ตอนที่แล้วChapter 7 รางวัล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 9 ครอบครัว (Part 2)

Chapter 8 ครอบครัว (Part 1)


Chapter 8 Family (Part 1)

หลังจากกลับมาจากการเดินป่าของผม ผมก็ได้เห็นน้องสาวฮยอนจีรออยู่หน้าบ้าน ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะกลับมาจากโรงเรียน

“โอ้พระเจ้า! โอปป้า, คุณผอมไปมากเลยนะ.”

“มันเป็นการดิ้นรนจากการเรียนอย่างหนัก.”

“ฮ่าฮ่า ตลกดี อาจจะเป็นเพราะกินแค่ราเม็งกับข้าวสามเหลี่ยมจากร้านสะดวกซื้อที่คุณทำงานเท่านั้น.”

“โอ..เธอก็รู้นี่.”

“อย่างไรก็ตามคุณได้ทำความสะอาดและล้างจานทั้งหมดนั้นหรอ?”

“จริง”

“ว้าววว จริงอ่ะ?”

“ฉันรู้ว่าเธอกำลังยุ่งกับการเตรียมพร้อมที่จะทำงานในตอนนี้ ฉันไม่มีอะไรจะทำชั่วคราวดังนั้นฉันจึงช่วยเธอ.”

ด้วยคำพูดของผมดวงตาของฮยอนจีก็เบิกกว้าง มันมีความรู้สึกไม่สบายใจและกังวลใจเมื่อเธอพูด.

“คุณเป็นใคร?”

“ฉันก็คือโอปป้าของเธอไง”

“โกหก พี่ของฉันไม่ใช่แบบนี้”

“ฉันคิดว่าเธอต้องโดนตีสักหน่อยแล้วหล่ะ.”

ขณะที่ผมกำลังเงื้อมือที่จะฟาดหน้าผากของเธอ เธอก็ร้องเสียงหลงและวิ่งเข้าไปหลังจากที่เธอได้พ้นเงื้อมือผมแล้วเธอก็หันหลับมาพูดว่า

“คุณไม่ทานอาหารเย็นหรอ? แม่และอันนิบอกว่าจะมาสาย”

(TN:อันนิ เป็นคำเรียกของพี่สาวโดยน้องสาว มันออกเสียงว่า อานนิ.)

“โอ้จริงดิ? ฉันต้องการอะไรบางอย่าง?”

“คุณหมายถึงอะไร?แม่ได้ทันโบซามมาแล้ว?ฉันจะไปจัดโต๊ะ.”

คราวนี้ผมจ้องเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย.

“คุณเป็นใคร? น้องสาวของฉันไม่เคยจัดโต๊ะมาก่อน.”

ฮยอนจีหัวเราะเจื้อยแจ้ว

และเธอก็บอกว่า

“หนูจะบอกตามตรง เมื่อพี่บอกว่าจะล้างจานทั้งหมดและทำความสะอาดบ้าน อย่างน้อยหนูก็ยังจัดโต๊ะและทานมื้อเย็น.”

“จริงดิ? ด้วยน้ำเสียงนี้ ไม่ใช่ว่าเธอโตแล้วและกำลังจะไปเรียนในสถานที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน…”

“เฮ้ ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันกำลังทำงานบางอย่างเพื่อเตรียมพร้อมกับการทำงาน?”

“ฉันได้ยินมาว่าแม่จับเธอได้ว่าเธอแอบไปเที่ยวไนท์คลับ.”

จากการถากถางของผมฮยอนจีพูดพึมพัม

“มันเป็นเพียงแค่การผ่อนคลายอารมณ์ ฉันไม่ได้ไปเจอผู้ชายและเล่นกับเขา ฉันไปกับเพือนและเต้นเท่านั้น.”

“จิ๊ จิ๊.มันจริงอย่างที่พูดเถอะปัญหาคืออย่าเที่ยวมากเกินไป.”

“โอ้ หุบปากเลย ไปและอาบน้ำแล้วมากินข้าวที่ฉันจัดโต๊ะ กลิ่นเหงื่อของคุณอย่างกับปลาหมึก.”

“ใช่ ใช่ .”

ขณะที่เธอกำลังจัดโต๊ะ ผมควรจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

โบซาม, กิมจิ, ข้าวกล้อง, และยังมีเครื่องเคียงอร่อยๆหลายอย่างตรงหน้า.ผมประหลาดใจเพราะว่ามันมีซุปสาหร่ายทะเล*ไม่ใช่วันเกิดใคร แต่เมื่อแม่ได้รู้ว่าผมกำลังจะกลับมาเหมือนว่าเธอจะตื่นเต้นมาก

(TN: ซุปสาหร่ายมักจะทำเฉพาะวันเกิด.)

“เร็วๆเข้าก่อนที่มันจะเย็นลง.”

“ตกลง.”

จิตใจของผมดีเป็นอย่างมากขณะที่ดูTV ไปด้วยขณะทานข้าว.

“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ.”

“คุณหมายถึงอะไร?”

“ดี ในสมัยก่อนเธอและฉันทะเลาะกันบ้านแทบแตก.”

“ใช่นั้นเป็นความจริง จริงๆแล้วเมื่อได้ยินข่าวว่าคุณจะกลับมาที่บ้านฉันก็คิดว่าจะผลักงานบ้านทั้งหมดไว้ที่คุณ แต่เนื่องจากคุณทำความสะอาดและล้างจานแล้ว มันเลยทำให้ฉันรู้สึกเป็นห่วงคุณ.”

“ยัยตัวร้าย เธอจะตื่นเต้นแค่ไหนกันในเมื่อเธอจงใจจะเอางานทั้งหมดมาไว้ที่ฉัน.”

“ฮ่าฮ่า.ดี ตั้งแต่คุณบอกว่าคุณจะทำงานในส่วนของฉัน ฉันจะทำอาหารและซักผ้า.”

“เอาหล่ะฟังดูดีขึ้นมานิดหน่อย ฉันไม่เหมือนกับผู้หญิงนะ ฉันก็มีแค่กางเกงในเท่านั้นที่จะต้องทำเอง มันไม่แปลกที่เธอจะทำในส่วนที่เหลือ.”

“อ้า คุณไม่สบายใจกับชุดชั้นในของสาวๆ?โอป้า คุณยังซิง?”(หมายความว่าอายที่จะให้ผู้หญิงซักกางเกงในให้)

ยัยสารเลวนี่?

“ชุดชั้นในของแม่และนูน่า*ไม่มีปัญหา แต่ฉันรู้สึกว่ากางเกงในของพี่มันค่อนข้างน่าเบื่อ จากสถานการณ์ของเธอแล้วมันทำให้ฉันกลัว”

(TN:มันเป็นสิ่งที่น้องชายเรียกพี่สาว.)

“อะไร? คุณจะเอาอะไรกับฉัน!”

“เสพติดไนท์คลับ”

“ฮืมม ดีกว่าการว่างงาน.”

“ฮ่าฮ่า. เธอยังไม่จบในเร็วๆนี้หรอกหรอ?”

“ใช่…แล้วไง?”

“แค่พูดเฉยๆ รอจนถึงปีหน้าไม่ได้นะ.”

“ได้ ในเมื่อคิดแบบนั้นกับฉัน แต่ฉันกำลังจะได้งานทำ.”

“ใช่และเมื่อฉันเรียนจบแล้วฉันก็คิดว่ามันจะเป็นไปตามแผน…”

“โอ้ อย่ามองฉันอย่างนั้น ฉันไม่มีวันตกงานเหมือนคุณ.”

“นี่ นี่ คนแบบเธอตอนนี้เขาไม่เรียกว่าคนว่างงานหรอกหรอ?”

“ดี งั้นคุณต้องการอะไร?”

“เป็นดาวรุ่ง*ที่ยอดที่สุดในการทอดไก่.”

(TN: อาจจะหมายถึงดาวรุ่งพุ่งแรง.)

ฮยอนจีหัวเราะกลิ้งไปรอบๆ

เวลาผ่านไปไวจริงๆ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาถึง วันที่คุยเรื่องอนาคตกับน้องสาวและความหวังในการใช้ชีวิตและการทำงานกับน้องสาวที่ห่างกันถึง6ปี.

“เมื่อเร็วๆนี้อันนิได้บอกว่าเธอจะแต่งงานและได้ขอให้แม่ไปพบแฟนของเธอ.*

(TN: ในเกาหลีไม่ใช่เรื่องแปลกที่ขอให้คุณแม่หรือพ่อช่วยในการตัดสินใจว่าเธอเลือกคนที่ดีพร้อมแล้วหรือยัง.)

“จริงอ่ะ? จากวันนั้นจนถึงวันนี้เธอก็ใช้เวลาไปกว่า33ปีถึงจะได้แต่งงาน.”

“มันไม่แปลกหรอก? ฉันหมายความว่าเธอไม่ได้ขาดเหลืออะไร เพราะงั้นทำไมเธอถึงต้องการผู้ชาย? เธอสวยและร่างกายของเธอก็ดูดีอีกทั้งเธอก็เป็นทนาย.ถ้าเป็นฉันฉันอาจจะมีคนมากกว่า100มาให้เลือก.”

“นั่นนูน่าคุณหรอ?”

“มันก็ยังแปลก เมื่อมองว่าเธอต้องการที่จะแต่งงาน เธอไม่ใช้หมาป่าที่โดดเดี่ยว,และเธอก็ไม่ได้เป็นเลสเบี้ยน.”

“ก็นูน่าเป็นคนเรื่องมาก เธอพูดน้อยมาก แต่ยุคลิคของเธอดูดีในแบบที่เย็นชา เพียงแค่เธอส่งสายตาที่หนาวเย็นเหล่านั้นออกไปก็มากพอที่จะป้องกันไม่ให้ผู้ชายคนอื่นๆเข้ามาใกล้”

ฮยอนจีหัวเราะทุกอย่าง

“ช่ายย.การแสดงออกของอันนิค่อนข้างน่ากลัว ฉันจะบอกคุณตามตรง แต่ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้ แม้กระทั้งตอนที่ฉันถูกจับได้ว่าไปที่ไนท์คลับ แต่ฉันก็กลัวที่เธอจะออกมาและตะโกนใส่ฉัน.”

“ใช่ ฉันเข้าใจไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เคยเจออาการขนลุก.”

“ถูกต้อง.”

ผมถอนหายใจลึกๆ

“นี่. ทำไมเราไม่คุยเรื่องอื่น.อย่างน้อยนูน่าก็ได้เงินเยอะและเป็นที่นิยมอย่างมาก.สำหรับการเดทแล้วสิ่งที่ฉันเคยทำก็แค่ตอนอยู่มหาลัยเท่านั้น.ฉันได้สบตาเธอในวันปฐมนิเทศและเราก็ลงเอยกันได้ครึ่งปีนั่นแหละคือทั้งหมด.หลังจากนั้นพ่อก็จากไปและครอบครัวก็วุ่นวาย.ฉันไปโรงเรียน ทำงานพาทำไทม์สองที่ และก็สอบเข้ากองทัพ…”

เมื่อผมรวบรวมความคิดทั้งหมดแล้วผมก็ตระหนักได้ว่าผมอาจจะตายโดยที่ยังไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร.ขณะที่ผมถอนหายใจลึกๆ ฮยอนจีก็มองมาที่จ้องมาที่ผมด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ.

“ฉันควรจะแนะนำเพือนให้คุณดีไหม?”

อ่า สิ่งนี้มันยิ่งยั่วยวน

ความคิดในการเจอสาวๆก่อนที่จะตายได้เข้าสู่ความคิดของผม แต่ผมส่ายหัว.

“ไม่ ขอบคุณ.”

บางทีผมก็แค่คิดว่าผมกำลังจะตาย สิ่งสำคัญที่สุดคือจุดประสงค์ของผม.

(TN: เขากำลังพูดถึงการรอดชีวิตไม่ได้พูดว่าเขาจะตาย.)

