
ช่างเป็นการกระทำที่ชั่วร้ายนัก… ช่างน่าโมโหยิ่ง...
หลังจากที่แลกเปลี่ยนหมัดกับรูปปั้นทองสัมฤทธิ์หมายเลขหนึ่ง ถังเทียนรู้ได้ว่าพวกมันแข็งแกร่งอย่างยิ่ง หนึ่งต่อหนึ่ง เขามิสามารถที่จะมั่นใจในชัยชนะของเขา และเมื่อเพิ่มพวกมันทั้งสิบแปดตัวแล้วการต่อสู้ในครานี้ มันแทบมิมีโอกาสที่จะชนะได้เลย!
แม้ว่าถังเทียนจะมีความสุขกับการต่อสู้ เกี่ยวกับสิ่งที่มันต่างๆที่มันถูกกำหนดให้เสียเปรียบแล้ว เขามิมีความสนใจแม้แต่น้อยเลย
“ทหารเกณฑ์หลั่งโลหิตเพื่อประสบกับกฏข้อแรกของตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ แน่นอนคือห้ามพยายามวิ่งหนี” ทหารที่ลอยอยู่ภายในอากาศกล่าวอย่างเศร้าโศก
ปัง ปัง ปัง!
ถังเทียนสามารถเพียงรู้ว่ารอบๆตัวเขาต่างเต็มไปด้วยภาพของหมัด
เขามิสามารถที่จะตอบสนองได้ทันท่วงที และดวงตาของเขาก็มืดดับไป
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“ลุกขึ้นมา! เจ้าโง่! อย่าได้หยุดอยู่ตรงนั้น!”
“แล้วอาภรณ์ไร้มลทินของเจ้าเล่า? โง่เง่า! เจ้ามิรู้หรือว่ามันใช้ออกเยี่ยงไร!?”
“จดจ่อไปยังพลังของเจ้า! จดจ่อไปยังพลังของคู่ต่อสู้! ตอบสนองให้รวดเร็วยิ่งขึ้น! ช่างช้าไปแล้ว เจ้ามีแรงหรือไม่?”
…
ทหารกล่าวโผงผางอย่างไม่หยุดขณะที่เขาได้ยินเสียงชกออกจากรูปปั้นทองสัมฤทธิ์กระแทกไปยังถังเทียน ทหารกระวบกระวาย หลังจากเงียบเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยอารมณ์ของเขาทั้งหมดและมันราวกับหินหลอมเหลวที่ปะทุขึ้น ถังเทียนผู้น่าสงสาร เขากลับกลายเป็นผู้เดียวที่รับมันไปทั้งหมด
ถังเทียนพยายามต่อสู้กับสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์เป็นเวลาสิบวันติดต่อกัน
“ขยะ! ตามบันทึก มือใหม่ของกองทัพสามารถที่จะเอาชนะตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ได้ในคราที่สองที่เขาเข้ามา กี่วันกันที่เจ้าจะต้องใช้มัน?”
“ตอบโต้สิ! ตอบโต้สิ! เจ้ามีมือเอาไว้ทำอันใดกัน? มันใช้เพียงป้องกันสำหรับเจ้างั้นหรือ? ข้าจะมิยอมให้ทหารเกณฑ์ของข้าป้องกันราวกับคนโง่เง่าหรือขลาดเขลา เจ้าเป็นบุรุษ เจ้าจะต้องตอบโต้กับศัตรูด้วยหมัดของเจ้า!”
“กี่ครั้งกี่คราที่เจ้าต้องการให้ข้าเตือนเจ้ากัน? อาภรณ์ไร้มลทิน!”
…
หลังจากปราศรัยอยู่ชั่วครู่ ทหารดูเหมือนจะเหนื่อยล้า เขาก็หยุดลง
ลอยอยู่กลางอากาศ เขาเฝ้ามองไปยังถังเทียนขณะที่เขาพยายามด้วยความเจ็บปวด เขากลับคืนมาเป็นใบหน้าโป๊กเกอร์ของเขาขณะที่ดวงตาของเขามองอย่างราบเรียบไปยังเด็กหนุ่มอย่างเศร้าใจ แม้ว่าการกระทำของถังเทียนจะมิน่าประทับใจแต่ทหารก็คาดหวังอย่างมาก
ทหารเกณฑ์ทุกคนยามเมื่อพวกเขาย่างก้าวเข้ามาภายในตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ก็มีมาตรฐานอยู่ที่ขั้นหก
ถังเทียนคราแรกที่เข้ามาภายในตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่ขั้นสี่
บุรุษหนุ่ม สู้สู้!
