บทที่ 46: หนึ่งบี่สองใบมีด (อ่านฟรีวันที่5กรกฎาคม)
บทที่ 46: หนึ่งบี่สองใบมีด
พื้นดินที่กว้างใหญ่สั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว ซูหยุนรีบกระโดดลงมาจากก้อนหินขนาดยักษ์ที่มันยืนอยู่ หันมองไปรอบ ๆ
พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรงก่อให้เกิดหินถล่มโดยรอบและแม้กระทั่งรอยแยกที่เปิดขึ้นมาจากพื้นดิน
"แผ่นดินไหว?"
"ไม่น่าใช่!"
"มีพลังอำนาจจิตวิญญาณหนาแน่นมาก ๆ ... ดมองที่นี่ดูดีๆสิ ... จริงๆแล้วมันเป็นกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์! เจ้าหนูเจ้าต้องระวัง! "
"กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์?"
ซูหยุนตกใจ มันรีบถอยหลังกลับ มันรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าไม่ไกลจากพื้นดินที่แยกออกมีกะโหลกศีรษะหินขนาดยักษ์โผล่ออกมา
ดวงตาของซูหยุนเปิดกว้างขึ้น ขณะที่มันมองไปที่สัตว์ประหลาดใต้ดินนั้นด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจ
ถ้ามองที่ระดับความสูง มันน่าจะสูงถึง 5 เมตรเท่านั้น มันเป็นยักษ์ขนาดเล็กที่มีก้อนกรวดและโขดหินปกคลุม มีเส้นใยใบหญ้ามากมายขึ้นอยู่รอบๆตัว บนหัวของมันมีสองตาสีเขียวขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว
"นี่ ... คือ ... จวี้เอี้ยนเจียง(ยักษ์ศิลา) 巨岩将?" ผู้อาวุโสกระบี่ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง
"จวี้เอี้ยนเจียง(ยักษ์ศิลา) 巨岩将?" ซูหยุนคิดในสิ่งที่มันได้ยินนั้นอย่างโง่งม
"ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ดินนั่นถูกยักา์ศิลากินเข้าไป?"
"น่าจะเป็นอย่างนั้น!"
"ยักษ์ศิลา มันน่าจะอาศัยอยู่ที่นี่สักพักใหญ่แล้ว หินพิเศษที่อยู่ใต้ดินของหน้าผานี้ น่าจะถูกมันกินเข้าไปแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าตัวประหลาดนี้แค่อยากจะหาที่ไหม่ๆ มันต้องการหาสายแร่หินพิเศษอื่นๆและแค่กินมันต่อ! "
"พูดกันว่า แก่นแท้ของ ยักษ์ศิลา นั้นทรงพลังมาก เมื่อสวมบนร่างกายแล้วจะสามารถใช้งานได้ในระหว่างการต่อสู้ มันสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้ได้อย่างมาก! "
"โอ้! เจ้ากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้? ระดับการบ่มเพาะของ ยักษ์ศิลา น่าจะอยู่ที่ขั้นที่ห้าแก่นแท้วิญญาณ เจ้าแค่ขั้นพื้นฐานวิญญาณ เจ้าคนเดียวไม่ใช่คู่มือเจ้ายักษ์ศิลานี้หรอก "
"ยักษ์ศิลา เป็นยักษ์ มันมีพลังกายที่น่าอัจศจรรย์และมีการป้องกันที่สูงเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นราชาแห่งสัตว์ประหลาดของขั้นที่ห้าเขตแดนแก่นแท้วิญญาณ อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีข้อดีมันก็จะมีข้อเสีย ยักษ์ศิลา นี้มันเชื่องช้ามากๆ มีข่าวว่าแม้ความเร็วของมันไม่สามารถเปรียบกับผู้บ่มเพาะขั้นพื้นฐานระดับกลางได้ ความเร็วของข้าตอนนี้อยู่ที่ประมาณสามเท่าของผู้บ่มเพาะพื้นฐานวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้ตัวข้าน่าจะเร็วกว่ามันสองถึงสามเท่า ข้าน่าจะสามารถจัดการมันได้ถ้าข้าใช้ เคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง จัดการมัน "
