AST บทที่ 89 - เจ้าหญิงเยือกแข็ง สือฉิงจวง
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique/
บทที่ 89 - เจ้าหญิงเยือกแข็ง สือฉิงจวง
ในขณะที่ชิงสุ่ยจินตนาการต่างๆนาๆ จู่สือฉิงจวงที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น
สายตาคู่ที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา มันทำให้เขาถึงกลับเกิดอาการปวดร้าวในหัวใจ สายตาของเธอนั้น
นอกจากความเย็นชาแล้วไม่มีการแสดงออกถึงความรู้สึกใดๆเลย ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความโกรธ หรือแม้กระทั่งความเกลียดชัง
เธอยังคงมองชิงสุ่ยอย่าเงียบๆโดยไม่มีการกระพริบตา ชิงสุ่ยพยายามหลบสายตาเพราะเขาเริ่มรู้สึกผิดในสิ่งที่เขาทำ
"เจ้าจะต้องหิวเป็นแน่ ข้านั้นได้เตรียมซุปใว้สำหรับเจ้า"ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไร เขาเพียงแค่ต้องการทำลายความเงียบ และทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจนี้
ชิงสุ่ยพยายามเปลี่ยนเสียงเขาให้นุ่มนวลที่สุด อย่างไรก็ตาม สือฉิงจวงขมวดคิ้ว ในขณะที่เธอยังคงเงียบเหมือนเดิมและจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย ทำให้ชิงสุ่ยเริ่มรู้สึกว่ากลัวเธอมากยิ่งขึ้น
ทันใดนั้นสือฉิงจวง ก็ละสายตาของเธอมองยังกองเสื้อผ้าที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนกลับมามองที่ชิงสุ่ย หลังจากตรวจสอบพบว่าเป็นเสื้อผ้าของเธอ ร่องรอยแห่งความหวาดกลัวเริ่มปรากฏขึ้นผ่านสายตาของเธอ
สายตาที่หวาดกลัวนี้ ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกแย่ลง
"ข้าต้องการที่จะสวมเสื้อผ้าของข้า……. เจ้าโปรดออกไปก่อนเถิด"สือชิงจวงฟื้นคืนสติ ก่อนกล่าวไปด้วยเสียงที่นุ่มนวล เสียงนั้นทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกสบายใจขึ้น
"เจ้าต้องการให้ข้าช่วยเจ้าหรือไม่ ร่างกายของเจ้านั้นยังไม่หายดี"ชิงสุ่ยกล่าวเพิ่มด้วยความกังวล
" ไม่!!! ข้าทำเองได้ เจ้าออกไปเสียเถิด!!!" สือฉิงจวงลุกขึ้นนั่ง ในขณะที่โดยใช้ผ้าห่มปกปิดร่างกายของเธอ พร้อมทั้งลดศีรษะลงและถอนหายใจออกมา
ลักษณะของเธอตอนนี้นั้นดูเปราะบางมาก ชิงสุ่ยเลือกมองเธออีกชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาเคยออกจากห้อง พร้อมทั้งคิดถึงวิธีโต้ตอบกับเธอในอนาคต หากเธอไม่ต้องการที่จะเป็นผู้หญิงของเขา
เสียงของเธอที่กำลังสวมเสื้อผ้าดังควบคู่กับเสียงร้องไห้ที่ไม่สม่ำเสมอมันสะท้อนไปด้วยความเศร้าที่อยู่ภายในห้อง ชิงสุ่ยไม่สามารถทนได้จึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปข้างในอย่างเร่งรีบ เมื่อเข้ามาก็พบว่าสือฉิงจวงกำลังใส่กางเกงในได้เพียงครึ่งเดี่ยวเท่านั้น และเธอนั้นก็รู้สึกกระวนกระวายใจทันทีที่เห็นชิงสุ่ยวิ่งเข้ามา
การกระวนกระวายนั้นไม่ระบุความรู้สึกใดๆได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความละอายใจ หรือว่าความอาย หรือว่าความโกรธกันแน่!!!
