AST บทที่ 77 - ผู้บรรลุปราณเทวะเซียนเทียน
บทที่ 77 - ผู้บรรลุปราณเทวะเซียนเทียน
"จะจะ…..เจ้า พยายามกลั่นแกล้งข้า"
เมื่อมองไปยังการกระทำของอวี้เหอ เธอนั้นคล้ายกับสิ่งที่อ่อนแอและไร้ซึ่งกำลัง เขานั้นได้ทำการกระทำแบบเดียวกันนี้ แม้ว่าการกระทำนี้จะคล้ายกันแต่คราวนี้นั้นไร้ซึ่งเจตนาทางเพศ
"ข้าขอโทษ ข้าจะรับผิดชอบมันเอง!!!"หัวใจของชิงสุ่ยสั่นเครือด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อยขณะที่เขากำลังมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของอวี้เหอก่อนที่เข้าจะพูดอย่างจริงจัง
"รับผิดชอบ?"อวี้เหอ ยิ่งยงขณะที่เธอถามยังไม่ตั้งใจ
"เอ่อออ……..ท่านจะกลายกับผู้หญิงของข้า ข้าจะแต่งงานกับท่านและปรนนิบัติรับใช้ท่านอย่างดีที่สุด"ชิงสุ่ย ถูจมูกของเขาในขณะที่พูดอย่างงุ่มงาม
หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ อวี้เหอก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงหัวเราะ เธอไม่ได้หัวเราะที่ชิงสุ่ยพยายามทำตัวราวกับผู้ที่ต้องการกินเนื้อหงส์ ทุกอย่างในใจของเธอนั้นไม่ได้เปรียบเทียบชิงสุ่ยให้เป็นดังคางคกที่น่าเกลียดเลย
"เหตุใดท่านหัวเราะ? หรือว่าท่านตกหลุมรักข้า มาจากนี้ข้าจะใช้เวลาอยู่กับท่าน ท่านว่ามันจะดีหรือไม่"
อวี้เหอยังคงหัวเราะอย่างต่อเนื่องขณะที่จ้องมองไปยังชายที่จริงจังเรื่องหน้าของเธอ เธอนั้นค่อนข้างสับสนในตัวเอง แม้เธอจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆต่อการกระทำที่หยาบคายของชิงสุ่ย เธอรู้สึกเพียงว่าชิงสุ่ยเหมือนได้สัมผัสเท่ากับจุดอ่อนในใจเธอมันสร้างความตื่นเต้นเลยเรื่อยๆให้กับเธอ
"เจ้านั้นยังเด็กอยู่ อย่ามาพูดอะไรแบบนี้ ข้าจะให้อภัยในความซุกซนของเจ้าเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หากมีครั้งต่อไปข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าอีกแล้ว" อวี้เหอ กัดฟันตอบ
ชิงสุ่ยจะหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้สึกว่า อวี้เหอนั้น มีเสน่ห์กว่าผู้หญิงที่อยู่ในกว่าตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าเขาควรจะมีความสุขหรือตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ
"ท่านอาอวี้"
" อะไรกัน เรียกข้าว่าพี่สาวอวี้
ชิงสุ่ย "... ………"
"ดูเหมือนท่านจะมีเรื่องที่ต้องการคุยกับข้า?"
" ใช่แล้วล่ะ มันเกี่ยวกับปลาดำ" อวี้เหอตอบกลับ
"ดูเหมือนท่านจะบอกว่า ปลาจำนวน 10 ตัวต่อวันนั้นมันน้อยเกินไปสินะ"ชิงสุ่ยถาม
"ถูกต้องแล้ว พวกมันต่างถูกสั่งจองโดยผู้ที่มีเงินและผู้ที่มีเบื้องหลังอันยิ่งใหญ่ ผู้คนที่มาจากนอกเมืองมาพักอาศัยภายในโรงเตี๊ยมของข้าในทุกวันนั้นต่างบ่นกันเป็นเสียงเดียว เจ้านั้นสามารถให้ปลาข้าเพิ่มได้หรือไม่?"อวี้เหอกระพริบตาขณะที่เธอถามชิงสุ่ย
ทั้งสองเดินมาด้วยกันไปที่โรงเตี๊ยมอวี้เหอ คนมากมายหลายกลุ่มบนท้องถนนจับจ้องที่พวกเขา ทุกข์ขอให้ความรู้สึกราวกับเป็นคู่รัก ชิงสุ่ยนั้นมีทั้งความหล่อและความสูงที่สำคัญนั้นเขาแสดงความอ่อนโยนและความปราณีตที่ชายวัยกลางคนนั้นขาดไป ทำให้ผู้คนต่างอิจฉา โดยดวงตาที่มีเสน่ห์และจุดสีม่วงระหว่างคิ้วนั้นทำให้เขาดูมีความชั่วร้ายเล็กน้อยและมันทำให้ผู้คนต่างหลงใหลในตัวของเขา
ส่วนทางด้านอวี้เหอนั้น ร่างกายของเธอนั้นยั่วยวนและสง่างามราวกับหยก เธอนั้นสูงน้อยกว่าชิงสุ่ย รอยยิ้มของเธอนั้นมีร่องรอยความเจ้าชู้ออกมา จมูกของเธอนั้นรากับหยกที่แกะสลัก ยอกอกคู่ของเธอที่เต็มไปด้วยความกระปี้กระเป่ากลมมน พร้อมทั้งขาคู่เรียวสีขาว เมื่อทั้งหมดรวมกันแล้วมันทำให้ทุกคนที่มองดูมันยากเกินที่จะต่อต้าน
ทั้งสองคนต่างคุยกันขณะเดินไปตามท้องถนนและสุดท้าย ชิงสุ่ยก็ตกลงที่จะเพิ่มจำนวนปลาให้กับเธอเป็น 20 ตัว นั้นคือข้อจำกัดใหม่ เพราะหากไม่ทำอย่างนั้นแล้วปลาสีดำนั้นจะไม่ได้รับความนิยมต่อไป
"ถูกต้องแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับปลาสีดำนั้นมันทำให้ทุกคนต้องการ แต่ข้าเกรงว่ามันจะสร้างปัญหาให้กับเจ้า ในภายหลัง " อวี้เหออธิบายความกังวลที่แสดงออกผ่านไปหน้าของเธอ
ชิงสุ่ยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจ สิ่งที่เขาทำนั้น ทำให้ดึงดูดความสนใจของคนผู้อื่น
"ข้าสงสัยว่า มีใครบางคนกำลังพ่อบอกว่าเราอยู่อยากใกล้ชิด และกำลังก็มองที่ว่าเราคุยกันอยู่ ข้ามั่นใจว่าพวกเขาพยายามที่จะหาแหล่งที่มาของปลาสีดำ"ชิงสุ่ยกล่าวอย่างถี่ถ้วน
ในความจริงแล้วชิงสุ่ยนั้นได้ค้นพบคนที่คอยสอดแนมเขาไว้ เป็นผลมาจากการบ่มเพาะพลังเขาที่แปลกประหลาดจากคนอื่น ทำให้ความรู้สึกของเขานั้นชัดเจนกว่า แม้กระทั่งการรับรู้ของคนที่อยู่ในระดับปราณเทวะเซียนเทียนก็ไม่อาจเทียบเท่าเขาก็ได้
"เจ้าจะหลอกล่ออย่างไรให้พวกมันออกมา?" อวี้เหอขมวดคิ้วถาม
"ไม่ พวกเราจะไม่ทำอะไรให้มันแตกตื่น เพราะบุคคลสอดแนมเหล่านี้นั้นเป็นคนที่อยู่เบื้องล่างหาใช่คนเบื้องหลังที่ทรงอำนาจ"
"แล้วเจ้าจะส่งปลาให้ข้าได้อย่างไร?" อวี้เหอสงสัย อย่างไรก็ตามปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใหญ่มากอีกทั้งศัตรูของพวกเขานั้นก็ซ่อนอยู่ในมุมมืด นั้นก็หมายความว่า พวกเขาไม่มีเจตนาที่จะต่อกลอนกับตระกูลอวี้
"จะได้เป็นกังวลไป ให้มันเป็นหน้าที่ของข้า ข้าจะหาทางส่งปลาให้กับท่านให้ได้"ชิงสุ่ยกระพริบตาและกล่าวอย่างมั่นใจ
ในเวลารวดเร็วพวกเขาก็มาถึงโรงเตี๊ยมอวี้เหอ เนื่องจากเป็นเวลาเช้าบรรดาลูกค้าจึงยังคงน้อย ชิงสุ่ยกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว บรรยากาศรอบรอบตัวร้านนั้นปรากฏเป็น 2 คู่สามีภรรยา วัยรุ่น 3 คน เป็นชายร่างสูง 2 คน และชายวัยกลางคนร่างกายแข็งแรง 1 คน และโต๊ะใหญ่ที่ประกอบไปด้วยหญิง 3 คนและชาย 5 คน
ชิงสุ่ยเหลือบสายตาไปมองชายชราและชายหนุ่มที่กำลังดื่มไวน์อยู่ใกล้หน้าต่าง ชายชราศรีษะเต็มไปด้วยเส้นผมสีขาวเปิดให้เห็นกลิ่นอายที่แปลกประหลาด ประดับประดาไปด้วยเสื้อผ้าอันธรรมดา อย่างไรก็ตามหากจดจ่ออย่างใกล้ชิดจะพบว่ามีสายใต้ดวงตาของเขานั้นส่องประกายในบางสิ่ง ในขณะที่ผิวขาวนั้นดูราวกับทารก ลักษณะของเขานั้นคล้ายกับ ฤาษีที่ฝึกตนในภูเขาที่ไม่ต้องการให้ทุกคนสนใจ
สำหรับชายหนุ่มอีกคนนั้นช่างดูหล่อเหลามีคิ้วที่เรียวยาวราวกับดาบ จมูกตรงปากบาง ชิงสุ่ยสามารถบอกได้เลยว่าชายหนุ่มคนนี้นั้นมีความตั้งใจที่แน่วแน่ ร่างกายที่สูงใหญ่และเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่นั้นถูกออกแบบอย่างปราณีตชี้ให้เห็นว่าเขานั้นเป็นคนที่มีความมั่งคั่งสูง แต่สิ่งที่ดึงดูดใจมากที่สุดคือกลิ่นอายที่เขาปล่อยออกมามันราวกับฝูงกระบี่ที่คมกริบ
" น่าสนใจ!"ความคิดดังกล่าวไหลผ่านสมองของชิงสุ่ย
ขณะที่กวาดสายตาไปมองชายชรา เขาก็เพราะว่าชายชรากำลังเฝ้ามองดูเขาด้วยความสนใจ สายตาของชายชราคนนั้นลึกลับเหลือเกิน ชิงสุ่ยจึงก้มศีรษะเขา และชายชราก็ยิ้มตอบกลับมา อย่างไรก็ตามรอยยิ้มนั้นกลับไม่มีการแสดงออกถึงเรื่องใดเลย มันทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกราวกับเขานั้นถูกขังอยู่ในกรงที่ไม่สามารถหลุดออกไปได้
และแล้วหัวใจของชิงสุ่ย ก็สั่นเครืออีกครั้งเพราะเขารู้สึกว่า คลื่นพลังที่แพร่ออกมาจากสายตาของชายชราคนนั้นช่างคล้ายคลึงกับบางสิ่งบางอย่างที่เขาเคยประสบมาก่อน
"ให้ตายสิ!!!! ปราณเทวะเซียนเทียน ทำไมผู้คนในเมืองร้อยไมล์จึงมีผู้บ่มเพาะในระดับปราณเทวะเซียนเทียนมากมายถึงขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าเหวินเหรินอู้ซวงเสียอีก นั่นก็หมายความว่าเขานั้นบรรลุในระดับปราณเทวะเซียนเทียนมานานแล้วสินะ"ชิงสุ่ยกล่าวสรุปอย่างเงียบๆ
เมื่อชิงสุ่ยเปิดใช้งานเคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์ เข้าไปสัมผัสกับสายตาของชายชราที่จ้องมองมายังจุดที่เขาอยู่ แต่เขาไม่มีเวลาพอที่จะนึกถึงเรื่องนี้ มันเป็นเพราะชิงสุ่ยได้ค้นพบว่าจุดตันเถียน ของชายชราคนนี้ดูเหมือนจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง รูปร่างของจุดตันเถียนนั้น โค้งหยักซับซ้อน และช่องลมปราณหลายช่องที่อยู่ใกล้กับจุดตันเถียนของเขานั้น ผอมบางเมื่อเทียบกับช่องลมปราณอื่นๆที่อยู่รอบรอบร่างกายของชายชราคนนั้น
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าปราณเทวะเซียนเทียนของชายชราคนนั้นกำลังล้อมรอบตัวเขาอยู่ ในขณะที่เขาหันไปมองอวี้เหอและตระหนักได้ว่าเธอนั้นไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เขารู้ได้ทันทีว่าเขานั้นคือเป้าหมายของชายชราคนนั้น อยากระดับพลังปราณของเขา ชิงสุ่ยสามารถบอกได้เลยว่าชายชราคนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน เพียงแต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชายชราถึงสนใจในตัวเขา
จริงๆแล้ว เหตุผลที่ชายชราคนนั้นสนใจในตัวของชิงสุ่ย อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่อาจมองทะลุผ่านตัวของชิงสุ่ยได้ ถ้าหากชิงสุ่ยนั้นเป็นชายชราที่บรรลุในระดับปราณเทวะเซียนเทียน เขาคงจะไม่สนใจอะไร แต่อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยนั้นยังคงเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 มันจึงอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เขาเกิดความอยากรู้อยากเห็นและสนใจในตัวของเขา
"พ่อหนุ่มน้อย เจ้าอยากจะร่วมโต๊ะดื่มกับชายชราคนนี้สักหน่อยหรือไม่"
เสียงดังออกมาทำให้ ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายทันที เมื่อชายชราคนนั้นลดระดับปราณเทวะเซียนเทียนของเขาลง
ชิงสุ่ยที่ยิ้มแฉ่งที่ก่อนหน้านี้ก็คุยตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมรอยยิ้มที่หันไปทางชายชรา อย่างไรก็ตามชายหนุ่มที่อยู่เคียงข้างชายชรานั้นก็จ้องมองมาที่ชิงสุ่ยราวกับว่าเขาต้องการที่จะท้าทายชิงสุ่ย