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ยามเมื่อจิ่งเหาตื่นขึ้นมาก็พบเห็นถังเทียนที่บาดเจ็บฟกช้ำ เขาก็ตกใจ “น้องถัง เกิดอันใดขึ้นกับเจ้ากันแน่?”
เปลือกตาของถังเทียนกระตุก มันช่างน่าเวทนานัก ดวงตาของเขาบวมอย่างหนัก เขามิสามารถมองเห็นได้ อย่างไรก็ตามเขาก็ฝืนยิ้ม “อา ยามเมื่อข้าฝึกฝนข้าหักโหมอย่างไม่ตั้งใจ”
ในช่วงสิบวันภายในตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ เขามิมีความทรงจำว่าเขาถูกทุบตีไปมากมายเท่าใด เขารู้สึกมันเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่เขายังคงมีชีวิตอยู่ ขณะที่มันมีรอยฟกช้ำและบาดแผลบนร่างของเขา แม้กระทั่งยางพอกราชินีต่อก็มิสามารถจัดการลบพวกมันออกไปได้หมด ด้วยเหตุนี้ ยามเมื่อถังเทียนปรากฏต่อหน้าจิ่งเหา เขาก็มีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด
“หัมโหมเกินไป?” จิ่งเหาสับสน เขามิสามารถจินตนาการได้เลยว่าหักโหมมากเท่าใดที่สามารถที่กลายเป็นสภาพเช่นนี้ แต่จิ่งเหาเป็นบุรุษหยาบกร้าน เขามิใช่คนที่สอดรู้สอดเห็น ดังนั้นเขาจึงมิได้กล่าวถามมากมาย “ถ้างั้น น้องถังยังคงต้องการประลองอยู่หรือไม่?”
ถังเทียนขบฟันของเขา “มาเถอะ!”
ในครานี้ จิ่งเหาสามารถสัมผัสได้ว่าถังเทียนแตกต่างไปจากเดิม
ก่อนหน้านี้ แม้ว่าจิ่งเหาจะรู้สึกว่าการป้องกันของถังเทียนยุ่งยาก ท้ายสุดแล้วเขาก็สามารถกำราบถังเทียนได้ พวกเขาทั้งสองต่างราวกับฝึกซ้อมการแสดงจู่โจมและป้องกัน จิ่งเหาเป็นผู้ที่จู่โจม ขณะที่ถังเทียนเป็นผู้ที่ป้องกัน กระบวนการทั้งหมด ถังเทียนเพียงคล้ายจะจดจ่อไปยังการป้องกัน มิมีเจตนาที่จะโจมตีเลย
แต่วันนี้ ถังเทียนแตกต่างไป เขายังคงมีสภาพกับการป้องกัน แต่การป้องกันของเขามีความตั้งใจของการตอบโต้อย่างรุนแรง แม้ว่าการตอบโต้ของถังเทียนมักจะไม่เป็นระเบียบ จิ่งเหาก็ตกใจกับการพัฒนาของเขา
ภายในช่วงคืนสั้นๆ ถังเทียนมีการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้!
จิ่งเหาอยากรู้ ดังนั้นเขาจึงสู้อย่างเต็มที่
ถังเทียนเพียงรู้สึกเคร่งครียดมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อเทียบกับตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์แล้ว นี่มันมีความแตกต่างอย่างมาก ที่ตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ เขามิสามารถที่จะกระทำอันใดได้เลยได้แต่พยายาม แต่ยามเมื่อเขาเผชิญหน้ากับจิ่งเหา เขามิได้หวาดกลัว แม้กระทั่งยามเมื่อจิ่งเหาระเบิดพลัง ถังเทียนยังคงมิได้พ่ายแพ้เกินไป
สำหรับสิบวันต่อเนื่องของเวลาแห่งความเพียรและการทรมาน ถังเทียนเริ่มที่จะเคยชินกับการตอบโต้ แม้ว่าเขายังคงห่างไกลจากความเชี่ยวชาญ มันก็เพียงพอที่จะทำให้จิ่งเหามิอาจประมาทเขาได้
รอบสุดท้ายของการประลองยาวนานกว่าก่อนหน้า ถังเทียนอดกลั้นตลอดยี่สิบนาทีก่อนที่เขาจะพ่ายแพ้
ปราณของจิ่งเหาวุ่นวายเล็กน้อยขณะที่เขาตกใจ ก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะรู้สึกเหนื่อยล้า ในครานี้ ความเหนื่อยล้าของเขามันสูงขึ้นกว่าคราล่าสุด
เจ้าเด็กผู้นี้… เป็นมากกว่าสิ่งที่เขาเป็น...