"ออกไปซะ ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าแอบมองข้า" สือฉิงจวงอุทานออกมา และสุดท้ายน้ำตาแห่งความอ่อนแอก็เต็มไปทั่วใบหน้าของเธอ
ชิงสุ่ยรู้สึกร้อนรนและเจ็บปวดขึ้นในใจ เขาจึงตรงเข้าไปกอดสือฉิงจวงเอาไว้
"อย่าแตะต้องตัวข้า!!!! ออกไปให้พ้น!!! ข้าไม่ต้องการเห็นหน้าเจ้าอีก" สือฉิงจวงทรุดตัวจนเกือบล้มลง ในขณะที่เธอยังคงร้องไห้ภายใต้อ้อมกอดของเขา
"ข้าขอโทษ ข้าบังคับเจ้ามากเกินไป"นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยนำตัวเองเข้ามาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่อาจควบคุมอะไรได้และเต็มไปด้วยความตกใจ ชิงสุ่ยยังคงกอดสือฉิงจวงเอาไว้อีกทั้งช่วยเธอสวมเสื้อผ้า หลังจากที่สือฉิงจวงควบคุมสติอารมณ์ให้สงบลง เธอเหลือบมองใบหน้าของชิงสุ่ย ในทุกๆครั้งที่เธอมองนั้น เธอจะไม่พูดอะไรออกมา
ในตอนแรกภายใต้อ้อมกอดของชิงสุ่ย สือฉิงจวงพยายามต่อต้านเขา และหลังจากที่เขาพยายามสวมเสื้อผ้าให้เธอจนเสร็จสิ้น สุดท้ายเธอก็ยอมสงบลง
บนหน้าผากของชิงสุ่ยเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ มันราวกับว่าเขาได้ลงไปในสนามรบมากกว่า 3 วัน และอีกไม่นานนัก สือฉิงจวงก็สวมเสื้อผ้าจนเสร็จสิ้น
"อืมมม ข้าจะไปเอาซุปมาให้เจ้าทาน" ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่ยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ
ชิงสุ่ยเปิดฝาหม้อออก และทันทีทันใด กลิ่นหอมที่อยู่ในหม้อก็กระจายไปทั่วห้อง แม้แต่คนที่จิตใจล่องลอยอย่างสือฉิงจวงยังหันมองไปหากลิ่นอาหารนั้นอย่างช่วยไม่ได้
ชิงสุ่ยหยิบชามที่เต็มไปด้วยซุปเต่าร้อนๆ เขานั่งลงบนเตียง และเริ่มตักซุปเต่าขึ้นมาด้วยช้อน เขาค่อยๆเป่าไล่ความร้อนก่อนที่จะป้อนซุปให้กับ สือฉิงจวง
บางทีอาจเป็นเพราะสือฉิงจวงกำลังหิว หรือเธอไม่อาจต้านทานกลิ่นหอมจากซุปเต่าได้ เธอจึงเปิดปากและดื่มมันเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ
ชิงสุ่ยเกิดความพึงพอใจขึ้นในหัวใจ ในขณะที่เขาสังเกตเห็นสือฉิงจวงกำลังดื่มซุปเต่าของเขา ทุกครั้งที่เธอเปิดปาก มันรู้สึกช่วยไม่ได้เลยที่ชิงสุ่ยจะนึกย้อนถึงรอยจูบในช่วงเวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกัน อีกทั้งยังรู้สึกถึงรอยร้าวแห่งความรักที่เกิดขึ้น
ถึงแม้เธอจะดื่มซุปเต่าจนหมด ความกระหายของสือฉิงจวงยังคงไม่ถูกเติมเต็ม เธอเหลือบมองไปที่ชิงสุ่ยก่อนที่จะมองไปยังหม้อซุปเต่าอีกครั้ง เมื่อเห็นเช่นนั้น ชิงสุ่ยรู้ว่าสือฉิงจวงยังคงต้องการที่จะกินมันอีก แต่ด้วยความอายที่มากเกินไปจนไม่อาจเอ่ยคำขอเขาได้
ในโลกใบก่อนนั้นมีคำพูดที่ว่า เสน่ห์ปลายจวักผัวรักจนตัวตาย(The best way to a man’s heart, was through his stomach.) และดูเหมือนว่าในโลกนี้มันจะเป็นจริงเช่นกัน
"ข้าต้องการมันอีก" ในที่สุดสือฉิงจวงก็กล่าวมันออกมาด้วยความรู้สึกละอาย การแสดงออกของเธอนั้นละเอียดอ่อนจนชิงสุ่ยไม่อาจลดละสายตาจากเธอได้
หลังจากนั้นสือฉิงจวงดื่มมันเข้าไปอีก 3 ชาม "นี่มันอร่อยมากเลย เจ้าทำมันเพื่อข้าเช่นนั้นหรือ?"
