ตอนที่ 9 : บททดสอบของความอดทนที่มีภายในใจ
ในสถานที่ที่มีแสงไฟสลัวพาดผ่าน มีชายชราคนหนึ่งผู้ที่ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านของหายากต่างๆ บาซิลลี่นำเท้าของเธอย่างเข้าสู่ร้านที่ว่า เธอนำเขี้ยวหมูป่า สิ่งของชิ้นล่าสุดที่เธอได้มา ให้กับเขาดูเพื่อที่จะแลกกับเงินที่เธอต้องการ
“เธอได้สิ่งนี้มาจากไหนกัน? มันเป็นสิ่งที่สวยที่สุดที่ฉันเคยได้เห็นมาเลย”
“นั่นเป็นความลับ คุณให้ราคาได้มากเท่าไหร่?”
ชายชราไม่ถามอะไรอีก ได้แต่ถอนหายใจอย่างลึกๆ เขารู้จักบาซิลลี่เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น จริงอยู่ที่เขาเป็นคนเก่ง แต่สิ่งที่สวยงามเยี่ยงนี้เขาสามารถหามันมาได้โดยไม่มีอะไรจริงๆหรอ
เขาคิดอย่างคนสงสัย ในขณะที่บาซิลลี่กำลังต่อรองราคาของเงินที่ถูกวางไว้บนเคาเตอร์ เขาเห็นบาซิลลี่พยายามที่จะต่อราคาหลายครั้ง … และมันก็จบด้วยราคาตามที่เธอคาดหวังไว้
“มันมหัศจรรย์มากขนาดนั้นเชียวหรือ?”
“มันเป็นสิ่งของที่หาได้ยากมาก หากเธอสามารถหามันมาได้เป็นปริมาณที่มาก ฉันก็ยินดีที่จะจ่าย”
บาซิลลี่เล่าถึงรูเดิลให้เขาฟัง เขามีทักษะในการต่อสู้ที่สูงมากและเขาก็ร่ำรวยมากเช่นกัน และในอนาคตเขาต้องเป็นที่หนึ่งแห่ง อาร์ชดยุก .. ฉันควรพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมเขา? เธอกำลังไตร่ตรองกับความคิดของเธอ
“และเธอควรที่จะระวังให้มากกว่านี้ ฉันไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่เธอได้รับจากคนของเธอ มีความเชื่อถือได้มากแค่ไหน”
“ห้ะ! เขาให้ข้อมูลที่เป็นเท็จแก่ฉัน ? ดังนั้นฉันต้องเอาเงินของฉันคือมา!”
ชายชราถอนหายใจอีกครั้ง เขาพยายามจะอธิบายบางอย่างแก่บาซิลลี่ เขาเพียงแค่ต้องการที่จะเตือนให้บาซิลลี่คิดอย่างรอบคอบเท่านั้น ข้อมูลที่เธอได้มาจากคนของเธอ ไม่รู้เลยว่ามีความจริงสักเพียงใด หรือพวกนั้นเพียงแค่จะหวังเงินทองเล็กๆน้อยๆที่ก็ถือว่ามากหากแลกกับเพียงการที่ได้แลกข้อมูล จริงอยู่ที่เธอเป็นคนเก่ง แต่การที่เขาจะได้ของหายากเช่นนี้มาก็ยังเป็นที่น่ากังวลอยู่ดี และหาเธอได้ข้อมูลที่ผิดไปจริงๆเขาเพียงแต่กังวลว่าเธอจะได้รับชื่อเสียงที่เสียหายกับข่าวที่อาจจะรั่วไหลออกไปหลังจากที่เขาได้กล่าวอย่างยืดยาว…บาซิลลี่ก็นึกขึ้นได้ว่าเขามีบางอย่างที่จะต้องทำ
“เธอทำเกินไป หากเธอยังทำเช่นนี้อยู่ แล้วมีใครดมกลิ่นจนรู้ความจริงเกี่ยวกับความเป็นมาของสิ่งของที่เธอได้มานี้ หรือแม้แต่สิ่งที่เธอจะทำต่อทหารหนุ่ม . . . ผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไง แต่คุณควรที่จะล้างเท้าที่เปื้อนฝุ่นของคุณในตอนนี้และเลิกทำมัน ณ ตอนนี้ เธอยังมีเวลาในการทำงานรูปแบบต่างๆ”
บาซิลลี่รู้สึกว่าอากาศรอบๆเริ่มเลวร้ายลง มันอันตรายที่จะทำงานนี้ต่อไป และเธอยังคงสับสนที่จะทำงานนี้ต่อไปหรือไม่
ooo
“ร่างกายของฉันเจ็บ”
