Chapter 9 ครอบครัว (Part 2)
Chapter 9 Family (Part 2)
“ลูกชาย!”
มันเป็นเสียงของผู้ใหญ่ผสมกับความน่ารัก
เมื่อผมเปิดตาแม่และนูน่าก็กลับมาที่บ้านแล้ว ดูเหมือนว่านูน่าจะพาแม่ขึ้นหลังระหว่างกลับบ้าน
“แม่ นี่บ้านแม่หรอ?”
“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าลูกชายของฉันจะกลับฉันเลยปิดร้านก่อน.”
ผมมองไปที่นาฬิกามันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ธุระกิจไก่ทอดที่แม่ขายจนหัวหมุนไม่ได้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหมือนกับบาร์ดังนั้นเลยไม่มีเหตุผลที่จะเปิดสาย
คนที่กำลังอยู่ข้างๆคนจูจี้จุกจิกตรงนั้นคือพี่สาวของผมเอง.
คิมฮยอนจู. อายุ 33. อาชีพ:ทนายความด้านข้อพิพาท* กำลังทำงานอยู่ในสำนักงานกฎหมายชั้นนำ.
(TN:อาจจะหมายถึงทนายเรื่องการหย่าร้างผมไม่แน่ใจ.)
ใบหน้าที่เรียวยาวพร้อมกับแว่นตาที่อยู่บนใบหน้าสวยๆของเธอ แต่ดวงตาที่เย็นชาและขาดการแสดงออกทำให้เธอน่ากลัว
อย่างไรก็ตามนูน่ากำลังถือไวน์อยู่.
“เอาไวน์มาทำอะไร?”
“มันเป็นการระลึกว่านายไม่ได้ใช้ชีวิตแบบไร้ค่าอีกแล้ว.”
“…”
นั่น...นั่นไง...ผู้หญิงที่โหดร้าย นี่คือเหตุผลที่ไม่มีชายคนไหนเข้ามา.
“ไปเอาเบียร์จากตูเย็นข้างๆ.”
“โอเค.”
ภายในตูเย็นนอกจากกิมจิแล้วก็มีเบียร์วางเรียงรายอยู่.
นูน่าชอบดื่ม
ไวน์และเบียร์พร้อมกับไก่ทอดที่แม่เอามาด้วยสร้างความมึนเมาอย่างทั่วถึง
ฮยอนจีผู้ซึ่งกำลังตั้งใจเรียนก็ได้ออกมาจากห้องและนั่งข้างๆพร้อมกับหัวเราะร่า เพราะเมื่อพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตวงตาของเด็กคนก็เหมือนกัน*.ทุกคนที่กำลังเมาแม่กอดผมจากด้านหลังพร้อมกับให้กำลังใจผม
(TN: บางทีฮยอนจีก็ชอบดื่มเหมือนกัน.)
“ลูกชาย! สมองของลูกชายคงไม่เหมาะกับการเรียน”
มันไม่ได้ให้กำลังใจเลย
“นี่เป็นข้อสอบในชั้นเรียนและฮยอนจีก็จะได้เข้าทำในปีนี้ แต่ลูชายฉันเป็นไงบ้าง? ไม่ใช่ว่าสอบทางกฎหมาย สอบแค่ทางแพ่งก็พอ.”
“ผมเสียใจในชีวิตและเงินของผมเหมือนกัน.”
“ที่สำคัญงานแต่ง เธอและฮยอนจูทั้งสองคน ต้องมีใครสักคนมีหลานให้ฉัน!”
เมื่อพูดถึงการแต่งงานนูน่าก็ดื่มหนักกว่าเดิม สามหรือสี่กระป๋องเข้าไปแล้วเธอก็เริ่มถามว่ามีผู้ชายดีๆบ้างไหม
นอกจากนี้ฮยอนจีผู้ซึ่งกำลังถูกเบียร์กระแทกอยู่เธอก็เริ่มสะอึ้นเริ่มพูดว่าสามารถเล่นไปรอบๆหรือไม่ก็หางานที่ทำได้ เธอบอกว่าเธอจะได้งานหลังจากเดินเล่นไปสักสองหรือสามปี
เธอมีความคิดเหมือนกับขี้…
ดูเหมือนว่าผมจะต้องเป็นคนทำความสะอาด แต่ผมจะทำอะไรได้นอกจากยิ้ม ทำไมผมถึงไม่รู้? ครอบครัวทำให้ผมมีความสุขมาก
ผมรู้สึกเหมือนกับว่ารางวัลที่ใหญ่ที่สุดที่ผ่านการสอบครั้งแรกได้คือตอนนี้
***
เช้าวันรุ่งขึ้น
ด้านในของบ้านค่อนข้างรก กระป๋องเบียร์ที่ว่างเปล่า กระดูไก่ที่กระจัดกระจายอยู่ทุกที่ สมาชิกในบ้านที่ซึ่งกำลังงัวเงียๆและงุนงง.
ฮอยนจีที่ตื่นขึ้นมาก่อนได้เขย่านูน่า
“อันนิ คุณต้องไปทำงาน! ตื่นเร็ว!”
“อ่าาา ฉันไม่อยากไปทำงานวันนี้.”
เธอแสดงออกถึงความรำคาญและหันหลังของเธอ
“แต่คุณกำลังจะถูกไล่ออก!”
“ปล่อยพวกเขายื่นมันมาได้เลย.”
“ไม่! ถ้าชายคนนั้นและคุณที่ไม่มีงานทำมันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกขี้แพ้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮยอนจี นูน่าก็เริ่มมีปฎิกิริยา
หลังจากที่ปลุกนูน่าอย่างยากลำบากฮยอนจีก็ลากนูน่าไปที่ห้องน้ำของเธอได้ มันแทบจะทำให้เธอหลั่งน้ำตาได้เลย
ผมเพิ่งตื่นขึ้นและผมก็กุมหัวของผมเนื่องจากรู้สึกว่ามันเหมือนกับจะแยกออกจากกันและก็ถอนหายใจ.
‘ไอ้ชายเอ้ย.ฉันเพิ่งนอนหลับคืนแรก.’
อาแม่ง การเรียกสปิริตและการซ้อมปืนเวทย์มนตร์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดและผมเพิ่งลืมเกี่ยวกับเรื่องนี้ สุราเป็นโทษจริงๆ.
นูน่าได้ลากสังขารที่เหนื่อยอ่อนออกไปทำงานและฮยอนจีก็บอกว่าเธอมีบรรยายในตอนเช้าที่โรงเรียนและเมื่อถึงเวลาแม่ก็ตื่นไปทำงาน
ผมตัดสินใจในการซ้อมยิงและเรียกสปิริตในวันนี้ ไม่ใช่ตอนนี้ แต่มันเป็นเช้าวันต่อมา.
ก่อนอื่นผมเริ่มทำแบบเมื่อวานด้วยการวิดพื้นเพื่มจำนวนครั้งขึ้น
บางทีผมอาจจะทำมันมากเกินไปร่างกายของผมก็ปวดเมื่อยทันที กับอาการเมาค้างยังอยู่ ผมไม่ได้อยู่ในอาการที่ดีที่สุดของร่างกาย แต่ผมก็อาบน้ำเตรียมตัวออกไปข้างนอก.
มันก็เหมือกับหมาที่ได้พร ผมได้ทำหมือนกับที่ทำเมื่อวาน.*
(TN:นักบุญปรานซิสแห่งอัสซิเป็นผู้ที่เลี้ยงดูสัตว์และศักษามัน ทุกวันที่4ตุลาคมจะเป็นวันเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อขอบคุณ ดูเหมือนว่าจะมีโบสถ์หลายแห่งที่จะให้พรทั้งวาจาและน้ำมนตร์.)
และแขนของผมก็สั่นผมแทบจะวิดพื้น50ครั้ง ไม่ผ่าน โอ้! ผมง่อยขึ้นหรอ ตอนที่อยู่ในกองทัพสภาพร่างกายของผมก็ดีกว่านี้
ผมได้กลับมาที่บ้าน ล้างจาน และกินอาหาร มันเป็นเวลาบ่ายสองแล้ว ผมเติมอ่างด้วยน้ำร้อนและอาบน้ำ บนแขนขากล้ามเนื้อของมันรู้สึกผ่อนคลายจากการปวด* ผมปูผ้าห่มและเตรียมที่จะงีบหลับ การงีบหลับสัก1นาทีหรือ1วิฯมีค่ามาก?
(TN: มันคงเหมือนกับยาบรรเทาปวดตราเสือ.)
มันเป็นเพราะว่าการจะทำการซ้อมในการเรียกสปิริตและซ้อมยิงต้องทำตอนรุ่งสางเพื่อไม่ให้มีใครรู้.
เพื่อที่จะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดผมได้เปลี่ยนตารางและตัดสินใจที่จะนอนหลับในตอนบ่าย
หลังจากที่ผมนอนหลับสนิทแล้วมันก็เป็นเวลาสองทุ่ม
“ฮิฮิ.โอปป้า วันนี้คุณไม่ได้ทำงานของคุณ”
ฮยอนจีผู้ศึ่ซึ่งกลับมาจากโรงเรียนกำลังล้อเลียนใบหน้าที่ตกใจของผม
ตอนนี้ตัวผมในสายตาของเธอ ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าคนตกงานและกำลังงีบหลับ.
“เป็นเพราะว่าพี่ทำงานหนักมากก่อนหน้านี้.”
“ทำงานหนัก?”
“ขึ้นเขา ฉันได้ทำมันทุกวัน.”
“หง่ะ การที่ออกไปแต่เช้า? โอปป้ากำลังทำตัวเหมือนกับคนตกงาน.”
“น้องสาวที่รัก ทำไมเวลาที่ฉันได้คุยกับเธอมันถึงได้ทำให้ฉันโกรธนัก หรือว่าน้องสาวอยากจะโดนตีสักป้าบ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า. อย่างไรก็ตาม ทำไมถึงได้ออกกำลังอย่างหนัก? คุณเป็นคนที่ผอมมากอยู่แล้วมันไม่จำเป็นต้องไดเอท.”
“เพื่อความอยู่รอดในการทำงานขายไก่ทอดที่เข้มข้น ฉันต้องการให้ร่างกายของฉันดีที่สุด.”
หลังจากผมพูกจบฮยอนจีก็หัวเราะออกมา
เราได้ทำอาหารง่ายๆจากซุปสาหร่ายและเครื่องเคียงที่เหลือจากเมื่อวาน เราทำความสะอาดโต๊ะและล้างจ้าน และถึงแม้ว่าจะมีเวลาเหลืออีกจนกว่าจะเที่ยงคืน ดังนั้นผมจึงเอาแล็ปท็อปออกมา.
สิ่งที่ผมค้นหาคือทักษะในการอยู่รอดในป่าหรือภูเขาที่รกร้างว่างเปล่า ผมค้นคว้าเกี่ยวกับปืนและวิธียิงให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมได้จดบัญทึกข้อมูลที่เป็นประโยชน์และศึกษาไว้.
‘แกมันโง่ แกควรจะศึกษาเรื่องนี้อย่างหนักตั้งแต่แรก.’
สิ่งที่เทวดาหนอนตัวน้อยที่พูดไว้ถูกต้อง ถ้าผมได้ศึกษาเหมือนกับเอาชีวิตและความตายเป็นเดิมพันผมอาจจะสอบผ่ายทางกฏหมายแพ่ง ทุกครั้งที่ผมมองเข้ามาในชีวิตผมก็เต็มไปด้วยความเสียใจ นี่เป็นหลักฐานว่าผมคิดผิด.
ดี ผมเสียใจมามากแล้ว เรามาหยุดกันเถอะ
และเวลาก็ผ่านไปจนถึงเที่ยงคืน
‘อาจจะไม่มีใครอยู่บนภูเขาตอนนี้?’
ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกไป
สถานที่ฝึนฝนของผมคือการเดินขึ้นไปบนเขาแทโจไม่มีใครมาในเวลากลางคืนและผมก็ได้สำรวจข้อมมูลในระหว่างรอ.
***
มันน่าอายเล็กน้อยทีจะบอกว่าชายที่อายุใกล้ๆจะ30ได้มาเดินเล่นบนถนนที่ไม่มีใครอยู่เลยเพียงลำพัง
มึคนตั้งเต้นและค่ายอยู่ที่สวนสาธารณะภูเขาแทโจ แต่ทางที่ผมเดินขึ้นภูเขาไม่มีใครผ่านมาสักคน.
‘อ่า ฉันกลัวว่าผีจะโผล่ออกมาจริงๆ.’
คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมชายอายุจะ30แล้วยังกลัวผี? ผมไม่เคยเชื่อสิ่งเหล่านี้มาแต่ไหนแต่ไร แต่หลังจากที่ผมได้ตายเพียงครั้งเดียวความคิดของผมก็มีการเปลี่ยนแปลง เทวดาตัวน้อยยังมีแล้วทำไมจะไม่มีผี
‘อ่า แล้วซิลหล่ะ?’
ผมเรียกซิลออกมาทันที
-เมี๊ยวว.
ซิลที่ผมอัญเชิญออกมานั้นได้เลียเข้าที่แก้มผมด้วยใบหน้าๆรัก ซิลได้เอาความกลัวทั้งหมดของผมออกไป
อยู่นานๆนะ. ไม่ใช่ว่าเรียกซิลออกมาได้แค่สองชั่งโมง?
“ดูสกิล.”
-อัญเชิญสปิริต (สกิลหลัก).สปิริตลมระดับต่ำกำลังถูกใช้อยู่.
*เลเวล 1:ระยะเวลา2ชั่วโมง(เวลาคงเหลือ: 1 ชั่วโมง 59 นาที.)
เมื่อเวลาอัญเชิญของคุณหมดลง คุณสามารถอัญเชิญใหม่ได้หลังจากนั้น10ชั่วโมง
งั้นสองชั่วโมงก็ถูกต้องถ้าผมใช้ซิลแล้วขีดจำกัดทางด้านเวลาก็จะลดลง.
‘เนื่องจากมีเวลากำหนด ฉันเดาว่าฉันคงมีเวลาฝีกไม่นานนัก.’
ดูเหมือนว่าฉันต้องจำกัดเวลาให้เหลือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมพูกกับซิลเหมือนกับว่าเธอเป็นแมวที่ผมเลี้ยงเองจริงๆ
“ซิล เดี๋ยวผมจะอัญเชิญอีกครั้ง แล้วตอนนี้ต้องทำไง?”
-เมี๊ยวว.
ซิลครางเบาๆแล้วเธอก็หายไป
ผมถูกทิ้งไว้บนเขายามค่ำคืนอีกรอบ
แม่งเอ้ย มีอะไรที่ไม่น่ากลัวบ้าง? ผมเดา ว่าอาจจะต้องสู้กับตัวประหลาดในอีก10ต่อจากนี้ ต่อสู้เพื่อความตาย.
มันเป็นความคิดที่ผมคิดในใจขณะที่สองเท้าย่ำดินเดินไปข้างหน้า.
มันเป็นเพราะไม่มีอะไรร้ายแรงเหมือนกับการสอบที่สุดในชีวิตของผมแล้ว หลังจากนั้นผ่านไป10นาทีผมก็มาถึงลานกว้างที่ผมจำเอาไว้ในคราวที่แล้ว.
มันเป็นเขตที่มีแต่ป่าไม้ล้อมรอบไปเหมือนกับเป็นหลังคา.
‘ลงมือทำเลย’
ก่อนอื่นฝึกยิง
“อาวุธ สวมใส่.”
ปืนเวทย์มนตร์ปรากฎอยู่บนมือขวาของผมและที่รอบเอวของผมก็สายรัดและมีกระสุนอยู่ในซองข้างๆเข็มขัด
การยิงมันควรจะเป็น…
‘หืมม?’
ตาของผมเบิกกว้างอย่างฉับพลัน
‘มันบ้าไปแล้ว มาเลียตูดฉันสิ นี่มันไม่พอ.’
กระสุนตะกั่วเป็นไอเทมที่ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ถ้าผมไม่สามารถใช้มันฝึกฝนได้การจะหามันเพิ่มนั้นเป็นไปไม่ได้
แล้วถ้าผมคิดดีๆผมอาจจะหยิบมันขึ้นมาแล้วก็ใช้มันอีกครั้งได้ ผมมีซิลที่สามารถหาลูกกระสุนที่ผมยิงทั้งหมดได้ แต่แล้วตัวจุดชนวนในการยิงไปที่วัตถุ เมื่อถึงเป้าหมายมันจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างกลายเป็นพังยับเยิน!
“เรียกกระดาน!”
กระดานปรากฎขึ้นในอากาศ.
“กระสุนมีราคาเท่าไร?”
กระสุนตะกั่ว 100: กระสุนที่เอาไว้ใช้กับปืน (-2)
-คาม่าคงเหลือ: 0
โชคดีที่จะได้กระสุน100นัดโดยการใช้คาม่า2แต้มโชคไม่ดีที่ผมไม่เหลือคาม่าเลย.
มันเป็นผลจากการที่ออกจากที่สอบและผมต้องชนะถึงจะได้คาม่า
…ระวังตูดกูนี่ ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับการกระสุนเป็นจำนวนมาก.
“แกมันโง่ ตอนนี้แกจะทำอะไร!”
ผมทรุดตัวนั่งลงบนพื้น
และการซ้อมยิงก็ยืดออกไป
และไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะออกมาตอนดึกเพื่อฝึก
กระสุน100นัดที่ผมจะต้องใช้ในการสอบรอบสอง
ผมไม่รู้ว่าการสอบรอบสองจะเป็นอย่างไร ถ้ามันเป็นลิงแดงเหมือนกับครั้งแรกก็คงจะดี แต่มันอาจจะมีมากกว่า10ตัว ผมจะต้องใช้กระสุนให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้(หมดแม๊ก)
พวกเขาไม่ได้บอกหรือว่าพวกเขาได้ใช้กระสุนกว่า50,000นัดในสงครามเวียดนามเพื่อฆ่าคนๆเดียว?
‘ไม่ ปืนของฉันไม่ใช่แบบออโต้อยู่แล้วดังนั้นจึงไม่สามารถใช้แบบพวกเขาได้.’
ดังนั้นมันจึงต่างจากพวกปืนออโต้ที่ยิงรัวๆ ผมต้องตั้งใจยิงและใช้มันได้ทีละนัด.
‘แต่ ถ้ามันเป็นแบบนี้ ฉัยต้องเคี่ยวเข็นการฝึกซ้อมของฉันอย่างหนัก!’
ผมต้องการฝึกยิงที่ไหนสักแห่ง ผมไม่สามารถเข้าไปสู้ได้โดยไม่มีการฝึกซ้อม ผมเอาสมาร์ทโฟนของผมออกจากกระเป๋า ผมเปิดเว็บและค้นหาสัญลักษณ์และหัวข้อย่อยๆ ผมกำลังจะหากระสุนที่มีรูปร่างคล้ายกับของผมอยู่.
“มันอยู่นี่!”
เสียงตะโกนดังออกมาจากความสุขอย่างไม่รู้ตัว ในศูนย์การค้ามีกระสุนสลิงที่ใช้กับหนังสติ๊กที่ทำจากเหล็ก มันเป็นลูกกลมๆขนาดของพวกมัน 7มิลฯ,8มิลฯ,9มิลและอื่นๆแตกต่างกันออกไป
ผมได้ใช้ช่องค้นหาและใส่สิ่งที่ผมต้องการ ขนาดกระสุนของตะกั่วอยู่ที่10มิลฯ และมีร้านค้าขายอยู่ ผมซื้อมันมา 500 นัดทันที.
ผมหวังว่าจะได้มาที่นี่ๆเร็วอีกรอบ
ผมมีแค่10วันเท่านั้น
ผมค่อนข้างโล่งใจเมื่อแก้ไขปัญหากระสุนปืนได้แล้ว
สามารถติดต่อตอนใหม่ได้ที่>>เพจ<<
ผู้แปลคนเดียวกันกับ Dungeon Hunter ที่โรงงานนะจ๊ะ ^^