ถังเทียนยังคงขบฟันของเขาและดูมีพลังอยู่
สังเกตไปยังถังเทียนที่มองมาที่เขา จิ่งเหาพ่นคำพูดออกมาเพื่อลดความตั้งใจสู้ของถังเทียน “ฟื้นฟูซะ!”
จากนั้นเขาก็มองไปยังถังเทียนผู้ที่เริ่มฟื้นฟูพลังอย่างมิเต็มใจนัก ก่อนที่จิ่งเหาจะถอนหายใจอย่างโล่งอก ในความยึดมั่นของถังเทียน เขายังคงรู้สึกหวาดกลัว เจ้าเด็กผู้นี้นิสัยเสียผู้ที่ดูเหมือนจะมิรู้จักความเหนื่อยล้า
ทั้งสองเริ่มที่จะทำสมาธิฟื้นฟูพลัง หนึ่งชั่วโมงต่อมา ถังเทียนผู้ที่ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ ก็กระโดดขึ้นมาก่อน
ถังเทียนเตรียมพร้อมที่จะกล่าวถามการประลองอีกครา แต่ทันใดนั้น มันก็มีเสียงดังของผู้คนจากด้านนอก เขาอุทานด้วยความประหลาดใจ “มีคนมา!”
ในเวลาเดียวกัน จิ่งเหาก็เปิดตาของเขาขึ้นพลางยืนขึ้น ท่าทางของเขาเปลี่ยนไป ร่องรอยของกลิ่นอายสังหารปรากฏบนใบหน้าของเขา เขากล่าวอย่างบางเบา “เตรียมต่อสู้”
“ต่อสู้งั้น?”ดวงตาของถังเทียนพลันเบิกโต
“มันมิใช่คนของพวกเรา คนในค่ายของพวกเรา ข้าเพียงหวาดกลัวว่า...” จิ่งเหามิได้กล่าวจบ กลิ่นอายสังหารบนใบหน้าของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง พุ่งไปยังรอยแยกอย่างเงียบๆ
ถังเทียนประหลาดใจ แต่ยามเมื่อเขาเข้าใจแล้ว ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นจริงจัง และปราศจากความลังเลใจเขาติดตามจิ่งเหาอย่างใกล้ชิด
ผู้คนในค่าย...
เสียงของกลุ่มผู้คนดังมาจากด้านนอกรอยแยก
“ข้าคิดว่าสหายจากสมานักสู้แห่งแสงควรจะมีความสามารถบ้างเสียอีก? มาตรฐานของเขาช่างต่ำต้อย!”
“มีเพียงเจ้าล้านที่ถือว่ากระดูกแข็งหน่อย”
“มิว่ากระดูกจะแข็งเพียงใด พวกมันยังคงแตกหักโดยพี่เชียง!”
“ฮ่าฮ่า!”
…..
กลิ่นอายสังหารปรากฏขึ้นที่ดวงตาของจิ่งเหาภายในรอยแยก
คำพูดเหล่านี้ก็ดังไปเข้าหูของถังเทียนเช่นเดียวกัน
บุรุษหนุ่มที่ค่ายมิได่มีความสัมพันธ์กับเขามากนัก ถังเทียนมิสามารถจะเรียกนามของพวกเขาได้ ผู้เดียวที่เขาคุ้นเคยคือคนที่ถูกเขาทุบตีไป บุรุษหัวล้านเปียวเกอ และแม้จะว่าเช่นนั้น บุรุษหัวล้านเปียวเกอก็มิได้มีความสัมพันธ์มากกับถังเทียนเช่นกัน มีเพียงสิ่งเดียวที่ประทับใจถังเทียนอย่างสุดซึ้งก็คือเหตุการณ์ของวานรไม้จันทร์มรกต แม้ว่าบุรุษหัวล้านจะเต็มไปด้วยความกลัว เขายังคงออกมาช่วยเก็บซากศพ
สิ่งนี้ทำให้ถังเทียนเข้าใจและรู้สึกได้ว่าบุรุษหัวล้านเปียวเกอก็มิได้เลวร้ายนัก
แต่...
‘...มันอาจจะยากลำบากที่ต้องมาอยู่ที่นี้ แต่เจ้าสามารถเพลิดเพลินกับการเป็นนักสู้ขั้นโลหะได้ ครอบครัวของเจ้าก็จะถูกดูแลด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์ของข้ามันย่ำแย่ยิ่ง อนาคตของข้าก็มืดมัว มันเพียงพอแล้วที่ครอบครัวของข้าที่จะได้ผลประโยชน์จากมัน…’
ใบหน้าอันสงบและพึงพอใจของบุรุษหัวล้านปรากฏขึ้นภายในจิตใจของถังเทียน
หมัดของถังเทียนกำแน่นอย่างรวดเร็ว
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