เพียงไม่กี่วันที่ผ่านมาหลังจากจบกิจกรรมในกลางป่า ร่างกายของรูเดิลก็ถูกวางลงที่โรงพยาบาลของสถานศึกษา..สถานที่ที่เปรียบเสมือนโรงพยาบาลขนาดเล็ก ความเจ็บปวดวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเขา และในขณะที่เวทย์มนต์ที่เขาสามารถจะใช้รักษา มันได้เสียไปในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ของเขาในครั้งที่แล้วจนหมดสิ้น
“มันเป็นเพราะนายกดดันตัวเอง หากเราไม่มีเวทย์มนต์ในการรักษา นายจะไม่สามารถไปไหนได้เป็นเดือนๆ”
อิซูมิที่อยู่ข้างๆรูเดิล เธอค่อยๆปอกผิวของผลไม้ออกอย่างใจเย็นบนเก้าอี้ข้างๆกับเตียงของเขา ถึงแม้เธอจะไม่ชอบในการทำสิ่งที่เป็นผู้หญิงพวกนี้มากนัก แต่เธอก็ตั้งใจทำพร้อมกับส่งชิ้นของผลไม้อีกชิ้นให้แก่รูเดิล
“อีกสองสามวัน ฉันจะออกจากที่นี่ และฉันจะต้องไปฝึกตัวเองใหม่เริ่มจากพื้นดิน”
“จริงอยู่ที่นั่นคือจิตวิญญาณของนาย แต่นายต้องพักผ่อนบ้างนะ”
และในขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันอยู่ ประตูของโรงพยาบาลก็ได้เปิดขึ้น
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะรูเดิล ..”
หญิงสาวเจ้าของคำพูดนั้นคือ บาซิลลี่ เธอเข้ามาหาพร้อมกับคำพูดที่ดูเหมือนว่าจะเป็นห่วงเขา แต่ในความคิดของอิซูมิเธออยู่ใกล้เขาเกินไปที่ผู้ตรวจตราเขาจะทำกัน
“ฉันคิดว่าบุคลากรในโรงเรียนเท่านั้น ที่จะสามารถเข้ามาในสถาบันได้”
ในแต่ละคำพูดของเธอ เหมือนที่จะพยายามทำตัวเป็นขวากหนามกั้นขวางพวกเขา แต่..
“ฉันเพียงเพื่อกลับมารายงานเกี่ยวกับหน้าที่ผู้ตรวจตราหญิงน้อยๆของฉัน และนายไม่เป็นไรมากใช่ไหมรูเดิล? แต่ถ้าหากนายอยากจะหายเร็วขึ้น ฉันจะช่วยนายจากหน้าอกของฉันได้นะ”
บาซิลลี่พยายามแก้ตัวอย่างคนไม่มีความรู้สึกใดๆ เธอแสดงสีหน้าที่พยายามจะเยาะเย้ยถากถาง อิซูมิที่นั่งอยู่ข้างๆรูเดิล เพียงแต่รูเดิล…
“ฉะ..ฉัน เห็น . .”
ดวงตาที่เป็นประกายของเด็กหนุ่มถูกขโมยโดยเสื้อผ้าที่บางเกินกว่าจะไปเข้าเวรได้ และเนินอกขาวๆที่กำลังก้มมาหาเขาอย่างช้าๆ อิซูมิกลั้นหายใจด้วยความทึ้ง ใบหน้าของบาซิลลี่กำลังเข้าไปใกล้รูเดิลอย่างแนบชิด
“อะ..?”
“เอ่อ ..”
ดวงตาของรูเดิลจบลงด้วยความลุ่มหลงกับสิ่งที่เขาเห็นอยู่เบื้องหน้า และบาซิลลี่..
“หากนายพบว่าร่างกายนี้ถูกใจนาย .. นายสามารถจะทำอะไรก็ได้กับมันได้อย่างที่นายต้องการ”
ในคำพูดเหล่านั้น ปฏิกิริยาของร่างกายรูเดิลเกินกว่าที่จะควบคุมมันได้ เขาจินตนาการถึงเรือนร่างของเธอ ร่างกายของเขาเหมือนพยายามที่จะกระโดดหาบาซิลลี่ในทันที แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงอยู่ในความเจ็บปวดกับการเคลื่อนไหวขอองร่างกายอย่างฉับพลันดังกล่าว
“อ๊าก!!!!”
แน่นอนว่ามันทั้งเจ็บและปวดไปทั่วร่างกายของเขา เขาดิ้นและบิดตัวอยู่ตรงหน้าความประหลาดใจของบาซิลลี่ และจบลงด้วยการแยกจากรูเดิล เมื่อได้ยินคำพูดของอิซูมิ
“คุณเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเจ็บ!”
เธอพูดพร้อมลูบตัวของเขา
ooo
“จ้างเธอ? ถ้าเธอให้ฉันจ้างเธอในขณะที่ฉันอยู่ที่สถานศึกษา ทำไมล่ะ? ในเมื่อที่โรงเรียนก็มีผู้ตรวจตรา ทหาร และอัศวินมากเพียงพอ”
หลังจากที่ความเจ็บปวดของรูเดิลได้บรรเทาลง บาซิลลี่เริ่มเข้าสู่จุดมุ่งหมายของเธอเพื่อการขายร่างกายของตัวเธอเอง รูเดิลได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเธอและเธอก็คือคนที่มีเสน่ห์ในตัวของตัวเอง ..แต่รูเดิลแสดงความไม่พอใจ
กับรูเดิล เขาไม่ได้ต้องการที่จะมีคนรับใช้ใดๆในขณะที่เขาอยู่ที่โรงเรียน ความรู้สึกเหล่านั้นได้เริ่มออกมา … เขาไม่ได้มีความทรงจำดีๆต่อคนรับใช้มากนักแต่ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถดูแลตัวเองได้
“นะ..ในตอนนี้ ,ใช่ เวทย์มนต์! ฉันสามารถสอนเวทย์มนต์ในทางปฏิบัติให้แก่นายได้”
เธอยังคงคิดถึงเรื่องต่างๆ คำพูดเหล่านั้นที่เธอสุ่มพูดออกมาจากปากของเธอ ทำให้อิซูมิรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ในฐานะที่เป็นอิซูมิ เขาเข้าใจในตัวของรูเดิลดี และมั่นใจว่าเขาจะจ้างเธอ
“จริงหรอ!? เวทย์มนต์ของเธอที่สามารถเผาหมูป่าได้ เมื่อในป่าคราวนั้น ฉันว่ามันไม่ใช่เวทย์มนต์เดียวกับที่ฉันใช้ และฉันสามารถที่จะเรียนรู้มันได้ด้วยเหมือนกันน่ะหรอ?”
บาซิลลี่กำลังหาจุดขายของตัวเองโดยใช้จุดอ่อนของรูเดิลที่มีอยู่ในตอนนี้ และในตอนนี้เขายอมก้มหัวให้แก่รูเดิล ..
“เรื่องเวทย์มนต์ให้ฉันจัดการเอง, เรื่องเวทย์มนต์โดยเฉพาะอย่างยิ่งของความแข็งแกร่งมันคือความสามารถพิเศษของฉัน และฉันจะนำความสามารถของนายไปยังระดับที่นายสามารถใช้ในการต่อสู้ที่แท้จริงได้”
“แล้วฉันจะจ้างเธอ ไม่ใช่ตอนนี้ หมายถึงตอนที่ร่างกายของฉันฟื้นฟูพลังให้กลับมาได้อย่างเต็มที่แล้ว และเธอจะต้องสอนฉันในทุกๆวัน ทั้งในตอนเช้าและเย็น”
“เอ๊ะ? ทะ..ทุกวัน? ชะ..เช้า และเย็น? ตอนเช้าที่นายว่า นั่นหมายถึงระหว่างระฆังดังครั้งที่เจ็ด?”
จู่ๆ บาซิลลี่ก็แสดงสีหน้าลังเล เธอรู้สึกไม่ดีนักกับการที่ที่ต้องสอนตอนเช้า เพราะเธอเป็นคนกลางคืน เธอชอบเดินเที่ยวเตร็ดเตร่เดินเล่นในตอนกลางคืนจนถึงเช้า
“มันจะดีหรอ ฉันว่ามันอาจจะเช้าเกินไป บางทีเราอาจจะฝึกกันเป็นบางฤดูกาล ฉันไม่มีเวลาพอ …”
สำหรับบาซิลลี่ สถานศึกษาคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้ เธอหยุดคิดและชั่งใจอีกครั้ง …และเธอก็ได้ข้อสรุป
“ไม่ ถ้ารูเดิลปรารถนามัน .. ฉันก็พร้อมทุกเวลาที่คุณต้องการ”
“ขอบคุณ!”
“. . .”
