ตอนที่7 เยี่ยงวีรบุรุษ
ถุงเงินที่หายไปได้กลับมาอีกครั้ง คู่สามีภรรยาหลี่แสดงท่าทีประหลาดใจออกมา และทำให้ภรรยาหลี่ไม่สนใจความเจ็บปวดบนใบหน้าของเธออีกและรีบคว้าถุงเงินเข้ามากอดทันที
อันธพาลทั้งสามพูดต่างไม่ออกแต่ใบหน้าของพวกเขากลับแสดงออกถึงความรู้สึกชื่นชม ถึงนี่จะไม่ใช่เงินจำนวนมากนักแต่ก็เพียงพอสามารถใช้จ่ายได้ในชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่เขากลับสามารถโยนมันทิ้งไปอย่างง่ายดาย ในตอนแรกนั้นพวกเขารู้สึกหวาดกลัว แต่ในตอนนี้พวกเขาจ้องมองไปยัง หลี่ ฉิงชาน กลับเป็นความรู้สึกที่มีความเคารพต่อเขามากยิ่งขึ้น
พวกเขาเชื่อว่าลูกผู้ชายที่ดีนั้นจะแยกแยะระหว่างบุญคุณความกตัญญูและความแค้นออกจากกันนั้นมีแต่ในนิยายเท่านั้น พวกเขาไม่คิดว่าพวกเขาจะเห็นด้วยตาของตัวเองเช่นนี้ ถ้าหากเขาเป็นเช่นนี้ตั้งแต่วัยเด็ก เขาต้องคนที่สำคัญในอนาคตแน่ๆ การดูถูกเรื่องอายุที่พวกเขามีต่อ หลี่ ฉิงชาน ก็ถูกลบลางออกไปอย่างสามบูรณ์
หลี่ ฉิงชานเดินก้าวยาวนำหน้าพวกเขาทั้งสาม ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังตกดินทางทิศตะวันตกของภูเขา เนินเขาวัวสีเขียวอันเงียบสงบทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ราวกับว่าภาระทั้งหมดที่มี่พลันกระจายหายออกไปทั้งหมด มีพลังใหม่ได้เข้ามาในร่างกายของเขาเละทำให้ความเมื่อยล้าของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง เขารู้สึกได้ว่าหากเขาฝึก หมัดปีศาจวัวตอนนี้มันคงจากราบรื่นกว่าการฝึกเมื่อเช้าอย่างมาก
นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา การฝึกฝนทักษะเหนือธรรมชาติหรือศิลปะการต่อสู้ของมนุษย์พวกเขาให้ความสนใจกับความเหมาะสมของอารมณ์ของผู้ฝึก วิชาหมัดปีศาจวัวเดิมทีเป็นวิชาที่จำเป็นต้องการความมุ่งมั่นที่ชัดเจนและมีความกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า
หลี่ ฉิงชาน ปล่อยว่างความแค้นและความโศกเศร้าทิ้งไปได้ มันจึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่เขาจะสามารถเข้าถึงแก่นสารภายในได้
เมื่อมาถึงบ้าน หลี่ ฉิงชาน มองไปที่ทั้งสามอันธพาลด้วยสายตาที่เป็นประกาย และได้กล่าว“สำหรับวันนี้ข้าต้องขอบใจพวกเจ้าทั้งสามมาก” ถ้าหากไม่มีแรงกดดันจากพวกเขาทั้งสาม เขาคงไม่สามารจัดการทั้งคู่ได้อย่างง่ายดาย ถ้าทั้งคู่ใช่ไม้และมีด มันคงจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับเขา
เขาไม่คิดว่าเขาจะสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างราบรื่นและได้เข้าใจถึงข้อดีของจำนวนมากกว่าแล้ว แม้แต่ราชาแห่งปีศาจวัวก็ต้องการพี่น้องสาบานทั้งหกเพื่อที่จะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเขา แน่นอนว่าทั้งสามคนนี้ไม่สมควรที่จะเป็นพี่น้องของเขา
ทั้งสามได้รีบกล่าว“พี่ใหญ่พูดถึงเรื่องอะไรกัน พวกเราไม่รู้จะขอบคุณยังไงสำหรับพี่ใหญ่ที่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่และไม่แม้แต่โต้เถียงกับพวกเราในเรื่องไร้สาระ หัวล้านหลิวนั้น ไม่รู้จักความชั่วร้ายของปีศาจแม้กระทั่งตายไปก็ไม่อาจลบล้างบาปที่ก่อไว้ได้ พวกเรารู้สึกผิดอย่างมากที่ได้ติดตามเขาในอดีต”
หลี่ฉิงซานขัดจังหวะด้วยการโบกมือ “อดีตก็คืออดีต”
ทั้งสามรู้สึกผ่อนคลายลงเมื่อได้ยินคำนี้จาก หลี่ ฉิงชาน ทั้งสามพลันแสดงท่าทีตื่นเต้นและพวกมันเริ่มคิดที่จะประจบสอพลอเขา ราวกับจะได้กลายเป็นพี่น้องสาบานของเขา
แม้ว่าชีวิตที่ผ่านมาหลี่ ฉิงชานจะไม่เคยได้รับการยกย่องและประจบมากนัก แม้ว่ามันจะมาจากปากของสามคนนี้ เมื่อเขาได้มองไปยังคนทั้งสาม มันก็ยากที่เขาจะไม่รู้สึกภูมิใจและรู้สึกดีอยู่ภายในหัวใจของเขา แต่เรื่องที่จะเป็นพี่น้องร่วมสาบานมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงพูดเรื่องไร้สาระทั่วไปเล็กน้อยก่อนที่จะส่งพวกเขากลับไป
วัวสีเขียวนั่งอยู่ด้านข้างกล่าว “ทำไมเจ้าจึงไม่ร่วมสาบานกับพวกเขา? พวกมันเต็มใจที่จะให้เจ้าเป็นหัวหน้ากลุ่มของพวกมัน เจ้าจะปลอดภัยมากขึ้นในการอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ นอกจากนั้นเจ้ายังจะมีคนส่งข่าวต่างๆให้เจ้าอีกด้วย”
สิ่งที่ชาวบ้านต่างไม่ชอบคือการกดขี่ข่มเหง ตราบใดที่ครอบครัวเขาไม่ถูกรังแก เขาก็จะไม่ไปรังแกคนอื่น
หลี่ ฉิงชานกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ “บุคคลที่ข้า หลี่ฉิงซาน จะเป็นสหาย แม้ว่าจะไม่ใช่วีรบุรุษที่ไม่มีใครเทียบได้ภายใต้ท้องฟ้า แต่พวกเขายังคงต้องเป็นคนแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าที่ให้คุณค่าทางความรู้สึกและมีคุณธรรม แล้วข้าจะหมกหมุ่นอยู่กับทั้งสามคนนั่นไปเพื่อสิ่งใด” เสียงของเขาที่พูดออกมานั้นเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม แม้แต่อีกาที่บินไปมาบนเขายังต้องตะเลิดหนีไป
วัวสีเขียวเงียบและไม่กล่าวสิ่งใดออกมาอีก มันจมลึกอยู่กับการไตร่ตรองเมื่อเห็นการแสดงออกที่กล้าหาญและดูยิ่งใหญ่ของหลี่ ฉิงชาน
หลี่ ฉิงชานรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาลูบหลังศีรษะ “พี่วัว ท่านตลกกับคำพูดที่ใหญ่โตเกินตัวของข้าเหรอ มันเป็นเพียงสิ่งที่ข้าคิด และท่านก็เป็นเพียงผู้เดียวที่ข้าสามารถบอกสิ่งเหล่านี้ได้”
อีกครั้งที่วัวสีเขียวนำน้ำเต้าออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้และโยนไปให้หลี่ฉิงซาน “มันจะดีกว่าถ้าเจ้ากลับไปไถนาเพราะถ้าเจ้าไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรสักคำออกมา แล้วคำพูดใหญ่โตของเจ้าที่มีหล่ะ? พูดมันออกมาให้หมด ข้าจะฟัง”
หลี่ ฉิงชาน ดึงจุกน้ำเต้าและดื่มมันเข้าไปสองสามครั้งด้วยความสบายใจ จากนั้นเขาจึงยิ้มโชว์ฟันและกล่าวต่อ “ข้าต้องการออกท่องเที่ยวไปให้ทั่วทุกที่ ห้าทะเลสาบ สี่ทะเล และทั้งเก้าอณาจักรใต้ผืนสวรรค์นี้ ข้าจะลิ้มรสอาหารอร่อยทุกชนิด ดื่มเหล้าอย่างดีทุกอย่าง บ่มเพาะทักษะศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่ง ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง และนอนกับสาวงามที่สุด เพียงแค่นี้ก็จะไม่ทำให้ชีวิตนี้เสียชาติเกิด! พี่วัว ท่านคิดว่าข้าฝันเช่นนี้ได้ไหม?”
“เจ้าสามารถทำได้!”
“ยอดเยี่ยม ข้าหวังว่าคำพูดของท่านจะเป็นจริง!”
ความฝันอันยิ่งใหญ่ของเด็กหนุ่มดังก้องอยู่ภายในลานเล็กๆแห่งนี้ บางทีในตอนนี้เขาอาจจะยังไม่ได้จริงจัง แต่ในขณะนี้ไฟในใจของเขาก็ถูกจุดประกายขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว
หลี่ ฉิงชานใช้ประโยชน์จากฤทธิ์สุราเพื่อฝึกซ้อมวิชาทั้งสามรูปแบบของหมัดปีศาจวัวอีกครั้ง ด้วยความครึ่งหนึ่งเมาอีกครึ่งหนึ่งมีสติ ดังนั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทวงท่าของเขาถูกหรือป่าว เขาเพียงแค่ปล่อยหมัดและใช่เท้าเตะออกไปตามความรู้สึกในหัวใจเท่านั้น ในขณะที่วัวสีเขียว มันนั่งดื่มไวน์อยู่ด้านหลังโดยไม่ได้พูดอะไร
สุดท้ายแล้วหลี่ ฉิงชาน ก็เมาและร่วงลงไปนอนที่พื้น
วันรุ่งขึ้นเรื่องที่ หลี่ ฉิงชาน ได้เอาเงินคืนให้แก่คู่สามีภรรยาหลีได้ถูกแพร่กระจายข่าวออกไปอย่างรวดเร็วทั่วหมู่บ้านโดยปากของทั้งสามอันธพาล และนั่นทำให้ชาวบ้านต่างพูดไปในทางที่แตกต่างกัน บางคนก็รู้สึกยกย่องความสามารถของหลี่ ฉิงชานเป็นอย่างมาก แต่บางคนก็หัวเราะเย้ยหยันเจ้าจะทำมาหากินโดยไม่มีที่ดินรึ เขายังไม่แม้แต่จะเป็นลูกจ้างของพ่อบ้านหลิว มาดูกันว่าเขาจะมีความสามารถขนาดไหน
แต่พวกเขาก็ไม่มีใครกล้าพูดอย่างเปิดเผยได้เพียงแค่พึมพัมกับตัวเองเท่านั้น เพราะชื่อเสียงของ หลี่ ฉิงชานในหมู่บ้านกระวัวหมอบแห่งนี้พุ่งสูงขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว
พ่อบ้านหลิว เขารู้สึกมีความสุขครึ่งและอีกครึ่งกังวลเรื่องนี้ เขามีความสุขที่ หลี่ ฉิงชานไม่มาขอที่ดินของเขา แต่ก็กังวลว่าหลี่ฉิงซานกำลังรอโอกาศที่จะแก้แค้นด้วยความเกลียดชัง เพราะเรื่องทั้งหมดนั้นทุกคนเพียงทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น
มันจะดีกว่าถ้าหาก หลี่ ฉิงชานมาหาเขาในตอนนี้ เพราะเขามีวิธีจัดการ หลี่ ฉิงชานเป็นพันๆวิธี แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันเมื่อต้องรอจนผ่านไปคืนแล้วคืนเล่าอย่างงี้จริงๆ “หรือเจ้าเด็กโง่นั้นมันแกล้งข้า?”
ในขณะที่พ่อบ้านหลิวกำลังคิดอยู่ภายในห้องโถง ชายชราผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มอีกผู้หนึ่งเดินเข้ามาแต่ถูกคนรับใช้สกัดกั้นไว้ที่หน้าประรั้วก่อน
เมื่อพ่อบ้านหลิวเห็น เขาได้ออกไปต้อนรับพวกเขาทันทีและทักทายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม“หัวหน้าหมู่บ้านหลี่ ลมใดถึงพัดพาท่านมาเช่นนี้”
หัวหน้าหมู่บ้านหลี่กล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง “ข้าไม่เคยรู้ว่าท่านจะมีเวรยามเช่นนี้ด้วย ท่านกำลังป้องกันอันใด?”
พ่อบ้านหลิวยิ้มหน้าเจื่อนๆเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าของที่ดิน แต่มันก็เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆบนภูเขาเท่านั้นและเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยเท่ากับครอบครัวใหญ่ในเมือง เขาเลยมียามเฝ้าประตูเพียงผู้เดียว! แล้วมันจะมีประโยชน์อันใด?
