AST บทที่ 86 - ชำระล้างพิษ
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique/
บทที่ 86 - ชำระล้างพิษ
"ข้าควรจะต้องทำอะไรกับเจ้าดี?"
ความคิดต่างๆมากมายถาโถมเข้าสู่จิตใจของชิงสุ่ย ในขณะที่ชิงสุ่ย กำลังจ้องมองสือฉิงจวง เธอนั้นละทิ้งความเป็นตัวของตัวเองทั้งหมด หลังจากที่โดนพิษยาปลุกราคะ แม้ว่าตัวเขานั้นจะสามารถรักษาได้ วิธีการของมันนั้นราวกับสัตว์ร้าย
ทักษะทางแพทย์ของเขานั้นเพียงพอที่จะรักษาพิษภายในตัวของสือฉิงจวง แต่วิธีการของมันไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน ชิงสุ่ยจึงรู้สึกอยากเป็นสัตว์เดรัจฉานสักครั้ง
ด้านมืดในหัวใจของเขาก็ปรากฏขึ้น มันเป็นความเห็นแก่ตัว เมื่อมีประโยชน์อยู่ตรงหน้าแต่ไม่ใช้ประโยชน์จากมัน เขานั้นคงเป็นคนโง่หรือคนบ้า
และแล้วความต้องการทางเพศของเขาก็ถูกเติมเต็มเข้าสู่ความคิด
เขากอดสือฉิงจวงแน่นขึ้นขณะที่มากำลังควบออกจากเมือง เมื่อยามเฝ้าประตูเห็นม้าของสือฉิงจวง พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะปิดกั้นทาง ไม่เพียงเท่านั้น สือฉิงจวงกำลังกอดชายคนหนึ่งที่กำลังควบม้า พวกเขารู้สึกเขินอายจนไม่กล้าเอียงศีรษะไปมอง ดูเหมือนว่าเธอจะใกล้ชิดกับผู้ที่ขี่ม้าเป็นอย่างดี
หลังจะออกนอกเมือง ชิงสุ่ยปล่อยให้ม้าคชสีห์เหมันต์วิ่งได้อย่างอิสระ มือของเขานั้นไม่ได้หยุดนิ่งเลย เขากำลังลูบไล้ร่างกายอันงดงามของสือฉิงจวง
"ให้ตายเถอะ อากาศที่มันหนาวมาก ข้าควรจะหาสถานที่ดีๆกว่านี้ เพื่อชำระล้างพิษให้กับเจ้า หรือว่าข้าควรจะทำมันกลางที่สาธารณะ ตรงกลางป่าแห่งนี้ ข้านั้นไม่กลัวความหนาวเย็น แต่ข้านั้นกลัวว่าผิวพรรณนุ่มของเจ้าจะได้รับความเสียหาย"ชิงสุ่ยคิดถึงสภาพแวดล้อมในขณะที่เขาสาปแช่งด้วยเสียงเบาเบาๆ
"ปลดปล่อยข้าเถิด"เสียงแหบพร่าดังออกมา
ชิงสุ่ยรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินเสียงนั้น และก้มลงไปมองสือฉิงจวง ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกหิวกระหาย ปลื้มปิติยินดี ในขณะที่เธอส่ายหัวพยายามฟื้นคืนความรู้สึกของเธอ พร้อมทั้งเลือดที่ไหลออกจากปาก
เธอกัดลิ้นของเธอเพื่อคืนสติ ชิงสุ่ยรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่สร้างความเจ็บปวดให้กับจิตใจของเขา เขาสั่งให้ม้าหยุด ในขณะที่ค่อยๆพาสือฉิงจวงลงจากม้า โดยเธอยังคงกอดเขาไว้แน่น
เจตนาที่อยากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสือฉิงจวงอันตรธานหายไปในพริบตา ในหัวใจของชิงสุ่ยนอกเหนือความรู้สึกเศร้าสลด ยังมีความรู้สึกชื่นชมที่เธอมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้
"เจ้าถูกซือถูปู้ฝานวางยา"ชิงสุ่ยพยายามเตือนเธอ เขารู้ดีว่าสือฉิงจวงจะต้องเข้าใจเช่นนั้นด้วย ก่อนหน้านี้เธอได้จูบชิงสุ่ยอย่างจริงจัง อีกทั้งยังกอดรัดฟัดเหวี่ยงเขาโดยไม่มีเจตนาที่จะหยุดยั้ง
ชิงสุ่ยค่อนข้างเสียใจที่ไม่ได้เพลิดเพลินไปกลับริมฝีปากของสือฉิงจวง เขาควรที่จะเริ่มจูบเธอมากขึ้น อีกทั้งยังควรลิ้มรสชาติริมฝีปากและลิ้นของเธอ แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นเมื่ออยู่บนหลังม้า
"ข้ารู้!!!" ภาพลักษณ์ที่ดูเจ็บปวดปรากฏขึ้นผ่านสายตา ขนาดที่เธอพยายามรักษาตัวตนของเธอไว้ อย่างไรก็ตาม ความปรารถนานั้นค่อยๆจางหายไปพร้อมทั้งดวงตาของเธอที่เริ่มจางลง
เช่นเดียวกันในขนาดนั้นชิงสุ่ยอธิบายวิธีที่จะช่วยเหลือหรือรักษาเธอได้ สือฉิงจวงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขากระซิบผ่านหูของเขาว่า "ควบม้า ไปห่างจากที่นี่ประมาณ 10 หลี้ เราจะพบกับคฤหาสน์ขนาดเล็กของข้า ม้าของข้านะรู้ทางดี เร็วเข้า…..ข้า…….ไม่สามารถ…...ควบคุมมันได้อีกต่อไปแล้ว…"
จ้าวชีวิตของชิงสุ่ยแทบระเบิดออกจากกางเกง เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น เสียงที่นุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความปรารถนาราคะอันแรงกล้า อีกทั้งท่าทางที่บิดไปบิดมา "แสงสว่างของเจ้าใกล้มาถึงแล้ว"ชิงสุ่ยรีบควบม้าพาสือฉิงจวงไปยังจุดหมาย
ระยะทางกว่า 10 หลี้ โดยปกติจะต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงสำหรับการเดินเท้า แต่มันกลับใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งชงชา เมื่อเดินทางบนหลังม้า เมื่อผ่านไปครึ่งทาง สือฉิงจวงสูญเสียการควบคุมตัวเองและเริ่มถูกบนใบหน้าและริมฝีปากของชิงสุ่ยอีกครั้ง ครั้งนี้ชิงสุ่ยไม่ลังเลอีกต่อไป เขาเริ่มประกบปากสือฉิงจวง พร้อมทั้งเธอกำลังกอดร่างกายของเขาพร้อมทั้งครางออกมาในขณะที่เธอสูญเสียความเป็นตัวเอง
ยอดเยี่ยมที่สุด!!!
ทันใดนั้นม้าคชสีห์เหมันต์ก็หยุดลง ชิงสุ่ยประเมินสภาพแวดล้อม เพราะว่าสถานที่แห่งนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก วันนี้มีทางที่คนทั่วไปจะค้นพบบันไดเว้นเสียแต่พวกเขาจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของสถานที่นี้อยู่แล้ว
ชิงสุ่ยคว้าสือฉิงจวงไว้ในอ้อมแขนในขณะที่เขาเตะประตูเพื่อให้มันเปิดออก Bugaboo นี้ถูกสร้างขึ้นโดยหินขนาดใหญ่และหนักมาก มันหนักมากถึง 100 จิน ซึ่งถูกสร้างเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาภายใน
หลังจากที่ชิงสุ่ยเข้าสู่ข้างในและปิดประตูหินลง เขาก็ปล่อยให้ม้าคชสีห์เหมันต์เดินเล่นอยู่ภายในสวน
ภายในเป็นลานกว้างสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ไร้ซึ่งวัชพืชใดทั้งสิ้น ดูเหมือนว่าสือฉิงจวงจะชอบมาที่นี่บ่อยๆ ภายในคฤหาสน์นั้นมี 2 ชั้น โดยในแต่ละฉันนั้นมี 2 ห้อง เมื่อเห็นเช่นนั้น ชิงสุ่ยตัดสินใจวิ่งขึ้นไปชั้น 2 และเดินเข้าไปในห้องที่ใกล้บันไดที่สุด โดยภายในห้องนั้นปรากฏเป็นเตียงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาว
เมื่อมองไปยังสือฉิงจวงที่กำลังเขินอายดูภายในอ้อมกอดของเขา ใครกันจะหลุดพ้นไปได้ ความไม่แน่นอนปรากฏขึ้นผ่านสายตาของชิงสุ่ย เขารู้ว่าถ้าเขาพลาดโอกาสนี้ไป เขาจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
"หลังจากนี้ ข้ากลัวว่าเจ้าจะเกลียดข้า แต่ถึงกระนั้น ถ้าข้าไม่อาจทำให้เจ้ารักข้าได้ ข้าก็จะยอมให้เจ้าเกลียดข้าไปตลอดกาล"
"ความเกลียดชังสามารถเป็นจุดเริ่มต้นสู่ความรัก ถ้าข้าไม่อาจทำให้เจ้าตกหลุมรักข้าได้ ถ้าจะยอมให้เจ้าเกลียดข้าแทน เขาจะทำให้เจ้าคิดถึงค่าทุกคืนยามเจ้าหลับ"ชิงสุ่ยตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
เมื่อไร้ซึ่งความลังเลใจ ชิงสุ่ยค่อยๆวางตัวสือฉิงจวงลงบนเตียง กลิ่นหอมจากดอกไม้ล่องลอยเข้าไปสู่ภายในห้อง แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ได้สนใจมันในขณะที่เขากำลังรื่นรมย์กับกลิ่นหอมของสือฉิงจวง
มันเริ่มต้นแล้ว ไฟแห่งตัณหาราคะกำลังลุกโชติช่วง ความเป็นชายของเขานั้นพองโตจนถึงขีดสุดจนระเบิดมันออกมา สือฉิงจวงภายใต้ผลของยาปลุกราคะ เธอได้สูญเสียการควบคุมตนเองไปแล้วและเริ่มต้นจูบชิงสุ่ยอย่างบ้าคลั่งพร้อมทั้งดันตัวขึ้นและจิกเล็บลงไปที่ร่างกายของเขา
การจูบของเธอนั้นทำให้เลือดของชิงสุ่ยเดือดพล่าน ทั้งสองคนนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ตอนนี้ไฟแห่งราคะของชิงสุ่ยกำลังเดือดพล่าน เขาไม่อาจคิดได้เลยว่า เขานั้นจะนอนอยู่ข้างบนตัวของสือฉิงจวง เขาค่อยๆขยับสะโพกและสอดใส่จ้าวชีวิตของเขา และเริ่มกระแทกสะโพกของเขากับเธอ มันให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ สะท้อนให้เห็นภาพทุกอย่างที่เป็นความสุข ทั้งชิงสุ่ยและสือฉิงจวงต่างกำลังประสานร่างกายเข้าด้วยกันผ่านความบ้าคลั่งและหลงใหล
ตอนนี้ ชิงสุ่ยเริ่มเข้าใจในรสชาติของเหล่าสตรีแล้ว