"ฮ่า ๆ ๆ ... " หลังจากได้ยินคำพูดของซูหยุนผู้อาวุโสกระบี่ก็หัวเราะ "เจ้าหนู เจ้าก็พูดดีเกินกว่ามันจะเป็นไปได้ เจ้าตัวประหลาดนี่มันมีเพียงการป้องกันและพลัง? ข้าคิดว่าเจ้าไม่สามารถแม้แต่ตีฝ่ากลิ่นอายจิตวิญญาณของสัตว์อสูรตัวนี้ได้! พื้นฐานของเจ้าไม่ควรแม้แต่จะสามารถทำให้มันเจ็บ! "
"สิ่งที่ผู้อาวุโสพูดถูกต้อง! อย่างไรก็ตามมันจะจริงหรือ? ข้าสามารถบ่มเพาะ กลิ่นอายจิตเทพวิถีฟ้า และสร้างกลิ่นอายที่แหลมคมและรุนแรงมากๆถึงแม้จะไม่สามารถทะลวงการป้องกันได้ แต่ข้าก็ยังได้ฝึกฝนอยู่ โดยการฝึกฝนและประสบการณ์ในการต่อสู้ ไม่เป็นอันตรายใดๆกับมัน อย่างไรก็ตาม เมื่อข้าฆ่า ยักษ์ศิลา ได้ละก็มันคือ หนึ่งกระบี่สองใบมีด " (Tl: สำนวน: ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว)
"ความคิดดี ... แต่พลังจิตวิญญาณของเจ้าจะไม่เหลือ นี่หมายความว่าเจ้ามีวิธีฟื้นฟู? "
"เม้ดยาปราณวิญญาณจิตลึกล้ำ"
"โอ้ ... ข้าลืมไปเลยว่าเจ้ามีสิ่งประหลาดเล็กๆนั่น!"
"ยักษ์ศิลาไม่มีการโจมตีระยะไกลดังนั้นเพียงแค่ใช้กระบี่ที่หนึ่งของ เคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง!"
"เมื่อมันเป็นแบบนี้ทำไมเจ้าไม่ลองดูล่ะ? อย่างไรก็ตาม เจ้าจะทำยังไงเกี่ยวกับเรื่องของ ตระกูลซู? "
"ตอนนี้ข้าพักไว้ก่อน ยังไงๆข้าเป็นสาวกของสำนักภายนอก แต่จริง ๆ แล้วนี่เป็นการเรียกครั้งแรก!
ซูหยุน ได้แต่ถอนหายใจและเตรียมดาบสลักมังกรวารีของมัน จากนั้นมันก็พุ่งเข้าใส่ ยักษ์ศิลา
แคร้ง!ตูม!
ดาบทะลุการป้องกันและแทงทะลุเข้าไปในตาข้างหนึ่ง แต่มันก็ลึกเพียงแค่สองนิ้ว
โฮกกกกก!!!
ยักษ์สิลา ร้องอย่างเจ็บปวดและโมโห
"ดวงตานั้นเปราะบางดังนั้นข้าจึงสามารถเจาะการป้องกันของมันได้ง่าย ยังไงก็ตามพลังการโจมตีนั้นไม่เพียงพอ "
ผู้อาวุโสจ้องไปที่ซูหยุนที่ปกคลุมไปด้วย กลิ่นอายจิตเทพวิถีฟ้า มันเป็นผลมาจากความสามารถของซูหยุน ไม่นานหลังจากนั้นมันก็ได้แทงดาบสลักมังกรวารีเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง
ฉึก !!!
ขณะที่พลังปราณบินโจมตีไปทาง ยักษ์ศิลา มันแผ่กระจายออกมาอย่างรวดเร็วและครอบคลุม ยักษ์ศิลา อย่างแน่นหนา หลังจากเรียบร้อยแล้ว ซูหยุน ติดตามรูปแบบแรกของเคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่งเพื่อทำการเคลื่อนย้ายของมัน
เมื่อได้เห็น ดาบสลักมังกรวารี เจาะทะลุตาขวาของยักษ์ศิลา
เหมือนการเจาะสว่านอย่างรวดเร็วเกิดประกายไฟจำนวนมากเมื่อ กลิ่นอายจิตเทพวิถีฟ้า ปะทะกับ ยักษ์ศิลา หินเศษเล็กเศษน้อยมากมายแตกออกมาขณะที่เจาะ กลิ่นอายของยักษ์ศิลาแตกกระจาย
โฮกกกกก!!!