รูเดิลยินดำกับคำตอบที่เขาได้ แต่อิซูมิกลับทำสีหน้าที่ไม่ดีนัก บาซิลลี่ได้ถูกรับการว่าจ้างให้เป็นคนรับใช้ของรูเดิล ที่พักพนักงานถูกจัดทำขึ้นสำหรับเธอ และเธอขึงลงเอยด้วยการอาศัยอยู่ที่นั่น
ooo
ในห้องของเขา, อัลเลต กำลังคิดถึงสิ่งที่กำลังจะมาถึง เขาเหลือบไปเห็นสมุดโน้ตของเขา ที่ถูกบันทึกในขณะที่เขาคงเริ่มเขียนภาษาญี่ปุ่นเมื่อตอนเขาอายุยังน้อย เขายิ้มจนเห็นฟันเมื่อคิดถึงอนาคตของตัวเอง
“หลังจากการเรียนของชั้นปีที่สามสิ้นสุดลง อิซูมิจะต้องตกหลุมรักฉัน … และปีหน้า’ ฟีน่า’ และ ‘ครัซ’ จะเข้ามาศึกษาที่สถาบันแห่งนี้ ในขณะที่มิเลียไม่สนใจฉันเลย ฉันจะต้องยกระดับความประทับใจ ในตอนที่ฉันยังสามารถทำมันได้! มันจะเป็นประโยชน์ในสงคราม”
เขาได้เขียนรายละเอียดต่างๆของสงครามลงในบทสุดท้าย ในเนื้อหารูเดิลหลุดออกมาจากสงครามไม่มากนัก ไม่..ในตอนจบ..,รูเดิลกลับหายไปโดยไม่มีรายละเอียดใดๆอีกเลยย
‘ หมดหวังที่จะหนีจากสงคราม รูเดิลเกิดความเสียหายจากฝ่ายพันธมิตรของเขาเองในขณะที่เขากำลังหนี … เขาพยายามที่จะขอความช่วยเหลือจากศัตรู และเขาก็ถูกฆ่าตาย เพียงแต่เรื่องทุกอย่างกลับถูกปิดลง ’
ทั้งหมดได้ถูกเขียนภายใต้ชื่อเรื่อง ‘เหตุการณ์มิตรภาพของครัซ’
สาวเอลฟ์ในความคิดที่ว่า ในหัวของเธอกำลังยุ่งอยู่กับความคิดเกี่ยวกับรูเดิล ที่เธอได้พบระหว่างทางเข้าของโรงเรียนของเธอ แม้ว่าจำนวนมากของเวลาที่ได้ผ่านล่วงเลยไป เธอก็ไม่สามารถที่จะนำเขาออกจากหัวของเธอได้ ถึงแม้ว่ารูเดิลจะสร้างปัญหาให้กับโรงเรียนมากมาย
และในทุกครั้งที่เธอได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับรูเดิล ความรู้สึกของเธอจะเติบโตขึ้นทุกที รูเดิลยังคงไม่เป็นที่นิยมของสามัญชนทั่วไป . . . เขาอาจจะบอกได้ว่าเกลียด เพียงเพราะเขาคือลูกชายคนโตของบ้านที่แสนจะมีข่าวลือที่แสนจะฉาวโฉ่
ดูถูกพวกเอลฟ์ กินภาษีจากประชาชน …
แต่มิเลียไม่ได้คิดว่าเขาคือคนเดียวกับที่ข่าวลืมเขาพูดกัน เขาพยายามที่จะพาตัวเองไปหาเอลฟ์สาวในวันแรก รวมถึงวันที่เขาลอบเข้าหอพักหญิง หลังจากนั้นเขาถูกบังคับให้เรียกชื่อนักเรียนหญิงทั้งหมดของโรงเรียน …ระหว่างที่เธอกำลังคิดดังนั้น ความคิดวูบหนึ่งก็พุ่งเขามาในหัวของเธอ
“และเขายังไม่ได้เรียกชื่อฉัน …”
มีข่าวลืออีกมากมายที่กระจัดกระจายเกี่ยวกับตัวของรูเดิล และทั้งหมดของข่าวลือสามารถสรุปได้ว่ารูเดิลเป็นคนที่แสนจะน่ากลัว หากเพียงแต่คุณได้ถามคนรอบตัวของเขา คุณจะได้รับปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ในชั้นปีของเขา จะไม่เคยพูดถึงเรื่องไม่ดีของเขา บางทีมันอาจจะเป็นเพียงเพราะสถานะของเขา แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาไม่เคยเอารูเดิลไปพูดลับหลัง รูเดิลทำงานอย่างหนัก และเขาไม่เคยดูถูกใคร … นั่นคือทั้งหมดที่เธอได้ยิน
“เพียงสิ่งหนึ่งที่ยินยันตัวตนของนาย”
มิเลียถอนหายใจออกมาอย่างวิตก เพื่อนของเธอเห็นดังนั้นก็อดจะทักไม่ได้ ..
“มิเลีย . . หญิงสาวผู้ที่กำลังอยู่ในความรัก”