"แน่นอน อืมมมมมม ว่าแต่เจ้ายังมีอาการปวดอีกหรือไม่?"ชิงสุ่ยเปิดปากและปิดปากถามอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าเขานั้นเริ่มรุกล้ำในพื้นที่ความเป็นส่วนตัวของเธอ ซึ่งสือฉิงจวงก้มหัวศีรษะลงในขณะที่เธอกัดริมฝีปากของเธอ
"เอาละ เอาละ ข้าจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว ตัวข้านั้นเพียงแค่กังวลว่าเจ้านั้นเธอยังคงเจ็บปวดอยู่ แต่ข้ามีบางอย่างที่ต้องการให้เจ้าได้กิน ข้าเชื่อว่ามันจะสามารถช่วยฟื้นฟูเจ้าได้"ชิงสุ่ยหัวเราะออกมา
"สิ่งนั้นคือสิ่งใด?"บางทีเธออาจจะยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่มากพอสมควร สือฉิงจวงเรียงศีรษะของเธอในขณะที่เธอถามชิงสุ่ย
สิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าวถึงนั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกซะจาก ผลไม้เสริมความว่องไว เขาหยิบออกมา 2 ผลและเตรียมไว้ให้จบสือฉิงจวง เพราะหลังจากสิ่งที่เขาทำกับเธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตภายภาคหน้า เขานั้นยังคงต้องการที่จะดูแลเธอ รวมทั้งแบ่งปันความสุขและผลประโยชน์ที่เขาได้รับเช่นกันด้วย
"ผลไม้วายุกระจ่าง" สือชิงจวงร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
ชิงสุ่ยถูกเติมเต็มไปด้วยความสับสนอีกครั้ง ผลไม้นี้มีปรากฏอยู่บนโลกเก้าทวีปอีกหรือ? มันเป็นสถานการณ์เช่นเดียวกับผลเสริมปราณ
"ผลไม้วายุกระจ่าง โด่งดังมากเช่นนั้นหรือ"ชิงสุ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สับสน ชิงสุ่ยจึงไม่มีทางเลือกและใช้ "ชายชราโบราณ" เป็นข้ออ้างอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสือชิงจวงถามหาต้นกำเนิด ที่มาของผลไม้นี้
"ผลวายุกระจ่าง เติบโตได้เพียงแค่บริเวณหน้าผาที่มีลมพายุอันบ้าระห่ำ สายลมนั้นพัดกระหน่ำราวกับกำลังโกรธเกรี้ยว มันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะสามารถเก็บเกี่ยวมันได้ และมันจะเกิดขึ้นในทุกๆ 100 ปีเท่านั้น ซึ่งผลไม้นี้เป็นของที่มีค่าอย่างยิ่ง โดยปกติแล้วนั้น สัตว์ที่มีปีกเท่านั้นที่จะสามารถค้นพบมันได้ และผลไม้นี้จะทำให้ผู้ที่รับประทานนั้นสามารถเพิ่มความเร็วของตัวเองได้ถึง 50% ไปอย่างไรก็ตาม หากรับประทานวันเกิด 2 ผล ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะไม่เกิดอะไรขึ้น ว่าแต่เจ้าหามันมาได้อย่างไร?"
"ชายชราโบราณให้มันมันเป็นของขวัญแก่ข้า เขาบอกเพียงว่ามันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และขอให้ข้ากินมัน 2 ผล และส่วนที่เหลือให้ข้ายกให้กับคนที่สำคัญมากๆในชีวิตของข้า " ชิงสุ่ยตอบคำถามอย่างรวดเร็ว