ยักษ์ศิลา ตอนนี้เจ็บปวดมากขึ้น มันโกรธมากขึ้นและต่อยกำปั้นยักษ์ของมันออกมาอย่างรวดเร็ว คว้าดาบสลักมังกรวารี และหยิบมันออกไป ไม่นานหลังจากนั้น มันขว้างดาบอย่างโหดเหี้ยมกลับที ที่ ซูหยุน
ดาบ บินวกลับอย่างรวดเร็วในบ่วงและยิงตรงไปทา ยักษ์ศิลา อีกครั้งหนึ่ง
เป้ง !!!
ดาบสลักมังกรวารี ถูกครอบคลุมด้วย กลิ่นอายจิตเทพวิถีฟ้า แหลมคมแค่ไหน? อย่างไรก็ตามขณะที่มันปะทะกับร่างของ ยักษ์ศิลา มันมีโอกาศเพียงแค่ทิ้งรอยขีดข่วนไว้บนพื้นผิวภายนอกของยักษ์ศิลาเท่านั้น การโจมตีต่อมาเหลือเพียงรอยบุ๋มเล็ก ๆไว้
ไม่เจ็บไม่จี้! (Tl: สำนวน: ผิวเผินอ่อนแอ)
ยักษ์ศิลา ตัดสินใจปรี่เข้าไปหา ซูหยุน และตั้งใจจะฉีกมันเป็นชิ้นๆ
เมื่อซูหยุนเห็นอย่างนี้มันก็รีบถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว ทิ่งระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างมันกับ ยักษ์ศิลา ถ้ามันช้าไปกว่านี้มันอาจจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆแน่
เขาไม่กล้าสลายการโจมตีของมัน เขาเล็งจุดหนึ่งแล้วโจมตีซ้ำๆอย่างต่อเนื่องเครื่องป้องกันของเขาแทน
ตอนแรกมันเป็นเพียงแค่รอยแหว่ง เช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าการโจมตีทับซ้อนกันขึ้น ผลลัพธ์ค่อยๆเริ่มแสดงให้เห็นด้วยตัวของมันเอง
.........
.........
หลังจากหนึ่งวันเต็ม
ใน จักตุจักรตลาด ตระกูลซู
ในเวลานี้มีผู้คนมากมายมาชุมนุมกันที่นี่ สาวกภายในกำลังดูแลพื้นที่ภายใต้การควบคุม ส่วนที่เหลือมาจากสำนักภายนอก
บนเวทีตลาดกลางแจ้ง พ่อเฒ่าซูชิหลง แห่งสำนักภายในยืนขึ้นสำรวจฝูงชน
คนเริ่มเงียบและไม่กล้าส่งเสียงหลังจากที่พ่อเฒ่าก้าวขึ้นไปบนเวที พวกเขากำลังรอ พ่อเฒ่าซูชิหลง พูดอะไรบางอย่าง
หลังจากฝูงชนเงียบลง ซูชิหลง พยักหน้าและพูดว่า "มีใครอีกไหมที่กำลังมา?"
"รายงานท่าน พ่อเฒ่า นอกเหนือจาก ซูต่า, ซูซินลู่ และคู่สามีภรรยาของสาวกสำนักภายนอกทุกคนได้กลับมาแล้ว! "
"ท่านพ่อเฒ่า ซูต่า และ ซูซินลู่ น่าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้!"
"หืม?ฮ่า ๆ ๆ
ซูชิหลง พยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร
ตอนนั้นเอง มีใครบางคนตะโกนขึ้น
"ซูหยุน?"
คิ้ว ซูชิหลง ขมวดเเน่น "เขาไปไหน?"
"เรียนท่านพ่อเฒ่า ข้าไม่รู้ว่าสาวกคนนี้อยู่ที่ไหน"
"โอ้ เจ้าไม่ได้ส่งเขาไปทำอะไร?"
"ไม่ครับ สาวกสำนักภายนอกจะไม่ถูกห้ามจากการออกเดินทาง ในตอนนี้ข้าไม่รู้ว่า ซูหยุน ไปที่ไหน แต่ท่านได้เปิดใช้สัญญาณเหตุด่วน ข้าเชื่อว่าเราจะได้เห็นมันเร็ว ๆ นี้แน่! "
"กลับมา?"