มันเป็นการตัดสินใจที่แน่วแน่เพื่อที่จะผ่านการทดสอบทั้งหมดและมีชีวิตอยู่.

ด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่ของผม ผมต้องใช้เวลาที่เหลือ11วันที่มีค่าไปกับผู้หญิง.

“อ่า. พี่ชายที่น่าสงสารของฉัน ทำธุรกิจไก่กับแม่และให้เวลาบางอย่าง เมื่อคุณอายุ30ปีขอคุณจะมีผู้หญิงจำนวนมากเช่นน้องสาวของคุณ ที่กำลังสงสัยว่าคุณเอาเวลาขนาดนั้นไปขว้างทิ้งได้อย่างไร.”

“ขว้างทิ้ง?”

ผมหัวเราะกับคำพูดของฮยอนจี ฮยินจีค่อนข้างมีชีวิตชีวาและช่างพูดและเวลาก็ล่วงเลยไป.

หลังจากทานอาหารเสร็จ ผมพูด.

“ฉันจะเก็บโต๊ะเอง กับไปตั้งใจเรียนหนังสือเถอะ.”

“โห โอปป้า.คุณทำดีกับฉันเกินไปและมันก็แปลกๆ.”

“เฮ้. นี่เธอไม่ซึ่งในพระคุณของ โอลาบุนิ(Olabuhni’s*) ซะแล้ว.

(TN:มันเป็นสิ่งที่พี่ชายพูดเมื่อยังมีราชาและราชินี เกหลีได้ใช้คำนี้มากประมาณ500ปีแล้ว มันเหมือนกับสำนวนของเช็คสเปียร์แต่เป็นของเกาหลี.)

“ฮี่ ฮี่.ขอบคุณ ฉันแน่ใจว่าฉันจะหาสาวสวยและดีจากเพือนของฉันแนะนำให้คุณ.”

“Guhlyuh.”*(อ่านไม่ออก แต่ให้อากู๋พูดมันบอกว่า กูโย๊ะ/ไรต์)

(TN: เช็คสเปียร์เกาหลีอีกครั้ง มันหมายถึงบางอย่างเช่น "ปล่อยให้มันเป็นไป")

ฉันก็หวังว่ามันจะมาถึง

ฮยอนจีกลับเข้าห้องไปอ่านหนังสือ.ผมเก็บโต๊ะล้างจานอย่างรวดเร็ว ผมเริ่มออกกำลังกาย.เวลานี้เหมาะแก่การออกกำลังกาย.หลังจากที่ผมวิดพื้นประมาณ50ครั้งแขนของผมก็เริ่มที่จะสั่น.ต้องขอบคุณการเดินเขามันทำให้ขาของผมไม่สั่นเท่าไรนัก.ผมค่อนข้างยุ่งเหยิง.

แต่ผมอยู่ในสถาพนี้หลังจากที่เดินเขามาได้วันเดียว ผมกำลังโกรธตัวเอง ผมสามารถที่จะทำแบบนี้เป็นประจำทุกวันในเวลา11วันได้?

‘แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นฉันก็ต้องทำต่อไป.’

แม้กระนั้นวันนี้ผมก็ยังแค่วิดพื้นที่เป็นพื้นฐานของการออกกำลังกายอย่างง่ายๆ ผมยังต้องฝึกปืนเวทย์มนตร์และอัญเชิญสปิริตในระหว่างต่อสู้.

‘เอาหล่ะ ตอนนี้ ฉันเหนื่อยแล้วฉันต้องพักผ่อน และฉันต้องออกไปแต่เช้าและไม่มีใครเห็นในการเริ่มฝึกซ้อม.’

ไม่ใช่ว่าผมจะสามารถเรียกปืนเวทย์มตร์และอัญเชิญสปิริตต่อหน้าคนอื่นๆที่อาจจะมองเห็นได้.

ผมไม่ต้องการตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น ผมเลยนอนที่โซฟาและหลับตาลง

0 0 โหวต
Article Rating
8 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด