ตอนที่ 11 : เวทย์มนต์บนเพลงดาบ (ก่อนจะเริ่มการแข่งขัน)
ในสถานศึกษา สองปีแรกของภาคบังคับ ‘การแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดของชั้นปี’ ก่อนที่มันจะถูกจัดขึ้น จำนวนคนที่เข้าอบรมในตอนเช้าก็เพิ่มขึ้น และนักเรียนในหอพักชายเพิ่มขึ้น 2-3 เท่ากำลังฝึกดาบและเวทย์มนต์ตั้งรุ่งสาง
“คนเยอะจังวันนี้”
รูเดิลพูดขึ้นหลังจากที่เขาเสร็จจากการฝึกฝน และขณะที่เขามองไปรอบๆ เขาก็ประทับใจกลับจำนวนคนที่มากขึ้นกว่าปกติ แต่เวกัส
“ฉันให้เวลา 2-3 วัน แล้วจำนวนจะลดลงครึ่งหนึ่งทันที พวกเขาเพียงแค่ทำงานอย่างหนักในช่วงเวลาระยะเวลาที่จะแข่งขัน ที่สำคัญ บาซิลลี่ล่ะ เธอยังอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”
บาซิลลี่ผู้ที่สอนให้รูเดิลใช้เวทย์มนต์ในด้านการสู้รบ แต่เธอมักจะสภาพแย่มากในตอนเช้า เธอไม่เคยมาทันเวลาสอนในตอนเช้า หรือถ้าเธอมา ผมของเธอจะยุ่งเหยิงและเสื้อผ้าของเธอดูเหมือนไม่ใช่ทหารเอาเสียเลย … แต่ถึงอย่างนั้น เธอยังคงเป็นที่นิยมมากกับชายที่ฝึกอบรมในตอนเช้า
“ดูเหมือนเธอก็ไม่ได้เที่ยวเตร็ดเตร่เมื่อคืนนี้ แต่เธอก็ยังคงมีสภาพที่แย่ในตอนเช้าอีกเช่นเคย”
“อา ~ วิธีการ. . .แกว่งไปมาของหน้าอกของเธอผ่านเสื้อผ้าเหล่านั้น .. เป็นความงดงามยิ่งนัก!”
รูเดิลต้องประหลาดใจเมื่อเห็นจำนวนการพยักหน้าของเพื่อนผู้ชายที่อยู่รอบๆ ณ จุดนี้ เขาได้แต่หัวเราะ
“ที่สำคัญ! นายต้องทำให้ดีที่สุดในการแข่งขัน และอัศวินจะคอยตั้งตาจับดูนายและผู้ที่เกี่ยวข้องกับนาย”
ใช่! วัตถุประสงค์ของการแข่งขันในครั้งนี้เป็นความสำคัญที่ควบคู่ไปกับการยืนยันคุณภาพของนักเรียน แต่การประกาศตนว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งของสถาบัน นั่นคือเป้าปมายที่แท้จริงของผู้แข่งขัน
“ชะ..ใช่!”
รูเดิลต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติ หากจะให้เข้าใกล้ถึงความฝันของเขา …บางทีเขาอาจจะเรียกมันว่าโชคชะตา เพราะฝ่ายตรงข้ามของเขาคือ อัลเลต ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในชั้นปี
ooo
ตัวแทนในแต่ละชั้น ถูกรวบรวมมาในห้องพัก สถานศึกษาให้การต้อนรับอย่างดีในวันแรกของการแข่งขัน ห้องพักถูกห่อหุ้มด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดของความตึงเครียด
“โอ้ ผู้ชนะจากการคัดเลือกของรุ่นน้อย … ฉันว่า เรียนที่โนเบิลยังไงก็มีร่างกายที่อ่อนแอ”
เสียงยั่วยุที่ออกมาจากบุคคลหนึ่ง เขาไม่ได้เป็นตัวแทนของสามัญชน เขาเป็นบุคคลที่ไม่มีใครสามารถเตือนเขาได้ในเรื่องของการพูด . . . ‘ ยูเนียส เดส’ จากหนึ่งในสามของขุนนางเช่นเดียวกับรูเดิล กำลังโม้ร่างกายขนาดใหญ่ ยูเนียสมีดาบไม้ขนาดใหญ่ของเขาไว้เคียงข้างกาย
ผมสีบลอนด์ที่อยู่ด้านหลัง ดวงตาสีฟ้าของเขาทำให้เขาเป็นเหมือนสัตว์ที่ดุร้ายมากเสียกว่าขุนนาง . . . ในขณะที่เขายังไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ของเพลงดาบได้ดีเท่าไหร่นัก แต่เขาสามารถใช้เวทย์มนต์ของเขามองทะลุเข้าไปที่รูเดิลได้ และรูเดิลคือจุดแรกที่เขาจะกำจัด แต่ยูเนียสไม่เคยเปิดม่านต่อสู้กับรูเดิล เขามีได้มีการเรียกร้องต่ออันดับที่ถูกจัดให้แก่เขา
“หนวกหูชะมัด . . . ถ้านายรักสามัญชนมาก ก็ย้ายไปเป็นสามัญชนเสียเลยสิ เราไม่ต้องการขยะที่ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันของขุนนาง”
เป็นผู้หนึ่งที่ถูกเรียกร้องยูเนียส หนึ่งในสามของบุตรชายของขุนนาง ‘ ลุกซ์ เฮอร์เบดส์’ ผู้ที่มีสีผิวที่ซีดใกล้จะโปร่งใสและดวงตาสีแดงที่มองผ่านมาที่ผมสีบลอนด์ของเขาโดยตรง
อันดับหนึ่งในเรื่องแห่งเวทย์มนต์ … แม้ว่าเขาจะไม่เคยเปรียบเทียบตัวเองกับรูเดิล แต่ลุกซ์เองก็มีความไม่พอใจบางอย่างเกี่ยวกับคำพูดของยูเนียส
ไม่มีใครสามารถก้าวเข้าสู่การสนทนาระหว่างพวกเขาเหล่านี้ได้ … หรืออย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่มันควรจะเป็น
“นายสองคนสามารถสงบลงได้มั้ย? เราจะได้ไปต่อสู้กันเสียที”
คนที่ทำได้โดยไม่ต้องอ่านอารมณ์ของใครใดๆ อัลเลต ฮาร์ดี้ หากรูเดิลจะยังกล่าวต่อ จะไม่มีใครร้องเรียนรูเดิล เนื่องด้วยเขาก็เป็นบุตรชายของหนึ่งในขุนนางทั้งสาม และพวกเขาทั้งสองก็ได้สติคืนจากคำพูดของเขา
แต่อัลเลต ถูกเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในชั้นปี … และเขาก็มีความสนใจในตัวของบุคคลทั้งสอง ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะขัดบทสนทนานั้นด้วยตัวเอง
“เอ๊ะ บุตรชายคนโตของบ้านฮาร์ดี้ .. สิ่งที่คุณต้องการจะพูด มันขัดบทสนทนาของเรา”
ลุกซ์ ส่งสายตาเย็นชาของเขาจ้องมองมาที่อัลเลต ทั้ง ลุกซ์ และยูเนียส คิดว่าเรื่องกำลังจะสนุกขึ้น ทั้งหมดลุกขึ้นยืนเพื่อฟังบทสนทนานั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาหน่ายที่จะอดทนต่อความสามารถประหลาดของอัลเลต
เกรดของอัลเลตไม่ได้ดีมากนัก เขามีจุดหักเนื่องจากทัศนคติของเขาระหว่างเรียน แต่ด้วยเงินที่นำเข้าบัญชีของสถาบัน ทำให้อัลเลตยังคงติดอยู่บนๆของอันดับ … มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าสงสัยเอาเสียเลย
ลุกซ์และยูเนียสเป็นบุคคลที่ไม่เคยล้มเหลวในความพยายาม และความสามารถของเขานั่นเพียงพอที่จะบอกว่าเขาน่าสงสัยมากเพียงใด มันตรงกันข้ามกับสัญชาตญาณของเขาที่กำลังบอกว่าเขากลัวรูเดิล เด็กผู้ชายที่สามารถไล่บดขยี้เกรดของพวกเขาทั้งชั้นปี
เขาทั้งสองรู้ว่า รูเดิลเป็นคนหนึ่งที่เขาต้องระวัง
“หากนายอยากรู้อยากเห็น ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้อื่น นายต้องดูในขณะที่ต่อสู้ มันจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเสมอ”
“โอ้ คุณพูดได้ดีดีจัง นั่นเป็นการแสดงว่าคิดเห็นที่ฉันชอบ .. โอ้ นายคิดยังว่าไงล่ะ อาร์ช ?”
ยูเนียสกลับเปลี่ยนเรื่องที่จะเป็นรูเดิล ยูเนียสและลุกซ์มองหน้าเขา และสุดท้ายอัลเลตก็มองเขาเช่นกัน ความรู้สึกของสามพลังที่แข็งแกร่ง รูเดิลรู้ดีว่าเขาจะแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อได้สู้กับพวกเขา
หากแต่คุณถามเขาในสิ่งที่เขาคิดว่ามันเป็นปัญหา กับรูเดิลการได้สนทนาก่อนการแข็งขันถือเป็นกำแพงปิดกั้นในตัวเขา ตอนนี้เขาเพียงต้องการมีสมาธิเพื่อที่จะไปต่อสู้ และเขาก็รู้ว่าทั้งสองกำลังมองมาที่เขา ทั้งสองมั่นใจว่าคำพูดของพวกตนจะทำให้เขาโกรธ …
“ไม่มีอะไรหรอก . . . ฉันเพียงต้องการที่จะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แข็งแรงพอที่จะเป็นดรากูน”
“ฉันรู้แล้ว และนายก็จะล้มเหลวในการเป็นดรากูนแน่ๆ เพราะนั่นไม่ใช่หน้าที่ที่จะตอบสนองต่อสถานะของนาย”
เมื่อเขาได้ยินจากลุกซ์ หนึ่งในสามของบุตรชายแห่งขุนนาง รูเดิลรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของการเห็นแก่ตัวของเขา จริงอยู่ที่รูเดิลเดินทางมาเสียสละเวลาและความสบายเพื่อที่จะเป็นดรากูน มันเป็นการกระทำที่คล้ายกับละทิ้งคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานของดินแดน อาร์ช
“ถ้าเป็นขุนนางนายจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ใช่ แล้วอาร์ชดยุก จะต้องถูกปล่อยให้ลอยแพหลังจากนั้น”
ยูเนียสยั่วโมโหเขาเพิ่มขึ้น รูเดิลได้แต่เงียบ ภายในใจของเขาพยายามที่จะมองหาอิซูมิ แต่. . .
‘ การแข่งขันครั้งต่อไปกำลังจะเริ่มเร็วๆนี้ ผู้แทนทุกคนโปรดเตรียมตัวให้พร้อม ’
คำสั่งที่มาจากเครื่องกระจายเสียงของสถาบัน รูเดิลยืนขึ้น… พวกของอัลเลตก็ยืนขึ้นเช่นกันออกจากห้องพักและมุ่งหน้าไปยังสังเวียน…
ooo
เมื่อรูเดิลและคนอื่นๆได้ออกจากห้องพัก ลุกซ์และยูเนียส ยังคงพูดคุยกัน บ้านเฮอร์เบดส์และ เดส ยังคงเข้ากันไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ พวกเขายังยืนยันเรื่องความสามารถที่แข็งแกร่งของตนเอง แต่ตอนนี้เขากำลังคุยลึกไปที่เรื่องของรูเดิล
“นายคิดว่าไง”
บนคำถามที่คลุมเครือของยูเนียส ที่กำลังถามลุกซ์
“อัลเลต มีแต่ความทุจริต ส่วนรูเดิลก็เปรียบเสมือนปีศาจ”
“ใช่ … ดาบทั้งสองข้างคงมีเพียงแต่เวทย์มนต์ที่จะเป็นตัวตัดสิน นายคิดว่าจะชนะศัตรูของเขาได้งั้นหรอ ?”
“ฉันคิดว่านายหมายถึงการที่เขาเหนือกว่านาย สำหรับฉัน ฉันสามารถชนะเขาได้อย่างง่ายดาย … แต่ไม่รู้ว่าเขาจะชนะอัลเลตได้หรือไม่”
ในขณะที่มีความแตกต่างในการรับรู้ของพวกเขาในสถานการณ์ที่มีความเห็นสอดคล้องกัน เรื่องที่มันเป็นเรื่องยากสำหรับรูเดิลที่จะเอาชนะอัลเลต แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดพื้นฐานของอัลเลตเท่านั้น
“ อัศวินคาถา? มีหลากหลายวิธีที่จะพูด แต่ลักษณะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอัศวินด้านเวทย์มนต์คือ ‘ดาบวิเศษ’ ซึ่งเป็นรูปแบบของการต่อสู้ที่ปลูกฝังกันมาอย่างยาวนาน เขาดูดซึมเวทย์มนต์ลงไปในดาบไม้ของพวกเขา ระยะเวลาที่เวทย์มนต์จะอยู่ในดาบนั้น…ทำให้รูเดิลเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“มันน่าตื่นตาตื่นใจเสียจริง เขาเพียงแค่จะพยายามปกป้องดาบของเขาใช่ไหม?”
ยูเนียส หวาดระแวงในขณะที่ฟังคำอธิบายของ ลุกซ์
“นายโง่หรือเปล่า! หากเขาร่ายเวทย์มนต์ที่เปรียบเสมือนไฟลงบนดาบนั้น รูเดิลจะไหม้ดำทันทีหลังจากที่เขาเสียบเข้าไป”
“ตอนนี้ยังเป็นที่น่ากลัว แต่ก็ยังมีวิธีรับมือกับมัน”
“วิธีรับมือ?”
“ตัดเขาลงก่อนที่เขาจะมาตัดมัน … นี่นายโง่ใช่ไหม?”
บางที พวกเขาก็เข้ากันได้ดีอย่างหน้าประหลาด . . .