ตอนที่3 โถงห้องบรรพบุรุษ
หลี่ ฉิงชาน นอนพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่บนกองหญ้าแห้ง เหยียดแขนขาทั้งสี่ของเขาและหลับไปโดยไม่รู้ตัว
คืนนี้เขาไม่ได้ฝันถึงชีวิตที่ในอดีตของเขา
ในบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากคอกวัว ภรรยาของพี่หลี่กลิ้งไปมาบนเตียงเธอถูกกวนด้วยกลิ่นหอมของเนื้อจนนอนไม่หลับยันดึก
เช้าวันต่อมา ไม่นานหลังจากที่ไก่สามตัวขัน มีคนอ้วนๆในเสื้อผ้าสีเขียวมรกตเดินเข้ามาในฟาร์ม เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าของที่ดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหมู่บ้าน วัวหมอบ แห่งนี้ หัวหน้าหลิว เขาเป็นคนที่ภรรยาของพี่หลี่ เรียกว่า พ่อบ้านหลิวเพราะเขาเคยเป็นพ่อบ้านในบ้านหลังใหญ่ในเมือง ตอนนี้เขากลายเป็นรัฐมนตรีหลักของครอบครัวและกลับไปที่หมู่บ้านบ้านเกิดของเขา พร้อมกับความมีชื่อเสียง
แต่เขาก็ยังให้คนเรียกเขาว่าพ่อบ้านหลิว เพื่อที่จะเน้นสถานะของเขาที่แตกต่างจากชาวนาเหล่านั้นและทำให้เขาแตกต่างจากเจ้าของที่ดินในชนบทแบบธรรมดา เพราะเขาได้ยึดที่ดินของหมู่บ้านไว้แล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งด้วยวิธีมากมายเขายังมีชื่อเล่นว่า“หลิว ครึ่งหมู่บ้าน”
ถ้าคุณต้องพูดถึงความฝันที่ หลิวครึ่งหมู่บ้านคือเขาต้องการหมู่บ้านทั้งหมดเป็นของเขา แต่เรื่องนี้ไม่สามารถรีบได้ เขายืมคำพูดของเหล่าบรรดานายท่านจากเมือง ช้าและมั่นคงจะชนะการแข่งขัน เขามั่นใจว่าเขาสามารถเข้าใจถึงความต้องการของเขาในชีวิต และในเวลานั้นทุกคนในหมู่บ้านจะเป็นลูกจ้างของเขา เขาจะเป็นจักรพรรดิแห่งหมู่บ้าน วัวหมอบ และนั้นคือสิ่งที่เขาต้องการจะเป็น
แต่ พ่อบ้านหลิวตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยพอใจ ไม่มีคนงานมากพอที่บ้านของเขา เขาโบกมืออ้วนๆของเขาและพูด“มีแค่ไม่กี่คน...ที่เหลืออยู่ที่ไหน”
คนงานพูดพร้อมกับหน้าที่ยิ้มแย้ม “พ่อบ้านหลิว พวกเขากำลังช่วยกันสร้างบ้านให้หลี่เอ๋อร์”
"หลี่เอ๋อร์? ใครคือหลี่เอ๋อร์? "
“นั้นไงเด็กคนนั้น”
“เจ้าเด็กนั้นไปเอาเงินมาจากไหนจ้างพวกเจ้า--?”
“เจ้าเด็กนั้นโชคดีเป็นบ้า...เขาไปเจอหมูป่าตัวใหญ่เข้า ถ้าใครในหมู่บ้านตกลงที่จะช่วยเขาสร้างบ้านจะได้เนื้อหมูชิ้นใหญ่ ตอนนี้มันอยู่ที่ตีนเขา วัวหมอบ ตอนนี้กำลังคึกคักเลย”
“แล้วทำไมเจ้าไม่ไป?”
“ข้าตกลงไปกับแล้ว” คนงานพูดอย่างกระกระอวนใจ เขาเศร้าใจมาก นี้เนื้อ เขาจะกินมันในเวลาธรรมดาๆได้ยังไง
พ่อบ้านหลิวจับหน้าผากและพูดว่า“ไป ไปดูกันว่ามันเป็นยังไง”
ทันที่ที่เขาตื่น หลี่ ฉิงชาน เริ่มวางแผนเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากครอบครัวของเขา สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างบ้านที่ดีหลังหนึ่งสำหรับเขาเอง เขาไม่สามารถพึ่งพาของที่คนอื่นให้ได้
เขาไม่เคยมีความสามารถมาแบบนี้มาก่อน แต่กับหมูป่านี้หลายสิ่งหลายอย่างถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดายด้วยคำทักทายเล็กน้อยจากหลาย ๆ คนมาที่มาช่วย อาจพูดได้ว่าในที่สุดเขา ก็ชำนาญที่สุดในการใช้เวทมนต์เนื้อนี้ในโลก
ใต้ตีนเขาวัวหมอบ...ต้นวิลโลว์ให้ร่มเงาและดอกไม้สดใส ทัศนียภาพที่สวยงาม ในโลกอดีตของเขาสถานที่แบบนี้น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือคฤหาสน์ของเศรษฐีคนหนึ่ง เมื่อไหร่จะถึงคราวที่เขาจะครอบครองมัน นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากหมู่บ้านและง่ายต่อการปิดบังความลับของเขาและเขาอาจจะสบายใจขึ้นเมื่อเขาคุยกับวัวสีเขียว
หลี่ ฉิงชาน ยืนอยู่ในกลางกลุ่มคนและให้คำสั่งไปมา ความสุขที่ไม่สามารถพูดออกมาได้อยู่ในใจ เขาเริ่มเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่เล็กน้อยเมื่อวัวสีเขียวพูดว่า กินเนื้อ มันไม่ใช่แค่การทำให้ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น
คนที่ไม่มีอาหารหรือเสื้อผ้าต้องวิ่งหนีมาที่นี้และวิ่งไปมาเหมือนไก่โง่ๆเพื่อจะกินของทั้งหมด ความสนใจของเขาจะไปอยู่ที่ไหน เขาไม่มีอะไรที่จะพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเข้าใจหัวใจของตัวเอง
พ่อบ้านหลิวยืนอยู่ไกลๆและกวาดสายตาของเขาไปรอบ ๆ พึมพำกับตัวเอง“นี้หมายความว่าพี่นอกจากแยกจากกัน?”แต่เขาก็เห็นภรรยาของหลี่กำลังเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ไม่เพียง แต่ไม่พอใจที่ได้เห็นน้องชายของครอบครัวเธอแยกตัวไปบ้านของตัวเอง เธอกัดฟันของเธอด้วยความโกรธ ในใจของเธอคิดว่าแผนของเธอได้ผลแล้วและก็เดินไปด้วยรอยยิ้ม
ไม่เกินสิบวันต่อมาบ้านใหม่ถูกสร้างขึ้นและทุกคนได้รับเนื้อหมูและเดินจากไป
ในขณะที่ยืนอยู่ในลานเล็ก ๆ หลี่ ฉิงชาน เฝ้ามองบ้านใหม่ของเขาด้วยความพึงพอใจ แม้ว่าจะเป็นบ้านธรรมดาที่ทำจากอิฐโคลนและมุงหลังคา นี้ยังเป็นบ้านใหม่ของเขา นี่เป็นก้าวแรกที่เขาก้าวเข้ามาในโลกนี้เพื่อที่จะตั้งหลักและแสวงหาความปราถนาของเขา
เขากินต่อไปอีกไม่กี่วัน หน้าของเขาก็กลับมาเป็นสีชมพูอีกครั้ง เขาดูมั่นใจมากขึ้น แม้ว่าร่างกายของเขาจะทำงานไป10กว่าวัน แต่ร่างกายของเขาโตขึ้นเพียงมาไม่กี่นิ้ว
ในขณะที่ หลี่ ฉิงชาน กำลังมีความสุข หญิงชราคนหนึ่งที่มีผมสีขาวและผิวที่เหี่ยวหย่นเดินเข้ามาที่ลานหน้าบ้านของเขาปรากฏตัวขึ้นมาอย่างน่าตกใจ “หลี่เอ๋อร์บ้านหลังนี้ของเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นมันไม่เหมาะสม มันเป็นลางร้ายมาก”
หลี่ ฉิงชาน ขมวดคิ้ว นี่คือแม่มดที่บังคับให้เขาดื่มน้ำมนต์ในตอนที่เขายังเด็ก เธอทำตัวลึกลับตลอดทั้งวันและหลอกคนหลอกลวงชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง เขาไม่ได้มีความรู้สึกเป็นมิตรกับเธอแต่เธอเป็นที่เคารพมากในหมู่บ้านงานศพหรือการแต่งงานในหมู่บ้านจะเชิญให้เธอไปทำนาย และแน่นอนการทำนายตามธรรมชาติของเธอต้องทำพิธีถวายแด่พระเจ้า
หลี่ ฉิงชาน ก็ไม่กล้าที่จะดูถูกเธอและจ่ายเงินให้เธอเป็นพิธีการทักทาย“ทำไมท่านแม่มดมาที่นี้?”
แม่มดไม่ได้มองเขาและเหลือบไปทางขวามือในบ้าน“ที่นี้มีบรรยากาศแปลกๆ....นั้นไงวิญญาณร้ายโชคดีที่ตอนนี้ข้าพร้อมแล้ว”เธอถือขวดอยู่ในมือข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งถือกิ่งของต้นวิลโลว์ เธอจุ่มกิ่งไม้วิลโลว์ลงไปในขวดและพรมน้ำไปทั่วบ้าน ในขณะที่ตะโกนไปด้วยในลานบ้าน“ออกไปเร็ว ออกไป”
หลี่ ฉิงชาน ไม่ได้ขัดขวางเธอและยอมให้เธอทำเรื่องไร้สาระ ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อในผีและพระเจ้าอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเชื่อว่ามีจิตวิญญาณแห่งความมืดมิดอยู่ข้างใน เขามีจิตวิญญาณชั่วร้ายที่แท้จริงอยู่ด้านข้างของเขาและถ้ามีอะไรผิดปกติวัวสีเขียวจะบอกเขาอย่างปกติ เมื่อไหร่จะถึงคราวของของเธอบ้าง?
หลังจากแม่มดพรมน้ำมนต์ของเธอ เธอทำเหมือนเธอได้ให้ความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่แก่ หลี่ ฉิงชานและเดินเตร่ไปเรื่อยสิ่งที่โชคดีของ หลี่ ฉิงชาน คือได้รับการประทานโดยพระเจ้า ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจ่ายเงินให้กับพระเจ้า สิ่งที่ดีที่สุดในการมอบให้พระเจ้าคือหมูป่า
หลี่ ฉิงชานเข้าใจในที่สุดว่าทำไมเธอถึงมา และกล่าวว่า“ข้ากลัวว่าไม่ใช่พระเจ้าที่อยากจะกินมัน แต่ท่านต่างหากที่ต้องการกินมันใช่มั้ย?”
เห็น หลี่ ฉิงชาน ดูหมิ่น แม่มดเดินเข้าไปหาพร้อมกับโกรธอย่างมาก เธอยืนขึ้นและใช้โทนเสียงอีกแบบหนึ่ง พูดว่า“หลี่ ฉิงชานถ้านายไม่ฟังคำแนะนำของพระเจ้า…นายจะเจอความหายนะ”
หลี่ ฉิงชาน รู้ว่านี้ คือเลห์เหลี่ยมการทำนายศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับพระเจ้าของเธอ โดยปกติเมื่อชาวบ้านเห็น แม้กระทั่งผู้ที่มีความกล้าหาญก็รู้สึกกลัว พวกเขาจะคุกเข่าลงและกราบ แม้แต้ หลี่ ฉิงชาน ก็ไม่กล้าที่จะเพิกเฉยต่อมัน แต่ตอนนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา เขาไขว้แขนของเขาเหมือนกำลังดูตลก “ไม่มีทางที่จะโชคดีหรือโชคร้ายเพราะทุกอย่างมนุษย์เป็นคนทำเองทั้งนั้น มันมีความเกี่ยวข้องอะไรกับพระเจ้า? ท่านแม่มดได้โปรดออกไปได้แล้ว!”
แม่มดไม่คาดคิดว่าเล่ห์เหลี่ยมนี้ไม่ส่งผลอะไรและพยายามทำท่าทีกลับเป็นปกติอย่างเก้ๆกังๆ แล้วพูดด้วยสำเสียงน่ากลัวว่า“เจ้าแค่ต้องรอ”
ไม่นานหลังจากที่แม่มดไป หายนะก็มาจริงๆ
ชาวบ้านได้เชิญ หลี่ ฉิงชาน ไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษ แม้ว่าหมู่บ้านนี้จะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่กฎก็มีอยู่มากมาย เรื่องของความต้องการที่เขาแยกตัวออกจากพี่ชายของเขาควรจะต้องไปเข้าร่วมที่ห้องโถงบรรพบุรุษและทำให้เรื่องการแยกตัวออกนั้นชัดเจนต่อหน้าผู้อวุโสหมู่บ้าน แต่ก็ควรเป็นคำร้องขอของเขา หรือพี่ชายเขาพูดไปก่อนแล้ว?
หลี่ ฉิงชาน รู้สึกไม่สบายใจ วัวสีเขียวได้ไปแล้วไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ไหน ดังนั้นเขาจึงต้องกัดฟันรับไป
ห้องโถงที่เรียกว่าห้องโถงบรรพบุรุษเป็นเพียงบ้านหลังเล็ก ๆมีซุ้มประตูที่ลึก แต่มันก็เป็นหนึ่งในอาคารหินที่หายากในหมู่บ้านและด้านเป็นแผ่นศิลาจารึกศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษของตระกูลหลี่และหลิว
ภายในห้องสีดำที่มืด คนเก่าแกหลายคนถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้านซ้ายและขวา คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำคือหัวหน้าหมู่บ้านของ หมู่บ้านวัวหมอบ และเขามีอายุมากกว่า60ปี หลังของเขาค่อมจนไม่น่าดูเท่าไหร่ เขายังมาจากตระกูลหลี่ และตามศักดิ์แล้วเขาเป็นผู้อาวุโส หลี่ฉิง ชานเรียกเขาว่าปู่
ภรรยาของพี่หลี่ ได้รออยู่ข้างในแล้วและเมื่อเธอเห็นเขาตาเธอก็ลุกเป็นไฟจ้องมาทาง หลี่ ฉิงชาน เหมือนหลี่ ฉิงชาน ได้ไปทำร้ายเธอ เธอเก็บการแสดงออกเรื่องการแก้แค้นไว้
หลี่ ฉิงชาน ไม่ได้สนใจและเริ่มหันไปทักทายผู้อาวุโส จากนั้นภายใต้การเป็นผู้รับผิดชอบ ของหัวหน้าหมู่บ้าน เขาเริ่มพิธีแยกออกจากครอบครัวของเขา
เดิมที่ หลี่ ฉิงชานคิดว่าเขามีแค่วัวสีเขียวและพื้นพี่ไร่นิดหน่อย ดังนั้นเขาไม่ได้คาดหวังว่าความแต่เป็นจริงนั้นซับซ้อนกว่าที่เขาคิด
ใบหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านดูเข้มงวดและเป็นธรรมในขณะที่เขาแจกจ่ายสิ่งของแบบสุ่มไปยัง หลี่ ฉิงชาน อย่างพิถีพิถันจนถึงจุดที่เขาให้ช้อนหรือตะเกียบไป
ทุกครั้งที่เขากล่าวถึงหลี่ ฉิงชาน ภรรยาของพี่หลี่หงุดหงิดและสายตาของเธอกลายเป็นโหดร้ายมากขึ้น
หลี่ ฉิงชาน ยังคงไม่ไหวติง หน้าของเขานิ่งและใจเย็น รายการของที่ใช้ในการดำรงชีวิตที่สุ่มมามีประโยชน์ทั้งหมด ช่วยประหยัดแรงในการไปซื้อของ ของเขาอีกครั้ง
หัวหน้าหมู่บ้านได้หยุดหลังจากการแจกจ่ายไปแล้วกว่าหนึ่งชั่วโมง
เขาเหลือบไปทางซ้ายและขวาด้วยดวงตาที่ขุ่นมัว "นายมีอะไรที่นายไม่เห็นด้วย?"
แม้ว่าภรรยาของพี่หลี่จะมีความมั่นใจ แต่หลี่ฉิง ชานรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติ “ท่านปู่ แล้วพื้นที่ฟาร์มหล่ะ?”
“ฟาร์มอะไร?”
หลี่ ฉิงชาน ตะลึงไปครู่นึง เมื่อตอนที่พ่อแม่ของเขาล่วงลับไปแล้ว พวกเขาทำสิ่งต่างๆให้ชัดเจนก่อนหน้านี้ต่าหน้าพวกเขา... พวกเขากลัวว่าพี่ชายของเขาจะกลั่นแกล้งเขาดังนั้นพวกเขาจึงต้องการคนที่มีความเคารพสูงในหมู่บ้านเพื่อสร้างความเป็นธรรม
ภรรยาของพี่หลี่ได้กล่าวอย่างเปิดเผยว่า“เจ้านั้นเด็กไปและไม่รู้เรื่อง คนแก่ทั้งสองนั้นได้ยืมเงินไปและไม่คืนที่ดินเหล่านั้นเลยได้เป็นค่าชดเชยมาตั้งนานแล้ว”
หลี่ ฉิงชาน ตกใจมากและโกรธมาก “เจ้าเรียกพ่อแม่ข้าว่าไงนะ พูดอีกที”แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งกับพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นพ่อแม่ของเขาในโลกนี้ เขาจะอดทนที่ใครบางคนที่มาถูกพวกเขาต่อหน้าคนมากมายอย่างงี้?
พี่หลี่เดินมาข้างหน้าภรรยาของเขา ผู้ชายที่มีร่ายกายกำยำเดินเข้ามาจากด้านนอกห้องโถง เห็นได้ชัดว่านี้ได้มีการเตรียมการมาก่อนล่วงหน้าแล้ว
หลี่ ฉิงชาน สังเกตเห็นว่าคนเหล่านั้นทั้งหมดเป็นพวกคนเลวในหมู่บ้าน พวกเขามักจะเดินไปรอบ ๆหาขโมยไก่และสุนัข กดขี่ขี่ข่มเหงคนพวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรระหว่างคนในหมู่บ้านเดียวกันและไม่แสดงความสงสารอะไรเลยตอนที่พวกเขาทำ
หัวหน้าหมู่บ้านนิ่งลงและด่า“ผู้หญิงหน้าโง่!”แล้วถอนหายใจ“ฉันต้องตรวจสอบสัญญา”
“สัญญาอยู่ไหน?”
พี่หลี่ พูด“เราเผามันไปแล้วตอนที่เอากลับมา”
"ใครเป็นหนี้ที่ค้างอยู่?"
ภรรยาของพี่หลี่ กล่าวอย่างอวดดีว่า“หมู่บ้านเป็นของพ่อบ้านหลิว ถ้าเจ้ากล้าพอเจ้าก็ไปถามหาจากเขา แล้วมาดูกันว่าพ่อบ้านหลิวจะถลกหนังคเจ้าออกไหม แม่แก่ๆคนนี้กำลังท้าเจ้าอยู่ไงไอเด็กสารเลว” พื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดเป็นทุ่งอุดมสมบูรณ์และพวกเขาขายได้เงินเป็นจำนวนมากดังนั้นจึงสามารถนับได้ว่าเป็นค่าชดเชยสำหรับการที่ไม่ได้กินเนื้อหมูป่าเธอตัดสินใจที่จะซื้อไก่และจะกินมันทันทีที่เธอกลับถึงบ้าน
หลี่ ฉิงชาน โกรธจนตัวสั่นและเขากำหมัดแน่นจนเล็บจิกลงไปในฝ่ามือของเขา
ด้วยประสบการณ์ของเขาจากสองโลก เขาจะรู้เบื้องหลังได้อย่างไร? ชาวนาถือว่าที่ดินเป็นเส้นเลือดของพวกเขา เขาตั้งใจที่จะให้คนอื่นไปง่ายๆ เป็นค่าเชดเชย? พ่อแม่ของเขายังใช้ชีวิตอยู่ในทุ่งนาเขาจะไปยืมเงินมาทำไม
พวกเขาเห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนกลั่นแกล้งเขา.. เขาไม่มีที่ดิน ถ้าเขาต้องการที่จะกินและมีชีวิตอยู่รอด เขาต้องไปบ้านของพ่อบ้านหลิวและไปเป็นลูกจ้าง แม้ว่าเขาจะมีความโกรธเท่าผืนฟ้าที่กว้างใหญ่นี้เขาต้องเก็บมันและอดทนเอาไว้ก่อน....มันเป็นแผนที่ดีจริงๆ
หลี่ ฉิงชาน ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเย็นชาจากพี่ชายและภรรยาของพี่ชาย..ส่วนมากเขาได้กินและใส่เสื้อผ้าแย่ๆ เขาสามารถยอมรับเรื่องนั้นได้ แต่ตอนนี้เรื่องนี้ขาวกลับกลายเป็นดำ ในชีวิตเก่าของเขาเขาได้ใช่อินเทอร์เน็ตได้เห็นด่านมืดของสังคมมามากมาย เขาก็รู้สึกไม่พอใจและด่าไป แต่ตอนนี้เขารู้ว่ายากแค่ไหนจะต้องทนอยู่เมื่อสิ่งเหล่านี้มันหล่นมาลงบนบนหัวของตัวเอง
ถ้าเขาปฏิบัติที่จะทำตามเขาจะไม่มีโอกาสที่ร้องขออะไรได้ แม้ว่าเขาจะปฏิบัติตามข้อตกลงของหมู่บ้านเท่านั้น
ตอนหน้าเริ่มมันแล้วครับXD
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Legend of the Great Saint