Chapter 8 ครอบครัว (Part 1)
Chapter 8 Family (Part 1)
หลังจากกลับมาจากการเดินป่าของผม ผมก็ได้เห็นน้องสาวฮยอนจีรออยู่หน้าบ้าน ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะกลับมาจากโรงเรียน
“โอ้พระเจ้า! โอปป้า, คุณผอมไปมากเลยนะ.”
“มันเป็นการดิ้นรนจากการเรียนอย่างหนัก.”
“ฮ่าฮ่า ตลกดี อาจจะเป็นเพราะกินแค่ราเม็งกับข้าวสามเหลี่ยมจากร้านสะดวกซื้อที่คุณทำงานเท่านั้น.”
“โอ..เธอก็รู้นี่.”
“อย่างไรก็ตามคุณได้ทำความสะอาดและล้างจานทั้งหมดนั้นหรอ?”
“จริง”
“ว้าววว จริงอ่ะ?”
“ฉันรู้ว่าเธอกำลังยุ่งกับการเตรียมพร้อมที่จะทำงานในตอนนี้ ฉันไม่มีอะไรจะทำชั่วคราวดังนั้นฉันจึงช่วยเธอ.”
ด้วยคำพูดของผมดวงตาของฮยอนจีก็เบิกกว้าง มันมีความรู้สึกไม่สบายใจและกังวลใจเมื่อเธอพูด.
“คุณเป็นใคร?”
“ฉันก็คือโอปป้าของเธอไง”
“โกหก พี่ของฉันไม่ใช่แบบนี้”
“ฉันคิดว่าเธอต้องโดนตีสักหน่อยแล้วหล่ะ.”
ขณะที่ผมกำลังเงื้อมือที่จะฟาดหน้าผากของเธอ เธอก็ร้องเสียงหลงและวิ่งเข้าไปหลังจากที่เธอได้พ้นเงื้อมือผมแล้วเธอก็หันหลับมาพูดว่า
“คุณไม่ทานอาหารเย็นหรอ? แม่และอันนิบอกว่าจะมาสาย”
(TN:อันนิ เป็นคำเรียกของพี่สาวโดยน้องสาว มันออกเสียงว่า อานนิ.)
“โอ้จริงดิ? ฉันต้องการอะไรบางอย่าง?”
“คุณหมายถึงอะไร?แม่ได้ทันโบซามมาแล้ว?ฉันจะไปจัดโต๊ะ.”
คราวนี้ผมจ้องเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
“คุณเป็นใคร? น้องสาวของฉันไม่เคยจัดโต๊ะมาก่อน.”
ฮยอนจีหัวเราะเจื้อยแจ้ว
และเธอก็บอกว่า
“หนูจะบอกตามตรง เมื่อพี่บอกว่าจะล้างจานทั้งหมดและทำความสะอาดบ้าน อย่างน้อยหนูก็ยังจัดโต๊ะและทานมื้อเย็น.”
“จริงดิ? ด้วยน้ำเสียงนี้ ไม่ใช่ว่าเธอโตแล้วและกำลังจะไปเรียนในสถานที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน…”
“เฮ้ ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันกำลังทำงานบางอย่างเพื่อเตรียมพร้อมกับการทำงาน?”
“ฉันได้ยินมาว่าแม่จับเธอได้ว่าเธอแอบไปเที่ยวไนท์คลับ.”
จากการถากถางของผมฮยอนจีพูดพึมพัม
“มันเป็นเพียงแค่การผ่อนคลายอารมณ์ ฉันไม่ได้ไปเจอผู้ชายและเล่นกับเขา ฉันไปกับเพือนและเต้นเท่านั้น.”
“จิ๊ จิ๊.มันจริงอย่างที่พูดเถอะปัญหาคืออย่าเที่ยวมากเกินไป.”
“โอ้ หุบปากเลย ไปและอาบน้ำแล้วมากินข้าวที่ฉันจัดโต๊ะ กลิ่นเหงื่อของคุณอย่างกับปลาหมึก.”
“ใช่ ใช่ .”
ขณะที่เธอกำลังจัดโต๊ะ ผมควรจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
โบซาม, กิมจิ, ข้าวกล้อง, และยังมีเครื่องเคียงอร่อยๆหลายอย่างตรงหน้า.ผมประหลาดใจเพราะว่ามันมีซุปสาหร่ายทะเล*ไม่ใช่วันเกิดใคร แต่เมื่อแม่ได้รู้ว่าผมกำลังจะกลับมาเหมือนว่าเธอจะตื่นเต้นมาก
(TN: ซุปสาหร่ายมักจะทำเฉพาะวันเกิด.)
“เร็วๆเข้าก่อนที่มันจะเย็นลง.”
“ตกลง.”
จิตใจของผมดีเป็นอย่างมากขณะที่ดูTV ไปด้วยขณะทานข้าว.
“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ.”
“คุณหมายถึงอะไร?”
“ดี ในสมัยก่อนเธอและฉันทะเลาะกันบ้านแทบแตก.”
“ใช่นั้นเป็นความจริง จริงๆแล้วเมื่อได้ยินข่าวว่าคุณจะกลับมาที่บ้านฉันก็คิดว่าจะผลักงานบ้านทั้งหมดไว้ที่คุณ แต่เนื่องจากคุณทำความสะอาดและล้างจานแล้ว มันเลยทำให้ฉันรู้สึกเป็นห่วงคุณ.”
“ยัยตัวร้าย เธอจะตื่นเต้นแค่ไหนกันในเมื่อเธอจงใจจะเอางานทั้งหมดมาไว้ที่ฉัน.”
“ฮ่าฮ่า.ดี ตั้งแต่คุณบอกว่าคุณจะทำงานในส่วนของฉัน ฉันจะทำอาหารและซักผ้า.”
“เอาหล่ะฟังดูดีขึ้นมานิดหน่อย ฉันไม่เหมือนกับผู้หญิงนะ ฉันก็มีแค่กางเกงในเท่านั้นที่จะต้องทำเอง มันไม่แปลกที่เธอจะทำในส่วนที่เหลือ.”
“อ้า คุณไม่สบายใจกับชุดชั้นในของสาวๆ?โอป้า คุณยังซิง?”(หมายความว่าอายที่จะให้ผู้หญิงซักกางเกงในให้)
ยัยสารเลวนี่?
“ชุดชั้นในของแม่และนูน่า*ไม่มีปัญหา แต่ฉันรู้สึกว่ากางเกงในของพี่มันค่อนข้างน่าเบื่อ จากสถานการณ์ของเธอแล้วมันทำให้ฉันกลัว”
(TN:มันเป็นสิ่งที่น้องชายเรียกพี่สาว.)
“อะไร? คุณจะเอาอะไรกับฉัน!”
“เสพติดไนท์คลับ”
“ฮืมม ดีกว่าการว่างงาน.”
“ฮ่าฮ่า. เธอยังไม่จบในเร็วๆนี้หรอกหรอ?”
“ใช่…แล้วไง?”
“แค่พูดเฉยๆ รอจนถึงปีหน้าไม่ได้นะ.”
“ได้ ในเมื่อคิดแบบนั้นกับฉัน แต่ฉันกำลังจะได้งานทำ.”
“ใช่และเมื่อฉันเรียนจบแล้วฉันก็คิดว่ามันจะเป็นไปตามแผน…”
“โอ้ อย่ามองฉันอย่างนั้น ฉันไม่มีวันตกงานเหมือนคุณ.”
“นี่ นี่ คนแบบเธอตอนนี้เขาไม่เรียกว่าคนว่างงานหรอกหรอ?”
“ดี งั้นคุณต้องการอะไร?”
“เป็นดาวรุ่ง*ที่ยอดที่สุดในการทอดไก่.”
(TN: อาจจะหมายถึงดาวรุ่งพุ่งแรง.)
ฮยอนจีหัวเราะกลิ้งไปรอบๆ
เวลาผ่านไปไวจริงๆ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาถึง วันที่คุยเรื่องอนาคตกับน้องสาวและความหวังในการใช้ชีวิตและการทำงานกับน้องสาวที่ห่างกันถึง6ปี.
“เมื่อเร็วๆนี้อันนิได้บอกว่าเธอจะแต่งงานและได้ขอให้แม่ไปพบแฟนของเธอ.*
(TN: ในเกาหลีไม่ใช่เรื่องแปลกที่ขอให้คุณแม่หรือพ่อช่วยในการตัดสินใจว่าเธอเลือกคนที่ดีพร้อมแล้วหรือยัง.)
“จริงอ่ะ? จากวันนั้นจนถึงวันนี้เธอก็ใช้เวลาไปกว่า33ปีถึงจะได้แต่งงาน.”
“มันไม่แปลกหรอก? ฉันหมายความว่าเธอไม่ได้ขาดเหลืออะไร เพราะงั้นทำไมเธอถึงต้องการผู้ชาย? เธอสวยและร่างกายของเธอก็ดูดีอีกทั้งเธอก็เป็นทนาย.ถ้าเป็นฉันฉันอาจจะมีคนมากกว่า100มาให้เลือก.”
“นั่นนูน่าคุณหรอ?”
“มันก็ยังแปลก เมื่อมองว่าเธอต้องการที่จะแต่งงาน เธอไม่ใช้หมาป่าที่โดดเดี่ยว,และเธอก็ไม่ได้เป็นเลสเบี้ยน.”
“ก็นูน่าเป็นคนเรื่องมาก เธอพูดน้อยมาก แต่ยุคลิคของเธอดูดีในแบบที่เย็นชา เพียงแค่เธอส่งสายตาที่หนาวเย็นเหล่านั้นออกไปก็มากพอที่จะป้องกันไม่ให้ผู้ชายคนอื่นๆเข้ามาใกล้”
ฮยอนจีหัวเราะทุกอย่าง
“ช่ายย.การแสดงออกของอันนิค่อนข้างน่ากลัว ฉันจะบอกคุณตามตรง แต่ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้ แม้กระทั้งตอนที่ฉันถูกจับได้ว่าไปที่ไนท์คลับ แต่ฉันก็กลัวที่เธอจะออกมาและตะโกนใส่ฉัน.”
“ใช่ ฉันเข้าใจไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เคยเจออาการขนลุก.”
“ถูกต้อง.”
ผมถอนหายใจลึกๆ
“นี่. ทำไมเราไม่คุยเรื่องอื่น.อย่างน้อยนูน่าก็ได้เงินเยอะและเป็นที่นิยมอย่างมาก.สำหรับการเดทแล้วสิ่งที่ฉันเคยทำก็แค่ตอนอยู่มหาลัยเท่านั้น.ฉันได้สบตาเธอในวันปฐมนิเทศและเราก็ลงเอยกันได้ครึ่งปีนั่นแหละคือทั้งหมด.หลังจากนั้นพ่อก็จากไปและครอบครัวก็วุ่นวาย.ฉันไปโรงเรียน ทำงานพาทำไทม์สองที่ และก็สอบเข้ากองทัพ…”
เมื่อผมรวบรวมความคิดทั้งหมดแล้วผมก็ตระหนักได้ว่าผมอาจจะตายโดยที่ยังไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร.ขณะที่ผมถอนหายใจลึกๆ ฮยอนจีก็มองมาที่จ้องมาที่ผมด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ.
“ฉันควรจะแนะนำเพือนให้คุณดีไหม?”
อ่า สิ่งนี้มันยิ่งยั่วยวน
ความคิดในการเจอสาวๆก่อนที่จะตายได้เข้าสู่ความคิดของผม แต่ผมส่ายหัว.
“ไม่ ขอบคุณ.”
บางทีผมก็แค่คิดว่าผมกำลังจะตาย สิ่งสำคัญที่สุดคือจุดประสงค์ของผม.
(TN: เขากำลังพูดถึงการรอดชีวิตไม่ได้พูดว่าเขาจะตาย.)
มันเป็นการตัดสินใจที่แน่วแน่เพื่อที่จะผ่านการทดสอบทั้งหมดและมีชีวิตอยู่.
ด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่ของผม ผมต้องใช้เวลาที่เหลือ11วันที่มีค่าไปกับผู้หญิง.
“อ่า. พี่ชายที่น่าสงสารของฉัน ทำธุรกิจไก่กับแม่และให้เวลาบางอย่าง เมื่อคุณอายุ30ปีขอคุณจะมีผู้หญิงจำนวนมากเช่นน้องสาวของคุณ ที่กำลังสงสัยว่าคุณเอาเวลาขนาดนั้นไปขว้างทิ้งได้อย่างไร.”
“ขว้างทิ้ง?”
ผมหัวเราะกับคำพูดของฮยอนจี ฮยินจีค่อนข้างมีชีวิตชีวาและช่างพูดและเวลาก็ล่วงเลยไป.
หลังจากทานอาหารเสร็จ ผมพูด.
“ฉันจะเก็บโต๊ะเอง กับไปตั้งใจเรียนหนังสือเถอะ.”
“โห โอปป้า.คุณทำดีกับฉันเกินไปและมันก็แปลกๆ.”
“เฮ้. นี่เธอไม่ซึ่งในพระคุณของ โอลาบุนิ(Olabuhni’s*) ซะแล้ว.
(TN:มันเป็นสิ่งที่พี่ชายพูดเมื่อยังมีราชาและราชินี เกหลีได้ใช้คำนี้มากประมาณ500ปีแล้ว มันเหมือนกับสำนวนของเช็คสเปียร์แต่เป็นของเกาหลี.)
“ฮี่ ฮี่.ขอบคุณ ฉันแน่ใจว่าฉันจะหาสาวสวยและดีจากเพือนของฉันแนะนำให้คุณ.”
“Guhlyuh.”*(อ่านไม่ออก แต่ให้อากู๋พูดมันบอกว่า กูโย๊ะ/ไรต์)
(TN: เช็คสเปียร์เกาหลีอีกครั้ง มันหมายถึงบางอย่างเช่น "ปล่อยให้มันเป็นไป")
ฉันก็หวังว่ามันจะมาถึง
ฮยอนจีกลับเข้าห้องไปอ่านหนังสือ.ผมเก็บโต๊ะล้างจานอย่างรวดเร็ว ผมเริ่มออกกำลังกาย.เวลานี้เหมาะแก่การออกกำลังกาย.หลังจากที่ผมวิดพื้นประมาณ50ครั้งแขนของผมก็เริ่มที่จะสั่น.ต้องขอบคุณการเดินเขามันทำให้ขาของผมไม่สั่นเท่าไรนัก.ผมค่อนข้างยุ่งเหยิง.
แต่ผมอยู่ในสถาพนี้หลังจากที่เดินเขามาได้วันเดียว ผมกำลังโกรธตัวเอง ผมสามารถที่จะทำแบบนี้เป็นประจำทุกวันในเวลา11วันได้?
‘แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นฉันก็ต้องทำต่อไป.’
แม้กระนั้นวันนี้ผมก็ยังแค่วิดพื้นที่เป็นพื้นฐานของการออกกำลังกายอย่างง่ายๆ ผมยังต้องฝึกปืนเวทย์มนตร์และอัญเชิญสปิริตในระหว่างต่อสู้.
‘เอาหล่ะ ตอนนี้ ฉันเหนื่อยแล้วฉันต้องพักผ่อน และฉันต้องออกไปแต่เช้าและไม่มีใครเห็นในการเริ่มฝึกซ้อม.’
ไม่ใช่ว่าผมจะสามารถเรียกปืนเวทย์มตร์และอัญเชิญสปิริตต่อหน้าคนอื่นๆที่อาจจะมองเห็นได้.
ผมไม่ต้องการตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น ผมเลยนอนที่โซฟาและหลับตาลง