ถึงแม้เขาจะมีความตั้งใจที่จะรวบรวมที่ดินทั้งหมดในหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ส่วนใหญ่มันก็เป็นการซื้อขายที่สุจริต และหากเขาจะกลั่นแกล้ง เขาก็จะกลั่นแกล้งเพียงคนที่ไม่มีความสำคัญ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีศัตรูมากนัก แต่ตอนนี้เขาต้องคอยเฝ้าระวังคือ หลี่ ฉิงชาน ในสายตาของเขาเคยคิดว่า หลี่ ฉิงชานเป็นเพียงคนที่ไม่เคยมีค่าพอที่จะอยู่ในสายตา แต่เมื่อไม่นานมานี้ เขาไม่คาดเคยคิดว่าหลี่ฉิงซานจะมีปฏิกิริยาที่เกินความคาดหมายของเขาถึงขนาดนี้
ในระหว่างที่ทั้งคู่ได้เดินเข้าไปในบ้าน หัวหน้าหมู่บ้านหลี่ได้ถามพ่อบ้านหลิว “พ่อบ้านหลิว ท่านเป็นผู้ที่เคยเห็นโลกมาก่อน บอกทีว่าพวกเราควรจะจัดการเรื่องหลี่ เอ๋อร์ให้เรียบร้อยได้อย่างไร?”
ภาพเลือดมากมายยังคงติดตาพวกเขา ชาวบ้านต่างหวาดกลัวหลี่ ฉิงชานและเขาก็กลัวเช่นกัน เมื่อเขายิ่งแก่ตัวเขาก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวต่อความตายมากยิ่งขึ้น คืนที่ผ่านมาเขานอนพลิกไปพลิกมาและไม่สามารถข่มตาหลับได้เลย เขาจะรีบลุกขึ้นมานั่งทันทีหากได้ยินเสียงอะไรแม้แต่นิดเดียว เพราะเขากลัวว่าจะเป็นหลี่ ฉิงชานแอบเข้ามาเพื่อจะเอาชีวิตเขา ตลอดทั้งคืนเขาเกือบจะนอนไม่หลับ
เขาตื่นแต่เช้าตรู่และเขาพยายามคิดและตัดสินใจอย่างละเอียด หากเขาไม่สามารถขจัดความวิตกกังวลนี้ออกไปได้ เขาไม่มีทางที่ใช้ชีวิตได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงได้มาหาพ่อบ้านหลิว
พ่อบ้านหลิวได้หยักไหล่และกล่าวว่า“จะทำอย่างไร ชาวบ้านทุกคนให้ความเคารพเขาเยี่ยงเป็นวีรบุรุษและไม่มีหลักฐานใด ๆชัดเจนว่าเขาเป็นคนฆ่า”
“เขาจะไม่ใช่คนฆ่าได้อย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเกือบที่จะเขียนลงบนหน้าของเขาแล้ว”เวลานี้ชายหนุ่มอีกผู้หนึ่งที่มาพร้อมกับหัวหน้าหมู่บ้านกล่าว เขาคือบุตรชายของหัวหน้าหมู่บ้าน หลี่ เขาเป็นยังเป็นเผด็จการในหมู่บ้าน แต่ในตอนนี้ หลี่ ฉิงชาน ได้แย่งชื่อเสียงมากมายไป เขาจึงรู้สึกไม่พอใจ
“แม้ว่าจะเขียนไว้บนหน้าเจ้าก็ยังไม่สามารถอ่านได้” พ่อบ้านหลิวจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชาไปเขา แม้กระทั่งเด็กที่โง่เขลาแบบเขายังกล้าแสดงความป่าเถื่อนต่อหน้าเขา?’ เขาไม่สนใจและหันไปมองหัวหน้าหมู่บ้านอีกครั้งแล้วกล่าวออกมาช้าๆ “ท่านรู้หรือไม่ว่าเขาทำสิ่งใดในคืนที่ผ่านมา?”
“แน่นอนข้ารู้ ทุกคนต่างรู้ว่าเขาเป็นเยี่ยงวีรบุรุษ เพราะเรื่องนั้นข้าจึงไม่สามารถออกคำสั่งใดออกไปได้อีก และนั้นเป็นเหตุผลที่ข้ามาหาท่านในวันนี้”
หัวหน้าหมู่บ้านเคยเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้ หัวหน้าหมู่เคยใช้อำนาจของเขาออกคำสั่งผู้คน แต่ในขณะนี้เด็กน้อยผู้หนึ่งกลับกระโดดขึ้นมาต่อกรกับอำนาจเขา ดังนั้นเขาจึงรู้สึกโกรธและเจ็บปวด เขาจึงตัดสินใจว่าจะกู้หน้าของเขาคืนมาอีกครั้งโดยไม่สนใจว่าผู้ใดว่าผู้ใดจะถูกหรือผิด หากมันเป็นสีขาวเขาก็จะพลิกมันกลับให้มันเป็นสีดำ!
มีอะไรติชมได้นะครับบ
ติดต่อข่าวสารได้ที่เพจ Legend of the Great Saint ครับ^^