ตอนที่แล้วตอนที่ 52 ถ้ำมารเยือกเเข็ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 54 ปะทะ

ตอนที่ 53 พริบตา


ภายในถ้ำมารเยือกแข็งตอนนี้ ชุมนุมดาบสังหารเกือบถึงหอคอยน้ำแข็งแล้ว หัวหน้ากลุ่มสัมผัสได้ถึงกลุ่มพลังลมปราณมหาศาลจากข้างหลัง เขาได้หันกลับไปมองก็เห็นกลุ่มผู้ฝึกวรยุทธขนาดใหญ่ เริ่มตามหลังมาแล้ว นี่ทำให้ใบหน้าของเขาเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมา

ลูกน้องของเขาต่างก็เริ่มมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก พวกเขามีแค่เจ็ดคนเท่านั้น หากพวกเขาได้สมบัติระดับสูงไป กลุ่มผู้ฝึกวรยุทธจำนวนมากต้องเขาโจมตีพวกเขาเพื่อแย่งชิงสมบัติอย่างแน่นอน หนึ่งในลูกน้องคิ้วเริ่มขมวดหากันแน่น แล้วถามหัวหน้าของตนออกมาไป

“หัวหน้า หากเราได้สมบัติมา ทั้งนิกาย สำนัก แล้วอีกสองตระกูลต้องไม่ปล่อยเราออกไปแน่ เราจะทำเช่นไรดีหัวหน้า”

“มีแต่ต้องรีบเข้าไปในหอคอย แล้วรีบหาสมบัติจากนั้นข้าจะใช้เม็ดยาต้องห้าม เพื่อต้านพวกเขาเอาไว้ ส่วนพวกเจ้าก็เอาสมบัติหนีไปแล้วไปเจอที่จุดนัดหมาย” หัวหน้ากลุ่มกล่าวออกมา เพราะนี้ถือเป็นงานหนักสำหรับเขามาก แต่เขาก็ไม่มีหนทางให้เลือกแล้วตอนนี้

แต่ระหว่างนั้น ลูกน้องคนหนึ่งก็กล่าวออกมา “หัวหน้ามีไอ้หนูชั้นปราณนิมิตรตามเรามาติดๆเลย เดียวข้าไปถ่วงเวลาไว้ แค่ปราณชั้นนิมิตร เดียวข้าจัดการเองหัวหน้า”

“อืม ฝากเจ้าจัดการด้วย” หัวหน้ากลุ่มพยัก แล้วกล่าวออกมา

ฉางหยางที่กำลังตามกลุ่มชุมนุมดาบสังหารไปที่หอคอยน้ำแข็ง แต่ระหว่างนั้นเขาก็เห็นหนึ่งในเจ็ดคนยืนอยู่กับที่ เขาจ้องมองไปสักพัก คิ้วก็เริ่มขมวดแน่น เพราะคนที่ยืนรอเขาอยู่เป็นชายวัยกลางคน รูปร่างล่ำสันบึกบึน ใส่ชุดจอมยุทธสีดำ ที่มือของเขากำดาบขนาดใหญ่แน่น ยืนจ้องมองมาที่ฉางหยาง

สักพักเขาก็ได้มาถึงตรงที่ชายวัยกลางคนยื่นอยู่ บนใบหน้าของเขาเริ่มเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ เขาตรวจสอบชายวัยกลางคนผู้นี้ก็พบว่า ระดับการบ่มเพาะนั้นอยู่ในชั้นปราณบรรจบขั้นที่เจ็ดเลยทีเดียว

“ไอ้หนู แกผ่านตรงนี้ไปไม่ได้” ชายวัยกลางคนกล่าวออกมาพร้อมยกดาบชี้มาทางฉางหยาง

“ท่านลุง ทำไมข้าจะผ่านไปไม่ได้ ที่นี้มันเป็นพื้นที่ส่วนรวมท่านจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร” ฉางหยางกล่าวอย่างนอบน้อม

“ข้าบอกว่าผ่านไปไม่ได้ ก็คือไม่ได้” ชายวัยกลางคนเห็นท่าทางนอบน้อมของฉางหยาง เขาก็นึกว่าไอ้หนูนี้คงกลัวเขาเป็นแน่ เพราะว่าระดับการบ่มเพาะนั้นหากชั้นกันเกินไป

“หากเป็นอย่างที่ท่านลุงได้กล่าวมา เช่นนั้นข้าก็จะไม่ผ่านไป” ฉางหยางกล่าวด้วยท่าทีที่หวาดกลัว

ชายวัยกลางคนเห็นท่าทีฉางหยางที่กำลังหวาดกลัว เขาก็แน่ใจแล้วว่าไอ้หนูนี้มันคงไม่กล้าต่อกรกับเขาเป็นแน่ นี้ทำให้เขาเผยรอยยิ้มที่มุมปากและกล่าวออกมาอย่างเย้ยหยัน

“แกฉลาดไม่เบานิ ไอ้หนู หากแกเข้ามาละก็ข้าจะทำให้แกพิการไปชั่วชีวิต”

อย่างไรก็ตามฉางหยางที่ได้ยินเช่นนี้ก็เริ่มตัวสั่นสะท้าน เขานั้นแทบไม่กล้าสบตาชายวัยกลางคนนี้เลย

“ทะ..ท่านลุง ข้านั้นมิกล้าที่จะเข้าไปที่หอคอยน้ำแข็งนั้นแล้ว เพราะข้านั้นมาตัวคนเดียว ข้ารึจะกล้าเข้าไปที่หอคอยน้ำแข็งแห่งนั้น แต่ว่าหากข้าเข้าไปแล้วได้สมบัติออกมาข้าก็ต้องนำมันมามอบให้กับกลุ่มของท่านอย่างแน่นอน” ฉางหยางกล่าวออกไปด้วยเสียงที่สั่นเครือ

ชายวัยกลางคนเห็นฉางหยางกำลังสั่นไปด้วยความกลัว เขาก็ชักดาบที่ชี้ไปที่ฉางหยางกลับมา แล้วระเบิดหัวเราะแสงดังลั่น “ฮ่าๆ แกนี่มันขี้ขลาดจริงๆ ข้านึกว่าจะได้ออกกำลังหน่อยซะแล้ว แต่ก็ดีแล้วข้าจะไม่ได้เหนื่อยกับสวะอย่างแก”

ฉางหยางได้ยินเช่นนี้ก็กล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว “ท่านลุง ไม่ทราบว่าท่านพอจะบอกนามอันสูงส่งของท่านได้หรือไม่”

“ฮ่าๆ ถือว่าแกยังมีมารยาท ดีข้าจะบอกนามอันสูงส่งให้แกจำใส่กะโหลกเอาไว้ ข้ามีนามว่า โจวเหวิน จำไว้ให้ดิ.......”

ระหว่างที่โจวเหวินกำลังกล่าวออกมานั้น ฉางหยางก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายขึ้นมา ในร่างของเขาพลังลมปราณเริ่มโคจรอย่างบ้าคลั่ง ไหลรวมไปที่จุดชีพจรบริเวณเท้าจนเกิดแสงออร่าสีทองขึ้นมา พริบตานั้นเองร่างของเขาหายไปทันที และไปปรากฏอีกครั้งที่ข้างหลังของโจวเหวิน  จากนั้นเขาก็ตวัดขาเตะเข้าไปที่คอของโจวเหวินอย่างจัง จนเกิดเสียงดัง

“ตูม”

โจวเหวินที่กำลังกล่าวไม่จบ ก็เห็นฉางหยางปรากฏตัวอยู่ที่ข้างหลังของเขาแล้ว แถมยังโดนลูกเตะเข้าไปที่คออย่างจังทำให้ร่างของเขาปลิ้วไปตามแรงเตะ ที่คอของเขาตอนนี้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนทุบด้วยของหนักเกือบร้อยกิโล

อย่างไรก็ตามฉางหยางนั้นไม่ปล่อยให้โจวเหวินรอดไปง่ายๆ เขาพุ่งตามร่างของโจวเหวินไป แล้วโคจรพลังลมปราณผสาน พลังลมปราณเริ่มทะลักออกมาจากประตูสวรรค์ทั้งสองบาน พลังลมปราณในร่างเริ่มหมุนวนและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ร่างของเริ่มมีเปลวเพลิงสีทองลุกสูงถึงหนึ่งเมตร ตามด้วยเสียงคำรามดังกึกก้อง

“หมื่นทลาย”

ฉางหยางปล่อยหมัดออกไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด กระแทกเข้ากับลำตัวของโจวเหวินที่กำลังลอยอยู่ในอากาศ เกิดเสียงดังสนั่น

“ตูม”

แรงปะทะส่งร่างของโจวเหวินกระแทกเข้าพื้นน้ำแข็งจนแตกร้าวไปทั่ว ตามด้วยเปลวเพลิงสีทองที่ลุกไหม้ตามตัวและพื้นน้ำแข็ง

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพียงเวลาไม่ถึงห้าวินาทีเท่านั้น นี่ทำให้โจวเหวินไม่อาจตั้งตัวขึ้นมาป้องกันกระบวนท่าของฉางหยางได้ทันท่วงที เพราะตนไม่คาดคิดเลยว่าไอ้หนูนี้จะชั่วร้ายยิ่งนัก ถึงขนาดแสดงละครหลอกล้อตนให้ติดกับเข้าอย่างจัง

ตอนนี้ร่างกายของเขากระดูกซี่โครงแตกหักไปหลายส่วน ใบหน้าเริ่มซีดเซียวเหมือนคนตาย ที่มุมปากมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย ตอนนี้โจวเหวินได้แต่จ้องมองไปที่ฉางหยางอย่างอาฆาต พลางกล่าวออกมาอย่างเจ็บแค้น

“แก ทำข้าไว้แสบยิ่งนะ.....”

“ซุบ”

โจวเหวินนั้นยังกล่าวไม่ทันจบ ก็โดนมือของฉางหยางทะลวงเข้าหัวใจของเขาอย่างรวดเร็ว นี่ทำให้เขาตายทันที

ตอนนี้ที่ใบหน้าของฉางหยางปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา เพราะเขาเองก็ไม่คิดเลยว่าจะสังหารผู้ฝึกวรยุทธชั้นปราณบรรจบขั้นที่เจ็ดได้ภายในไม่ถึงเจ็ดวินาที

“ท่านลุง อ๋อไม่สิ ท่านลุงโจวววว ข้าต้องขออภัยที่ล่วงเกินท่านแล้ว” ฉางหยางกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม และพุ่งตัวทะยานออกไปทันที

เหล่าผู้ฝึกวรยุทธที่กำลังตามหลังฉางหยางมาเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขาถึงกับกลืนน้ำลายดัง “เอื๊อก” พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเองเลย ว่าการต่อสู้มันจะจบลงรวดเร็วขนาดนี้ แถมเป็นการต่อสู้ระหว่างปราณชั้นนิมิตรกับปราณชั้นบรรจบ ระดับการบ่มเพาะก็ต่างกันแล้ว แต่กลายเป็นว่าไอ้หนุ่มชั้นปราณนิมิตรสังหารชายวัยกลางคนชั้นปราณบรรจบได้เพียงสามกระบวนท่า

หลางชิงเหอที่ตามหลังมาก็เห็นเช่นกัน นี้ทำให้เขาครุ่นคิดบางอย่าง “ไอ้หนูนี่มันเป็นใครกันแน่ ทั้งเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวและเคล็ดวิชาโจมตีนั้นอีก แรงกดดันขนาดนี้เหมือนข้าเคยสัมผัสมันมาก่อน ใช่แล้วเคล็ดวิชานี้มันคล้ายกับของไอ้หนูที่อยู่สำนักดาพิชิตเลย แต่เปลวเพลิงที่ปล่อยออกมาไม่เหมือนกัน แถมเปลวเพลิงสีทองอันนี้ทำไมมันถึงลุกไหม้บนน้ำแข็งที่ความเย็นสูงได้นะ”

เขาได้แต่เก็บข้อสงสัยไว้ในเพราะว่าไอ้หนูที่ใส่หน้ากากปีศาจนั้นมีปริศนาเต็มไปหมด เขาควรมุ่งความสนใจไปที่หอคอยน้ำแข็งก่อน

ระหว่างที่กลุ่มผู้ฝึกวรยุทธกำลังตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศิษย์นิกายและสำนักต่างก็หวาดกลัวเด็กหนุ่มผู้ใส่หน้ากากปีศาจ ไม่เว้นแต่หญิงสาวทั้งสองที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ

“ได้อย่างไรกัน เขาสังหารผู้ฝึกวรยุทธชั้นปราณบรรจบขั้นสูงได้ภายในไม่ถึงหนึ่งนาที” หลิ่วเหม่ยอุทานออกมา

“ไม่น่าเชื่อ เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ ข้าคิดว่าพอสามารถต่อกรกับเขาได้ แต่นี้เขามีทั้งอสูรพันธสัญญาและเคล็ดวิชาที่น่ากลัวขนาดนี้ เขาเป็นใครกันแน่นะ” รุ่ยหลงนางได้แต่กล่าวชื่นชมออกมา และจำภาพของบุรุษผู้นี้ไว้ในจิตของนาง เพราะนางไม่รู้แม้ต้นกำเนิดของเขาเลย นี้ทำให้นางเริ่มสนใจเขาขึ้นมาแล้ว

ระหว่างนั้นที่กลุ่มคนตระกูลเยว่ เยว่เฉินเปา พลางกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม  “ไม่เบาเลย ถึงขนาดสังหารผู้ฝึกวรยุทธปราณบรรจบได้ ข้าสักอยากลองปะมือกับเขาสักสองสามกระบวนท่าหน่อยแล้ว”

กลุ่มชุมุนมดาบสังหารที่กำลังมุ่งหน้าไปที่หอคอยน้ำแข็งได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา พวกเขาก็ยิ้มออกมาทันที

“หัวหน้า ข้าว่าไอ้โจวเหวินมันเล่นแรงหน่อยไปรึเปล่า แค่ไอ้หนูชั้นปราณนิมิตรถึงกับต่อสู้จนเกิดเสียงดังขนาดนี้” หนึ่งในลูกน้องกล่าวออกมาด้วยความขบขัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด