ตอนที่แล้วตอนที่ 44 ป่าอสูรคลั่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46 ล่ากระต่าย

ตอนที่ 45 ประตูสวรรค์บานที่สอง


ณ ป่าอสูรคลั่ง

ตะวันเริ่มสองแสงลอดผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้ลงที่พื้นดินแล้ว  เสียงสัตว์อสูรยังร้องดังออกมาเรื่อยๆ ภายในถ้ำฉางหยางและเฉินตี้กำลังขดตัวนอนอยู่

ฉางหยางสัมผัสได้ถึงความร้อนจากแสงของดวงตะวัน เขาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา วันนี้เขาจะเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจัง ร่างกายของเขาตอนนี้ได้รับการฟื้นหมดทั้งหมดแล้ว เขามองไปที่เฉินตี้สักพักก่อนจะเดินออกไปนอกถ้ำเพื่อรับแสงตะวันในยามเช้า

ที่รอบๆถ้ำยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่มีอะไรผิดปกติ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับไปมองเฉินตี้และกล่าวออกมา “เฉินตี้ตื่นได้แล้ว พวกเราจะหาอาหารเช้ากัน”

เฉินตี้ที่กำลังนอนอยู่เปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้น หัวยกขึ้นมาจ้องมองไปที่เจ้านายของตนสักพัก ก็กระพือปีกบินไปหาเจ้านายของตน ทั้งสองไปออกจากถ้ำมุ่งหน้าเข้าป่าเพื่อหาอาหารมือเช้า

ผ่านไปสักพักทั้งสองก็กลับมาพร้อมกับหมูป่า ที่มือของเขาถือหมูป่าตัวครึ่งเมตรกลับมา ส่วนเฉินตี้นั้นได้กินสัตว์อสูรที่อยู่ในป่าไปเรียบร้อยแล้ว

ภายในถ้ำฉางหยางยังคงย่างหมูป่าเช่นเดิม หลังจากที่เขากินเสร็จก็ครุ่นคิดบางอย่าง “ข้าควรจะใช้ผลึกนภา เพื่อเปิดประตูสวรรค์ก่อน หากข้าพกติดตัวไปมาแล้วเจอผู้ฝึกวรยุทธระดับสูงเข้า ข้าคงลำบากแน่หากเขารู้ผลึกนภาอยู่กับข้า”

ฉางหยางล้วงเข้าในอกเสื้อของตน หยิบผลึกสีฟ้าออกมา มันส่องแสงเป็นประกาย จากนั้นเขาโคจรพลังลมปราณไปที่นิ้ว และใช้นิ้วที่พลังลมปราณอัดแน่นกรีดลงที่นิ้วอีกข้าง หยดเลือดค่อยๆหยดลงผลึกนภา

เลือดที่หยดลงได้ซึมหายเข้าไปในผลึกอย่างช้าๆ พลังลมปราณของเขาเริ่มโคจรไปที่มือถืออยู่ แล้วอัดมันเข้าไป ผลึกนภาสีฟ้าเริ่มส่องแสงเรืองรอง ผ่านไปได้สักผลึกก็แตกออก ละอองเสียงสีฟ้าลอยออกมาจากผลึกนภา

เขาที่เห็นละอองแสงสีฟ้าลอยออกมาก็รีบดูซับทันที ละอองเสียงสีฟ้าเริ่มไหลเข้าไปที่ร่างกายของเขา ซึมผ่านผิวหนังเข้าไปอย่างช้าๆ ลึกลงไปภายในจิตวิญญาณของเขาละอองแสงสีฟ้าเริ่มมารวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ทำให้ดูเหมือนลูกแก้วขนาดเล็กที่มีสีฟ้าสวนสดใส

ที่ข้างนอกฉางหยางค่อยๆดูดซับละอองแสงสีฟ้าเรื่อยๆ ผ่านไปสักพักละอองแสงสีฟ้าก็หมด ผลึกที่อยู่ในมือของเขาจากที่เคยเป็นสีฟ้าแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นผลึกสีใส

“ถึงเวลาข้าจะเปิดประตูสวรรค์บานที่สองแล้ว หวังว่ามันคงจะสำเร็จ หากข้าพลาดขึ้นมา ข้าก็ไม่รู้จะหาผลึกนภาได้อีกที่ไหน เพราะมันช่างหายากยิ่งนัก ราคาของมันก็น่าจะสูงเทียมฟ้า”

อย่างไรก็ตามหากเขาสามารถเปิดประตูสวรรค์ได้สำเร็จ นี่จะทำร่างกายของเขายกระดับขึ้นอีกขั้น ซึ่งมันก็จะใกล้เข้าสู่ระดับที่สองของเคล็ดวิชากายาหมื่นสวรรค์ไปอีกก้าว

เฉินตี้ที่กำลังนอนอย่างเกียจคร้าน เห็นท่าทางของเขาค่อนข้างจริงจัง และเห็นละอองแสงสีฟ้าค่อยๆหายเข้าไปในตัว ก็ยกหัวขึ้นมองอย่างไม่วางตา เพราะเริ่มสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างของเขาได้

ฉางหยางตอนนี้ไม่มีเวลาสนใจสิ่งรอบข้างเท่าไรนัก หลังจากที่เขาดูดซับละอองแสงหมดแล้ว เขาก็เริ่มทำสมาธิทันที ทำจิตใจให้ว่างเปล่า ปลดปล่อยประสาทสัมผัสทั้งหมดออกไป ฟังเสียงของธรรมชาติ ปล่อยตัวให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติและเป็นหนึ่งเดียวกับมัน

“วูบ”

ประสาทสัมผัสทั้งห้าพลันถูกตัดขาด โลกพลันมือมิดลง จากนั้นฉางหยางค่อยลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ก็พบว่าเขานั้นได้ยืนอยู่ที่ประตูสวรรค์บานที่สองแล้ว

ผู้ฝึกวรยุทธที่ผ่านการเปิดประตูสวรรค์บานที่หนึ่งมาแล้ว หากจะต้องการเปิดประตูสวรรค์บานที่สองก็ต้องใช้พลังวิญญาณมหาศาลในการเปิด เพราะว่าประตูสวรรค์บานที่สองนั้นมันอยู่ลึกเข้าไป

ใช่แล้วการจะไปให้ถึงประตูสวรรค์บานที่สองจะต้องผ่านเข้าไปในประตูสวรรค์บานที่หนึ่ง ซึ่งในบานที่นี้จะมีพลังลมปราณอันแน่นอย่างมหาศาล ทำให้การผ่านเข้าไปต้องเสียพลังวิญญาณไปหลายส่วนเลยทีเดียว ทำให้ผู้ฝึกวรยุทธส่วนมากนั้นหากจะเปิดประสวรรค์ตั้งแต่บานที่สองเป็นต้นไป ก็ต้องใช้ผลึกนภาเท่านั้น

ในผลึกนภาอันนี้จะพลังอำนาจในการเพิ่มพูนพลังวิญญาณ สามารถใช้ทดแทนส่วนที่เสียไประหว่างผ่านประตูสวรรค์มาได้ แล้วยิ่งประตูสวรรค์บานต่อๆไป ก็จำเป็นจะต้องมีจำนวนผลึกนภาเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งมันทำให้ผลึกนภาอันนี้เป็นที่ต้องการของเหล่าขุมพลังอำนาจต่างๆเป็นอย่างมาก

ตอนนี้ภายในจิตวิญญาณของฉางหยาง ละอองแสงสีฟ้าเริ่มหายไปหลายส่วนแล้ว เพราะประตูสวรรค์ของเขานั้นแตกต่างจากผู้ฝึกวรยุทธคนอื่น หากเป็นผู้ฝึกวรยุทธคนอื่นแล้วพวกเขาสามารถเปิดประตูสวรรค์บานที่สองได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ละอองแสงสีฟ้าเหลือเพียงสองส่วนเท่านั้น

“นี่รึ! ประตูสวรรค์บานที่สองรู้สึกว่ามันใหญ่กว่าบานแรกเล็กน้อย แต่ทำไมที่ประตูมันไม่เหมือนบานที่หนึ่งเลย” ฉางหยางที่เห็นประตูต่างจากบานที่สองก็รู้สึกงุนงง

เพราะที่ข้างหน้าของเขาตรงที่บานประตู มีรูปผู้คนกำลังคุกเข่าเหมือนกำลังเคารพบางอย่าง ที่ข้างหน้าของพวกเขาเป็นดวงตาสีทองแล้วมีเปลวเพลิงลุกไหม้ส่องแสงออกมา

ฉางหยางเห็นที่ประตูสวรรค์เป็นไปจากเดิมจากรูปดวงตาสีทองมีเปลวลุกไหม้ตามดวงตา แต่ประตูสวรรค์บานที่สองของเขากลับเปลี่ยนไป เพิ่มผู้คนเคารพบูชาเข้ามา

เขาได้แต่เก็บข้อสงสัยนี้ไปสอบถามผู้ฝึกวรยุทธที่เปิดประตูสวรรค์บานที่สองแล้วเท่านั้น

ฉางหยางเดินไปที่ประตูแล้วค่อยวางมือสัมผัสเบาๆ จากนั้นเพียงไม่นานจิตญาณของเขาก็ถูกกระตุ้นอย่างบ้าคลั่ง ละอองแสงสีฟ้าที่เหลืออยู่เริ่มกระจายตัวออกเพื่อเข้าไปเสริมพลังวิญญาณของเขา

ตอนนี้ร่างกายของเขาออร่าใสกระจ่างเริ่มปรากฏออกมา มากขึ้นๆ ฉางหยางรีบโคจรออร่าใสกระจ่างไปที่ประตูสวรรค์อย่างช้าๆ เม็ดเหงื่อเริ่มปรากฏออกมาจากใบหน้า

ที่ประตูสวรรค์ดวงตาสีทองที่มีเปลวเพลิงลุกไหม้จากที่เคยปิดอยู่ ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆพร้อมประกายแสงที่สาดส่งอออกไปทั่วบริเวณ

พลังวิญญาณของเขาเริ่มถูกประตูสวรรค์กลืนกินเข้าไปอย่างมหาศาล เขารีบกัดฟันอย่างเจ็บปวดเพราะจิตวิญญาณของเขาตอนนี้เริ่มจะหายไปหลายส่วนแล้ว เขาไม่รู้จะทนได้นานแค่ไหน

ผ่านไปห้านาทีแล้ว ดวงตาที่ประตูสวรรค์ใกล้จะเปิดอย่างเต็มที่แล้ว ฉางหยางกัดฟันแน่นเร่งพลังวิญญาณขึ้นจนถึงขีดสุด

“วิ๊ง”

ดวงตาที่ประตูสวรรค์ได้เปิดขึ้นอย่างเต็มทีแล้ว ฉางหยางตอนนี้รู้สึกเหนื่อยหอบอย่างมาก พลังวิญญาณของเขาหายไปถึงเก้าส่วนเลยที่เดียว หากมันหายไปหมดต่อไปคงจะเป็นพลังชีวิตของเขาแน่ นี้ต้องทำให้เขาคิดหนักเรื่องประตูสวรรค์บานที่สามเป็นอย่างมาก

“ประตูสวรรค์ที่สาม สงสัยข้าต้องมีผลึกนภาสองก้อน เพื่อใช้เปิดมัน หากข้ามีก้อนเดียวคงไม่สามารถใช้การได้แน่ แล้วข้าจะหามันได้จากที่ไหนกัน เฮ้อ” ฉางหยางกล่าวออกมาด้วยความท้อแท้ใจ

ที่ประตูสวรรค์บานที่หนึ่งลูกแก้วสีทองเริ่มจางหายไปอย่างช้าๆ จากนั้นมันก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูสวรรค์บานที่สอง เปลวเพลิงสีทองเริ่มลุกโหมกระหน่ำออกมา

พลังลมปราณภายในประตูสวรรค์บานที่สองเริ่มเปลี่ยนไป เป็นพลังลมปราณคุณสมบัติธาตุไฟ

ฉางหยางหลังจากที่เขาเปิดประตูสวรรค์บานที่สองสำเร็จ เขาก็รีบกลับออกมาเพื่อจะดูผลสำเร็จ แต่ตอนนี้ร่างกายของเขียวเต็มไปด้วยของเหลวสีดำไหลออกมา และค่อนข้างเหนียว

“เฮ้อ สงสัยข้าต้องไปล้างตัวที่ทะเลสาบหน่อยแล้ว”

หลังจากที่มองดูสภาพตนเองแล้ว เขาก็เดินออกไปจากถ้ำเพื่อไปล้างตัว เฉินตี้เห็นเจ้านายของตนเดินออกไปจากถ้ำก็ต้องทำให้มันต้องบินตามไปด้วย เผื่อเจ้านายของมันต้องการเรียกใช้

ผ่านไปสักพักหลังจากที่ทั้งสองได้เดินทางมาประมาณแปดร้อยเมตรก็มาถึงทะเลสาบ ฉางหยางค่อยถอดเสื้อผ้าออก แล้วเดินลงไปที่ข้างทะเลสาบ

ตอนนี้ร่างกายของเขาผิวเริ่มขาวเนียนขึ้น ใบหน้าที่หล่อเหลาอยู่แล้วก็หล่อขึ้นไปอีก ร่างกายก็เริ่มบึกบึนล่ำสันขึ้น หากหญิงใดได้มาเห็นเขาที่กำลังชำระร่างกายอยู่ ต้องหลงเสน่ห์ในความเหมือนเทพบุตรของเขาแน่นอน

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด