ตอนที่ 9 ความผิดพลาด
หลังจากที่เขาเดินเข้ามาประตูก็ปิดลง.....หลี่ ฉิงชานได้มองไปรอบๆราวกับไม่รู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดภายในลานเลยและเขาเดินตรงไปยังโต๊ะที่หัวหน้าหมู่บ้านหลี่นั่งทันที โต๊ะนี้ตั้งอยู่ทางด้านหน้าของห้องโถง อยู่ใต้ต้นเอล์มที่สูงที่สุด เป็นที่นั่งของเหล่าคนที่ชื่อเสียงในหมู่บ้าน
ด้านซ้ายและขวาของพ่อบ้านหลิวคือหัวหน้าหมู่บ้านและแม่มด คนทั้งสามเหล่านี้คือผู้มีอิทธิพลมากที่สุดภายในหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีผู้อาวุโสและบุตรชายทั้งสองคนของหัวหน้าหมู่บ้าน หลี่หู่ และ หลี่เป่า ทั้งสองคนเกิดมามีรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง พวกเขาจ้องมองไปยังหลี่ ฉิงชาน ด้วยสายตาเฉกเช่นเดียวกับสัตว์ป่าที่กำลังมองเหยื่อ
พ่อบ้านหลิวได้หรี่ตาลงเล็กน้อย...มันเป็นเวลาเพียงไม่กี่วันนับตั้งแต่เขาเห็นหลี่ ฉิงชาน ครั้งสุดท้าย แต่ดูเหมือนว่า หลี่ฉิง ชาน ในตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว เขาไม่สามามารถบอกได้ว่าสิ่งใดได้เปลี่ยนไป แต่อย่างไรก็ตามมันแตกต่างกับคนเดิมในอดีตราวกับคนละคนเลย
หัวหน้าหมู่บ้านหลี่ ได้แสดงท่าทางที่เย่อหยิ่งและปรากฏแสงที่ชั่วร้ายในดวงตาของเขา....แม่มดเองก็แสดงท่าที่ดุร้ายออกมาอย่างเปิดเผยเช่นกัน
ถ้าหากเป็นชาวบ้านปกติธรรมดาๆแล้วไปทำให้ทั้งสามรู้สึกไม่พอใจ คงไม่มีวันได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอีกต่อไป หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นพวกเขาคงทำได้แค่เพียงก้มหัวลงและขอโทษเท่านั้น ไม่ต้องกล่าวถึงการสร้างความไม่พอใจให้กับทั้งสามคนพร้อมกันเช่นนี้ แต่สำหรับหลี่ ฉิงชาน จะไม่มีทางก้มหัวให้ผู้ใดหรือกล่าวคำขอโทษเด็ดขาด
มีกฎมากมายในการรับประทานอาหารที่งานเลี้ยงในหมู่บ้าน ที่นั่งของแต่ละคนจะถูกจัดไปตามความเหมาะสมทั้งหมด หลี่ ฉิงชานได้สังเกตเห็นว่า มีโต๊ะอื่นๆนั้นมีคนนั่งเต็มทุกโต๊ะแต่กลับมีเพียงบริเวณนี้เท่านั้นที่ไม่ค่อยมีใครนั่ง เขาได้นั่งลงและกล่าวด้วยเสียงที่ดังชัดเจน “เหตุใดทุกท่านจึงยังไม่กินกันหรือว่านี้ทุกทุกท่านรอข้ามาเช่นนั้นหรือ”
ไม่ได้มีผู้ใดตอบเขาแม้แต่คนเดียว แต่หลี่หู่และหลี่เป่าได้เข้ามาขนาบด้านข้างเขาทั้งสองด้านและจับที่ไหล่เขาพร้อมกับบีบอย่างแรง
แม้ว่าหลี่ ฉืงชาน นั้นยังเด็กแต่รูปร่างของเขาก็สูงไม่ได้ด้อยไปกว่าทั้งคู่แต่อย่างใดแต่รูปร่างของเขานั้นผอมกว่า ห่างไกลจากร่างที่แข็งแรงของพวกเขา ถ้าเป็นในอดีต พวกเขาเพียงคนเดียวก็สามารถจัดการหลี่ ฉิงชานได้แล้วถึงแม้ตอนนี้หลี่ ฉิงชานจะสามารถรับมือกับหนึ่งในนั้นได้ แต่หากรับมือทั้งสองคนพร้อมกันทั้งนั้นยังยากสำหรับเขาอยู่
หลี่ ฉิงชานขมวดคิ้ว เขาคว้าข้อมือทั้งสองและกระชากลงอย่างแรง ในเวลาเดียวกันเขาได้ใช้ วิชาปีศาจวัวผกผัน เขาดูเหมือนวัวที่กำลังยืดกล้ามเนื้อและกระดูกเขาเอียงตัวไปทางซ้ายทีและขวาที
หลี่หู่และหลี่เป่า รู้สึกเจ็บข้อมือของเขาเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะได้ทันตั้งตัว หลี่ฉิงชานได้พุ่งชนพวกเขาอีกครั้งจนกระเด็นออกจากเก้าอี้ของตนเอง
ทั้งคู่ทั้งรู้สึกอับอายและโกรธอย่างมาก พวกเขารีบลุกขึ้นทันทีไม่สนใจแม้ฝุ่นที่ติดตามตัวพวกเขา
เดิมทีพ่อบ้านหลี่ วางแผนไว้ว่าจะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นสักสองสามคำและถามจะเขาว่ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง แต่เขาคาดไม่ถึงว่าลูกทั้งสองคนจะกระทำหุนหันพลันแล่นถึงเพียงนี้ เขาไม่มีเวลาที่จะสบถสาปแช่งทั้งสองเขาได้รีบโยนถ้วยส่งสัญญาณให้พวกคนงานทันที
“เคร๊ง!!” มีดสั้นได้ปักลงบนโต๊ะ ได้หยุดการเคลื่อนไหวของทุกทันที ใบมีดได้สะท้อนแสงสลั่วๆภายใต้แสงจางๆในงาน
ทั้งหลี่หู่และหลี่เป่า ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาเดินอีก ทั้งสองคนเป็นเป็นลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านและได้ถูกตามใจมาตลอด พวกเขาสามารถกลั่นแกล้งคนที่อ่อนแอกว่าด้วยร่างกายที่แข็งแรงของพวกเขาตอนไหนก็ได้ เช่นนั้นแล้วทำไมเขาถึงต้องมาเสี่ยงชีวิตสู้ในตอนนี้
หลี่ฉิงชานจับมีดสั้นขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวพร้อมกับวางเท้าข้างหนึ่งบนเก้าอี้แล้วมองไปยังพ่อบ้านหลิวพร้อมกับยิ้มเบาๆ“นี้คือวิธีปฏิบัติกับแขกของท่านหรือ? แม้ว่าท่านจะต้องการชำระหนี้แค้น แต่ท่านควรจะอดทนไว้ก่อนรอจนกว่าพวกเราจะดื่มกินกันเสร็จแล้วค่อยมาคุยกันมิดีกว่าหรือ จะได้ต้องไม่ต้องเสียโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารและไวน์เช่นนี้”เขากล่าวออกมาโดยไม่รู้สึกวิตกกังวลอีกต่อไป
ก่อนพ่อบ้านหลิวจะได้อ้าปาก คนงานรอบๆต่างปรบมือหลังจากที่หลี่ ฉิงชานกล่าว สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาแน่นอนมันคือการกิน! ถ้าหากพวกเขาเริ่มต่อสู้ พวกเขาไม่รู้ว่าอาหารตั้งมากมายตกกระจัดจะกระจายหายไปตั้งเท่าไรและพวกเขาก็ไม่เชื่อว่าพ่อบ้านหลิวจอมขี้เหนียว จะจัดเตรียมโต๊ะให้พวกเขาใหม่
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว พ่อบ้านหลิวพวกเรายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย พวกเราหิวจนท้องแฟบหมดแล้วหากเป็นเช่นนี้เราจะเอาแรงที่ไหนไปสู้”
“ข้าไม่แม้แต่จะได้กินอาหารเมื่อคืนวาน ข้าคงตายก่อนถ้าไม่ได้กินตอนนี้” คนงานผู้งานผู้หนึ่งกล่าวมาพร้อมกับกลืนน้ำลาย
บรรยากาศที่น่ากลัวของมีดสั้นกลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดทันที แม้แต่หลี่ฉิงชานเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาสงสัยอยู่คนเดียวอย่างเงียบๆว่าเหตุใดเขาจึงเกรงกลัวคนกลุ่มนี้
ใบหน้าของพ่อบ้านหลิวพลันเปลี่ยนสีทันที เหตุผลที่เขาจัดงานเลี้ยงนี้ก็เพื่อที่จะจัดการกับ หลี่ ฉิงชาน และสองคือ ยืมมือคนที่เขาว่าจ้างเพื่อให้เขาได้รับผลปะโยชน์เพิ่มขึ้นบ้าง เพราะเขาเกรงว่าพวกนั้นจะทำงานไม่หนักพอสมกับค่าจ้าง
เขาอยากจะเลียนแบบกลยุทธจากในหนังสือ แอบนักรบทั้งห้าร้อยไว้เพื่อรอสัญญาณจู่โจมศัตรู แต่เขาลืมไปว่าคนของเขานั้นไม่ได้เป็นหน่วยกล้าตายหรือนายพลที่ปลดเกษียณแต่เป็นเพียงชาวนาธรรมดาๆ
หลี่ ฉิงชานยิ้มอย่างมีความสุขไปที่พ่อบ้านหลิว“ช่างบางเอิญเสียจริง ข้าก็ไม่ได้กินอะไรมาเช่นเดียวกัน เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจละนะ” เขาเอื้อมมือไปคว้าไก่ย่างและเริ่มกินทันที
ตั้งแต่เขาเริ่มบ่มเพาะวิชา หมัดวัวปีศาจ การกินอาหารของเขากลายเป็นเรื่องน่าทึ่ง ขาสามารถกินกวางน้ำหนักกว่าร้อยปอนด์จนเกลี้ยงโดยใช้เวลาแค่สิบสองวัน และวัวสีเขียวเองก็ยังไม่มีเวลาที่จะไปหาอาหารมาให้เขา
ไก่ย่างได้หายไปในพริบตา.....เขาเหยียดศีรษะและมองไปรอบ ๆคนงานทั้งหมดเหล่านี้ไม่ได้สนใจสิ่งใดอีกแล้วต่างคนต่างหยิบตะเกียบของตนขึ้นมาแล้วรีบสวาปามอาหารตรงหน้าทันที ในช่วงเวลานี้มีเพียงแต่เสียงกัดแทะอาหารภายในลานที่กว้างใหญ่นี้
หัวหน้าหมู่บ้านหลี่ ทั้งโกรธและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน ร่างกายของเขาสั่นเทาและได้มองไปยังพ่อบ้านหลิว ไม่ใช่ว่าเจ้านั้นฉลาดหรอกหรือ คิดอะไรสักมาอย่างเร็วๆสิ
อะไรคือสิ่งที่พ่อบ้านหลิวควรจะทำ เขาจ้องมองกลับ ถ้าข้าสั่งคนงานให้เริ่มแผนที่เตรียมไว้และหากพวกเขาไม่ยอมที่จะทิ้งอาหารตรงหน้าหล่ะ? ข้าจะทำเช่นไรหาก หลี่ ฉิงชาน พุ่งมาหาข้าคนแรกพร้อมกับมีดเล่มนั้น ลูกทั้งสองของข้าปกติมักจะดูแข็งกร้าว เหตุใดตอนนี้ทั้งสองจึงดูอ่อนโยนนัก
ที่โต๊ะนี้ มีเพียงกลุ่มคนชราที่เพียงพึ่งพาพ่อบ้านหลิว ถึงแม้จะหาคนเพิ่มเข้าไปอีกก็คงไม่เพียงพอรับลูกเตะของ หลี่ ฉิงชาน ดูเหมือนว่าพวกเขาถูกทิ้งลงบนเกาะร้างกลางทะเลทรายและพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับหลี่ ฉิงชาน ผู้โหดเหี้ยมคนเดียว มันทำให้พวกสั่นเทาไปด้วยความกลัว
เมื่อคนที่หยาบคายบันดาลโทสะ เลือดย่อมสาดกระจายไปห้าฟุต
หลี่ ฉิงชาน ทำรายกับว่าไม่มีผู้ใดอยู่รอบข้างเขา เขายกขวดไวน์เทใส่ถ้วยของตนเอง แต่ไวน์ของหมู่บ้านนี้อ่อนและไร้รสชาติ เขาเลยตะโกนออกไป“เอาถ้วยใบใหญ่มา!”
แต่ไม่มีผู้ใด้ตอบเขาแม่แต้คนเดียว หลี่ ฉิงชานทำเสียงเคือง “ฮึ่มมม” จากนั้นพ่อบ้านหลิวจึงรีบสั่งให้คนไปเอาถ้วยใบใหญ่มา หลี่ ฉิงชานเทไวน์ลงจนเต็มถ้วยและยกซดจนเกลี้ยงในอึกเดียว “สุดยอด!”
เหล่าคนงานทั้งหลายเห็นเขาดื่มอย่างสดชื่น และก้เป็นอีกครั้งที่พวกเขาชื่นชมความกล้าหาญ ของหลี่ ฉิงชาน “ดี”เสียงชมสองสามครั้งมาจากพวกเขา
หลี่ ฉิงชานได้กินอาหารที่มีไขมันมากในวันนี้ และเขารู้สึกสดชื่นอย่างเหลือเชื่อเมื่อเขาดื่มเครื่องดื่มรสเผ็ดนี้ตามไป เขาดื่มไวน์สามถ้วยใหญ่ของเขาอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุด
เมื่อชามที่สามเข้าไปในท้องของเขาแล้วในลานก็โห่ร้องด้วยเสียงตะโกนยกย่องอย่างดังราวกับน้ำเดือดกำลังไหล มันเหมือนกับว่าคนงานทั้งหลายไม่ได้มาเพราะพ่อบ้านหลิวเชิญ แต่เหมือนมาเพราะหลี่ ฉิงชาน
หลี่ ฉิงชาน ยกมือขึ้นไปทั้งสี่ทิศและกล่าว“ทุกคนดื่มกินให้เต็มที่อย่าได้ลืมความใจกว้างของพ่อบ่านหลิว ความขุ่นเขืองสามารถถกเถียงกันได้หลังจากกินอาหาร อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พวกเจ้าต้องเดินไปบนถนนนรก พวกเจ้าก็ห้ามเป็นผีที่หิวโหย”
หลังจากนั้นหลี่ ฉิงชานขมวดคิ้วหันไปทางโต๊ะหลักและกล่าวว่า“เหตุใดท่านถึงไม่กิน” เจตจำนงฆ่าฟันได้พุ่งตรงไปยังพวกเขาด้วยฤทธิ์ของสุรา หากคนเหล่านี้ยังคงสร้างปัญหาให้กับเขานั่นหมายความว่าหมู่บ้านวัวหมอบแห่งนี้จะไม่ปลอดภัยสำหรับเขาอีกต่อไป บางทีวันหนึ่งเขาจะตกลงไปในกลอุบายอันชั่วร้ายของพวกเขา เขาอาจจะฆ่าบางคน ฉกทรัพย์สินและจากนั้นก็หนีไปที่อื่นเสีย เขาคาดว่าไม่น่าจะมีชาวบ้านคนไหนกล้าหยุดเขา
ในตอนแรก หลี่ ฉิงชาน เพียงแค่เสี่ยงมางานเลี้ยงนี้เท่านั้นและมีแม้กระทั่งความรู้สึกผิดพลาดบางอย่าง แต่กลับกลายเป็นว่าเขาได้เห็นความผิดพลาดของพ่อบ้านหลิวแทน ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ แขกได้กลายเป็นดั่งเช่นเจ้าภาพ มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะนึกถึงคำพูดของลุง เล่ย ฟง ‘ ปัญหานั้นเปรียบเช่นลวดสปริง หากเจ้าอ่อนแอ มันจะแข็งแกร่ง‘แล้วเขายังจำคำพูดของ เหมา บรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ได้ ‘จักรวรรดินั้นอ่อนแอทั้งที่ภายนอกนั้นเหมือนเข้มแข็ง เฉกเช่นเดียวกับเจ้าของที่ดิน’
แม้ว่าแผนการของพ่อบ้านหลิวจะไม่สำเร็จ แต่เขายังคงมีประสบการณ์ในการอ่านคน เมื่อเขามองไปยังหลี่ ฉิงชาน เขารู้ทันทีว่ามันกำลังคิดเรื่องการฆ่า มันทำให้เขารักษาท่าทางเยือกเย็นได้อีกต่อไป เหงือเย็นๆได้ไหลลงมายังหน้าผากของเขาทันที
ผู้อาวุโสหลายคนในหมู่บ้านต่างหวาดกลัวยิ่งขึ้น พวกเขายังไม่ต้องการกลายเป็นผี ดังนั้นพวกเขาจึงรีบอธิบายเกี่ยวกับพิธีแยกครอบครัว พวกเขาเพียงทำตามไปตามสถาณการ์ณเท่านั้นและไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย บางคนรีบลุกขึ้นด้วยความสั่นเทาเขาอยากจะรีบออกไปจากตรงนี้
หลี่ ฉิงชาน ตะโกนออกมาด้วยเสียงที่เยือกเย็น“ทุกคนต้องอยู่ที่นี้ พวกเจ้าทุกคนเห็นสื่งที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาด้วยสายตาของตนเองแล้ว ไม่ต้องรีบกลับไปไหน กินและดื่มอาหารของตนเองต่อไป พวกเจ้าทุกคนต้องสำนึกผิด ถ้าหากพวกเจ้ายังมิฟังข้าอีก เจ้าก็อย่าได้โทษมีดของข้าที่ไร้ความปราณีแล้วกัน”
มีอะไรติชมได้นะครับบ
ติดต่อข่าวสารได้ที่เพจ Legend of the Great Saint ครับ^^