AST บทที่ 88 – พลังของผลเสริมความว่องไว
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique/
บทที่ 88 – พลังของผลเสริมความว่องไว
หลังจากที่ชิงสุ่ยอ่านคำอธิบายบนหินศิลาจารึก และเข้าใจเนื้อความการปลดปล่อยขั้นที่ 2 ของดินแดนหยกยุพราชอมตะ ชิงสุ่ยจึงจ้องมองไปยังต้นแห่งความว่องไว เพื่อหาความแตกต่าง
ถัดจากต้นเสริมปราณยังมีอีกต้นหนึ่งที่ดูไม่แตกต่างกันมากนัก ผลบนต้นนั้นให้ความรู้สึกว่ามันเหมือนกับผลเสริมปราณ แต่สีของมันนั้นเป็นสีเขียว มันเป็นสีเขียวที่สวยงามราวกับความฝัน หาใช่ซึ่งสีเขียวที่บ่งบอกว่าเป็นผลไม้ที่ยังไม่สุกงอม
ผลไม้นี้หากมองจากรูปลักษณ์ภายนอกของวันนั้น มันให้ความรู้สึกที่ดูน่าเกรงขาม ยิ่งใหญ่
ชิงสุ่ยยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงสามารถปลดผนึกพื้นที่ระดับ 2 ในดินแดนห้วงมิติแห่งนี้ได้ แต่มันไม่สำคัญหรอกเพราะทั้งหมดนั้นถือเป็นข่าวดี
"มันคงไม่ใช่พวกข้ามีอะไรกับเธอหรอกนะ?"
จู่ๆความคิดนี้ก็ปรากฏขึ้นในสมองของชิงสุ่ย
จากการมีอยู่ของผลเสริมปราณและผลเสริมความว่องไว ชิงสุ่ยสามารถยืนยันได้เลยว่ายิ่งในพื้นที่ระดับถัดไป มันจะยิ่งทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นมันอาจจะมีทั้ง ผลเสริมความทรหด ผลเสริมกายา และผลเสริมมายา ซึ่งแน่นอนมันอาจจะมีจริงหรือไม่ก็ตาม ผลไม้ต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจินตนาการถึงกันได้
พื้นที่หยินหยางปรากฏขึ้นในดินแดนห้วงมิติ เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาและสือฉิงจวงจะรวมกันเช่กเช่นเดียวกับหยินและหยาง?
ชิงสุ่ยอึ้งเล็กน้อย "มันเป็นไปได้หรือไม่ถ้าหากข้าต้องสานสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อยกระดับดินแดนห้วงมิติ?"
ชิงสุ่ยพินิจพิจารณาความคิดของเขาให้ดี "ดินแดนแห่งนี้คงเต็มไปด้วยราคะ"
เขาส่ายหัว "บางทีมันคงเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ มันจะต้องเป็นเช่นนั้น!!"
ชิงสุ่ยมองไปยังผลเสริมความว่องไวอีกครั้ง มันมีทั้งหมด 10 ผล แต่ละผลมีขนาดเท่ากับกำปั้นของผู้ใหญ่ ชิงสุ่ยจึงตรงเข้าไปเลือกผลไม้มา 1 ผล
ผลของมันค่อนข้างหนัก น้ำหนักของมันประมาณครึ่งจิน แต่เขาก็ไม่ได้แปลกใจเลยเพราะผลเสริมความว่องไวนั้นมีลักษณะเช่นเดียวกับผลเสริมปราณ แตกต่างกันเพียงแค่สี
เขาเริ่มกัดลงไปบนผลเสริมความว่องไว "อืมมม มันช่างกรอบเหลือเกิน แต่มันกลับไร้รสชาติ"
ถึงแม้จะไร้รสชาติแต่ชิงสุ่ยก็รู้ว่ามันมีประโยชน์อย่างมาก เขาจึงรีบกินผลเสริมความว่องไวอย่างรวดเร็ว แล้วกินอีกอันหนึ่งตามหลัง และเขาต้องเริ่มปรับแต่งมันหลังจากนี้
"ครั้งสุดท้ายที่ถ้ากินผลเสริมปราณ ข้ารับรู้ได้ถึงคลื่นแห่งความอบอุ่น แต่ทำไมครั้งนี้ข้ากลับไม่รู้สึกใดๆเลย" ชิงสุ่ยสับสนแล้วนั่งลงบนพื้น พร้อมทั้งโคจรเคล็ดวิชากายาบรรพกาล
เมื่อชิงสุ่ยสงสัยว่าทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้น พลังปราณจากหน้าท้องเขาเริ่มกระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้เขารู้สึกสะดวกสบายยิ่งขึ้นราวกับหลุดพ้นจากตมโคลน
รูมขนทั้งสามล้านหกแสนรู กำลังรู้สึกปลดปล่อย
"ความรู้สึกนี้มันดีกว่าตอนที่ข้ากินผลเสริมปราณเสียอีก"
"ร่างกายของข้ารู้สึกเบามาก และเริ่มเบาขึ้นเรื่อยๆ"ตอนนี้ชิงสุ่ยยิ่งตกใจมากขึ้น เมื่อเขาสามารถเคลื่อนที่ได้เป็น 2 เท่าจากเดิมโดยใช้เวลาเท่าเดิม มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นในความเร็วที่เร็วมาก
"นี่คือผลลัพธ์ของผลเสริมความว่องไวสินะ"ชิงสุ่ยเห็นได้ชัดเลยว่าร่างกายของเขานั้นเบาขึ้น ราวกับว่าร่างกายของเขานั้นได้ทิ้งสัมภาระร่างกายทั้งหมดออกไป แล้วก็ยังรู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นที่จะเติมเต็มไปด้วยพลัง
"ความเร็วคือความแข็งแกร่ง ตอนนั้นข้ารู้เพียงว่าความเร็วนั้นจะช่วยเสริมให้หมัดของข้านั้นรุนแรงยิ่งขึ้น เดี๋ยวถ้าหากข้าไม่ได้มาสัมผัสมันในวันนี้ ข้าคงไม่มีทางเข้าใจได้เลยว่ามันส่งผลกระทบกับข้าเพียงใด"ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจ เช่กเช่นเดียวกับที่เขารู้สึกว่าเขานั้นได้ลักพาตัวภรรยาของผู้อื่น
เขาดึงผลไม้อีกแปดผลออกมาเก็บไว้และรออีก 100 ปีเพื่อที่จะได้อีก 10 ผล
ต่อไปชิงสุ่ยยังคงเดินสำรวจรอบรอบดินแดนห้วงมิติอีกเล็กน้อย เขาต้องการเวลาในการควบคุมความเร็วในร่างกายของเขาที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
ครั้งแรกเขาพยายามจะเดินสลับกับวิ่ง มีทั้งวิ่งช้า และพุ่งตัวออกไป มีหลายครั้งที่ชิงสุ่ยเกือบจะล้มอีกทั้งพุ่งชนเข้ากับสิ่งกีดขวาง
ชิงสุ่ยไม่อาจใช้ความเร็วในร่างกายของเขาได้เลย ตอนนี้มันราวกับกำลังใช้เคล็ดก้าวไร้วิญญาณอยู่ เมื่อ 3 วันผ่านไปในดินแดนห้วงมิติ หม้อซุปเต่าที่แสนอร่อยเตรียมพร้อมที่จะเติมเต็มท้องของชิงสุ่ย
เมื่อเขาได้กินหอม กินของมันนั้นราวกับอาหารทิพย์ของเหล่าเทวดา อาหารนี้เทียบได้กับรอยจูบอันหอมหวานของสือฉิงจวง แสดงให้เห็นว่าซุปเต่านี้อร่อยมากเพียงใด
อย่างไรเสีย ชิงสุ่ยยังคงจับเต่าตัวอย่างอื่น มาแกะกระดอง ชำระล้างอวัยวะภายใน และเอาเนื้อของมันมาทำอาหาร เมื่อครั้งแรกฝีมือของชิงสุ่ยพัฒนามากขึ้น และทำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
เมื่อชิงสุ่ยออกจากดินแดนห้วงมิติ เวลาในโลกภายนอกนั้นผ่านไปไม่ถึง 4 ชั่วโมง ชิงสุ่ยยกหม้อต้มของเขาแล้วเดินไปที่ห้องของสือฉิงจวง
เขาเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบเงียบๆ
สือฉิงจวงยังคงหลับนิทราอยู่ภายในห้อง การแสดงออกทางใบหน้าของเธอนั้นดูเหมือนราวกับว่าเธอจะตื่นขึ้นมาได้ทุกเวลา ชิงสุ่ยวางหม้อลงบนโต๊ะไม้ภายในห้องพร้อมทั้งชามและช้อนขนาดเล็ก
หลังจากวางอาหารลง ชิงสุ่ยก็เดินอย่างช้าๆแล้วนั่งลงบริเวณข้างเตียง เขาจ้องมองสือฉิงจวงอย่างเงียบๆ เขารู้ว่าเขาไม่เคยมีโอกาสแบบนี้มาก่อน
ชิงสุ่ยอยากจะจ้องมองเธอแบบนี้ตลอดกาล และมีความคิดหนึ่งก็บอกให้เขาเดินออกไป เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาต้องทำนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
และแล้วเมื่อชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะจากไป เขาเหลือบมองใบหน้าที่อ่อนโยนและอ่อนแอของสือฉิงจวงที่นอนอยู่บนเตียง ชิงสุ่ยกังวลว่าจะมีโจรหรือสัตว์ร้ายเข้ามาทำร้ายเธอภายในห้อง มันจะทำให้เขารู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต แต่มันก็เป็นเพียงความรู้สึกที่ไม่สงบในหัวใจของเขา เขากลัวว่าเมื่อเธอตื่นขึ้น เธอจะปฏิบัติเช่นใดกับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอมีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอก็ถูกวางยาแห่งราคะโดยคู่หมั้นของเธอเอง และเธอก็รู้สึกตัวได้เพียงแค่ครึ่งทางในระหว่างหลบหนีเท่านั้น
ถ้าคู่หมั้นหน้าโง่ของเธอนั้นป่าวประกาศเรื่องนี้ในเมืองร้อยไมล์ ชื่อเสียงของสือฉิงจวงจะต้องสูญสลายไปอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น ตัวเขาเองนั้นจะไม่กระจายข่าวนี้ใดๆทั้งสิ้น และชิงสุ่ยเองก็หวังว่าคนรอบข้างเขาจะไม่มีใครพูดเรื่องนี้
เมื่อเห็นเสื้อผ้าของสือฉิงจวงที่อยู่บนเตียง ตั้งแต่เสื้อคลุมภายนอกถึงชุดชั้นใน ชิงสุ่ยแล้วค่อยจัดข้าวของของเธอ ในขณะที่เขาหยิบชุดชั้นในของสือฉิงจวงที่มีลักษณะเป็นผ้าไหมขนาดเล็กเงามัน แม้มันจะไม่เหมือนในโลกอะไรก่อนหลังเขา ที่มีรอยปักลูกไม้ต่างๆ แต่มันก็ทำให้เลือดลมภายในของเขาสูบฉีด
ผ้าห่มนั้นไม่สามารถปกปิดส่วนโค้งเว้าของร่างกายอันเปลือยเปล่าที่แสนมีสง่าของสือฉิงจวงได้ ชิงสุ่ยกำลังจ้องมองรูปลักษณ์ที่ทับซ้อน เขาไม่ต้องการเป็นเจ้าของเธอแค่ชั่วครู่เท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธออยู่กับเขาไปตลอดกาล โดยเฉพาะกับเขา เขาไม่สามารถตั้งเป็นเจ้าของใคร หากหญิงสาวคนนั้นไม่ได้รักเขาเเละสมัครใจที่อยู่กับเขา
ในขณะที่ชิงสุ่ยจินตนาการต่างๆนาๆ จู่ๆสือฉิงจวงที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น