ซูชิหลง เยอะเย้ย "ตระกูลซู อันยิ่งใหญ่ตราบจนกระทั่งบัดนี้ให้กำเนิดผลิตผลที่ดี แต่ไม่มีอะไรเหมือนเช่น ซูหยุน?"
"ทุกคนจงฟังข้า คราวนี้มีภาระกิจสำคัญที่ได้รับมอบหมายมาจาก ตระกูลหลัก! มีการทดสอบที่ทุกคนต้องเข้าร่วม ถ้าหากมีใครคิดที่จะปฏิเสธเจ้าจะถูกลงโทษตามกฎของตระกูลและถูกขับออกจากตระกูลซู ทุกคนเข้าใจไหม? "
"ครับท่าน!"
ดีมาก!
"คราวนี้ตระกูลหลักได้จัดเตรียมป้ายผลึกหยกโลหิตหนึ่งพันชิ้น ของสิ่งนั้นตั้งอยู่ในบริเวณเขาเปียงกู่(เขานับรบกระดูก) 兵骨山 ในตระกูลซูซึ่งมันสามารถผลิตออกมาได้เป็นจำนวนมาก สำหรับภารกิจแรก เขาเปียงกู่(เขานับรบกระดูก) 兵骨山จะเปิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ สำนักภายในจะจัดหา เม็ดยาลมปรานขับโลหิต 祛瘀活血丹 จำนวนยี่สิบเม็ด,สิบเม็ดยาฟื้นฟูอำนาจวิญญาณ, ห้าเม็ดยาขจัดพิษและสิบยาอิ่มตัว ให้กับทุกคน นอกจากสำนักภายในจะให้อาวุธพวกเจ้าจำนวนหนึ่ง ผู้ที่ได้รับ ผลึกหยกโลหิต สามารถแลกกับผลงาน หนึ่งตราจะเท่ากับห้าผลงาน ผู้ที่ได้รับตรา 500 คะแนนจะได้รับการส่งเสริมให้เข้าร่วมสำนักภายใน! ขอให้ทุกคนโชคดี!"
"เขาเปียงกู่?"
"พื้นที่ต้องห้ามของ ตระกูลซู ... นักรบที่ทำหน้าที่ ตระกูลซู ถูกฝังอยู่ในเขาเปียงกู่? สถานที่นี้ เปิดให้พวกเราจริงหรือ? "
"เขาเปียงกู่นี้อันตรายอย่างยิ่ง มีข่าวลือว่าทุกๆที่บนเขามีก๊าซพิษที่เป็นพิษสูง มีสัตว์อสูรที่ทรงพลังมากมาย แม้แต่สัตว์อสูรที่ว่าแย่ๆก็ขั้นสามเขตแดนผลิวิญญาณ ...ถ้าเราเข้าไปในเขาเปียงกู่ ... เราจะไม่สามารถแม้กระทั่งกลับมา?? "
"โอ้พระเจ้า ... . งานนี้ถ้าเราไป ... ไม่ใช่ว่าเป็นอันตรายหรือ?"
พื้นที่กลายเป็นสับสนวุ่นวาย อารมณ์ของผู้คนเริ่มปะทุออกมา
"เงียบ!" เสียงตะโกนน่าหวาดกลัว
ต่อมา มีกลิ่นอายจิตวิญญาณเหมือนหมอกลอยขึ้นครอบคลุมพื้นที่ตลาดทั้งหมด
ช่วยไม่ได้ที่ทุกคนต้องขนลุก พวกมันหยุดตะโกนและทั้งจัตุรัสได้เงียบลงทันที ไม่มีใครกล้าที่จะส่งเสียงอีก
ซูชิหลง มองผ่านด้วยสายตาที่เย็นชาราวกับว่าเขาต้องการที่จะกินเลือดกินเนื้อทุกคน
"นี่เป็นภาระกิจที่ส่งออกมาโดย ตระกูลหลัก ตัวเลขนี้เป็นสิ่งที่ตระกูลซูของพวกเราต้องการ ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะใช้วิธีใด ข้าขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ไม่ว่าเจ้าต้องทำยังไง พวกเจ้าทุกๆคนต้องเข้าสู่เขาเปียงกู่ในวันพรุ่งนี้ ภายในสิบวันพวกเจ้าต้องได้รับ ผลึกหยกโลหิต หนึ่งพันชิ้นมาให้ข้า! "
"อย่างไรก็ตามพวกเจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย เราจะให้สาวสกชั้นยอดเจ็ดคนของสำนักภายในไปพร้อมกับพวกเจ้าในแต่ละกลุ่ม พวกเจ้ามีอะไรที่ต้องห่วงอีกมั้ย? ดี!ภาระกิจนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว ทุกคนไปได้แล้วและเตรียมตัวทันที! "
"ครับท่าน!"
แม้ว่า พ่อเฒ่าซูชิหลง จะพูดดีแต่สาวกสำนักภายนอกนั้นไม่ใช่คนโง่เขลา
ภาระกิจหลักสำหรับสำนักภายในจากตระกูลหลักนั้นอันตรายมากเกินไป ดังนั้นจึงได้ส่งให้กับสำนักภายนอก มันอันตรายอย่างยิ่งสำหรับสาวกของสำนักภายนอกที่กล้าเข้าสู่เขาเปียงกู่เพื่อรับ ผลึกหยกโลหิต โดยทั่วไปสำนักภายนอกเป็นสิ่งไร้ค่าบวกกับ ซูชิหลง เป็นผู้สนับสนุนให้ทำเช่นนั้น พวกเขาแม้จะมีเวลา จำกัด สำหรับเส้นทาง
ซูชิหลง จงใจสั่งให้สำนักภายนอกทำตามคำสั่งของเขา โดยรู้ว่าพวกมันจำเป็นต้องมอบชีวิตของมันให้กับเขา แต่ทุกคนก็หมดหนทาง ในตระกูลซูนอกเหนือจากท่านผู้นำแล้วไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ซูชิหลง
แต่ก็โชคดีที่อย่างไรก็ตามอย่างน้อยๆพวกมันก็มีสาวกชั้นนำจากสำนักภายในสิบคนเป็นผู้นำ มิฉะนั้นถ้ากลุ่มสาวกจากสำนักภายนอกเข้ามาในเขาเปียงกู่ไม่เพียงแต่จะถูกทำร้ายแต่อย่างน้อยๆเจ็ดในแปดสาวกทุกคนจะต้องตาย ด้วยผู้นำชั้นยอดอย่างน้อยพวกมันมีโอกาสต้านทานสัตว์อสูรที่ทรงพลังมากขึ้น
เหล่าสาวกก็แยกย้ายกันไปและเดินไปยังคลังอุปกรณ์เพื่อรับเสบียงที่จัดทำขึ้นจากซูชิหลง
"ถูกต้อง"
ทันใดนั้นซูชิหลงก็ตะโกนในขณะที่เขาอยู่ไกลจากสำนักภายนอก
"ท่านพ่อเฒ่า ท่านมีคำสั่งอื่น ๆ อีกหรือไม่"
"สาวกสำนักภายนอก ซูหยุน ล่าช้ากับเรื่องสำคัญของ ตระกูลซู สำหรับการลงโทษมันที่เข้าร่วมล่าช้า นอกจากยาขจัดพิษและยาความเต็มอิ่ม รายการอื่น ๆตัดออกให้หมด ถ้ามันปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการทดสอบนี้เพียงแค่ปฏิบัติตามกฎของตระกูลซูและทำลายการบ่มเพาะของมันทันทีเจ้าเข้าใจมั้ย "
"เจ้าไม่เข้าใจหรือ ข้าจำเป็นต้องทวนซ้ำหรือไม่ "
"มะ มะ ไม่ ... .ขะ ขะ ข้าน้อยเข้าใจชัดเจนในคำสั่งของท่าน!"
ซูซิงหยาง ซูหยุนไปที่ไหน? เจ้าต้องหาทางติดต่อกับเขา อา..การทดสอบดังกล่าวต้องเข้าร่วมแท้ๆมิฉะนั้นเราจะไม่มีอะไรกิน! " ซูซินเยี่ย จ้องที่พี่ชายของนางขณะที่พูด
"ข้า….ข้าจะพาคนออกตามหาเขา "
"เจ้าแน่ใจนะ ว่าปล่อยให้เขาติดแหง็กในระหว่างการทดสอบมิฉะนั้นพวกเราก็จบ!"